ส่วนความเก๋าเกม สภาพสนามมีผลโดยตรง

นี่เป็นอีกเกมยากของทีมชาติไทย เมื่อต้องเล่นกับทีมที่เก๋ากว่า คุ้นเคยสภาพสนามมากกว่า รับมือกับความกดดันได้ดีกว่า
แต่กลับเป็นทีมเรา ที่อาศัยปรัชญาฟุตบอลง่ายๆ วินัยในเกม เล่นไปเรื่อยๆ เวลาไม่หมด ยังไม่แพ้

ใจสู้เสียอย่าง เดี๋ยวก็ยิงประตูได้

ในขณะที่นักเตะวัยหนุ่มของเรา ไม่ค่อยจะเข้าใจนักกับสภาพสนามและวิถีการวิ่งของลุกฟูตบอล
เราจึงเห็นนักเตะรุ่นหนุ่มของเรา กะจังหวะผิดเสมอๆ

แล้วก็เป็นนักเตะมาเลเซีย ที่คุ้นเคยกับสภาพสนามมากกว่า เป็นผู้ที่ใช้ประโยชน์จากสภาพสนามด้วยการเลี้ยงอาศัยความสามารถเฉพาะตัว
เข้าไปยิงจ่อๆ ได้ถึง 2 ประตู

แต่ทีมไทย สอบผ่านแล้วครับ กับการรับมือกับทีมเก๋าเกม ในสภาพที่ต้องเป็นฝ่ายตาม ถึง 2 ครั้ง 2 ครา
เกมมีดราม่าจริงๆ อย่างที่ผมคิดไว้ เพราะเห็นนักเตะมาเลย์ เริ่มเป่าปาก หมดแรง เมื่อเหลือเวลาอีก 15 นาที จะจบเกม

ช่วงนั้น นักเตะมาเลย์ เหลือแต่ความเก๋าจริงๆ
จะเลี้ยงบอล จี้เข้าหา แบบที่ทำจนได้ประตูมาแล้ว 2 ลูก ยังไปไม่ไหวเลย

เป็นอีกครั้งที่ ศาสตร์ของฟุตบอลอธิบายความเป็นไปในช่วง 15 นาทีสุดท้ายได้ลงตัวที่สุด

ความฟิตและวินัยในเกม คือตัวตัดสินแพ้ชนะของแมตช์นี้จริงๆ ครับ

*****************************************************************************

นานๆ ที จะเขียนบทความแบบคอลัมนิสต์สักบท วันนี้ผมขอยกแมนออฟเดอะแมทช์ ให้อดิศักดิ์ ไกรสรครับ
2 ลูกที่คุณยิงได้นี่มัน สัญชาตญาณศูนย์หน้าจริงๆ
ลูกแรกช่างคล้ายคลึงกับ ประตูที่คุณยิงที่ม U23 จีนได้ในเอเชียนเกมส์

เพราะยิงได้ในแบบที่ ศูนย์หน้าที่ดี พึงควรกระทำ
ลูกแบบนี้ มีแต่ทีมเราโดนยิง เพราะสภาพความฟิตแบบเล่นได้แค่ 75 นาที

เหมือนอย่างที่นักเตะมาเลย์ แสดงให้ดู ... นี่แหละ นักเตะไทยในอดีต

ส่วนลูกที่ 2 ต้องบอกว่า เลือดเย็นเป็นบ้า
ยิงนาทีที่ 90 แตะหนีแบบเหนือชั้น แล้วกดเต็มๆ มุมแคบ

สุดยอดจริงๆ

เกมนี้มีครบครับ ทั้งเด็กหลอกผู้ใหญ่ อย่าง ชนาธิป หรือ ผู้ใหญ่สอนบอลแบบที่มาเลย์ ยิงเรา 2 ลูก ... แล้วจบลงด้วยดราม่าหักมุมครับ