พระคุณการุณย์ คืออะไร? พระคุณการุณย์มีประโยชน์ยังไง กับใครบ้าง? ทำไมพระคุณการุณย์ถึงมีความสำคัญ? จะรับพระคุณการุณย์ได้อย่างไร ,ที่ไหน ,เมื่อไหร่?
บางคนสามารถตอบคำถามได้ทุกข้อ .... ในขณะที่บางคนแม้จะเป็นคริสตชนก็ไม่สามารถตอบได้แม้แต่ข้อเดียว!!!! พระศาสนจักร ได้มอบขุมทรัพย์นี้ให้กับคริสตชนทุกคนเพื่อช่วยวิญญาณในไฟชำระ และเป็นการลดโทษของบาปสำหรับวิญญาณของตนเอง
ศีลอภัยบาป
พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลอภัยบาป โดยทรงมอบอำนาจแห่งการยกบาปให้กับบรรดาอัครสาวก จนกระทั่งปัจจุบัน อำนาจแห่งการยกบาปนี้ได้ถูกส่งต่อมายังบรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์ ให้กระทำหน้าที่ยกบาปแทนพระองค์ในโลกนี้ด้วย โดยพระเยซูเจ้าทรงตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาป ของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย” (ยอห์น 20 : 22-23)
สิ่งสำคัญในการขอรับพระคุณการุณย์ คือ การสำนึกบาปอย่างจริงใจ
ดังนั้นเมื่อเรารู้สึกสำนึกเสียใจในสิ่งที่เราได้กระทำไป และตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะไม่กลับไปทำบาปนั้นอีก และด้วยจิตใจที่ปรารถนาจะคืนดีกับพระเป็นเจ้า เราจึงไปสารภาพบาปกับพระสงฆ์ และพระสงฆ์ก็จะโปรดศีลอภัยบาปให้เรา โดยกล่าวว่า
"ข้าพเจ้าจึงอภัยบาปทั้งสิ้นของท่าน เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน" พร้อมทั้งยกมืออวยพร และให้เราไปทำกิจใช้โทษบาป
กิจใช้โทษบาป
ความสำคัญมันอยู่ตรงนี้ เราเข้มแข็งแค่ไหน ในการทำกิจการเพื่อชดใช้โทษบาปของเรา ... เราไปโกงเงินเขามา 5 ล้าน แต่สวดแค่ วันทา 3 บท มันเพียงพอมั้ย??? เราไปใส่ความนินทาจนเขาได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง แค่สวดภาวนาไม่กี่บท มันเพียงพอรึเปล่า??? และเพราะเรามนุษย์ล้วนแต่มีความโน้มเอียงในทางบาป เพียงแค่ออกจาก "ตู้แก้บาป" (ภาษาชาวบ้านที่เราคาทอลิคคุ้นเคย) เราก็เริ่มทำบาปแล้ว ........ โห พระสงฆ์องค์นี้ เทศน์ยาวมากกกกกก แถมยังให้ทำกิจใช้โทษตั้งเยอะ ใครจะไปสวดไหว วันทามารีย์ ตั้ง 10 บทแน่ะ แถมยังให้ฉันกลับไปขอโทษยัยนั่นอีก ฝันซะเถอะ ......
