สวัสดีครับ วันนี้มีประสบการณ์มาบอกเล่า เผื่อเป็นกำลังใจให้ท่านที่ติดเชื้อได้รับรู้ว่าเราไม่ใช่บุคคลอันตราย หรือเป็นที่น่ารังเกียจแต่อย่างใดนะครับ
ในที่นี้ขอกล่าวอ้างถึงคนที่ผมได้รู้จักก่อนนะครับ เธอเป็นผู้หญิงครับ ขอเรียกอักษรย่อ น้องม. น้องยังอายุน้อยประมาณ ยี่สิบต้นๆ แต่รู้ตัวว่าติดเชื้อหลังจากที่ไปตรวจครับ เนื่องด้วยแฟนน้องเค้ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม(เข้าใจตรงกันนะครับ) ช่วงที่รอผลก็ใจจดจ่อว่า คงไม่เป็นไร เราคงไม่โชคร้ายอย่างนั้นมั้ง
แต่พอผลออกมาเท่านั้นแหละครับ ทรุดดดดดเลยครับ(น้องบอกมา) ซึ่งเธอไม่ใช่คนที่เจ้าชู้อะไร ยังเรียนอยู่ด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่กล้าถามแฟนนะครับ
เธอตัดสินใจตรวจซ้ำอีกรอบ ผลคือ เหมือนเดิมทุกประการ ซีดีโฟ อยู่ที่ 229 นั่นแปลว่าเธอก็รับเชื้อมานานพอสมควรแต่ก็ยังดีที่เธอไม่ได้ท้องด้วย
เธอวิตกกังวลมากครับ ไม่กล้าสู้หน้าใคร จากคนที่ร่าเริง ไปเที่ยวกับเพื่อนประจำ เปลี่ยนเป็นคนที่เงียบขรึมไปซะดื้อๆ จนเพื่อนๆเธอเริ่มสงสัย เท่านั้นไม่พอแฟนเธอคนนี้ก็ยังมีพฤติกรรมแบบเดิมๆ จนเธอระอามาก จึงตัดสินใจบอกเลิก และชายคนนี้ก็ไม่ได้สนใจอะไรยิ่งทำให้จิตตกไปอีก ว่าเค้าไม่ได้รักเราเลยหรือ
เธอท้อมาก หมดกำลังใจที่สุด เพราะไม่มีความรู้เรื่องนี้มากพอเลย จนแม่เธอรู้เรื่องเข้า ด้วยความที่แม่เธอค่อนข้างหัวโบราณนะครับ จนทุกวันนี้ยังแทบรับไม่ได้อยู่เลย แต่ก็เป็นโชคดีที่ไม่ได้ไล่เะอ หรือผลักไสเธอไปไหน (ก็คนเป็นแม่อ่ะเนอะ)
ด้วยความกลัว ผสมปนเปกับความอายที่ต้องมาเป็นโรคนี้ จนเครียดน้ำหนักลดลงกว่า ห้า กิโล และไม่ยอมรับยาต้าน เพราะเธอไม่กล้าแม่กระทั่งเดินใกล้ หรือเฉียดใคร แต่บอกก่อนนะครับดูแล้วไม่รู้เลย เธอยังปกติมากๆครับ จนวันหนึ่งเธอเริ่มมีตุ่มใสๆขึ้น และเกามัน ซึ่งเรารู้ดีว่าคืออะไร เธอจึงบอกแม่ และหาทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดทั้งที่ยังกล้าๆกลัวๆ การรับยา จน...
