วันนี้ครบรอบ 1 อาทิตย์การเสียชีวิตของฟิลลิป ฮิวจ์ นักคริกเก็ตชาวออสเตรเลียจากอุบัติเหตุระหว่างการแข่งขันเมื่อ 2 วันก่อนหน้านั้น
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดูกระทู้ที่ดิฉันตั้งไว้เมื่อวันศุกร์ที่แล้วผ่านทาง
http://ppantip.com/topic/32915584 ค่ะ
เมื่อวานที่ผ่านมามีการจัดพิธีศพของเขาที่เมืองแมคส์เวลล์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ บ้านเกิดของเขา ในขณะเดียวกัน ฌอน แอบบอตต์ นักคริกเก็ตรุ่นน้องที่ขว้างลูกมรณะนั้นยังมีอาการเศร้าสลดกับอนาคตที่เขาต้องเลือกระหว่างจะยังเล่นต่อหรือจะวางมือ กระทู้นี้จะมาพูดถึงสองเรื่องนี้ค่ะ
เมื่อ 1 อาทิตย์ที่แล้ว ฟิลได้จากไปเพราะเส้นเลือดบริเวณต้นคอที่ไปเลี้ยงสมองปริแตกจากการโดนลูกคริกเก็ตกระแทกบริเวณต้นคออย่างจังในระหว่างการแข่งขันเมื่อ 2 วันก่อน ฌอน ที่ได้รู้ข่าวถึงกับมีอาการเศร้าสลดถึงกับทำใจไม่ได้กับการตายของรุ่นพี่
วันอังคารที่ผ่านมา ครบรอบ 1 อาทิตย์วันเกิดเหตุ เขาได้กลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมตามปกติ แต่สีหน้าของเขายังมีความกังวลและดูแย่เอามากๆ
วันต่อมา เป็นวันพิธีศพของฟิล ฌอนในสภาพที่โกนหนวดเกลี้ยงเกลา แต่ยังมีอาการเศร้าสลดอยู่ได้เข้าร่วมงานด้วย โดยมีแว่นตาดำปิดบังแววตาที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็นไว้ เขาเลือกที่จะเข้าร่วมงานนี้แทนที่จะเก็บตัวอย่างหลบๆซ่อนๆ ซึ่งทางสื่อท้องถิ่นที่เลือกที่จะไม่แพร่ภาพฌอนในพิธีงานศพเพื่อเคารพความเป็นส่วนตัวของเขา แต่ก็ยังพอมีภาพเขาในงานนี้เป็นประปรายให้ชมค่ะ
เขากับแฟนสาว
เขาได้รับการต้อนรับจากดีน โจนส์ นักคริกเก็ตระดับตำนานของออสเตรเลีย
ซึ่งก็พอให้เขายังสู้ต่อไป
ภาพบรรยากาศเพื่อนๆในทีมเดินทางมายังแมคส์วิลล์โดยเครื่องบินเพื่อมางานนี้
ภาพบรรยากาศงานศพ จัดขึ้นที่สนามในโรงเรียนมัธยมในเมืองแมคส์วิลล์ โดยก่อนหน้านั้นมีการแห่โลงศพไปทั่วเมือง
บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้า และมีการถ่ายทอดสดทั้งประเทศ
นายกรัฐมนตรีโทนี่ แอบบอตต์ได้เข้าร่วมงานนี้ด้วย (ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรกับฌอนเพราะนามสกุลเหมือนกัน)
น้ำตาของผู้เป็นพ่อที่ต้องแบกโลงศพลูกตัวเอง
แม่ของฟิลที่ใจแตกสลาย
ส่วนนี้คือไมเคิล คาร์ก กัปตันคริกเก็ตทีมชาติออสเตรเลียที่เป็นเหมือนพี่ชายและเพื่อนสนิทของเขา
เมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อน เขายังมีอาการที่เศร้ามากๆในตอนแถลงข่าวการเสียชีวิตของฟิลที่โรงพยาบาล
บรรยากาศในพิธีที่โรงเรียน ซึ่งมีทั้งคนสำคัญระดับประเทศ ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมวงการกีฬาคริกเก็ต แม้กระทั้งฌอน
คาร์กร่ำลาน้องรักเป็นครั้งสุดท้าย