พระคุณการุณย์ จึงมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ เพราะบาปที่ยังไม่ได้สารภาพ หรือ ปกปิดไว้แล้วไปรับศีล (ทุรจารศีล = บาปหนัก) หรือแม้แต่บาปที่สารภาพแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำการชดเชยให้เพียงพอสมกับพระยุติธรรมของพระเจ้า โทษของบาปจึงจะยังคงติดอยู่กับวิญญาณของคนๆนั้น
ซึ่งพระศาสนจักร รู้และเข้าใจในเรื่องนี้ดี จึงได้นำคลังมหาสมบัติของพระเป็นเจ้าออกแจกจ่ายแก่คริสตชนทุกคน นั่นคือ พระคุณการุณย์ พระคุณแห่งการยกโทษของบาป ที่ยังคงติดอยู่กับวิญญาณของแต่ละคน และยังได้แนะนำให้คริสตชนทั้งหลายนำพระคุณเหล่านี้เพื่อช่วยวิญญาณในไฟชำระด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับวิญญาณที่ต้องถูกเผาในไฟอันร้อนแรงตลอดวันและคืน เขาจะรู้สึกขอบคุณในความเมตตาของคุณมากสักเพียงใด ที่ช่วยลดเวลาการชำระในไฟของพวกเขาให้สั้นลง
พระคุณการุณย์มี 2 อย่าง คือ พระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ และพระคุณการุณย์บางส่วน
พระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ (Plenary Indulgence) หมายถึง การอภัยโทษบาปอย่างหมดสิ้น ผู้ที่ได้รับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์นี้ จะพ้น “โทษ” ที่พึงต้องรับทั้งหมด (เราจะได้รับการยก "โทษ" ของบาป ตั้งแต่เราเกิดจนถึงวันที่เรารับพระคุณการุณย์บริบูรณ์.......โอ้โห..ช่างเป็นพระคุณที่ยิ่งใหญ่จริงๆ)
พระคุณการุณย์บางส่วน (Partial Indulgence) หมายถึง การอภัยโทษให้บางส่วน จะมีการระบุจำนวนวันสำหรับพระคุณด้วย เช่น พระคุณการุณย์ 100 วัน หมายถึง เมื่อรับพระคุณนี้ จะได้รับการอภัยโทษบาป จำนวน 100 วัน ตัวอย่างเช่น หากเราต้องไปไฟชำระ ด้วยบาปที่ทำเมื่อครั้งยังมีชีวิต ทำให้ต้องรับโทษเป็นเวลา 40 ปี แต่เราเคยรับพระคุณการุณย์ 100 วัน จำนวน 4 ครั้ง ดังนั้น โทษในไฟชำระ 40 ปีที่เราสมควรได้รับก็จะเหลือประมาณ 39 ปี (เอง)
อันทรมานเป็นการใช้โทษ ขอพระทรงโปรดอย่าให้ช้านาน
หนึ่งวันในไฟแม้ใครทนทาน จะเปรียบประมาณเท่าร้อยพันปี
คำถาม : อ้าว... งั้นถ้าฉันรับพระคุณการุณย์แล้วอุทิศให้วิญญาณในไฟชำระ ฉันก็ไม่เหลือพระคุณอะไรมาช่วยฉันเวลาต้องไปรับโทษบาปในไฟชำระน่ะสิ
คำตอบ : ไม่ใช่เช่นนั้น แม่พระตรัสที่แมดจูกาเรย์ว่า เราควรสวดภาวนาในวิญญาณในไฟชำระ โดยเฉพาะการขอพระคุณการุณย์อุทิศแด่วิญญาณในไฟชำระ เพื่อพวกเขาจะได้รับการลดโทษ และออกจากไฟชำระได้เร็วขึ้น ที่สำคัญ วิญญาณในไฟชำระที่ได้รับคำภาวนาและพระคุณการุณย์จากเรา ก็จะช่วยภาวนาให้เราด้วย และพระคุณเหล่านี้ที่เราสวดอุทิศให้ก็ไม่ได้หายไปแต่อย่างใด แม่พระทรงรักษาไว้ให้ และนำมาช่วยเราเมื่อต้องไปไฟชำระด้วย แปลความสั้นๆก็คือ ยิ่งให้ ก็ยิ่งได้รับ ยิ่งแจกจ่าย ก็ยิ่งได้รับมากยิ่งขึ้น
แล้วจะต้องทำยังไงบ้าง ถึงจะได้รับพระคุณการุณย์????
พระศาสนจักร ได้เปิดโอกาสให้เราสามารถรับพระคุณการุณย์นี้ได้บ่อยมาก จนเรามองข้ามมหาสมบัตินี้ไปเสียแล้ว...เช่น เวลาที่เราไปแสวงบุญหรือไปฉลองวัดต่างๆ เราก็จะคิดถึง....อาหารอร่อยๆ, ของฝาก,ของใช้ราคาย่อมเยา ฯลฯ วัดที่ไปร่วมฉลอง หรือ แสวงบุญบางแห่งต้องใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงกว่าจะเดินทางไปถึง แทนที่เราจะมุ่งหน้าเข้าวัดเพื่อกราบทักทายสวัสดีพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทเสียก่อน เราก็ไปตามสุ้มขายของต่างๆ ซื้อ ซื้อ ซื้อ จึงเต็มมือ หอบหิ้วกันผลุงผลัง
จนกระทั่งใกล้เวลามิสซาจึงค่อยเข้าไปหาที่นั่ง พอได้ที่นั่งแล้ว อ้าวเจอคนรู้จัก (นี่ๆ เธอรู้มั้ย คนนั้นน่ะ เขาเป็นอย่างงี้ อย่างงี้ อย่างงี้ เลยน้าาาา .......ฯลฯ) จนมิสซาเริ่มแล้ว ยังไม่ได้กล่าวสวัสดีทักทายพระ ,ยังไม่ได้สำรวมจิตใจ และไม่มีการภาวนาก่อนเริ่มมิสซาเลย.......(ถ้าหากมีคนมาเยี่ยมเราที่บ้าน แต่เขามัวยุ่งอยู่กับธุระปะปังของตัวเอง และนั่งคุยกับเพื่อนที่บังเอิญมาพบกันที่บ้านของเรา โดยไม่หันมาทักทายเราที่เป็นเจ้าของบ้านเลย เราจะรู้สึกไงดีนะ.....)
