ติดตาม the voice มาหลายเทปละ อยากตั้งกระทู้สนทนากับเขาบ้าง ยกเคสครูแนทขึ้นมาสนทนานี้ล่ะ เพราะชอบ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
แนท เป็นผู้เข้าแข่งขันที่โดดเด่นมาตั้งแต่รอบ Blind Audition แล้ว หลายๆคนคาดเดาว่าเธอน่าจะเข้ารอบลึกๆได้ แต่คงไม่ถึงรอบสุดท้าย แล้วก็เป็นไปตามนั้นเป๊ะ แบบไม่ต้องลุ้นกันให้เยอะตามพลอตของรายการแข่งขันร้องเพลงทั่วไป เพราะเป็นคนมีความสามารถมาก แต่ฐานแฟนที่จะโหวตให้ไม่มากตามนั้น เพราะแนวการร้องเพลงของเธออาจไม่โดนใจรสนิยมการฟังเพลงของคนส่วนใหญ่เท่าไรนัก เหมือนอาหารชีวจิต กับแฮมเบอร์เกอร์ เรารู้กันล่ะว่าอาหารชีวจิตดีต่อสุขภาพ แต่มันไม่อร่อยและแพร่หลายเหมือนกับกินแฮมเบอร์เกอร์ที่เราคุ้นเคยรสกันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแฮมเบอร์เกอร์มันไม่ดีนะ แต่กินบ่อยๆ ลิ้นมันจะไม่รับรสความอร่อยในรูปแบบอื่นๆบ้างเลยนอกเหนือไปจากที่เคยกิน
รอบ Blind แนทเลือกร้องเพลง I can't make you love me ของ Bonnie Rait มาร้อง เป็นเพลงเก่าที่กลับมาดังในช่วงสองสามปีนี้อีกครั้ง เพราะ adele นำมาร้องสดอีกครั้งในคอนเสิร์ต มีการ cover เพลงนี้กันค่อนข้างมาก แต่ถ้าไม่ใช่คนชอบฟังเพลงสากล อาจจะไม่ค่อยอินกับเพลงนี้เท่าไร อันที่จริงในเทป blind นั้น แนททำให้คนทึ่งมากกว่าตอนเธอร้องเพลงไทยเดิมที่เธอร้องได้แบบหาฟังได้ยากมาก สังเกตจากแอคชั่นของโค้ชสี่คนได้เลยว่า ตอนกดเลือกหันมาหลังจากฟังเพลงสากลแล้ว ก็ชอบระดับหนึ่ง แต่ทึ่งตอนร้องเพลงไทยเดิมนี่ล่ะ
รอบ Battle เป็นรอบที่แฟนรายการหลายคนวิจารณ์โชว์กันถล่มทลายเมื่อแนท กับ ปอร์เช่ร้องเพลง "รักแท้ยังไง" แบบแจ๊ส เพราะดูเป็นคู่แข่งขันที่ดูยังไง แนทก็เหนือกว่าเห็นๆตั้งแต่ยังไม่แข่งแล้ว แถมเพลงก็ดูไม่โชว์ศักยภาพเสียงของนักร้องเท่าไร คนดูที่ทึ่งแนทจากรอบแรก คาดหวังพลังเสียงระดับ "ดีว่า" มากกว่า "ก็ดีนะ" รอบ Battle แนทจึงชนะไปแบบเขารู้กันมาตั้งแต่ยังไม่แข่งแล้ว ไม่มีอะไรให้ลุ้น หรือประทับใจมากมายอะไร โดยส่วนตัวก็ไม่ค่อยชอบโชว์นี้เท่าไร แต่คิดว่าโค้ชและทีมงานมีความกล้าที่จะดัดแปลงเพลงป๊อปลูกกวาดให้กลายเป็นแจ๊สนะ เพียงแต่ผลที่ออกมาอาจไม่น่าพอใจเท่าที่ควร ตอนนี้รู้อย่างหนึ่งละ ว่าแนทร้องเพลงป๊อปธรรมดาๆแล้ว เธอก็ดู ธรรมดาตามไปด้วยจริงๆ
