ขอเริ่มเกริ่นเรื่องเลยนะครับ
ผมเนี่ยเป็นคนเรียนค่อนข้างเก่งครับ เอาเป็นว่าเป็นเด็กหัวดีเลยกว่าได้ เรียนอะไรก็ได้ทุน ตลอด ถึงแม้ที่บ้านจะมีฐานะปานกลาง (บางคนอาจมองว่าฐานะดีเลย) มีชีวติที่มีความสุขมาตลอด เป็นที่รักของเพื่อนๆทุกคน วันมีอยู่มาวันหนึ่ง มีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามาในช่วงมอปลาย แค่เห็นเขาครั้งแรกเนี่ย ก็พบว่า รู้สึกชอบเขาทันทีทันใดเลย สมมุติว่าเขาชื่อว่าหนึ่ง แล้วกัน เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ แต่ก็ไม่สนิทกันเท่าที่ควร เขาไม่ใช่คนที่หล่ออะไรมาก แต่เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วหัวใจเต้นรัว ตัวสั่น ระริกระริก ทีนี้ เขาเนี่ยก็เป็นคนรวยมาก เขาเลยมีผู้หญิงเข้ามาติดพัน เรื่อยๆ ทำให้ผมไม่มีโอกาศเข้าใกล้เขาได้เลย
จนอยู่มาวันหนึ่ง หนึ่ง เขาก็รับรู้ความจริง ว่าผมเนี่ยแอบชอบเขาอยู่ หนึ่งก็เลยไม่มาพูดคุยกับ ผมอีกเลย แล้ว หนึ่งก็ควงผู้หญิงมา เยอะเย้ย บ่อยๆ ทำให้ผมเสียใจอยู่บ่อยครั้ง จนมาวันหนึ่ง เราทั้งคู่สอบเข้ามหาลัยชื่อดังได้ทั้งคู่ แต่ก็อยู่คนละที่นะครับ ความจริงเราสอบติดที่เดียวกัน แต่หนึ่งบอกว่าไม่เจออยู่ที่เดียวกับผม เขาเลยไปสอบเข้าอีกที่ ส่วนชีวิตในมหาวิทยาลัยนั้นใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยไปเรื่อยๆ แต่ก็เรียนหนักมากเลย ในช่วงมหาลัย ทั้งทำปฎิการวิทยาศาตร์ต่างๆ ทั้ง ยังรับจ้างสอนพิเศษเด็กเพื่อหารายได้เสริม ทำให้ลืมๆ เรื่องของหนึ่งไปได้เยอะเลย แต่ก็คิดๆ ถึงเขาอยู่เรื่อยๆ เราเลยแอบ ฝากเพื่อนสนิทที่เรียนมหาลัยเดียวกับหนึ่ง ส่งดอกไม้ หรือไม่ก็เค้ก ไปให้หนึ่งทุกวันวาเลนไทน์ หรือไม่ก็วันเกิดของเขา
เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงช่วง ปีสี่ นี่ใกล้เรียนจบแล่วครับ ช่วงนี้ทำ โปรเจค เพื่อจบ มีอยู่มาวันหนึ่ง ช่วงดึกๆ สัก ตี 2 - 3 มีเบอร์แปลกๆ โทรเข้ามา ผมเหลือบไปดูเบอร์นั้น พบว่า เป็นเบอร์ของหนึ่ง ทั้งๆที่ไม่ได้เมมชื่อไว้นะ แต่ก็สามารถจำได้ว่าเป็นเบอร์ของหนึ่ง ผมนี่แอบอึ้งไปนิดหนึง แต่ก็รีบกดรับเลย
หนึ่ง: "ฮัลโหล"
ผม: ........
หนึ่ง: สะดวกคุยกับเราไหม
ผม: พร้อมที่จะคุยกับเราแล้วเหรอ? (แอบ น้อยใจเล็กน้อย แต่ก็ดีใจที่เขาโทรมาหาเรา)
หนึ่ง: คือว่า เรามีเรื่องอยากจะขอร้อง
ผม: ......
หนึ่ง: คือว่า อยากขอจะยืมตังหน่อย ได้มั้บ
ผม: !!!! ยืมไปทำอะไร
หนึ่ง: ........
ผม: เออ เท่าไหร่หละ
หนึ่ง: ก็ไม่มาก เท่าไหร่หรอก
หนึ่ง: สัก 5 แสน
ผมนิ่งนั่งเงียบไปแบบ นึงคิดว่าเขายิมตังไปทำอะไรตั้งเยอะแยะ ทั้งๆที่ฐานะทางบ้านของเขาก็ดีมากอยู่แล้ว ความจริงในใจก็คิดแอบน้อยใจนะ ว่า ถ้าหนึ่งไม่เดือดร้อนก็คงไม่โทรมาหา ใช่ไหม?