พอยังไม่ทันจะจบมิสซา เราก็ รีบ รีบ รีบ รีบไป "กิน" กินไปบ่นไป (วัดนี้อาหารไม่อร่อยเหมือนวัดนั้น.ของกินก็มีน้อย จะมีเหลือให้ห่อกลับบ้านมั้ยนะ .......ฯลฯ) กินกันไปจนอิ่มหนำสำราญใจ แอะ ยังมีเวลาเหลืออยู่นี่นา ไปดูของ เผื่อจะซื้ออะไรเพิ่มได้อีกดีกว่า จนกระทั่งถึงเวลากลับ รีบขึ้นรถ กลับบ้าน .... จบการแสวงกิน เอ้ย แสวงบุญไป 1 วัน
ดูเหมือน การแสวงบุญของคริสตชนหลายคน จะไม่ได้ให้ความสำคัญกับพระเจ้ามากนัก และ ยิ่งเรื่องการรับพระคุณการุณย์ ยิ่งแล้วใหญ่...... นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำไม มหาสมบัติเหล่านี้ถูกทิ้งขว้างอย่างน่าเสียดายยิ่ง
แล้วเราจะสามารถรับพระคุณการุณย์บริบูรณ์ได้จากที่ไหนบ้าง?
1. การไปแสวงบุญ หรือ ร่วมฉลองวัดเก่าแก่ ที่พระศาสนจักรตั้งให้เป็นวัดแห่งการแสวงบุญ และเป็นข่าวน่ายินดียิ่ง ด้วยองค์สมเด็จพระสันตะปาปา ทรงประกาศให้สัตบุรุษทุกคนสามารถรับพระคุณการุณย์บริบูรณ์ได้ ในโอกาส
ปีแห่งนักบวช ตามเงื่อนไขที่ปฏิบัติกันมา (รับศีลอภัยบาป,ศีลมหาสนิทและการภาวนาตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปา) โดยเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์แรกของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าปีนี้ จนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2016 ซึ่งเป็นวันปิดปีนักบวช และสำหรับอัครสังฆมณฑลกรุงเทพ ได้กำหนดให้แต่ละเขตมีวัด 1 แห่ง เพื่อการแสวงบุญรับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ โดยมีรายนามวัดดังนี้..
