หลังจากกระแสหนังไซไฟถือว่ามาแรงอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ เหมือนจะยิ่งตอกย้ำให้อยากสัมผัสกับเทคโนโลยีและการออกไปนอกโลกบ้าง เชื่อว่าหลายคนมีความฝันนั้นเช่นกัน ล่าสุดขอเกาะกระแส Interstellar ที่มาแรงหลายเวป ทั้งสปอยด์ และตั้งปริศนากับหนังเรื่องนี้ ดูแล้วต่อยอดอะไรได้เยอะเชียว และปลายปีนี้เหมือนกับทางนาซาก็จะมีนิทรรศการมาจัดให้เราได้ดูกันจะ ๆ ทีนี้เปรียบให้ได้เป็นหมัดต่อหมัด ให้อาการเมาค้างมันคลายกันไปข้างนึง มาดูกันสิว่าอะไรใน Interstellar เหมือน จะหรือต่างกับสิ่งที่เรากำลังจะได้สัมผัสใน NASA EXHIBITION กันบ้าง
ไปที่ความน่ารัก แสนฉลาดอย่าง เจ้า TARS หุ่นยนต์สุดน่ารักที่หลายคนชื่นชอบและอดอมยิ้มไม่ได้ ด้วยคาแรคเตอร์แท่งเหลี่ยม อิริยาบทการเคลื่อนไหว ความชาญฉลาด และคำพูดสุดกินใจ ถูกโปรแกรมให้ปกป้องมนุษย์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม จะต่างจาก Lunokod มากน้อยแค่ไหน หรือการพัฒนาที่มากขึ้น TARS จะเป็นต้นแบบที่ใช้จริงใน generation ต่อไปของหุ่นยนต์สื่อสาร ต้องไปดูให้เห็นกับตา เพราะในนิทรรศการมีการนำแสดง Lunokod กันด้วย
ต่อไปเริ่มคึกคัก กับชุดในฝันเลยทีเดียวก็ว่าได้ ใครก็อยากลองสวมใส่ เอ้าจะช้าทำไม อยากลองก็จะได้ลองตามนั้นล่ะ เมื่อนิทรรศการได้จำลองชุดนักบินอวกาศมาให้ได้สวมใส่ทุกเพศ ทุกวัย ไม่จำกัดอายุ ความพิเศษของชุดอวกาศที่ควบคุมทุกสิ่งอย่าง ระดับออกซิเจน คอยปกป้องมนุษย์ทั้งเรื่องของระดับอุณหภูมิ อากาศ และมีอิเล็กทรอนิกส์หลายอย่างที่เราต้องทึ่ง บางครั้งก็ดูบอบบางและแข็งแกร่งอย่างน่าฉงน พบคำตอบเปรียบเทียบได้กับชุดจำลองที่ Neil Armstrong ใส่ไปเหยียบดวงจันทร์ ให้ได้ลองใส่จริง เอาล่ะสิความรู้สึกตอนนั้นจะเป็นยังไง
และปริศนาหลายสิ่ง เทคโนโลยี สุดล้ำที่ทำให้เราอยากสัมผัสจากในหนัง แม้กระทั่งจุดไร้แรงโน้มถ่วง ความรู้สึกการลอยคว้างกลางอากาศแค่เพียงเข้าไปอยู่ในห้องปฏิบัติการในยานฯ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสารในโครงการอวกาศ หรือยาน Apollo 16 command module ที่ครั้งหนึ่งเคยพาเหล่านักบินทยานออกจากชั้นบรรยากาศโลก สามารถทนแรงดึงดูด และความร้อน หน้าตาแท้จริงแล้วเป็นเหมือนอย่างในหนังหรือไม่ สัมผัสของจริง Apollomain hatch ประตูบานแรกของนาซาที่เปิดมนุษย์สู่อวกาศ งานนี้ไม่ต้องเสียเวลาหาคำตอบอะไรให้มาก ในเมื่อเขาเคลมขึ้นมาเลยว่า จำลองยานอวกาศให้ได้เข้าไปสัมผัสโครงสร้างในยาน แม้กระทั่งห้องน้ำ มีการจัดวางอย่างไร ปวดแล้วจะทำยังไงนะ ไม่เพียงเท่านั้น ภายในงานยังจัดแสดงวัตถุเทคโนโลยีจากรัสเซีย อาทิ ดาวเทียม sputnik ทั้งหมดถูกแบ่งเป็น7 โซนอัดแน่นให้ได้สัมผัสแบบเต็ม ๆ เริ่มจากเลียนแบบทางเข้าสู่ยานอวกาศของนักบินนาซา (Gantry) จากนั้นจะได้พบกับเหล่าดวงดาว แกลแลคซี่อันสวยงามอันนำไปสู่ความยากทะยานของมนุษย์และสามารถเอาชนะแรงโน้มถ่วงด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่สามารถนำพาสู่นอกโลกและเดินทางไปยังดวงจันทร์ได้สำเร็จ (2Dreamers) ไปเปิดความรู้กับหลากทฤษฎี บริบททางสังคมและประวัติศาสตร์อันเป็นประเด็นในการแข็งขันเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าใครมีความก้าวหน้ามากกว่ากันระหว่าง โลกขั้วเสรี และโลกขั้วคอมมิวนิสต์ (3Go Fever) ต่อจากนั้นไปสัมผัสกับ Saturn V จรวดลำแรกที่บุกเบิกดวงจันทร์ได้สำเร็จ (Pioneers)
งานนี้ไม่มีการดับฝันใคร มีแต่จะเติมเต็ม และสานต่อ ต่อยอดเทคโนโลยีให้นักประดิษฐ์ นักวิจัย และนักวิทยาศาสตร์ตัวจิ๋ว มีข้อมูลและสิ่งที่เราไม่รู้มาไขปมปริศนาอีกเพียบ และแม้ว่า Interstellar จะกลายเป็น Talk of The Town หนังเด็ดที่ไม่ได้จำลองเพียงแค่เรื่องเทคโนโลยี และความสวยงามของนอกโลก แต่ยังทิ้งอีโมชั่นและปริศนาให้คนดูยังค้างคา และเกิดเป็นคำถามอย่างมากมาย นิทรรศการครั้งนี้คงต้องไม่พลาด ตามหาข้อมูลและเรื่องที่เราไม่เคยรู้ และลองสักครั้งกับ G Force Simulator ที่จะให้คุณได้ลองอยู่ในสภาพเสมือนไร้น้ำหนัก และ The Globe จอทรงกลม 360 องศา แสดงข้อมูลดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ต่าง ๆ ในระบบสุริยะจักรวาล ทุกสิ่งถูกสร้างมาให้คนมีฝัน ได้พิสูจน์การใช้ชีวิตเสมือนได้หลุดออกไปนอกอวกาศ และนอกจากนี้ยังมีของที่ระลึก และ Space Café ให้ทดลองเมนูอาหารของนักบินอวกาศด้วยนะ
ดู Interstellar มาแล้ว เจอ Nasa Exhibition อยากลองไปเปรียบดู
หลังจากกระแสหนังไซไฟถือว่ามาแรงอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ เหมือนจะยิ่งตอกย้ำให้อยากสัมผัสกับเทคโนโลยีและการออกไปนอกโลกบ้าง เชื่อว่าหลายคนมีความฝันนั้นเช่นกัน ล่าสุดขอเกาะกระแส Interstellar ที่มาแรงหลายเวป ทั้งสปอยด์ และตั้งปริศนากับหนังเรื่องนี้ ดูแล้วต่อยอดอะไรได้เยอะเชียว และปลายปีนี้เหมือนกับทางนาซาก็จะมีนิทรรศการมาจัดให้เราได้ดูกันจะ ๆ ทีนี้เปรียบให้ได้เป็นหมัดต่อหมัด ให้อาการเมาค้างมันคลายกันไปข้างนึง มาดูกันสิว่าอะไรใน Interstellar เหมือน จะหรือต่างกับสิ่งที่เรากำลังจะได้สัมผัสใน NASA EXHIBITION กันบ้าง
ไปที่ความน่ารัก แสนฉลาดอย่าง เจ้า TARS หุ่นยนต์สุดน่ารักที่หลายคนชื่นชอบและอดอมยิ้มไม่ได้ ด้วยคาแรคเตอร์แท่งเหลี่ยม อิริยาบทการเคลื่อนไหว ความชาญฉลาด และคำพูดสุดกินใจ ถูกโปรแกรมให้ปกป้องมนุษย์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม จะต่างจาก Lunokod มากน้อยแค่ไหน หรือการพัฒนาที่มากขึ้น TARS จะเป็นต้นแบบที่ใช้จริงใน generation ต่อไปของหุ่นยนต์สื่อสาร ต้องไปดูให้เห็นกับตา เพราะในนิทรรศการมีการนำแสดง Lunokod กันด้วย