ดังนี้ รอบ Knock out แนทกลับมาร้องเพลงสากลอีกครั้ง แต่...ให้ตายเถอะ ทำไมเลือกร้องเพลงป๊อปลูกกวาดอีกแล้ว นี่มันเพลงฝึกร้องของหน้าใหม่ๆเลยนะ ประเด็นคือ คนดูคาดหวังกับความสามารถของแนทมากตั้งแต่รอบ Blind พอแนทเลือกร้องเพลงที่ไม่ได้โชว์ศักยภาพเธอแบบตูมๆออกมา มันเหมือนผิดหวังน่ะ ทั้งที่เธอร้องออกมาได้ดีและน่าฟังเลยนะ อารมณ์เหมือนเข้าร้านอาหารริมทะเล แต่พอสั่งอาหาร ได้กินไข่เจียวหมูสับธรรมดาอย่างเดียวน่ะ มันรู้สึกว่าน่าจะมีมากกว่านี้ไหม ซีฟู้ดน่ะมีปะ แต่มันไม่มีไง มีแค่ไข่เจียวหมูสับ อร่อยไหม ก็อร่อย แต่อยากได้อย่างอื่นที่เจ๋งกว่านี้อ่ะ
รอบสุดท้าย แนทเลือกเพลง at last ของ etta james อันนี้คิดว่าเป็นตัวของเธอเองมากที่สุดแล้วนะ ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นโชว์ที่ดีเลยล่ะ ปัญหาเดียวเลยนะคือ คนไทยส่วนใหญ่ดันไม่รู้จัก etta james นี่ล่ะ ประเด็นคือ แนท มีศักยภาพที่จะร้องเพลง และนำเสนอเพลงแบบเดียวกับรายการประกวดร้องเพลงต่างประเทศเลยนะ แต่กลับไม่โดนใจคนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่คุ้นชินกับเพลงสไตล์นี้ ซึ่งคงไม่เกินการคาดเดาของตัวเธอเอง โค้ช และทีมงานรายการหรอก แต่ถึงเธอจะทิ้งสไตล์ของเธอ มาร้องเพลงที่อาจจะโดนใจรสนิยมคนฟังเพลงส่วนใหญ่ก็ตาม เธอก็ไม่ใช่นักร้องสไตล์ที่จะสร้างฐานแฟนเพลงเยอะๆจนได้เป็นแชมป์อยู่ดีในรอบสุดท้าย สู้ร้องเพลงแบบตัวเอง แล้วทำให้ดีที่สุดในโชว์สุดท้ายน่าจะดีกว่า อย่างน้อยก็ได้ใจคนดูที่ฟังเพลงสไตล์ที่เธอร้อง
โดย เพลง at last นี้ ถ้าหากคุณไปเสิร์ชหาดูจะพบว่าเป็นเพลงอมตะเพลงหนึ่งของฝั่งอเมริกา ที่เขาร้องกันได้ร้องกันดีเวลาขึ้นประกวดร้องเพลง แม้แต่ beyonce หรือ cristina arguilera ยัง cover เพลงนี้เลย เนื้อหาของเพลงนั้นก็ทำให้เป็นที่นิยมเปิดในงานแต่งงานอย่างที่สุด ประมาณว่า "ในทีสุดก็เจอคนที่ใช่ซักที" สาวๆอเมริกันเขาเลยจี๊ดเพลงนี้กันมาก ตัว etta james เองก็เป็นนักร้องระดับตำนานคนหนึ่ง คือเจ๊เปรี้ยว ซ่าส์ก๋ากั่น ปากจัด ร้องดี แต่เอาเข้าจริงเหมือนจะดังอมตะอยู่เพลงเดียวก็เพลงนี้ล่ะ มาสเตอร์พีซที่สุดในอาชีพนักร้องของเธอแล้ว

สุดท้าย ครูแนท อาจจะไปไม่ถึงการเป็น เดอะว้อยส์ ไทยแลนด์ ทั้งที่ "เสียง" ของเธอนั้นมีศักยภาพพอที่จะแตะตำแหน่งนั้นได้แบบสวยๆเลยนะ เพียงเพราะเธอไม่ต้องกับรสนิยมการฟังเพลงของคนส่วนใหญ่ ทำให้โหวตของเธอไม่แรง แต่สิ่งที่เธอโชว์ในรายการนี้ อย่างน้อยที่สุด ทำให้ เดอะว้อยส์ไทย ดูอินเตอร์ขึ้นอีกเยอะ เมื่อเทียบกับเดอะว้อยส์อีกหลายๆประเทศ หวังว่าจบรายการไปแล้วจะได้ยินเพลงที่เธอร้องบ่อยๆขึ้น หลายครั้งที่นักร้องเดอะว้อยส์ซีซั่นเก่ามาร้องเพลงนอกเวทีประกวดแล้ว เอ๊...เพราะกว่าที่ได้ยินตอนแข่งอีกแน่ะ อย่างน้อย ถึงไม่ชนะ แต่รายการก็ทำให้คนส่วนใหญ่ได้รู้จักเขาและเธอ