ส่วนบรรยากาศทั้งประเทศ หลายคนติดตามการถ่ายทอดสดงานศพของเขาทั้งที่บ้านหรือข้างนอก เพราะเขาเป็นนักกีฬาที่ดังมากในที่นั่น
บรรยากาศที่สนามในซิดนี่ย์ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุมีการถ่ายทอดสดเช่นกัน ซึ่งมีแฟนๆเข้าไปร่วมงานจำนวนหนึ่ง
ซึ่งแฟนคริกเก็ตที่ส่วนเสื้อสีขาวพร้อมเขียนหมายเลข 63 ซึ่งเป็นหมายเลขหมวกแก๊ปประจำตัวของฌอน เพื่อให้กำลังใจให้เขาอย่าท้อถอย
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนราคาแพงอย่างมากสำหรับวงการคริกเก็ตออสเตรเลีย ซึ่งรวมถึงฌอนด้วย ถึงแม้ว่าเป็นแค่อุบัติเหตุในการแข่งขันโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เขากลายเป็นจำเลยของสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งมีทั้งกระแสให้กำลังใจเขาและด่าทอเขาในเนต ที่ไม่น่าเชื่อคือ ตอนพิธีงานศพฟิล เขาได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพ่อแม่ของฟิล และคนอื่นๆในงาน เพราะเขารู้ว่ามันเป็นแค่อุบัติเหตุเท่านั้น แต่อนาคตของฌอนในวงการคริกเก็ตเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับเขา เพราะสภาพจิตใจของเขาดูย่ำแย่มากๆ แม้ว่าเขาลงฝึกซ้อมตามปกติแล้วก็ตาม ถ้าเขาประกาศอำลาเลิกเล่นเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ก็จะเสียมือขว้างดาวรุ่งไปอย่างน่าเสียดาย เพราะเขาอายุเพียง 22 ปีเท่านั้น และเพิ่งติดทีมชาติเมื่อสองเดือนที่แล้ว
ภาพนี้เป็นการเล่นทีมชาติครั้งแรกของฌอน เมื่อ 2 เดือนก่อน โดยฌอนอยู่คนขวาสุดของรูป ส่วนฟิลผู้วายชนม์อยู่คนซ้ายสุดในแถวล่าง
ถ้าฌอนประกาศเลิกเล่น นี่อาจจะเป็นการติดทีมชาติครั้งเดียวของเขา
มีการวิเคราะห์มาว่า สิ่งที่ทำได้คือ ต้องให้โอกาสเขา และต้องยื่นมือช่วยเหลือเขาทั้งจากทางสมาคม ทีม เพื่อนร่วมทีม และแฟนๆ เพื่อที่เขาจะได้ไม่รู้สึกผิดไปตลอดชีวิต และอาจจะต้องใช้เวลาไปซักพักกว่าที่เขาจะลืมฝันร้ายนั้นไป แต่ต้องขึ้นอยู่กับฌอนว่าจะสู้ต่อไหม ถ้าเขาสู้ต่อและเอาชนะใจคนในประเทศได้ เส้นทางของเขาก็อาจไปได้สวยและไปไกลได้อีก ในขณะที่คาร์กที่ยังทำใจไม่ได้ซึ่งเป็นกัปตันทีมชาติด้วยนั้นจะให้โอกาสฌอนหรือไม่ นั่นเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ต้องให้เวลาและพลังใจเป็นเครื่องพิสูจน์...
ผ่านมาแล้ว 4 วันที่ฟิลมีอายุครบ 26 ปี แต่ไม่มีโอกาสได้ฉลองวันเกิดตัวเองซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมือตีฝีมือดีของออสซี่ไป
เราทำได้แค่เพียงขอให้เขาหลับสบายและภาวนาให้เขาได้สู่สุขคติ
ส่วนฌอน เราทำได้เพียงให้กำลังใจเขาเพื่อที่เอาชนะฝันร้ายนั้นให้ได้
ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้อง นี่เป็นการบ้านโจทย์หินสำหรับในการหาทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำรอยขึ้นอีก...