ผม: ได้สิ จะเอาเมื่อไร่ที่ไหนละ
หนึ่ง: งั้น พรุ่งนี้เจอกันที่ มหาลัยนะ เดียวไปหา
ผม: !!!!
วันต่อมา เขาก็มาหาจริงๆ ผมก็เตรียมเงินเก็บที่มีไปให้เขาด้วย เราได้นั่งพูดคุยกัน ความรู้สึก เดิมๆ ก็เริ่มกลับมา ใจมั่นสั่น ทังมันร้อนๆหนาวๆ หน้าแดงไปหมด
หนึ่งก้มหน้าก้มตารับตังครับ แล้วก็ เอ่ยปากว่า "ขอบคุณนะ"
หลังจากนั้น หนึงก็ถามผมว่า ยังรักเขาอยู่ใช่ไหม แต่ผมก็หลีกเลี่ยงไม่ตอบคำถาม
หนึ่ง: งั้นเรามาลองคบกันดูไหม
ผม: .........
หนึ่ง: ถ้าลำบากใจก็ไม่ต้องนะ
ผม: ได้สิ ถ้าหนึ่งต้องการแบบนั้น
หลังจากที่คบกัน ผม ก็แอบสืบประวัติของเขาไปเรื่อยๆ จากเพื่อนของของเขา พบว่า ครอบครัวเขา่ ทำธุรกิจล้มละลาย ติดหนี้ ต้องใช้หนี้ พ่อแม่ ของหนึ่งหนีไปอยู่เมืองนอก ทิ้งให้หนึ่งอยู่เมืองไทยคนเดียว หลังจากครอบเขาล้มละลาย แฟนของหนึ่งที่คบกันมา ตั้งแต่ มอ ปลาย ก็ทิ้งหนึ่งไป แฟนหนึ่งบอกว่า ไม่อยากมีแฟน จนๆ แน่นอนว่าบ้านของหนึ่งก็ถูกขายไปด้วย หนึ่งเลยต้องไปอาศัย บ้านเพื่อนอย่บ้าง ไปอาศัยวัดอยู่บ้าง
ผมเลยตัดสินใจซื้อ คอนโดครับ ไว้อยู่กับหนึ่ง ชีวิตเขาเรานี่ดีขึ้นมาก แต่ผมก็ต้องตื่นแต่เช้าทุกวัน หรือ รีบกลับบ้านทุกวันมาทำอาหารเช้าและกลางวันให้หนึ่งกิน ทั้งๆที่แต่ก่อนผมอยู่บ้านมีแม่บ้านทำให้หมด แน่นอนว่างานบ้าน ทำความสะอาดคอนโด ผมก็เป็นคนทำด้วย ผมอยากให้หนึ่งสบาย ครับ เลยทำให้เขาทุกอย่าง แม้ว่าจะทำขนาดนี้แล้ว หนึ่งก็ไม่เคยพูดว่ารักผม สักคำครับ
เหลืออีก เทอมเดียวก็จะเรียนจบแล้วครับ ผมต้องจ่ายค่าเทอมให้หนึ่งด้วย เราเรียนจบทั้งคู่ ผมได้เกียรตินิยมด้วย ครับ
หลังเรียนจบผมรีบไปสมัครงานเลยครับ กะว่า จะทำงานหาประสบการณ์ สัก 3 - 4 ปีก่อนแล้วค่อย เรียนต่อ ส่วนหนึ่ง นี่เขาเรียนต่อเลย ผมก็ต้องออกค่าเรียนให้กับหนึ่งอีกหละ
ทำงานไปสักปีหนึ่ง ทางบริษัทก็ ให้ผมไปทำงานที่ ประเทศแคนนาดาครับ และทางบริษัทก็อนุญาติให้ผมเรียนไปด้วย ขณะอยู่ที่ประเทศแคนนาดา โดนทางบริษัทออกค่าเล่าเรียนให้ ก่อนไปผมตัดสินใจ ขอหนึ่งเขาแต่งงานเลยครับ เพราะผมอยากแต่งงานมานานแล้วครับ เป็นความันตั้งแต่วัยเด็ก ทางบ้านของผมก็ไม่ก็ว่าอะไร แต่ก็ดูเหมือนไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ หนึ่งก็ตอบตกลงนะครับ เราได้ทำเรื่องขออนุญาติจนได้แต่งงานกันที่จดทะเบียนแต่งงานกันที่ประเทศแคนนา หลังจากที่เราจดทะเบียนสมรส กัน หนึ่งก็กลับไทยไปเรียนต่อ
เดี๋ยวมาต่อครับ
ผมแต่งงานกับผู้ขายแล้ว แต่พบว่าเค้าจดทะเบียนซ้อนกับผู้หญิงครับ
