เจ้าของกระทู้เป็นมนุษย์วัยใกล้ป้าคนหนึ่งที่ปัจจุบันใช้มอร์เตอไซค์ในชีวิตประจำวันน้อยมากหรือแทบจะไม่ได้ใช้เลย
ปกติจะใช้รถยนต์และจักรยาน
เมื่อเร็วๆ นี้มีโอกาสได้ขี่มอไซ (ขอเรียกสั้นๆ) จ่ายกับข้าวไปลุยทางวิบาก
เลยอยากมาเล่าสู่กันฟัง
เจ้าของกระทู้มีงานจะต้องไปทำที่กัมพูชาประมาณสองเดือนครั้งเห็นจะได้ เนื่องจากมีสำนักงานสาขาที่นั่น
แต่ละครั้งจะเดินทางไปต่างจังหวัดไกลๆ แถวชายแดนเวียดนาม
ขับรถเองบ้าง มีลูกน้องขับให้บ้างแล้วแต่โอกาส
คราวนี้ไปพื้นที่ที่ทำงานประจำ คือจังหวัดมณฑลคีรี ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับชายแดนเวียดนาม
จังหวัดนี้ปกคลุมไปด้วยพื้นที่ป่าเป็นส่วนใหญ่ ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง มีเนินเขาสลับภูเขา
ประชากรประมาณร้อยละ ๘๐ เป็นชนเผ่าพนอง
ถนนหนทาง ถ้าในตัวจังหวัดก็พอเห็นลาดยางหรือคอนกรีตบ้าง
แต่ออกจากตัวจังหวัดแล้วก็ลูกรังหรือทางดิน
ขอเอารูปจากการเดินทางครั้งก่อนๆ มาให้ดูพอให้เห็นภาพ
นี่คือสภาพถนนในหน้าฝน ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๕ กิโล เพิ่งมีไฟฟ้าใช้เมื่อประมาณ ๒-๓ ปีมานี้
และอีเขียวที่เห็นในรูป คือรถที่เราใช้เวลาไปที่นั่น
ดินที่นี่เป็นดินเหนียวสีแดง ลื่นปรื๊ด หน้าแล้งจะเป็นฝุ่นละเอียด
ปีนี้ที่ทำงานเราขยายโครงการไปที่หมู่บ้านที่ห่างไกลออกไปอีก ซึ่งห่างไปจากตัวจังหวัดประมาณ ๒๒ กิโลเมตร
หมู่บ้านอยู่ในป่าเลยล่ะ
นี่คือสภาพถนนไปหมู่บ้านในหน้าแล้ง ถนนเข้าหมู่บ้านนี้เป็นถนนดิน
รูปนี้ถ่ายเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
จะไปถึงหมู่บ้านนี้ได้ต้องข้ามลำห้วยที่ตลิ่งชันมากๆ หนึ่งแห่ง
และเนื่องจากอีเขียวของเรามันแก่มากแล้ว จึงตัดสินใจว่าจะจอดมันไว้ที่ริมห้วย และเดินต่อ
ในภาพน้องที่ทำงานลงไปเช็คเส้นทาง
ข้ามห้วยมาได้ก็เดินต่ออีก ๒ กิโลเมตรก็เริ่มเข้าเขตหมู่บ้าน
แดดเดือนมีนาร้อนได้ใจมาก ต้นไม้ในป่าเต็งรังก็ทิ้งใบ หาเขียวๆ ให้ชื่นใจก็ยาก
ทำธุระปะปังเสร็จก็เดินทางกลับ ดูเหมือนจะราบรื่นไม่มีอะไร
แต่อย่างที่บอก อีเขียวมันแก่มากแล้ว
เมื่อขึ้นเนินชันที่ลื่น หินโผล่ ทางเป็นร่อง คนขับคว้าพวงมาลัยไม่ทัน ล้อหน้าพลิกตกร่องน้ำ คานหน้าค้างอยู่บนก้อนหิน
ติดอยู่กลางป่าตั้งแต่บ่ายสามจนหกโมงเย็น กว่าจะงัดออกมาจากร่องน้ำได้
ผู้ร่วมทางมีสองหนุ่ม หนึ่งสาวและหนึ่งป้า หมดพลังไปตามๆ กัน
แล้วมอไซอยู่ไหน?