รอชมวีคต่อไปอย่างสนุกสนานค่ะ
the voice thailand : ครูแนท นักร้องคุณภาพ ที่อาจไม่ต้องรสนิยมการฟังเพลงของคนส่วนใหญ่
แนท เป็นผู้เข้าแข่งขันที่โดดเด่นมาตั้งแต่รอบ Blind Audition แล้ว หลายๆคนคาดเดาว่าเธอน่าจะเข้ารอบลึกๆได้ แต่คงไม่ถึงรอบสุดท้าย แล้วก็เป็นไปตามนั้นเป๊ะ แบบไม่ต้องลุ้นกันให้เยอะตามพลอตของรายการแข่งขันร้องเพลงทั่วไป เพราะเป็นคนมีความสามารถมาก แต่ฐานแฟนที่จะโหวตให้ไม่มากตามนั้น เพราะแนวการร้องเพลงของเธออาจไม่โดนใจรสนิยมการฟังเพลงของคนส่วนใหญ่เท่าไรนัก เหมือนอาหารชีวจิต กับแฮมเบอร์เกอร์ เรารู้กันล่ะว่าอาหารชีวจิตดีต่อสุขภาพ แต่มันไม่อร่อยและแพร่หลายเหมือนกับกินแฮมเบอร์เกอร์ที่เราคุ้นเคยรสกันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแฮมเบอร์เกอร์มันไม่ดีนะ แต่กินบ่อยๆ ลิ้นมันจะไม่รับรสความอร่อยในรูปแบบอื่นๆบ้างเลยนอกเหนือไปจากที่เคยกิน
รอบ Blind แนทเลือกร้องเพลง I can't make you love me ของ Bonnie Rait มาร้อง เป็นเพลงเก่าที่กลับมาดังในช่วงสองสามปีนี้อีกครั้ง เพราะ adele นำมาร้องสดอีกครั้งในคอนเสิร์ต มีการ cover เพลงนี้กันค่อนข้างมาก แต่ถ้าไม่ใช่คนชอบฟังเพลงสากล อาจจะไม่ค่อยอินกับเพลงนี้เท่าไร อันที่จริงในเทป blind นั้น แนททำให้คนทึ่งมากกว่าตอนเธอร้องเพลงไทยเดิมที่เธอร้องได้แบบหาฟังได้ยากมาก สังเกตจากแอคชั่นของโค้ชสี่คนได้เลยว่า ตอนกดเลือกหันมาหลังจากฟังเพลงสากลแล้ว ก็ชอบระดับหนึ่ง แต่ทึ่งตอนร้องเพลงไทยเดิมนี่ล่ะ
รอบ Battle เป็นรอบที่แฟนรายการหลายคนวิจารณ์โชว์กันถล่มทลายเมื่อแนท กับ ปอร์เช่ร้องเพลง "รักแท้ยังไง" แบบแจ๊ส เพราะดูเป็นคู่แข่งขันที่ดูยังไง แนทก็เหนือกว่าเห็นๆตั้งแต่ยังไม่แข่งแล้ว แถมเพลงก็ดูไม่โชว์ศักยภาพเสียงของนักร้องเท่าไร คนดูที่ทึ่งแนทจากรอบแรก คาดหวังพลังเสียงระดับ "ดีว่า" มากกว่า "ก็ดีนะ" รอบ Battle แนทจึงชนะไปแบบเขารู้กันมาตั้งแต่ยังไม่แข่งแล้ว ไม่มีอะไรให้ลุ้น หรือประทับใจมากมายอะไร โดยส่วนตัวก็ไม่ค่อยชอบโชว์นี้เท่าไร แต่คิดว่าโค้ชและทีมงานมีความกล้าที่จะดัดแปลงเพลงป๊อปลูกกวาดให้กลายเป็นแจ๊สนะ เพียงแต่ผลที่ออกมาอาจไม่น่าพอใจเท่าที่ควร ตอนนี้รู้อย่างหนึ่งละ ว่าแนทร้องเพลงป๊อปธรรมดาๆแล้ว เธอก็ดู ธรรมดาตามไปด้วยจริงๆ