ผมเนี่ยเป็นคนเรียนค่อนข้างเก่งครับ เอาเป็นว่าเป็นเด็กหัวดีเลยกว่าได้ เรียนอะไรก็ได้ทุน ตลอด ถึงแม้ที่บ้านจะมีฐานะปานกลาง (บางคนอาจมองว่าฐานะดีเลย) มีชีวติที่มีความสุขมาตลอด เป็นที่รักของเพื่อนๆทุกคน วันมีอยู่มาวันหนึ่ง มีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามาในช่วงมอปลาย แค่เห็นเขาครั้งแรกเนี่ย ก็พบว่า รู้สึกชอบเขาทันทีทันใดเลย สมมุติว่าเขาชื่อว่าหนึ่ง แล้วกัน เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ แต่ก็ไม่สนิทกันเท่าที่ควร เขาไม่ใช่คนที่หล่ออะไรมาก แต่เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วหัวใจเต้นรัว ตัวสั่น ระริกระริก ทีนี้ เขาเนี่ยก็เป็นคนรวยมาก เขาเลยมีผู้หญิงเข้ามาติดพัน เรื่อยๆ ทำให้ผมไม่มีโอกาศเข้าใกล้เขาได้เลย
จนอยู่มาวันหนึ่ง หนึ่ง เขาก็รับรู้ความจริง ว่าผมเนี่ยแอบชอบเขาอยู่ หนึ่งก็เลยไม่มาพูดคุยกับ ผมอีกเลย แล้ว หนึ่งก็ควงผู้หญิงมา เยอะเย้ย บ่อยๆ ทำให้ผมเสียใจอยู่บ่อยครั้ง จนมาวันหนึ่ง เราทั้งคู่สอบเข้ามหาลัยชื่อดังได้ทั้งคู่ แต่ก็อยู่คนละที่นะครับ ความจริงเราสอบติดที่เดียวกัน แต่หนึ่งบอกว่าไม่เจออยู่ที่เดียวกับผม เขาเลยไปสอบเข้าอีกที่ ส่วนชีวิตในมหาวิทยาลัยนั้นใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยไปเรื่อยๆ แต่ก็เรียนหนักมากเลย ในช่วงมหาลัย ทั้งทำปฎิการวิทยาศาตร์ต่างๆ ทั้ง ยังรับจ้างสอนพิเศษเด็กเพื่อหารายได้เสริม ทำให้ลืมๆ เรื่องของหนึ่งไปได้เยอะเลย แต่ก็คิดๆ ถึงเขาอยู่เรื่อยๆ เราเลยแอบ ฝากเพื่อนสนิทที่เรียนมหาลัยเดียวกับหนึ่ง ส่งดอกไม้ หรือไม่ก็เค้ก ไปให้หนึ่งทุกวันวาเลนไทน์ หรือไม่ก็วันเกิดของเขา
เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงช่วง ปีสี่ นี่ใกล้เรียนจบแล่วครับ ช่วงนี้ทำ โปรเจค เพื่อจบ มีอยู่มาวันหนึ่ง ช่วงดึกๆ สัก ตี 2 - 3 มีเบอร์แปลกๆ โทรเข้ามา ผมเหลือบไปดูเบอร์นั้น พบว่า เป็นเบอร์ของหนึ่ง ทั้งๆที่ไม่ได้เมมชื่อไว้นะ แต่ก็สามารถจำได้ว่าเป็นเบอร์ของหนึ่ง ผมนี่แอบอึ้งไปนิดหนึง แต่ก็รีบกดรับเลย
หนึ่ง: "ฮัลโหล"
ผม: ........
หนึ่ง: สะดวกคุยกับเราไหม
ผม: พร้อมที่จะคุยกับเราแล้วเหรอ? (แอบ น้อยใจเล็กน้อย แต่ก็ดีใจที่เขาโทรมาหาเรา)
หนึ่ง: คือว่า เรามีเรื่องอยากจะขอร้อง
ผม: ......
หนึ่ง: คือว่า อยากขอจะยืมตังหน่อย ได้มั้บ
ผม: !!!! ยืมไปทำอะไร
หนึ่ง: ........
ผม: เออ เท่าไหร่หละ
หนึ่ง: ก็ไม่มาก เท่าไหร่หรอก
หนึ่ง: สัก 5 แสน
ผมนิ่งนั่งเงียบไปแบบ นึงคิดว่าเขายิมตังไปทำอะไรตั้งเยอะแยะ ทั้งๆที่ฐานะทางบ้านของเขาก็ดีมากอยู่แล้ว ความจริงในใจก็คิดแอบน้อยใจนะ ว่า ถ้าหนึ่งไม่เดือดร้อนก็คงไม่โทรมาหา ใช่ไหม?