แฟนๆคริกเก็ตทั่วโลกเสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้
แม้จขกท. ไม่ใช่แฟนคริกเก็ต ก็ขอไว้อาลัย ณ ที่นี่ด้วยค่ะ
Rest In Peace
ฟิลลิป โจเอล ฮิวส์
ชาตะ: 30 พฤศจิกายน 1988
มรณะ: 27 พฤศจิกายน 2014
ขอบคุณข้อมูลจาก BBC
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.bbc.com/sport/0/boxing/30297087
The Telegraph
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.telegraph.co.uk/sport/cricket/international/australia/11270280/Sean-Abbott-consoled-by-Phillip-Hughes-relatives-at-batsmans-funeral.html
Daily Mail
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.dailymail.co.uk/sport/cricket/article-2857302/Sean-Abbott-returns-training-week-tragic-accident-killed-Phillip-Hughes.html
Mirror
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.mirror.co.uk/news/world-news/phillip-hughes-funeral-brave-sean-4737121
อนาคตของฌอน แอบบอตต์ และภาพบรรยากาศพิธีงานศพฟิลลิป ฮิจส์ นักคริกเก็ตผู้ล่วงลับ
วันนี้ครบรอบ 1 อาทิตย์การเสียชีวิตของฟิลลิป ฮิวจ์ นักคริกเก็ตชาวออสเตรเลียจากอุบัติเหตุระหว่างการแข่งขันเมื่อ 2 วันก่อนหน้านั้น
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดูกระทู้ที่ดิฉันตั้งไว้เมื่อวันศุกร์ที่แล้วผ่านทาง http://ppantip.com/topic/32915584 ค่ะ
เมื่อวานที่ผ่านมามีการจัดพิธีศพของเขาที่เมืองแมคส์เวลล์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ บ้านเกิดของเขา ในขณะเดียวกัน ฌอน แอบบอตต์ นักคริกเก็ตรุ่นน้องที่ขว้างลูกมรณะนั้นยังมีอาการเศร้าสลดกับอนาคตที่เขาต้องเลือกระหว่างจะยังเล่นต่อหรือจะวางมือ กระทู้นี้จะมาพูดถึงสองเรื่องนี้ค่ะ
เมื่อ 1 อาทิตย์ที่แล้ว ฟิลได้จากไปเพราะเส้นเลือดบริเวณต้นคอที่ไปเลี้ยงสมองปริแตกจากการโดนลูกคริกเก็ตกระแทกบริเวณต้นคออย่างจังในระหว่างการแข่งขันเมื่อ 2 วันก่อน ฌอน ที่ได้รู้ข่าวถึงกับมีอาการเศร้าสลดถึงกับทำใจไม่ได้กับการตายของรุ่นพี่
วันอังคารที่ผ่านมา ครบรอบ 1 อาทิตย์วันเกิดเหตุ เขาได้กลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมตามปกติ แต่สีหน้าของเขายังมีความกังวลและดูแย่เอามากๆ
วันต่อมา เป็นวันพิธีศพของฟิล ฌอนในสภาพที่โกนหนวดเกลี้ยงเกลา แต่ยังมีอาการเศร้าสลดอยู่ได้เข้าร่วมงานด้วย โดยมีแว่นตาดำปิดบังแววตาที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็นไว้ เขาเลือกที่จะเข้าร่วมงานนี้แทนที่จะเก็บตัวอย่างหลบๆซ่อนๆ ซึ่งทางสื่อท้องถิ่นที่เลือกที่จะไม่แพร่ภาพฌอนในพิธีงานศพเพื่อเคารพความเป็นส่วนตัวของเขา แต่ก็ยังพอมีภาพเขาในงานนี้เป็นประปรายให้ชมค่ะ
เขากับแฟนสาว
เขาได้รับการต้อนรับจากดีน โจนส์ นักคริกเก็ตระดับตำนานของออสเตรเลีย
ซึ่งก็พอให้เขายังสู้ต่อไป
ภาพบรรยากาศเพื่อนๆในทีมเดินทางมายังแมคส์วิลล์โดยเครื่องบินเพื่อมางานนี้
ภาพบรรยากาศงานศพ จัดขึ้นที่สนามในโรงเรียนมัธยมในเมืองแมคส์วิลล์ โดยก่อนหน้านั้นมีการแห่โลงศพไปทั่วเมือง
บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้า และมีการถ่ายทอดสดทั้งประเทศ
นายกรัฐมนตรีโทนี่ แอบบอตต์ได้เข้าร่วมงานนี้ด้วย (ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรกับฌอนเพราะนามสกุลเหมือนกัน)
น้ำตาของผู้เป็นพ่อที่ต้องแบกโลงศพลูกตัวเอง
แม่ของฟิลที่ใจแตกสลาย
ส่วนนี้คือไมเคิล คาร์ก กัปตันคริกเก็ตทีมชาติออสเตรเลียที่เป็นเหมือนพี่ชายและเพื่อนสนิทของเขา
เมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อน เขายังมีอาการที่เศร้ามากๆในตอนแถลงข่าวการเสียชีวิตของฟิลที่โรงพยาบาล
