สวัสดีครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ใช้ตู้ SANDEN WINE COOLER (WINE 166 Bottles) ซื้อปี 2012(ต้นปี)
อาจจะท้าวความนานสะหน่อยแต่ถ้าลองอ่านจะเป็นประโยชน์ในการพิจารณ์ในการตัดสินใจซื้อสินค้าครับ
อยู่ครับ ซื้อมาประมาณ 3 ปีแล้วครับ ตอนซื้อมาครั้งแรก มาจัดส่งเรียบร้อยครับ(จัดส่งเฉยๆนะครับ)
แต่ตู้ไม่เย็น ต้องส่งช่างมาใหม่ (ช่างคนล่ะคนกับที่มาครั้งแรก เสียเวลาไปรอคิวไป 3วัน อันนี้พอรับได้)
แล้วจากนั้นก็ไม่มีปัญหาเลยครับ พอดีผมตั่งคู่กับ ตู้แช่ไวน์ อีกตู้ ของ VINTEC (WINE COOLER 166 Bottles by วีรสุ) หน้าตาคล้ายกันมากๆ  
ต่อมาจากนั้นประมาณ 2 ปี ครับ ผมย้ายบ้าน จาก รัชดา มา บางนา (ต้องขน ไวน์ออก มาทั้งหมด
แล้วเรียกบริการขนย้ายพิเศษ(บริษัทขนส่งเขาลงว่า ขนส่งตู้ไวน์ได้ด้วย ก็เลยใช้ครับ) พอขนมา บางนา(บางเสาธง ตรง ซอย เอแบค บางนา)
ตั่งตู้ คู่กันเหมือนเดิม ปุ๊บ SANDEN ปกติสุขดี ไม่มีปัญหา แต่ ตู้ VINTEC กลับ ไม่เย็นครับ ตกใจมาก (ตู้ราคา แสนกว่าบาท) เลยโทรเรียกช่าง วีรสุ
ประเด็นคือ ทีมช่างติดต่อกลับมา ภายใน 1 วันแล้วมาซ่อมวันถักไป อย่างรวดเร็วปานสายลม จริงๆครับ นี่ก็ประทับใจ แถมค่าใช้จ่ายก็ถูกมาก ประมาณ 700บาท (หมดประกัน) แล้วก็ไม่มีปัญหาจนทุกวันนี้ครับ แล้ว.....ต่อมา เรื่องมีอยู่ว่า.....
ตู้ SANDEN เกิด ไม่เย็นขึ้นมา (ปกติตั่งอุณหภูมิไว้ 12 องศา) ตอนนี้ มันได้แค่ 25 ก็ประคองอุณหภูมินี้มา พักใหญ่ ผมเองก็พึ่งมาสังเกตุ
เพราะแม่บ้านมาบอกว่า คุณผู้ชาย ตู้ไวน์ทำไมมันแปลกๆมา2-3อาทิตย์แล้ว ผมก็เลย รีบติดต่อไปที่ ศูนย์บริการ SANDEN INTERCOOL CO.,LTD.
บอกว่าจะให้ช่างติดต่อกลับ....
### ประเด็นคือตรงนี้ครับ !!!!!!! ###
ผมรอ 12 วัน !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! นี่แค่ติดต่อกลับนะครับ บอกว่า คิวเยอะ (แสดงว่า อะไร คิดได้หลายอย่าง 555) อะคิวเยอะก็เข้าใจงั้น
มานัดวันเข้ามาดูตู้กัน....นัดครับ จากวันที่โทรมา บอกอีก 3 วันจะโทรมานัด....โทรครับ โทรมาเลื่อน....เลื่อนไป ตามสบายฉัน
3-4 รอบ คนที่บ้าน แม่ยาย พี่ภรรยา ไม่ต้องไปไหนกันเลย เพราะมันแต่รอๆว่าจะโทรมานัดแล้วจะมาวันไหนกันแน่ สรุป
3 สัปดาห์ครับ กว่าจะเข้ามาดูตู้ให้ได้....##### ยังยัง ยังไม่จบครับ #####....
