ผมติดตามห้องนี้มานาน เพราะสนใจอยากมีตึกแถวซักห้องเอาไว้ค้าขายตอนแก่
ผมเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่ต้นปี56 โดยการมองหาทำเลและราคาที่พอจะผ่อนไหว
บางที่คิดว่าถูกใจแล้ว พอโทรไปก็บอกว่าเต็มหรือขายหมดแล้ว บางที่ก็แพงเกินไป
จนมาเจอป้ายข้อความเปิดจองอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง(มารู้ตอนหลังว่าเพิ่งขึ้นป้ายได้สองวัน)
ผมก็โทรสอบถามราคาที่ตั้งไว้คือ4.5ล้าน ตอนนี้ผมมีเงินสดประมาณ7แสน มีหนี้บ้าน1หลัง 4แสนบาท
หลังจากคำนวนคร่าวๆว่าน่าจะผ่อนไหว ผมก็ตกลงจองเลย และทำสัญญาในวันรุ่งขึ้น จ่ายค่าจองไป 5หมื่นบาท
จนเมื่อต้นปี57 โครงการได้เริ่มก่อสร้าง ผมก็เริ่มจ่ายเงินดาวน์เดือนละ 5หมื่นบาท ตามสัญญาคือผ่อนดาวน์ 1ปี
หลังจากนั้นผมก็วางแผนโครงการยื่นกู้ โดยการเดินบัญชีเกือบทุกวัน
จากที่เคยจ่ายค่าสินค้าเป็นเงินสด ก็เปลื่ยนมาเป็นการโอนผ่านบัญชี และเก็บใบเสร็จค่าสินค้าต่างๆไว้หมด
ใช้โปรแกรมขายสินค้าแบบบาร์โค๊ต เพื่อเก็บรายละเอียดยอดขายแต่ละวัน เอาไว้โชว์แบงค์
เร่งปิดหนี้บ้านผ่อนแบบสวยๆโปะทุกเดือนเท่าๆกัน เดือนละ 3หมื่นบาท โดยปิดยอดสุดท้ายก่อนยื่นกู้ไปแสนกว่าบาท
เตรียมเอกสาร
ทะเบียนการค้า สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส สำเนาบุ๊คแบงค์มีกี่เล่มกี่สาขา ผมถ่ายไปหมด
สัญญาจะซื้อจะขาย รูปถ่ายอาคารที่จะซื้อ รูปถ่ายกิจการ สำเนาใบเสร็จต่างๆ สำเนาใบเสร็จการเสียภาษี
สำเนาโฉนด และมีเพิ่มเติมที่ทาง ธ.ออมสินขอมาคือสำเนาระวาง ราคาประเมินจากที่ดิน สำเนามิเตอร์น้ำ มิเตอร์ไฟ สำเนาทะเบียนบ้านหลังที่จะซื้อ
หลักฐานต่างๆของคนขายและคู่สมรส
แล้วก็เริ่มยื่นกู้ครับ ผมวางแผนว่าจะยื่นสามแห่งคือ ธอส ออมสิน กรุงไทย ตามลำดับ
ผมหวังกับ ธอส.มาก คิดว่าผ่านแน่ๆ เพราะเป็นลูกค้าเก่า ผ่อนบ้านมาสิบปี ไม่เคยค้างแม้แต่งวดเดียว
วันนั้นผมกำเงินไปปิดยอดสุดท้าย และเตรียมเอกสารไปสองแฟ้มใหญ่ เพื่อยื่นกู้วันนั้นเลย
แต่สุดท้ายหลังจากคุยกับฝ่ายสินเชื่อ ผมตัดสินใจไม่ยื่นกับ ธอส. เพราะต้องใช้เอกสารตัวจริง รวมทั้งสเตทเม้น
และต้องกั้นห้องนอนให้เรียบร้อย ซึ่งข้อหลังผมคงทำไม่ทันเพราะตามแบบอาคารที่จะซื้อไม่มีห้องนอน