เขต 1 วัดแม่พระลูกประคำกาลหว่าร์
เขต 2 วัดสามเสน
เขต 3 วัดซางตาครู้ส กุฏีจีน
เขต 4 วัดพระวิสุทธิวงศ์ ลำไทร
เขต 5 สักการสถานบุญราศี คุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง
เขต 6 วัดมารีย์ สมภพ บ้านแพน
ตลอดปีศักดิ์สิทธิ์ 2015 นิ้ (ปีแห่งนักบวช) ทุกครั้งที่ร่วมมิสซาอย่างดีในวัดเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นวันอาทิตย์ หรือวันธรรมดา ก็สามารถรับพระคุณการุณย์บริบูรณ์ได้วันละ 1 ครั้ง ส่วนวัดในจังหวัดอื่นๆ จะมีวัดไหนที่กำหนดให้เป็นวัดเพื่อการแสวงบุญกันบ้าง ต้องลองสอบถามกับพระสงฆ์กันเองนะจ๊ะ (โปรดฟังอีกครั้ง.....รับพระคุณการุณย์บริบูรณ์แล้ว อย่าลืม!! อุทิศให้แก่วิญญาณในไฟชำระด้วยน้าาาาาา)
2. การฉลองเสกอาสนวิหาร หรือวัดใหม่
3. วันสมโภช หรือวันฉลองนักบุญ ที่พระศาสนจักรประกาศให้มีพระคุณการุณย์ เช่น พระศาสนจักรประกาศให้พระคุณการุณย์บริบูรณ์ แก่สัตบุรุษที่มาร่วมมิสซาในวันฉลองพระเมตตา ตามเงื่อนไข(แก้บาป-รับศีล-สวดตามจุดประสงค์พระสันตะปาปา)
4. สัตบุรุษที่ใช้วัตถุเกี่ยวกับความเชื่อความศรัทธา (กางเขน ลูกประคำ สายจำพวก รูปพระ) ที่ได้รับการอวยพรอย่างดีจากพระสงฆ์ สามารถรับพระคุณการุณย์บางส่วนได้
เงื่อนไขการรับพระคุณการุณย์บริบูรณ์
1. มีเจตนาที่จะรับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์
2. ร่วมมิสซาในวันสมโภชศาสนนามของวัดที่ได้รับการประกาศให้เป็นวัดแสวงบุญ (เฉพาะปีนักบวชนี้ สามารถรับพระคุณการุณย์บริบูรณ์ได้ทุกวันที่ร่วมมิสซาในวัดที่พระศาสนจักร ประกาศให้เป็นวัดแสวงบุญ)
3. ปฏิบัติศาสนกิจ ดังนี้
- รับศีลอภัยบาป (เป็นทุกข์ถึงบาปและแก้บาปอย่างดี)
- รับศีลมหาสนิท
- สวดภาวนาบท “ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้าฯ” ,“ข้าแต่พระบิดา” , “วันทามารีอา” , “พระสิริรุ่งโรจน์” โดยถวายคำภาวนาเพื่อตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปา
หมายเหตุ
1. จำเป็นต้องปฏิบัติให้ครบตามเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อ
2. ผู้ขอรับพระคุณการุณย์บริบูรณ์ วิญญาณต้องอยู่ในสถานะพระหรรษทาน พร้อมกับแสดงความตั้งใจที่จะรักพระเป็นเจ้า และเกลียจชังบาป คนที่รับศีลอภัยบาปแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถรับพระคุณการุณย์ได้ เช่น....
* คนที่เจตนาคดโกงเงินผู้อื่นและยังไม่ได้ชดใช้คืนให้,
* คนที่ทำ "บาปสงวน" คือบาปฆ่าคนจากการทำแท้ง หรือมีส่วนสนับสนุน หรือรู้เห็นในการทำแท้ง บาปหนักข้อนี้พระสงฆ์ธรรมดาไม่
สามารถโปรดบาปได้ พระสังฆราชและผู้ที่ท่านมอบหมายเท่านั้นจึงจะโปรดบาปนี้ได้
* คนที่ยังมีใจโกรธเกลียดเพื่อนพี่น้อง เหล่านี้...ไม่อาจรับพระคุณนี้ได้
3. พระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ เป็นพระคุณที่กำหนดให้รับได้วันละ 1 ครั้งและ พระคุณการุณย์นี้สามารถช่วยวิญญาณในไฟชำระได้เป็นอย่างดี
4. พระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ เป็นพระคุณที่ใช้ยก
โทษของบาปทั้งสิ้น แก่ผู้ที่ขอรับพระคุณนี้อย่างดี
5. พระคุณการุณย์ ไม่อาจอุทิศให้คนที่ยังมีชีวิตได้
บทภาวนาสั้นๆ ที่สวดแล้วได้รับพระคุณการุณย์ด้วย
* เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน. ( 100 วันทุกครั้งที่ทำสำคัญมหากางเขน 300 วันถ้าจุ่มน้ำเสกด้วย )
และบทอื่นๆอีกมากที่น่าสนใจ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.thaicatholicsingles.com/index.php?topic=384.0
คุณรู้หรือไม่ การอ่านพระคัมภีร์(Bible) ก็สามารถรับพระคุณการุณย์ได้เช่นกัน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://blessroom.blogspot.com/2012/07/blog-post_04.html
เชิญเยี่ยมชม วีดีโอ , บทความ ดีๆ อาทิ อัศจรรย์ศีลมหาสนิท , วิญญาณในไฟชำระ และ วีดีโออื่นๆ จาก youtube โดย a little sheep ได้ที่
https://www.facebook.com/help.souls
พระคุณการุณย์... คลังมหาสมบัติที่ถูกลืม!!!
