คุณแม่ของน้องขนมปังเล่ามาให้ฟังว่า
"เวลาจะดุ จะสั่งงาน หรือย้ำอะไรซักอย่าง เราจะให้ลูกมีสติในการรับฟัง
โดยให้เค้ามองตาเรา ทำแบบนี้ทุกครั้งตั้งแต่ที่เค้ารับรู้ จนตอนนี้ 5 ขวบ"
แล้ววันหนึ่งคุณแม่ก็ได้รู้ว่าที่สอนไปนั้นได้ผลจริง ๆ
...ได้ผลเกินคาดเลยค่ะ
วันนั้นคุณครูให้นักเรียนไปแปรงฟันตอนเที่ยง ใครแปรงเสร็จแล้วให้มาต่อแถวรอ
น้องขนมปังและทุกคนก็ต่อแถวกันตามลำดับ
น้ำหนึ่งเพื่อนสนิทสุดรักกึ่งคู่ปรับ แอบมาสะกิดถาม
น้ำหนึ่ง: ขนมปังๆ เราขออยู่หน้าได้มั้ย
ขนมปัง: ไม่ได้!!!
น้ำหนึ่งร้องไห้โฮ........... เอาล่ะสิ
.. น้องฟลุกวินเพื่อนร่วมห้องรีบเข้ามามีส่วนร่วม
ฟลุกวิน: เราจะไปฟ้องคุณครู!!
ว่าแล้วก็วิ่งไปหาคุณครูแล้วพูดว่า "คุณครูครับๆ ขนมปังแกล้งน้ำหนึ่ง!!!"
คุณครูเดินมาไม่พูดพร่ำทำเพลง ไม่ฟังเสียงใคร
ลงโทษน้ำหนึ่งและขนมปังไปคนละ 1 ที พร้อมกล่าวปิดประเด็นว่า
"เป็นเพื่อนกัน เล่นด้วยกัน อย่าแกล้งกัน!"
... ขนมปัง งง! น้ำหนึ่ง เงียบ! ฟลุกวิน จ๋อย!
ตัดฉากมา ณ ห้องเรียน ในเวลาต่อมา
ขนมปังคงอึดอัดใจพอดู จึงตัดสินใจรวบรวมความกล้า แล้วเดินไปหาคุณครู
"คุณครูคะ คุณครูฟังหนู แล้วมองตาหนูนะคะ
หนูไม่ได้แกล้งน้ำหนึ่ง
หนูแค่ไม่ให้น้ำหนึ่งแซงแถว เพราะหนูเสร็จก่อน
น้ำหนึ่งก็ร้องไห้ แล้วฟลุกวินก็วิ่งมาฟ้อง
คุณครูเข้าใจผิดค่ะ! หนูไม่ได้แกล้งน้ำหนึ่งนะคะ!"
.......
เรื่องนี้จบลงอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้งค่ะ
คุณครูขอโทษนักเรียนอย่างจริงใจ ที่เข้าใจผิดและทำโทษเด็กสองคน
คุณครูประทับใจจนนำมาเล่าให้คุณแม่ฟัง
แม่ก็ปลาบปลื้มไปตามระเบียบ ที่ขนมปังจำได้
"มองตาหนูนะคะ เหตุผลของหนูคือแบบนี้..."
.......