ดังนี้ รอบ Knock out แนทกลับมาร้องเพลงสากลอีกครั้ง แต่...ให้ตายเถอะ ทำไมเลือกร้องเพลงป๊อปลูกกวาดอีกแล้ว นี่มันเพลงฝึกร้องของหน้าใหม่ๆเลยนะ ประเด็นคือ คนดูคาดหวังกับความสามารถของแนทมากตั้งแต่รอบ Blind พอแนทเลือกร้องเพลงที่ไม่ได้โชว์ศักยภาพเธอแบบตูมๆออกมา มันเหมือนผิดหวังน่ะ ทั้งที่เธอร้องออกมาได้ดีและน่าฟังเลยนะ อารมณ์เหมือนเข้าร้านอาหารริมทะเล แต่พอสั่งอาหาร ได้กินไข่เจียวหมูสับธรรมดาอย่างเดียวน่ะ มันรู้สึกว่าน่าจะมีมากกว่านี้ไหม ซีฟู้ดน่ะมีปะ แต่มันไม่มีไง มีแค่ไข่เจียวหมูสับ อร่อยไหม ก็อร่อย แต่อยากได้อย่างอื่นที่เจ๋งกว่านี้อ่ะ
รอบสุดท้าย แนทเลือกเพลง at last ของ etta james อันนี้คิดว่าเป็นตัวของเธอเองมากที่สุดแล้วนะ ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นโชว์ที่ดีเลยล่ะ ปัญหาเดียวเลยนะคือ คนไทยส่วนใหญ่ดันไม่รู้จัก etta james นี่ล่ะ ประเด็นคือ แนท มีศักยภาพที่จะร้องเพลง และนำเสนอเพลงแบบเดียวกับรายการประกวดร้องเพลงต่างประเทศเลยนะ แต่กลับไม่โดนใจคนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่คุ้นชินกับเพลงสไตล์นี้ ซึ่งคงไม่เกินการคาดเดาของตัวเธอเอง โค้ช และทีมงานรายการหรอก แต่ถึงเธอจะทิ้งสไตล์ของเธอ มาร้องเพลงที่อาจจะโดนใจรสนิยมคนฟังเพลงส่วนใหญ่ก็ตาม เธอก็ไม่ใช่นักร้องสไตล์ที่จะสร้างฐานแฟนเพลงเยอะๆจนได้เป็นแชมป์อยู่ดีในรอบสุดท้าย สู้ร้องเพลงแบบตัวเอง แล้วทำให้ดีที่สุดในโชว์สุดท้ายน่าจะดีกว่า อย่างน้อยก็ได้ใจคนดูที่ฟังเพลงสไตล์ที่เธอร้อง
โดย เพลง at last นี้ ถ้าหากคุณไปเสิร์ชหาดูจะพบว่าเป็นเพลงอมตะเพลงหนึ่งของฝั่งอเมริกา ที่เขาร้องกันได้ร้องกันดีเวลาขึ้นประกวดร้องเพลง แม้แต่ beyonce หรือ cristina arguilera ยัง cover เพลงนี้เลย เนื้อหาของเพลงนั้นก็ทำให้เป็นที่นิยมเปิดในงานแต่งงานอย่างที่สุด ประมาณว่า "ในทีสุดก็เจอคนที่ใช่ซักที" สาวๆอเมริกันเขาเลยจี๊ดเพลงนี้กันมาก ตัว etta james เองก็เป็นนักร้องระดับตำนานคนหนึ่ง คือเจ๊เปรี้ยว ซ่าส์ก๋ากั่น ปากจัด ร้องดี แต่เอาเข้าจริงเหมือนจะดังอมตะอยู่เพลงเดียวก็เพลงนี้ล่ะ มาสเตอร์พีซที่สุดในอาชีพนักร้องของเธอแล้ว
สุดท้าย ครูแนท อาจจะไปไม่ถึงการเป็น เดอะว้อยส์ ไทยแลนด์ ทั้งที่ "เสียง" ของเธอนั้นมีศักยภาพพอที่จะแตะตำแหน่งนั้นได้แบบสวยๆเลยนะ เพียงเพราะเธอไม่ต้องกับรสนิยมการฟังเพลงของคนส่วนใหญ่ ทำให้โหวตของเธอไม่แรง แต่สิ่งที่เธอโชว์ในรายการนี้ อย่างน้อยที่สุด ทำให้ เดอะว้อยส์ไทย ดูอินเตอร์ขึ้นอีกเยอะ เมื่อเทียบกับเดอะว้อยส์อีกหลายๆประเทศ หวังว่าจบรายการไปแล้วจะได้ยินเพลงที่เธอร้องบ่อยๆขึ้น หลายครั้งที่นักร้องเดอะว้อยส์ซีซั่นเก่ามาร้องเพลงนอกเวทีประกวดแล้ว เอ๊...เพราะกว่าที่ได้ยินตอนแข่งอีกแน่ะ อย่างน้อย ถึงไม่ชนะ แต่รายการก็ทำให้คนส่วนใหญ่ได้รู้จักเขาและเธอ
รอชมวีคต่อไปอย่างสนุกสนานค่ะ