บางคนสามารถตอบคำถามได้ทุกข้อ .... ในขณะที่บางคนแม้จะเป็นคริสตชนก็ไม่สามารถตอบได้แม้แต่ข้อเดียว!!!! พระศาสนจักร ได้มอบขุมทรัพย์นี้ให้กับคริสตชนทุกคนเพื่อช่วยวิญญาณในไฟชำระ และเป็นการลดโทษของบาปสำหรับวิญญาณของตนเอง
ศีลอภัยบาป
พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลอภัยบาป โดยทรงมอบอำนาจแห่งการยกบาปให้กับบรรดาอัครสาวก จนกระทั่งปัจจุบัน อำนาจแห่งการยกบาปนี้ได้ถูกส่งต่อมายังบรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์ ให้กระทำหน้าที่ยกบาปแทนพระองค์ในโลกนี้ด้วย โดยพระเยซูเจ้าทรงตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาป ของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย” (ยอห์น 20 : 22-23)
สิ่งสำคัญในการขอรับพระคุณการุณย์ คือ การสำนึกบาปอย่างจริงใจ
ดังนั้นเมื่อเรารู้สึกสำนึกเสียใจในสิ่งที่เราได้กระทำไป และตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะไม่กลับไปทำบาปนั้นอีก และด้วยจิตใจที่ปรารถนาจะคืนดีกับพระเป็นเจ้า เราจึงไปสารภาพบาปกับพระสงฆ์ และพระสงฆ์ก็จะโปรดศีลอภัยบาปให้เรา โดยกล่าวว่า "ข้าพเจ้าจึงอภัยบาปทั้งสิ้นของท่าน เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน" พร้อมทั้งยกมืออวยพร และให้เราไปทำกิจใช้โทษบาป
กิจใช้โทษบาป
ความสำคัญมันอยู่ตรงนี้ เราเข้มแข็งแค่ไหน ในการทำกิจการเพื่อชดใช้โทษบาปของเรา ... เราไปโกงเงินเขามา 5 ล้าน แต่สวดแค่ วันทา 3 บท มันเพียงพอมั้ย??? เราไปใส่ความนินทาจนเขาได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง แค่สวดภาวนาไม่กี่บท มันเพียงพอรึเปล่า??? และเพราะเรามนุษย์ล้วนแต่มีความโน้มเอียงในทางบาป เพียงแค่ออกจาก "ตู้แก้บาป" (ภาษาชาวบ้านที่เราคาทอลิคคุ้นเคย) เราก็เริ่มทำบาปแล้ว ........ โห พระสงฆ์องค์นี้ เทศน์ยาวมากกกกกก แถมยังให้ทำกิจใช้โทษตั้งเยอะ ใครจะไปสวดไหว วันทามารีย์ ตั้ง 10 บทแน่ะ แถมยังให้ฉันกลับไปขอโทษยัยนั่นอีก ฝันซะเถอะ ......