ผมตั้งใจจะออกแบบและกั้นห้องทีหลัง
พอออกจาก ธอส.ผมเลยหอบเอกสารชุดเดิม ไปออมสินทันที คุยกับสินเชื่อเบื้องต้น พนักงานบอกว่าจากเอกสารที่ยื่นมา
ผ่านแน่นอน แต่ไม่รู้จะได้ยอดเท่าไหร่ ผมตั้งใจจะกู้3.5ล้าน แต่พนักงานให้กรอกเผื่อไปซัก4ล้าน
พร้อมเสนอดอกเบี้ยและแจ้งค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่บังคับทำประกัน พนักงานแจ้งระยะเวลาดำเนินการ45วันโดยประมาณ
ทางคนขายกลัวว่าจะรอนานเกินไป เลยแนะนำให้ยื่นกรุงไทยอีกที่ ผมหอบเอกสารอีกชุดไปยื่นที่กรุงไทย
และขอดูดอกเบี้ยแบบคร่าวๆ พนักงานเสนอมามีแต่พ่วงประกัน ซึ่มผมก็ได้ทักท้วงไปว่าแบบไม่เอาประกันก็มีไม่ใช่เหรอ
แต่พนักงานพยายามเสนอขายอย่างเดียว พร้อมบอกว่ากู้ได้สูงสุด4.2ล้าน แต่ผมยื่นไป3.5ล้าน และพยามยามต่อรองค่าประกัน
จนพนักงานสรุปว่ายอดกู้3.5ล้าน ทำประกันประมาณ1แสนบาท ผมเลยขี้เกียจต่อรองแล้ว เลยปล่อยตามเลย
ประมาณ 7วัน ออมสินขอเอกสารเพิ่ม กรุงไทยแจ้งว่าผ่านแล้ว 3.5ล้าน
จากนั้นออมสินเข้าดูกิจการ ตามด้วยนัดประเมิน จนอนุมัติที่ 4ล้านบาท รวมระยะเวลาประมาณ40วัน
แชร์ประสบการณ์ อาชีพอิสระยื่นกู้ซื้ออาคารพาณิชย์
ผมเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่ต้นปี56 โดยการมองหาทำเลและราคาที่พอจะผ่อนไหว
บางที่คิดว่าถูกใจแล้ว พอโทรไปก็บอกว่าเต็มหรือขายหมดแล้ว บางที่ก็แพงเกินไป
จนมาเจอป้ายข้อความเปิดจองอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง(มารู้ตอนหลังว่าเพิ่งขึ้นป้ายได้สองวัน)
ผมก็โทรสอบถามราคาที่ตั้งไว้คือ4.5ล้าน ตอนนี้ผมมีเงินสดประมาณ7แสน มีหนี้บ้าน1หลัง 4แสนบาท
หลังจากคำนวนคร่าวๆว่าน่าจะผ่อนไหว ผมก็ตกลงจองเลย และทำสัญญาในวันรุ่งขึ้น จ่ายค่าจองไป 5หมื่นบาท
จนเมื่อต้นปี57 โครงการได้เริ่มก่อสร้าง ผมก็เริ่มจ่ายเงินดาวน์เดือนละ 5หมื่นบาท ตามสัญญาคือผ่อนดาวน์ 1ปี
หลังจากนั้นผมก็วางแผนโครงการยื่นกู้ โดยการเดินบัญชีเกือบทุกวัน
จากที่เคยจ่ายค่าสินค้าเป็นเงินสด ก็เปลื่ยนมาเป็นการโอนผ่านบัญชี และเก็บใบเสร็จค่าสินค้าต่างๆไว้หมด
ใช้โปรแกรมขายสินค้าแบบบาร์โค๊ต เพื่อเก็บรายละเอียดยอดขายแต่ละวัน เอาไว้โชว์แบงค์