บรรยากาศในพิธีที่โรงเรียน ซึ่งมีทั้งคนสำคัญระดับประเทศ ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมวงการกีฬาคริกเก็ต แม้กระทั้งฌอน
คาร์กร่ำลาน้องรักเป็นครั้งสุดท้าย
ส่วนบรรยากาศทั้งประเทศ หลายคนติดตามการถ่ายทอดสดงานศพของเขาทั้งที่บ้านหรือข้างนอก เพราะเขาเป็นนักกีฬาที่ดังมากในที่นั่น
บรรยากาศที่สนามในซิดนี่ย์ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุมีการถ่ายทอดสดเช่นกัน ซึ่งมีแฟนๆเข้าไปร่วมงานจำนวนหนึ่ง
ซึ่งแฟนคริกเก็ตที่ส่วนเสื้อสีขาวพร้อมเขียนหมายเลข 63 ซึ่งเป็นหมายเลขหมวกแก๊ปประจำตัวของฌอน เพื่อให้กำลังใจให้เขาอย่าท้อถอย
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนราคาแพงอย่างมากสำหรับวงการคริกเก็ตออสเตรเลีย ซึ่งรวมถึงฌอนด้วย ถึงแม้ว่าเป็นแค่อุบัติเหตุในการแข่งขันโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เขากลายเป็นจำเลยของสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งมีทั้งกระแสให้กำลังใจเขาและด่าทอเขาในเนต ที่ไม่น่าเชื่อคือ ตอนพิธีงานศพฟิล เขาได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพ่อแม่ของฟิล และคนอื่นๆในงาน เพราะเขารู้ว่ามันเป็นแค่อุบัติเหตุเท่านั้น แต่อนาคตของฌอนในวงการคริกเก็ตเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับเขา เพราะสภาพจิตใจของเขาดูย่ำแย่มากๆ แม้ว่าเขาลงฝึกซ้อมตามปกติแล้วก็ตาม ถ้าเขาประกาศอำลาเลิกเล่นเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ก็จะเสียมือขว้างดาวรุ่งไปอย่างน่าเสียดาย เพราะเขาอายุเพียง 22 ปีเท่านั้น และเพิ่งติดทีมชาติเมื่อสองเดือนที่แล้ว
ภาพนี้เป็นการเล่นทีมชาติครั้งแรกของฌอน เมื่อ 2 เดือนก่อน โดยฌอนอยู่คนขวาสุดของรูป ส่วนฟิลผู้วายชนม์อยู่คนซ้ายสุดในแถวล่าง
ถ้าฌอนประกาศเลิกเล่น นี่อาจจะเป็นการติดทีมชาติครั้งเดียวของเขา
มีการวิเคราะห์มาว่า สิ่งที่ทำได้คือ ต้องให้โอกาสเขา และต้องยื่นมือช่วยเหลือเขาทั้งจากทางสมาคม ทีม เพื่อนร่วมทีม และแฟนๆ เพื่อที่เขาจะได้ไม่รู้สึกผิดไปตลอดชีวิต และอาจจะต้องใช้เวลาไปซักพักกว่าที่เขาจะลืมฝันร้ายนั้นไป แต่ต้องขึ้นอยู่กับฌอนว่าจะสู้ต่อไหม ถ้าเขาสู้ต่อและเอาชนะใจคนในประเทศได้ เส้นทางของเขาก็อาจไปได้สวยและไปไกลได้อีก ในขณะที่คาร์กที่ยังทำใจไม่ได้ซึ่งเป็นกัปตันทีมชาติด้วยนั้นจะให้โอกาสฌอนหรือไม่ นั่นเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ต้องให้เวลาและพลังใจเป็นเครื่องพิสูจน์...
ผ่านมาแล้ว 4 วันที่ฟิลมีอายุครบ 26 ปี แต่ไม่มีโอกาสได้ฉลองวันเกิดตัวเองซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมือตีฝีมือดีของออสซี่ไป
เราทำได้แค่เพียงขอให้เขาหลับสบายและภาวนาให้เขาได้สู่สุขคติ
ส่วนฌอน เราทำได้เพียงให้กำลังใจเขาเพื่อที่เอาชนะฝันร้ายนั้นให้ได้
ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้อง นี่เป็นการบ้านโจทย์หินสำหรับในการหาทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำรอยขึ้นอีก...
แฟนๆคริกเก็ตทั่วโลกเสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้
แม้จขกท. ไม่ใช่แฟนคริกเก็ต ก็ขอไว้อาลัย ณ ที่นี่ด้วยค่ะ
Rest In Peace
ชาตะ: 30 พฤศจิกายน 1988
มรณะ: 27 พฤศจิกายน 2014
ขอบคุณข้อมูลจาก BBC [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
The Telegraph [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Daily Mail [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Mirror [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้