พระคุณการุณย์ จึงมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ เพราะบาปที่ยังไม่ได้สารภาพ หรือ ปกปิดไว้แล้วไปรับศีล (ทุรจารศีล = บาปหนัก) หรือแม้แต่บาปที่สารภาพแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำการชดเชยให้เพียงพอสมกับพระยุติธรรมของพระเจ้า โทษของบาปจึงจะยังคงติดอยู่กับวิญญาณของคนๆนั้น
ซึ่งพระศาสนจักร รู้และเข้าใจในเรื่องนี้ดี จึงได้นำคลังมหาสมบัติของพระเป็นเจ้าออกแจกจ่ายแก่คริสตชนทุกคน นั่นคือ พระคุณการุณย์ พระคุณแห่งการยกโทษของบาป ที่ยังคงติดอยู่กับวิญญาณของแต่ละคน และยังได้แนะนำให้คริสตชนทั้งหลายนำพระคุณเหล่านี้เพื่อช่วยวิญญาณในไฟชำระด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับวิญญาณที่ต้องถูกเผาในไฟอันร้อนแรงตลอดวันและคืน เขาจะรู้สึกขอบคุณในความเมตตาของคุณมากสักเพียงใด ที่ช่วยลดเวลาการชำระในไฟของพวกเขาให้สั้นลง
พระคุณการุณย์มี 2 อย่าง คือ พระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ และพระคุณการุณย์บางส่วน
พระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ (Plenary Indulgence) หมายถึง การอภัยโทษบาปอย่างหมดสิ้น ผู้ที่ได้รับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์นี้ จะพ้น “โทษ” ที่พึงต้องรับทั้งหมด (เราจะได้รับการยก "โทษ" ของบาป ตั้งแต่เราเกิดจนถึงวันที่เรารับพระคุณการุณย์บริบูรณ์.......โอ้โห..ช่างเป็นพระคุณที่ยิ่งใหญ่จริงๆ)
พระคุณการุณย์บางส่วน (Partial Indulgence) หมายถึง การอภัยโทษให้บางส่วน จะมีการระบุจำนวนวันสำหรับพระคุณด้วย เช่น พระคุณการุณย์ 100 วัน หมายถึง เมื่อรับพระคุณนี้ จะได้รับการอภัยโทษบาป จำนวน 100 วัน ตัวอย่างเช่น หากเราต้องไปไฟชำระ ด้วยบาปที่ทำเมื่อครั้งยังมีชีวิต ทำให้ต้องรับโทษเป็นเวลา 40 ปี แต่เราเคยรับพระคุณการุณย์ 100 วัน จำนวน 4 ครั้ง ดังนั้น โทษในไฟชำระ 40 ปีที่เราสมควรได้รับก็จะเหลือประมาณ 39 ปี (เอง)
อันทรมานเป็นการใช้โทษ ขอพระทรงโปรดอย่าให้ช้านาน
หนึ่งวันในไฟแม้ใครทนทาน จะเปรียบประมาณเท่าร้อยพันปี
คำถาม : อ้าว... งั้นถ้าฉันรับพระคุณการุณย์แล้วอุทิศให้วิญญาณในไฟชำระ ฉันก็ไม่เหลือพระคุณอะไรมาช่วยฉันเวลาต้องไปรับโทษบาปในไฟชำระน่ะสิ
คำตอบ : ไม่ใช่เช่นนั้น แม่พระตรัสที่แมดจูกาเรย์ว่า เราควรสวดภาวนาในวิญญาณในไฟชำระ โดยเฉพาะการขอพระคุณการุณย์อุทิศแด่วิญญาณในไฟชำระ เพื่อพวกเขาจะได้รับการลดโทษ และออกจากไฟชำระได้เร็วขึ้น ที่สำคัญ วิญญาณในไฟชำระที่ได้รับคำภาวนาและพระคุณการุณย์จากเรา ก็จะช่วยภาวนาให้เราด้วย และพระคุณเหล่านี้ที่เราสวดอุทิศให้ก็ไม่ได้หายไปแต่อย่างใด แม่พระทรงรักษาไว้ให้ และนำมาช่วยเราเมื่อต้องไปไฟชำระด้วย แปลความสั้นๆก็คือ ยิ่งให้ ก็ยิ่งได้รับ ยิ่งแจกจ่าย ก็ยิ่งได้รับมากยิ่งขึ้น
แล้วจะต้องทำยังไงบ้าง ถึงจะได้รับพระคุณการุณย์????
พระศาสนจักร ได้เปิดโอกาสให้เราสามารถรับพระคุณการุณย์นี้ได้บ่อยมาก จนเรามองข้ามมหาสมบัตินี้ไปเสียแล้ว...เช่น เวลาที่เราไปแสวงบุญหรือไปฉลองวัดต่างๆ เราก็จะคิดถึง....อาหารอร่อยๆ, ของฝาก,ของใช้ราคาย่อมเยา ฯลฯ วัดที่ไปร่วมฉลอง หรือ แสวงบุญบางแห่งต้องใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงกว่าจะเดินทางไปถึง แทนที่เราจะมุ่งหน้าเข้าวัดเพื่อกราบทักทายสวัสดีพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทเสียก่อน เราก็ไปตามสุ้มขายของต่างๆ ซื้อ ซื้อ ซื้อ จึงเต็มมือ หอบหิ้วกันผลุงผลัง
จนกระทั่งใกล้เวลามิสซาจึงค่อยเข้าไปหาที่นั่ง พอได้ที่นั่งแล้ว อ้าวเจอคนรู้จัก (นี่ๆ เธอรู้มั้ย คนนั้นน่ะ เขาเป็นอย่างงี้ อย่างงี้ อย่างงี้ เลยน้าาาา .......ฯลฯ) จนมิสซาเริ่มแล้ว ยังไม่ได้กล่าวสวัสดีทักทายพระ ,ยังไม่ได้สำรวมจิตใจ และไม่มีการภาวนาก่อนเริ่มมิสซาเลย.......(ถ้าหากมีคนมาเยี่ยมเราที่บ้าน แต่เขามัวยุ่งอยู่กับธุระปะปังของตัวเอง และนั่งคุยกับเพื่อนที่บังเอิญมาพบกันที่บ้านของเรา โดยไม่หันมาทักทายเราที่เป็นเจ้าของบ้านเลย เราจะรู้สึกไงดีนะ.....)