ต่อไปเริ่มคึกคัก กับชุดในฝันเลยทีเดียวก็ว่าได้ ใครก็อยากลองสวมใส่ เอ้าจะช้าทำไม อยากลองก็จะได้ลองตามนั้นล่ะ เมื่อนิทรรศการได้จำลองชุดนักบินอวกาศมาให้ได้สวมใส่ทุกเพศ ทุกวัย ไม่จำกัดอายุ ความพิเศษของชุดอวกาศที่ควบคุมทุกสิ่งอย่าง ระดับออกซิเจน คอยปกป้องมนุษย์ทั้งเรื่องของระดับอุณหภูมิ อากาศ และมีอิเล็กทรอนิกส์หลายอย่างที่เราต้องทึ่ง บางครั้งก็ดูบอบบางและแข็งแกร่งอย่างน่าฉงน พบคำตอบเปรียบเทียบได้กับชุดจำลองที่ Neil Armstrong ใส่ไปเหยียบดวงจันทร์ ให้ได้ลองใส่จริง เอาล่ะสิความรู้สึกตอนนั้นจะเป็นยังไง
และปริศนาหลายสิ่ง เทคโนโลยี สุดล้ำที่ทำให้เราอยากสัมผัสจากในหนัง แม้กระทั่งจุดไร้แรงโน้มถ่วง ความรู้สึกการลอยคว้างกลางอากาศแค่เพียงเข้าไปอยู่ในห้องปฏิบัติการในยานฯ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสารในโครงการอวกาศ หรือยาน Apollo 16 command module ที่ครั้งหนึ่งเคยพาเหล่านักบินทยานออกจากชั้นบรรยากาศโลก สามารถทนแรงดึงดูด และความร้อน หน้าตาแท้จริงแล้วเป็นเหมือนอย่างในหนังหรือไม่ สัมผัสของจริง Apollomain hatch ประตูบานแรกของนาซาที่เปิดมนุษย์สู่อวกาศ งานนี้ไม่ต้องเสียเวลาหาคำตอบอะไรให้มาก ในเมื่อเขาเคลมขึ้นมาเลยว่า จำลองยานอวกาศให้ได้เข้าไปสัมผัสโครงสร้างในยาน แม้กระทั่งห้องน้ำ มีการจัดวางอย่างไร ปวดแล้วจะทำยังไงนะ ไม่เพียงเท่านั้น ภายในงานยังจัดแสดงวัตถุเทคโนโลยีจากรัสเซีย อาทิ ดาวเทียม sputnik ทั้งหมดถูกแบ่งเป็น7 โซนอัดแน่นให้ได้สัมผัสแบบเต็ม ๆ เริ่มจากเลียนแบบทางเข้าสู่ยานอวกาศของนักบินนาซา (Gantry) จากนั้นจะได้พบกับเหล่าดวงดาว แกลแลคซี่อันสวยงามอันนำไปสู่ความยากทะยานของมนุษย์และสามารถเอาชนะแรงโน้มถ่วงด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่สามารถนำพาสู่นอกโลกและเดินทางไปยังดวงจันทร์ได้สำเร็จ (2Dreamers) ไปเปิดความรู้กับหลากทฤษฎี บริบททางสังคมและประวัติศาสตร์อันเป็นประเด็นในการแข็งขันเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าใครมีความก้าวหน้ามากกว่ากันระหว่าง โลกขั้วเสรี และโลกขั้วคอมมิวนิสต์ (3Go Fever) ต่อจากนั้นไปสัมผัสกับ Saturn V จรวดลำแรกที่บุกเบิกดวงจันทร์ได้สำเร็จ (Pioneers)
งานนี้ไม่มีการดับฝันใคร มีแต่จะเติมเต็ม และสานต่อ ต่อยอดเทคโนโลยีให้นักประดิษฐ์ นักวิจัย และนักวิทยาศาสตร์ตัวจิ๋ว มีข้อมูลและสิ่งที่เราไม่รู้มาไขปมปริศนาอีกเพียบ และแม้ว่า Interstellar จะกลายเป็น Talk of The Town หนังเด็ดที่ไม่ได้จำลองเพียงแค่เรื่องเทคโนโลยี และความสวยงามของนอกโลก แต่ยังทิ้งอีโมชั่นและปริศนาให้คนดูยังค้างคา และเกิดเป็นคำถามอย่างมากมาย นิทรรศการครั้งนี้คงต้องไม่พลาด ตามหาข้อมูลและเรื่องที่เราไม่เคยรู้ และลองสักครั้งกับ G Force Simulator ที่จะให้คุณได้ลองอยู่ในสภาพเสมือนไร้น้ำหนัก และ The Globe จอทรงกลม 360 องศา แสดงข้อมูลดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ต่าง ๆ ในระบบสุริยะจักรวาล ทุกสิ่งถูกสร้างมาให้คนมีฝัน ได้พิสูจน์การใช้ชีวิตเสมือนได้หลุดออกไปนอกอวกาศ และนอกจากนี้ยังมีของที่ระลึก และ Space Café ให้ทดลองเมนูอาหารของนักบินอวกาศด้วยนะ