เกริ่น..........ผมเป็นภูมิแพ้ เจอฝุ่นอากาศสกปรก กลิ่นก็จะจาม น้ำมูกไหล หายใจไม่ออก
มันเป็นอะไรที่ไวมาก เรื่องกลิ่นก็สาเหตุหนึ่งรวมถึงฝนฟ้าอากาศ ไม่รู้ว่าโชคดีบนความโชคร้ายกันแน่
ที่จะสามารถรับรู้ก่อนคนอื่น ฝนจะตกเริ่มคัดจมูกละ กลิ่นแปลกๆเริ่มฟุตฟิตละ สารพัดอาการ
ห้องนอนก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเรานอนอยู่ตั้ง 8-10 ชั่วโมง จึงต้องสะอาดปราศจากฝุ่น
แต่ไปนอนนอกบ้านนี่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นครั้งนี้ที่ผ่านมา ณ บ้านคุณป้า

เข้าไปตอนยังไม่เปิดแอร์ก็ไม่เท่าไหร่ สักพัก เริ่มจาม น้ำมูกใสๆไหล เริ่มอาการไม่ดี เปิดดูฟิลเตอร์ก็สะอาด
เพราะป้าบอกล้างบ่อยอยู่ ในความบ่อยของแกคือสามเดือนครั้งเหมือนแปรงสีฟัน เพราะห้องนี้ใช้บ้างไม่ใช้บ้าง
ถ้าผมไปก็จะนอนห้องนี้ประจำ เริ่มเช็คทั่วห้องถึงอาการแพ้เพราะต้องนอนที่นี่อีก 2 วัน กินยาก็ไม่หาย
เริ่มจากปิดไฟเอาหมอนฟาดที่เตียงส่องด้วยไฟฉายจากมือถือดูละอองฝุ่นกันทีเดียว
เยอะใช่ปะแต่ผมทำเพราะถ้ามีฝุ่นผมจะนอนไม่ได้ทั้งคืนเพราะเคืองจมูกไม่พอ แถมหายใจไม่ออกอาการก็หนัก


พอที่นอนไม่มีฝุ่นผ้าปูใหม่ ป้าก็บอกเพิ่งดูดฝุ่นไป ก็ไปเล็งที่แอร์ เพราะก่อนเปิดแอร์นอน เปิดหน้าต่าง ยังไม่มีอาการใดๆ
และจัดของ ชาร์จโทรศัพอยู่ในห้องนี้ก่อนหน้าเกือบ 2 ชั่วโมงน้ำมูกยังไม่ย้อย สาเหตุเดียวคือ แอร์แน่ๆ
ปิดแล้วลองเอาไฟฉายจากมือถือส่องโอ้โฮ ฝุ่นเต็มใบพัดเลย
สูดเข้าไปตรงๆ นี่เต็มอนูปอดเลยนะ เลยตัดสินใจปิดแอร์เปิดพัดลมเบาๆ บอกกับตัวเองพรุ่งนี้จัดการแน่.......

ก็เหมือนว่าโชคไม่เข้าข้างเลย โทรไปที่ร้านประจำที่ป้าใช้บริการ คิวไม่ว่างเราเพราะนัดไว้สามเจ้ากว่าจะเสร็จก็เย็นช่างบอกไม่ทัน
เลยตัดสินใจ ว่าทำเองก็ได้ เพราะแอร์คงหมดประกันแล้ว เลยบอกป้าไปว่าเดี๋ยวล้างแอร์เอง ป้าถามทำเป็นเหรอ
บอกเป็นสบายง่ายๆทำบ่อย เหอะๆ ***ก่อนถอดน๊อตตัวไหน เอาปากกาหลากสีแต้มไว้ก่อนเดี๋ยวลืม เหอะๆๆ

ที่ฉีดน้ำแรงดันในโกดังของเฮียที่เอาไว้ล้างรถยังใช้ได้ แต่ก้านยาว ทำงานไม่ถนัดเลย แต่ก็ดีกว่าไม่มี ย่องไปแอบเอามาใช้ก่อน
ไม่ใช่ช่างแอร์ แต่จะล้างแอร์เอาสิ เสียก็ติดให้ป้าใหม่ ต้องทำเป็นว่าทำเป็น (ถ้าป้าเจอกระทู้นี้จงรู้ไว้ว่าที่ผ่านมานะป๋มล้างมั่วนะครัชชชช)

สิ่งที่ต้องเตรียม
1.ปั๊มน้ำแรงดัน
2.ผ้ายาง (ของผมใช้ผ้ายางคลุมเครื่องซักผ้าเพราะไม่ออกไปซื้อ) DIY เอามาตัดเป็นแผ่นได้ยาวเลย
3.ถังน้ำ สำหรับรองน้ำที่ล้างแอร์
4.พลาสติกรองจานกินข้าว (เอามาสอดเพื่อกันน้ำกระจายไปด้านหลัง)มีภาพประกอบ
5.ไม้หนีบผ้า
6.เก้าอี้ โต๊ะ หรือบันได
7.ไขควงแฉก และแบน
8.นอกนั้นคือความมั่วละ

มาดูสภาพแอร์ที่ว่ากัน มันฉก-กา-ปก แค่ไหน *** ภาพปลากรอบ ด้านล่าง







ก่อนอื่นจะแกะ จะแงะไม่รู้ว่าในเครื่องเขาฝังสายไฟไว้ตรงไหน ไม่ประมาทคือ
เอาเบรกเกอร์แอร์ลงมาที่ OFF พร้อมถอดสายไฟออกก่อนดีที่สุดกัวไฟดูดตาย