พอยังไม่ทันจะจบมิสซา เราก็ รีบ รีบ รีบ รีบไป "กิน" กินไปบ่นไป (วัดนี้อาหารไม่อร่อยเหมือนวัดนั้น.ของกินก็มีน้อย จะมีเหลือให้ห่อกลับบ้านมั้ยนะ .......ฯลฯ) กินกันไปจนอิ่มหนำสำราญใจ แอะ ยังมีเวลาเหลืออยู่นี่นา ไปดูของ เผื่อจะซื้ออะไรเพิ่มได้อีกดีกว่า จนกระทั่งถึงเวลากลับ รีบขึ้นรถ กลับบ้าน .... จบการแสวงกิน เอ้ย แสวงบุญไป 1 วัน
ดูเหมือน การแสวงบุญของคริสตชนหลายคน จะไม่ได้ให้ความสำคัญกับพระเจ้ามากนัก และ ยิ่งเรื่องการรับพระคุณการุณย์ ยิ่งแล้วใหญ่...... นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำไม มหาสมบัติเหล่านี้ถูกทิ้งขว้างอย่างน่าเสียดายยิ่ง
แล้วเราจะสามารถรับพระคุณการุณย์บริบูรณ์ได้จากที่ไหนบ้าง?
1. การไปแสวงบุญ หรือ ร่วมฉลองวัดเก่าแก่ ที่พระศาสนจักรตั้งให้เป็นวัดแห่งการแสวงบุญ และเป็นข่าวน่ายินดียิ่ง ด้วยองค์สมเด็จพระสันตะปาปา ทรงประกาศให้สัตบุรุษทุกคนสามารถรับพระคุณการุณย์บริบูรณ์ได้ ในโอกาส ปีแห่งนักบวช ตามเงื่อนไขที่ปฏิบัติกันมา (รับศีลอภัยบาป,ศีลมหาสนิทและการภาวนาตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปา) โดยเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์แรกของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าปีนี้ จนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2016 ซึ่งเป็นวันปิดปีนักบวช และสำหรับอัครสังฆมณฑลกรุงเทพ ได้กำหนดให้แต่ละเขตมีวัด 1 แห่ง เพื่อการแสวงบุญรับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ โดยมีรายนามวัดดังนี้..