ผม: ได้สิ จะเอาเมื่อไร่ที่ไหนละ
หนึ่ง: งั้น พรุ่งนี้เจอกันที่ มหาลัยนะ เดียวไปหา
ผม: !!!!
วันต่อมา เขาก็มาหาจริงๆ ผมก็เตรียมเงินเก็บที่มีไปให้เขาด้วย เราได้นั่งพูดคุยกัน ความรู้สึก เดิมๆ ก็เริ่มกลับมา ใจมั่นสั่น ทังมันร้อนๆหนาวๆ หน้าแดงไปหมด
หนึ่งก้มหน้าก้มตารับตังครับ แล้วก็ เอ่ยปากว่า "ขอบคุณนะ"
หลังจากนั้น หนึงก็ถามผมว่า ยังรักเขาอยู่ใช่ไหม แต่ผมก็หลีกเลี่ยงไม่ตอบคำถาม
หนึ่ง: งั้นเรามาลองคบกันดูไหม
ผม: .........
หนึ่ง: ถ้าลำบากใจก็ไม่ต้องนะ
ผม: ได้สิ ถ้าหนึ่งต้องการแบบนั้น
หลังจากที่คบกัน ผม ก็แอบสืบประวัติของเขาไปเรื่อยๆ จากเพื่อนของของเขา พบว่า ครอบครัวเขา่ ทำธุรกิจล้มละลาย ติดหนี้ ต้องใช้หนี้ พ่อแม่ ของหนึ่งหนีไปอยู่เมืองนอก ทิ้งให้หนึ่งอยู่เมืองไทยคนเดียว หลังจากครอบเขาล้มละลาย แฟนของหนึ่งที่คบกันมา ตั้งแต่ มอ ปลาย ก็ทิ้งหนึ่งไป แฟนหนึ่งบอกว่า ไม่อยากมีแฟน จนๆ แน่นอนว่าบ้านของหนึ่งก็ถูกขายไปด้วย หนึ่งเลยต้องไปอาศัย บ้านเพื่อนอย่บ้าง ไปอาศัยวัดอยู่บ้าง
ผมเลยตัดสินใจซื้อ คอนโดครับ ไว้อยู่กับหนึ่ง ชีวิตเขาเรานี่ดีขึ้นมาก แต่ผมก็ต้องตื่นแต่เช้าทุกวัน หรือ รีบกลับบ้านทุกวันมาทำอาหารเช้าและกลางวันให้หนึ่งกิน ทั้งๆที่แต่ก่อนผมอยู่บ้านมีแม่บ้านทำให้หมด แน่นอนว่างานบ้าน ทำความสะอาดคอนโด ผมก็เป็นคนทำด้วย ผมอยากให้หนึ่งสบาย ครับ เลยทำให้เขาทุกอย่าง แม้ว่าจะทำขนาดนี้แล้ว หนึ่งก็ไม่เคยพูดว่ารักผม สักคำครับ
เหลืออีก เทอมเดียวก็จะเรียนจบแล้วครับ ผมต้องจ่ายค่าเทอมให้หนึ่งด้วย เราเรียนจบทั้งคู่ ผมได้เกียรตินิยมด้วย ครับ
หลังเรียนจบผมรีบไปสมัครงานเลยครับ กะว่า จะทำงานหาประสบการณ์ สัก 3 - 4 ปีก่อนแล้วค่อย เรียนต่อ ส่วนหนึ่ง นี่เขาเรียนต่อเลย ผมก็ต้องออกค่าเรียนให้กับหนึ่งอีกหละ
ทำงานไปสักปีหนึ่ง ทางบริษัทก็ ให้ผมไปทำงานที่ ประเทศแคนนาดาครับ และทางบริษัทก็อนุญาติให้ผมเรียนไปด้วย ขณะอยู่ที่ประเทศแคนนาดา โดนทางบริษัทออกค่าเล่าเรียนให้ ก่อนไปผมตัดสินใจ ขอหนึ่งเขาแต่งงานเลยครับ เพราะผมอยากแต่งงานมานานแล้วครับ เป็นความันตั้งแต่วัยเด็ก ทางบ้านของผมก็ไม่ก็ว่าอะไร แต่ก็ดูเหมือนไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ หนึ่งก็ตอบตกลงนะครับ เราได้ทำเรื่องขออนุญาติจนได้แต่งงานกันที่จดทะเบียนแต่งงานกันที่ประเทศแคนนา หลังจากที่เราจดทะเบียนสมรส กัน หนึ่งก็กลับไทยไปเรียนต่อ
เดี๋ยวมาต่อครับ