****มอร์เตอไซค์แม่บ้าน มนุษย์วัยใกล้ป้า และทางวิบาก****
ปกติจะใช้รถยนต์และจักรยาน
เมื่อเร็วๆ นี้มีโอกาสได้ขี่มอไซ (ขอเรียกสั้นๆ) จ่ายกับข้าวไปลุยทางวิบาก
เลยอยากมาเล่าสู่กันฟัง
เจ้าของกระทู้มีงานจะต้องไปทำที่กัมพูชาประมาณสองเดือนครั้งเห็นจะได้ เนื่องจากมีสำนักงานสาขาที่นั่น
แต่ละครั้งจะเดินทางไปต่างจังหวัดไกลๆ แถวชายแดนเวียดนาม
ขับรถเองบ้าง มีลูกน้องขับให้บ้างแล้วแต่โอกาส
คราวนี้ไปพื้นที่ที่ทำงานประจำ คือจังหวัดมณฑลคีรี ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับชายแดนเวียดนาม
จังหวัดนี้ปกคลุมไปด้วยพื้นที่ป่าเป็นส่วนใหญ่ ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง มีเนินเขาสลับภูเขา
ประชากรประมาณร้อยละ ๘๐ เป็นชนเผ่าพนอง
ถนนหนทาง ถ้าในตัวจังหวัดก็พอเห็นลาดยางหรือคอนกรีตบ้าง
แต่ออกจากตัวจังหวัดแล้วก็ลูกรังหรือทางดิน
ขอเอารูปจากการเดินทางครั้งก่อนๆ มาให้ดูพอให้เห็นภาพ
นี่คือสภาพถนนในหน้าฝน ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๕ กิโล เพิ่งมีไฟฟ้าใช้เมื่อประมาณ ๒-๓ ปีมานี้
และอีเขียวที่เห็นในรูป คือรถที่เราใช้เวลาไปที่นั่น
ดินที่นี่เป็นดินเหนียวสีแดง ลื่นปรื๊ด หน้าแล้งจะเป็นฝุ่นละเอียด
ปีนี้ที่ทำงานเราขยายโครงการไปที่หมู่บ้านที่ห่างไกลออกไปอีก ซึ่งห่างไปจากตัวจังหวัดประมาณ ๒๒ กิโลเมตร
หมู่บ้านอยู่ในป่าเลยล่ะ
นี่คือสภาพถนนไปหมู่บ้านในหน้าแล้ง ถนนเข้าหมู่บ้านนี้เป็นถนนดิน
รูปนี้ถ่ายเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
จะไปถึงหมู่บ้านนี้ได้ต้องข้ามลำห้วยที่ตลิ่งชันมากๆ หนึ่งแห่ง
และเนื่องจากอีเขียวของเรามันแก่มากแล้ว จึงตัดสินใจว่าจะจอดมันไว้ที่ริมห้วย และเดินต่อ
ในภาพน้องที่ทำงานลงไปเช็คเส้นทาง
ข้ามห้วยมาได้ก็เดินต่ออีก ๒ กิโลเมตรก็เริ่มเข้าเขตหมู่บ้าน
แดดเดือนมีนาร้อนได้ใจมาก ต้นไม้ในป่าเต็งรังก็ทิ้งใบ หาเขียวๆ ให้ชื่นใจก็ยาก
ทำธุระปะปังเสร็จก็เดินทางกลับ ดูเหมือนจะราบรื่นไม่มีอะไร
แต่อย่างที่บอก อีเขียวมันแก่มากแล้ว
เมื่อขึ้นเนินชันที่ลื่น หินโผล่ ทางเป็นร่อง คนขับคว้าพวงมาลัยไม่ทัน ล้อหน้าพลิกตกร่องน้ำ คานหน้าค้างอยู่บนก้อนหิน
ติดอยู่กลางป่าตั้งแต่บ่ายสามจนหกโมงเย็น กว่าจะงัดออกมาจากร่องน้ำได้
ผู้ร่วมทางมีสองหนุ่ม หนึ่งสาวและหนึ่งป้า หมดพลังไปตามๆ กัน
แล้วมอไซอยู่ไหน?