เขต 1 วัดแม่พระลูกประคำกาลหว่าร์
เขต 2 วัดสามเสน
เขต 3 วัดซางตาครู้ส กุฏีจีน
เขต 4 วัดพระวิสุทธิวงศ์ ลำไทร
เขต 5 สักการสถานบุญราศี คุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง
เขต 6 วัดมารีย์ สมภพ บ้านแพน
ตลอดปีศักดิ์สิทธิ์ 2015 นิ้ (ปีแห่งนักบวช) ทุกครั้งที่ร่วมมิสซาอย่างดีในวัดเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นวันอาทิตย์ หรือวันธรรมดา ก็สามารถรับพระคุณการุณย์บริบูรณ์ได้วันละ 1 ครั้ง ส่วนวัดในจังหวัดอื่นๆ จะมีวัดไหนที่กำหนดให้เป็นวัดเพื่อการแสวงบุญกันบ้าง ต้องลองสอบถามกับพระสงฆ์กันเองนะจ๊ะ (โปรดฟังอีกครั้ง.....รับพระคุณการุณย์บริบูรณ์แล้ว อย่าลืม!! อุทิศให้แก่วิญญาณในไฟชำระด้วยน้าาาาาา)
2. การฉลองเสกอาสนวิหาร หรือวัดใหม่
3. วันสมโภช หรือวันฉลองนักบุญ ที่พระศาสนจักรประกาศให้มีพระคุณการุณย์ เช่น พระศาสนจักรประกาศให้พระคุณการุณย์บริบูรณ์ แก่สัตบุรุษที่มาร่วมมิสซาในวันฉลองพระเมตตา ตามเงื่อนไข(แก้บาป-รับศีล-สวดตามจุดประสงค์พระสันตะปาปา)
4. สัตบุรุษที่ใช้วัตถุเกี่ยวกับความเชื่อความศรัทธา (กางเขน ลูกประคำ สายจำพวก รูปพระ) ที่ได้รับการอวยพรอย่างดีจากพระสงฆ์ สามารถรับพระคุณการุณย์บางส่วนได้
เงื่อนไขการรับพระคุณการุณย์บริบูรณ์
1. มีเจตนาที่จะรับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์
2. ร่วมมิสซาในวันสมโภชศาสนนามของวัดที่ได้รับการประกาศให้เป็นวัดแสวงบุญ (เฉพาะปีนักบวชนี้ สามารถรับพระคุณการุณย์บริบูรณ์ได้ทุกวันที่ร่วมมิสซาในวัดที่พระศาสนจักร ประกาศให้เป็นวัดแสวงบุญ)
3. ปฏิบัติศาสนกิจ ดังนี้
- รับศีลอภัยบาป (เป็นทุกข์ถึงบาปและแก้บาปอย่างดี)
- รับศีลมหาสนิท
- สวดภาวนาบท “ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้าฯ” ,“ข้าแต่พระบิดา” , “วันทามารีอา” , “พระสิริรุ่งโรจน์” โดยถวายคำภาวนาเพื่อตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปา
หมายเหตุ
1. จำเป็นต้องปฏิบัติให้ครบตามเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อ
2. ผู้ขอรับพระคุณการุณย์บริบูรณ์ วิญญาณต้องอยู่ในสถานะพระหรรษทาน พร้อมกับแสดงความตั้งใจที่จะรักพระเป็นเจ้า และเกลียจชังบาป คนที่รับศีลอภัยบาปแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถรับพระคุณการุณย์ได้ เช่น....
* คนที่เจตนาคดโกงเงินผู้อื่นและยังไม่ได้ชดใช้คืนให้,
* คนที่ทำ "บาปสงวน" คือบาปฆ่าคนจากการทำแท้ง หรือมีส่วนสนับสนุน หรือรู้เห็นในการทำแท้ง บาปหนักข้อนี้พระสงฆ์ธรรมดาไม่
สามารถโปรดบาปได้ พระสังฆราชและผู้ที่ท่านมอบหมายเท่านั้นจึงจะโปรดบาปนี้ได้
* คนที่ยังมีใจโกรธเกลียดเพื่อนพี่น้อง เหล่านี้...ไม่อาจรับพระคุณนี้ได้
3. พระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ เป็นพระคุณที่กำหนดให้รับได้วันละ 1 ครั้งและ พระคุณการุณย์นี้สามารถช่วยวิญญาณในไฟชำระได้เป็นอย่างดี
4. พระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ เป็นพระคุณที่ใช้ยกโทษของบาปทั้งสิ้น แก่ผู้ที่ขอรับพระคุณนี้อย่างดี
5. พระคุณการุณย์ ไม่อาจอุทิศให้คนที่ยังมีชีวิตได้
บทภาวนาสั้นๆ ที่สวดแล้วได้รับพระคุณการุณย์ด้วย
* เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน. ( 100 วันทุกครั้งที่ทำสำคัญมหากางเขน 300 วันถ้าจุ่มน้ำเสกด้วย )
และบทอื่นๆอีกมากที่น่าสนใจ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaicatholicsingles.com/index.php?topic=384.0
คุณรู้หรือไม่ การอ่านพระคัมภีร์(Bible) ก็สามารถรับพระคุณการุณย์ได้เช่นกัน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://blessroom.blogspot.com/2012/07/blog-post_04.html
เชิญเยี่ยมชม วีดีโอ , บทความ ดีๆ อาทิ อัศจรรย์ศีลมหาสนิท , วิญญาณในไฟชำระ และ วีดีโออื่นๆ จาก youtube โดย a little sheep ได้ที่ https://www.facebook.com/help.souls