คุณแม่ของน้องขนมปังสอนลูกดีจริง ๆ และน้องก็เก็บมาใช้ได้ถูกที่ถูกทางด้วย
ส่วนคุณครูก็น่ารัก ยินดีขอโทษเด็กเมื่อทราบว่าตนเป็นฝ่ายผิด
ชอบเรื่องนี้มาก อ่านแล้วได้แรงบันดาลใจ ได้เก็บเคล็ดลับไปเลี้ยงลูกเลยค่ะ
ภาพและข้อมูลจากเพจ @เป็นเด็ก พูดอะไรก็ไม่ผิด
https://www.facebook.com/thatthingtheysay
เมื่อเด็ก 5 ขวบต้องบอกครูว่า "คุณครูคะ ครูฟังหนูก่อน แล้วมองตาหนูนะคะ"
"เวลาจะดุ จะสั่งงาน หรือย้ำอะไรซักอย่าง เราจะให้ลูกมีสติในการรับฟัง
โดยให้เค้ามองตาเรา ทำแบบนี้ทุกครั้งตั้งแต่ที่เค้ารับรู้ จนตอนนี้ 5 ขวบ"
แล้ววันหนึ่งคุณแม่ก็ได้รู้ว่าที่สอนไปนั้นได้ผลจริง ๆ
...ได้ผลเกินคาดเลยค่ะ
วันนั้นคุณครูให้นักเรียนไปแปรงฟันตอนเที่ยง ใครแปรงเสร็จแล้วให้มาต่อแถวรอ
น้องขนมปังและทุกคนก็ต่อแถวกันตามลำดับ
น้ำหนึ่งเพื่อนสนิทสุดรักกึ่งคู่ปรับ แอบมาสะกิดถาม
น้ำหนึ่ง: ขนมปังๆ เราขออยู่หน้าได้มั้ย
ขนมปัง: ไม่ได้!!!
น้ำหนึ่งร้องไห้โฮ........... เอาล่ะสิ
.. น้องฟลุกวินเพื่อนร่วมห้องรีบเข้ามามีส่วนร่วม
ฟลุกวิน: เราจะไปฟ้องคุณครู!!
ว่าแล้วก็วิ่งไปหาคุณครูแล้วพูดว่า "คุณครูครับๆ ขนมปังแกล้งน้ำหนึ่ง!!!"
คุณครูเดินมาไม่พูดพร่ำทำเพลง ไม่ฟังเสียงใคร
ลงโทษน้ำหนึ่งและขนมปังไปคนละ 1 ที พร้อมกล่าวปิดประเด็นว่า
"เป็นเพื่อนกัน เล่นด้วยกัน อย่าแกล้งกัน!"
... ขนมปัง งง! น้ำหนึ่ง เงียบ! ฟลุกวิน จ๋อย!
ตัดฉากมา ณ ห้องเรียน ในเวลาต่อมา
ขนมปังคงอึดอัดใจพอดู จึงตัดสินใจรวบรวมความกล้า แล้วเดินไปหาคุณครู
"คุณครูคะ คุณครูฟังหนู แล้วมองตาหนูนะคะ
หนูไม่ได้แกล้งน้ำหนึ่ง
หนูแค่ไม่ให้น้ำหนึ่งแซงแถว เพราะหนูเสร็จก่อน
น้ำหนึ่งก็ร้องไห้ แล้วฟลุกวินก็วิ่งมาฟ้อง
คุณครูเข้าใจผิดค่ะ! หนูไม่ได้แกล้งน้ำหนึ่งนะคะ!"
.......
เรื่องนี้จบลงอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้งค่ะ
คุณครูขอโทษนักเรียนอย่างจริงใจ ที่เข้าใจผิดและทำโทษเด็กสองคน
คุณครูประทับใจจนนำมาเล่าให้คุณแม่ฟัง
แม่ก็ปลาบปลื้มไปตามระเบียบ ที่ขนมปังจำได้
"มองตาหนูนะคะ เหตุผลของหนูคือแบบนี้..."
.......
คุณแม่ของน้องขนมปังสอนลูกดีจริง ๆ และน้องก็เก็บมาใช้ได้ถูกที่ถูกทางด้วย
ส่วนคุณครูก็น่ารัก ยินดีขอโทษเด็กเมื่อทราบว่าตนเป็นฝ่ายผิด
ชอบเรื่องนี้มาก อ่านแล้วได้แรงบันดาลใจ ได้เก็บเคล็ดลับไปเลี้ยงลูกเลยค่ะ
ภาพและข้อมูลจากเพจ @เป็นเด็ก พูดอะไรก็ไม่ผิด
https://www.facebook.com/thatthingtheysay