ดูแล้ว ซ่อมไม่ได้....ต้อง ยกกลับไป ซ่อมที่โรงงาน!!!!! อ้าว แล้วยังไงต่อ(เรื่องการซ่อม ผมก็พอจะเข้าใจ อยู่บ้างว่า อะไรซ่อมหน้างานได้ หรืออาจจะเครื่องมือไม่สามารถ จะทำหน้างานได้ จำเป็๋นต้อง ไปทำที่ โรงงาน อะไรประมาณนี้) แล้วก็บอกว่า จะติดต่อกลับ!!!!! เพื่อนัดเข้ามารับตู้ไปซ่อมพร้อมแจ้งค่าใช้จ่าย.....แล้วนี่คืออะไร ให้รอ.....อีกกี่วันกี่คืน.....แล้วไวน์ในตู้ผมล่ะ (จริงๆมันก็ไม่ถึงกับเน่าเสียไปหลอก แต่คนรัก ไวน์คงจะเข้าใจว่า ก็มีความเป็นห่วงมันอยู่บ้าง).....
วันที่มาดูตู้หลังจาก ที่รอมา 3 สัปดาห์ คือวันที่ 9 ธ.ค. 2557....
วันนี้ 16 ธ.ค. 2557 ( 1 สัปดาห์) ผ่านไป....ก็ยังเงียบ....(ผมพยายามติดต่อกลับไปถามนะ ก็ยังเงียบ)....
แล้วจะให้ผม....รู้สึกอย่างไรกับ....บริการหลังการขาย After Service แบบนี้ล่ะครับ....
ประเด็นที่เล่าให้ฟังมานานขนาดนี้ คือ....คุณ SANDEN คุณ ต้องรักษา มาตรฐาน บริการหลังการขายให้ดีด้วยนะครับ
เป็นแบบนี้....(ถ้าเป็นตู้แช่ของสด ของไม่เน่าไปแล้วเหรอครับ)....ผมก็คง ไม่คิดจะซื้อสินค้า ที่นี่อีกแน่นอนครับ
คือ ตู้ VINTEC ราคา 120,000บาท (บริการหลังการขาย สุดยอดมากๆ) ตู้ SANDEN ราคา 35,000 บาท (บริการแบบนี้)
ที่บ้านผมบอกเลยว่า....ไม่ต้องซื้ออีกเลยนะกับบริษัทที่ การบริหารจัดการ การบริการหลังการขายแบบนี้ ยอมเสียสตางมากกว่าดีกว่า

สิ่งที่ผมคิดก็คือ ผม(พยายาม)เข้าใจครับว่า แต่ล่ะบริษัทก็ ต้องการขายของมีรายได้มียอดขายกำไรเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นๆไป
ในขนะเดียวกัน...ก็ต้องการ ให้ลูกค้าพึงพอใจในสินค้าและบริการ รวมถึงบริการหลังการขายด้วย....ถูกไหม
เพราะฉนั้น ตอนนี้ผมคิดว่า....SANDEN คุณตีตลาดด้วยราคาจน เป็นที่นิยม แต่....คูณต้อง ปรับปรุงการบริหารจัดการ การยริการหลังการขาย ของคุณเสียใหม่(อย่างเร่งด่วนเลย) เพราะ....ถ้า เริ่มเป็นแบบนี้แล้ว.....(ปกติผมจะไม่ออกมา วิจารณ์ อะไรแบบนี้ เพราะเราก็คนทำงาน เหมือนกัน)
มันคือ สัญญาณ อย่างหนึ่งที่....ต้องทำอะไรสักอย่างแล้วกับ...โครงสร้างบางอย่างในองกรณ์ของคุณ....
ถ้าปล่อยไว้แบบนี้....จะมีปัญหาหนักๆตามมาได้ครับ....
(ทุกคำและเรื่องข้างต้น เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับผม และ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมทั้งสิ้นครับ ไม่ต้องการให้ไปเกิดปัญหาอะไรกับใครทั้งสิ้น ถือว่าเป็น ตัวอย่างที่อาจจะเป็นประโยชน์กับใครบางคนไดครับ)

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า....บริษัทนี้จะได้รับรู้และปรับปรุงการบริการให้ดียิ่งๆขึ้นไปครับ...
ขอบคุณทุกท่านที่ อดทนอ่านครับ