มาเริ่มจากการจะแกะหน้ากากครอบแอร์ ถอดบานสวิง  ส่องโดยรอบมันต้องมีสักจุด ที่มีน๊อตอยู่ก็เจอจนได้







ตอนนี้ก็เจอน๊อตแล้วอยู่ตรงนี้เอง



โดยงัดที่ฝาปิดเล็กๆนี้ เป็นพลาสติกแบบนิ่มๆคล้ายๆ ยางรองเท้า



เปิดมาจะเห็นน๊อตเลย



ถอดออกมาแล้ว หาที่วางนะครับ
การถอดคือเมื่อขันน๊อต 2 ตัวออกเสร็จ ก็ใช้มือจับด้านล่างทั้งสองข้างตามภาพ ค่อยๆดึงย้อนขึ้นไป เขย่าหน่อยๆ ให้หลุด
อย่าตกใจเพราะหลุดอกมาทั้งหน้ากากเลย บ้าพลังฝาครอบหลุดตัวเองก็แทบหงายหลัง เพราะยืนบนเก้าอี้



ถอดเปลือกหุ้มออกก็เจอด้านในเครื่องสภาพนี้ เปลือยๆ วิ้วววว



เริ่มถอดพวกสายไฟก่อน ตอนนี้ไม่ได้ต่อไฟไว้แต่ก็เอามันออกไปก่อนดีกว่า เพื่อความปลอดภัย ชอบระแวงกลัวไฟดูด









ถอดสายไฟมอเตอร์บานสวิง จากนั้นก็แกะรางระบายน้ำ ขันน๊อต ออก อยู่ทางขวามือ แอบอยู่ในซอกหลังมอเตอร์บานสวิง
ข้างกล่องแผงวงจรที่เราดึงออกมะกี้ละ





แกะเสร็จแล้วก็เอาผ้ายางมาหุ้มได้แล้ววว เพื่อเตรียมฉีดน้ำล้าง



ทำไมต้องรองพลาสติกแข็งก็เพื่อที่ว่าหากแรงดันน้ำแรงไป เกินส่วนที่ผ้ายางเราสอดไปถึงน้ำก็ออกนอกผ้ายางก็เลอะเต็มพื้นสิ
ดังนั้นรองพลาสติกช่วยได้คือ น้ำก็ไปเจอพลาสติกกันก็ไหลมาที่หน้าผ้ายางพื้นก็ไม่เลอะไง

*** การฉีดน้ำก็ฉีดตรงๆ ไม่ต้องเอียงซ้าย หรือขวา เพราะแรงดันน้ำ จะไปทำให้ครีบกระจายความเย็นที่เป็นอลูมิเนียวแผ่นเล็กๆ ลู่อาจมีผลต่อเครื่องปรับอากาศเราได้ ปล. ที่ลู่ๆยับเยินอันนี้น่าจะเป็นช่างแอร์คนก่อนนะ ผมไม่ได้ทำ



อุปกรณ์ชิ้นนี้ละปืนฉีดน้ำที่ต่อมาจากเครื่องฉีดน้ำแรงดัน (ขอไม่ระบุยี่ห้อเพราะไม่ได้ค่าโฆษณา)
จับให้แน่น ยืนให้มั่นคง ฉีดเข้าไปตรงๆ เว้นระยะจากสิ้นสุดที่พลาสติกปลายปื่น ที่น้ำพุ่งออก
ห่างจากคอยล์เย็น 1 เซนติเมตร  ฉีดเข้าไปตรงๆเลย เอาให้สะอาดเท่าที่เราทำได้เลย
ปล.ทรงตัวให้ดี แรงดันจากปีนฉีนแรงพอสมควรหากไม่ระวังหรือทรงตัวไม่ดีอาจหงายเงิบได้



น้ำที่ได้จากการฉีด ดำปี๋เลย (เปลี่ยนเป็นถังใบใหญ่ ใบที่ประกอบการแสดงเล็กไป น้ำล้น)
ส่วนพัดลมก็เอามือจับฝั่งซ้ายเพื่อไม่ให้พัดลมหมุนตามแรงดันน้ำที่ฉีด แล้วฉีดน้ำทำความสะอาดฝั่งขว่า
ทำทีละฝั่ง ฉีดฝั่งซ้ายก็ไปจับฝั่งขวา ก็สะอาดแล้ว



หลังจากฉีดน้ำล้างคอยล์เย็น พัดลม สะอาดแล้ว ล้างถามรองน้ำทิ้งแล้ว มาดูความสะอาดกัน







ล้างเสร็จก็พร้อมประกอบกลับให้คืนสู่สภาพเดิม



เปิดติด เย็นดี กลิ่นสดชื่น ไม่มีฝุ่นลอง นี่คือรีวิวมั่วๆในการล้างแอร์ของผม
ปกติรีวิวแต่อาหาร ส่วนมากจะสิงอยู่ที่ห้องก้นครัว
วันนี้ออกมาจากครัวมาเป็นช่างแอร์ในตำนานอีกคน
จากการล้างเองให้บ้านป้าครั้งนี้ ประหยัดเงินไปหลายร้อย

*** ส่วนคอยล์ร้อนด้านนอกก็ไม่ต้องถอดอะไร ก็ฉีดน้ำที่แผงครีบระบายความร้อนได้เลย ฉีดเข้าไปตรงๆ ให้ครีบสะอาดเป็นใช้ได้