คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ผมเป็นคนหนึ่งที่ใช้บริการรถไฟค่อนข้างบ่อย ผมพอสังเกตเห็นสาเหตุถึงความล่าช้าของรถไฟ
สรุปได้ว่า มันล่าช้าเพราะหลายๆสาเหตุด้วยกัน เช่น...
1. รถเสีย ไม่ว่าจะหัวรถจักร หรือ ตู้ที่พ่วงในขบวนเสีย จอดซ่อมนานเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับสภาพความเสียหาย
2. รอหลีกให้รถสวนทาง อันนี้จริงๆเขามีการกำหนดไว้ในตารางเดินรถแล้ว ว่าขบวนนี้จะต้องรอหลีกกับขบวนใดบ้าง? ที่สถานีไหนบ้าง?
แต่ด้วยปัจจัยต่างๆนานา ทำให้แต่ละขบวนเกิดความล่าช้า จึงรอหลีกตามตารางที่กำหนดไว้ได้
จึงต้องลุ้นว่าทางศูนย์ควบคุมการเดินรถ จะให้ขบวนของคุณเป็นฝ่าย"รอหลีก" หรือ "วิ่งผ่าน"
ถ้าโดนเป็นฝ่าย"รอหลีก"บ่อยๆ ความล่าช้าก็สะสมมากขึ้น
3. "รอทาง"... อันนี้คือกรณีที่เจอรถขบวนข้างหน้า มันมีเหตุให้วิ่งช้าจนขวางทางเรา เราจอดรอที่สถานี ให้ขบวนข้างหน้าวิ่งพ้นสถานีถัดไปก่อน ถึงเราจะวิ่งตามต่อไปได้ โดน"รอทาง"บ่อยๆ ความล่าช้าก็สะสมมากขึ้น
4. สภาพทาง ถ้าหากทางรถไฟมีสภาพดี ก็สามารถทำความเร็วได้เต็มพิกัดอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะไกลๆได้
ส่งผลให้เวลาในการเดินทางเที่ยงตรงขึ้น
แต่ปัจจุบัน สภาพทางบางช่วงชำรุด ทำให้ไม่สามารถใช้ความเร็วได้เต็มพิกัด ต้องชะลอความเร็ว หรือวิ่งด้วยความเร็วต่ำ(ภาษารถไฟเรียกว่า"เบาทาง") ส่งผลเรื่องความล่าช้าสะสมด้วย
5. สภาพรถ ทุกวันนี้ นอกจากรถจะมีอายุการใช้งานมาก แถมจำนวนที่มีก็ยังไม่พอใช้ วันนึงก็เลยแทบไม่ได้พักต้องรีบหมุนเวียนใช้งานกันให้ทัน
อย่างบางขบวน ล่าช้าตั้งแต่ต้นทาง เพราะต้องชุดรถของขบวนอื่นมาถึงก่อน เนื่องจากมีรถไม่พอใช้งาน
6. สภาพแวดล้อมของทางรถไฟ อย่างเช่นจุดตัดถนน มีเยอะมาก ช่วงหลังๆพนักงานขับรถไม่อยากให้เกิดเหตุชนกับรถยนต์ ก็เลยต้องยอมชะลอความเร็วกับทุกครั้งเมื่อจะวิ่งผ่านจุดตัดถนน ซึ่งทำให้เกิดความล่าช้าขึ้นได้
นึกออกแค่นี้ล่ะครับ
สรุปได้ว่า มันล่าช้าเพราะหลายๆสาเหตุด้วยกัน เช่น...
1. รถเสีย ไม่ว่าจะหัวรถจักร หรือ ตู้ที่พ่วงในขบวนเสีย จอดซ่อมนานเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับสภาพความเสียหาย
2. รอหลีกให้รถสวนทาง อันนี้จริงๆเขามีการกำหนดไว้ในตารางเดินรถแล้ว ว่าขบวนนี้จะต้องรอหลีกกับขบวนใดบ้าง? ที่สถานีไหนบ้าง?
แต่ด้วยปัจจัยต่างๆนานา ทำให้แต่ละขบวนเกิดความล่าช้า จึงรอหลีกตามตารางที่กำหนดไว้ได้
จึงต้องลุ้นว่าทางศูนย์ควบคุมการเดินรถ จะให้ขบวนของคุณเป็นฝ่าย"รอหลีก" หรือ "วิ่งผ่าน"
ถ้าโดนเป็นฝ่าย"รอหลีก"บ่อยๆ ความล่าช้าก็สะสมมากขึ้น
3. "รอทาง"... อันนี้คือกรณีที่เจอรถขบวนข้างหน้า มันมีเหตุให้วิ่งช้าจนขวางทางเรา เราจอดรอที่สถานี ให้ขบวนข้างหน้าวิ่งพ้นสถานีถัดไปก่อน ถึงเราจะวิ่งตามต่อไปได้ โดน"รอทาง"บ่อยๆ ความล่าช้าก็สะสมมากขึ้น
4. สภาพทาง ถ้าหากทางรถไฟมีสภาพดี ก็สามารถทำความเร็วได้เต็มพิกัดอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะไกลๆได้
ส่งผลให้เวลาในการเดินทางเที่ยงตรงขึ้น
แต่ปัจจุบัน สภาพทางบางช่วงชำรุด ทำให้ไม่สามารถใช้ความเร็วได้เต็มพิกัด ต้องชะลอความเร็ว หรือวิ่งด้วยความเร็วต่ำ(ภาษารถไฟเรียกว่า"เบาทาง") ส่งผลเรื่องความล่าช้าสะสมด้วย
5. สภาพรถ ทุกวันนี้ นอกจากรถจะมีอายุการใช้งานมาก แถมจำนวนที่มีก็ยังไม่พอใช้ วันนึงก็เลยแทบไม่ได้พักต้องรีบหมุนเวียนใช้งานกันให้ทัน
อย่างบางขบวน ล่าช้าตั้งแต่ต้นทาง เพราะต้องชุดรถของขบวนอื่นมาถึงก่อน เนื่องจากมีรถไม่พอใช้งาน
6. สภาพแวดล้อมของทางรถไฟ อย่างเช่นจุดตัดถนน มีเยอะมาก ช่วงหลังๆพนักงานขับรถไม่อยากให้เกิดเหตุชนกับรถยนต์ ก็เลยต้องยอมชะลอความเร็วกับทุกครั้งเมื่อจะวิ่งผ่านจุดตัดถนน ซึ่งทำให้เกิดความล่าช้าขึ้นได้
นึกออกแค่นี้ล่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไม รถไฟไทยถึงล่าช้า เสียเวลามากเลยครับ บางครั้งรอนานเป็น ชั่วโมงเลยครับ