เร่งปิดหนี้บ้านผ่อนแบบสวยๆโปะทุกเดือนเท่าๆกัน เดือนละ 3หมื่นบาท โดยปิดยอดสุดท้ายก่อนยื่นกู้ไปแสนกว่าบาท
เตรียมเอกสาร
ทะเบียนการค้า สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส สำเนาบุ๊คแบงค์มีกี่เล่มกี่สาขา ผมถ่ายไปหมด
สัญญาจะซื้อจะขาย รูปถ่ายอาคารที่จะซื้อ รูปถ่ายกิจการ สำเนาใบเสร็จต่างๆ สำเนาใบเสร็จการเสียภาษี
สำเนาโฉนด และมีเพิ่มเติมที่ทาง ธ.ออมสินขอมาคือสำเนาระวาง ราคาประเมินจากที่ดิน สำเนามิเตอร์น้ำ มิเตอร์ไฟ สำเนาทะเบียนบ้านหลังที่จะซื้อ
หลักฐานต่างๆของคนขายและคู่สมรส
แล้วก็เริ่มยื่นกู้ครับ ผมวางแผนว่าจะยื่นสามแห่งคือ ธอส ออมสิน กรุงไทย ตามลำดับ
ผมหวังกับ ธอส.มาก คิดว่าผ่านแน่ๆ เพราะเป็นลูกค้าเก่า ผ่อนบ้านมาสิบปี ไม่เคยค้างแม้แต่งวดเดียว
วันนั้นผมกำเงินไปปิดยอดสุดท้าย และเตรียมเอกสารไปสองแฟ้มใหญ่ เพื่อยื่นกู้วันนั้นเลย
แต่สุดท้ายหลังจากคุยกับฝ่ายสินเชื่อ ผมตัดสินใจไม่ยื่นกับ ธอส. เพราะต้องใช้เอกสารตัวจริง รวมทั้งสเตทเม้น
และต้องกั้นห้องนอนให้เรียบร้อย ซึ่งข้อหลังผมคงทำไม่ทันเพราะตามแบบอาคารที่จะซื้อไม่มีห้องนอน
ผมตั้งใจจะออกแบบและกั้นห้องทีหลัง
พอออกจาก ธอส.ผมเลยหอบเอกสารชุดเดิม ไปออมสินทันที คุยกับสินเชื่อเบื้องต้น พนักงานบอกว่าจากเอกสารที่ยื่นมา
ผ่านแน่นอน แต่ไม่รู้จะได้ยอดเท่าไหร่ ผมตั้งใจจะกู้3.5ล้าน แต่พนักงานให้กรอกเผื่อไปซัก4ล้าน
พร้อมเสนอดอกเบี้ยและแจ้งค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่บังคับทำประกัน พนักงานแจ้งระยะเวลาดำเนินการ45วันโดยประมาณ
ทางคนขายกลัวว่าจะรอนานเกินไป เลยแนะนำให้ยื่นกรุงไทยอีกที่ ผมหอบเอกสารอีกชุดไปยื่นที่กรุงไทย
และขอดูดอกเบี้ยแบบคร่าวๆ พนักงานเสนอมามีแต่พ่วงประกัน ซึ่มผมก็ได้ทักท้วงไปว่าแบบไม่เอาประกันก็มีไม่ใช่เหรอ
แต่พนักงานพยายามเสนอขายอย่างเดียว พร้อมบอกว่ากู้ได้สูงสุด4.2ล้าน แต่ผมยื่นไป3.5ล้าน และพยามยามต่อรองค่าประกัน
จนพนักงานสรุปว่ายอดกู้3.5ล้าน ทำประกันประมาณ1แสนบาท ผมเลยขี้เกียจต่อรองแล้ว เลยปล่อยตามเลย
ประมาณ 7วัน ออมสินขอเอกสารเพิ่ม กรุงไทยแจ้งว่าผ่านแล้ว 3.5ล้าน
จากนั้นออมสินเข้าดูกิจการ ตามด้วยนัดประเมิน จนอนุมัติที่ 4ล้านบาท รวมระยะเวลาประมาณ40วัน