มาได้รู้จักกับแฟนของผม และเธออัดอั้นมาก (คือ ผมกะแฟนเรามีกลุ่มเล็กๆไว้ช่วยเหลือ หรือให้กำลังใจอะครับ) เธอติดต่อมาผ่านเฟสบุค เล่า และระบายเหมือนกับเธอกำลังระเบิดอารมณ์ที่ซ่อนมาจนแทบทนไม่ไหว ด้วยมีอาการของตุ่มพีพีอีมาแล้วยิ่งอาย ยิ่งกลัว จนผมกะแฟนปลอบเธออยู่พักใหญ่
และพยายามอธิบายเรื่องการรับยา จนตอนนี้อาการเธอดีขึ้นมาก เกือบปีแล้วมั้งครับผมไม่แน่ใจช่วงเวลา ซีดีโฟเธอขึ้นมา 440 แล้ว และมีความสุขดี
ดูแลสุขภาพมากขึ้น ความเครียดแทบจะหายไปจนหมด แถมยังกลับมาร่าเริงแจ่มใสอีกครั้งทำให้เกือบลืมไปแล้วว่าเป็นโรคอะไร
๙๙๙๙๙๙ ที่กล่าวมานี้ไม่ได้จะต้องการสื่ออะไรมากนะครับ แค่อยากให้ทุกคนเข้าว่าในบางกรณีของผู้ป่วยไม่ได้เกิดจากการเป็นคนไม่ดีเสมอไป
บางครั้งเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนในสังคมมีใครที่เป้นหรือเปล่า หรือเราจะตัดสินคนเหล่านี้ด้วยเพราะเค้าเป็นโรคนี้งั้นหรือออออออออออออออ
คนที่เป็นโรคอื่นๆ สามารถมีชีวิตได้สั้นกว่าคนที่เป็นโรคนี้มากมายถมไป แถมยังบางคนอาการแย่กว่าด้วยซ้ำ เพราะละเลยการดูแลตัวเอง ละเลยว่าเราควรจะต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง ละเลยไปว่าคนที่เรารักคือใคร เครียดกับภาวะต่างๆมากจนล้มป่วยมากมาย
ดังนั้น ขอให้คนในสังคมนะครับอย่าได้รังเกียจเลยครับ โรคนี้ไม่ได้ติดง่าย ไม่ได้ติดต่อทางลมหายใจ ไม่ได้แค่สัมผัสผิวหนังแล้วจะเป็น
ให้โอกาส ให้กำลังใจ แต่ไม่ใช่เพราะสงสาร แต่เพราะเราเป้นเพื่อนมนุษย์ร้วมกันนะครับ
มันก็แค่โรค โรคหนึ่งที่ต้องกินยาตลอด เหมือนเบาหวาน เหมือนความดัน อะไรประมาณนั้นนะครับ
และคนที่เป็นโรคนี้นะครับอย่ากังวลกับการรักษา หรืออย่ากังวลกับการกินยาเลย ยาทุกชนิดมีผลข้างเคียงทั้งนั้น
อย่าท้อ อย่าหมดหวังถ้าคุณยังไม่ได้สู้ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกายประจำ และรับการรักษาจากแพทย์เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
คิดเสียว่าเราต้องรักตัวเราเอง และรักคนที่รักเราอย่างจริงใจนั่นคือ พ่อ แม่เรานะครับ
หากเื่อนๆคนไหน ไม่มีใคร หรืออยากคุย หรือปรึกษา ผมและแฟนยินดีนะครับที่จะเป้นสื่อกลาง ในการช่วยให้ท่านได้ระบาย หรือไม่กล้าไปหาหมอคนเดียวหรืออย่างไร ลองแอดไลน์ผมเข้ามาได้นะครับ เพราะเรามีพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์ และสามารถถามไถ่ได้ จงจำไว้ว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
ปล. รักตัวเอง ดูแลสุขภาพดีๆนะครับ ไลน์Todsapornneung แอดมาคุย มาปรึกษาได้นะครับ ไม่ต้องกังวลใดๆ ดีกว่าเก็บไว้ ล้มป่วยแล้วไม่มีแม้แต่คำปรึกษา เราจะได้ช่วยเหลือกันนะครับ ขอบคุณครับ
ติดเชื้อHIV แล้วยังไงเหรอออ
ในที่นี้ขอกล่าวอ้างถึงคนที่ผมได้รู้จักก่อนนะครับ เธอเป็นผู้หญิงครับ ขอเรียกอักษรย่อ น้องม. น้องยังอายุน้อยประมาณ ยี่สิบต้นๆ แต่รู้ตัวว่าติดเชื้อหลังจากที่ไปตรวจครับ เนื่องด้วยแฟนน้องเค้ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม(เข้าใจตรงกันนะครับ) ช่วงที่รอผลก็ใจจดจ่อว่า คงไม่เป็นไร เราคงไม่โชคร้ายอย่างนั้นมั้ง
แต่พอผลออกมาเท่านั้นแหละครับ ทรุดดดดดเลยครับ(น้องบอกมา) ซึ่งเธอไม่ใช่คนที่เจ้าชู้อะไร ยังเรียนอยู่ด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่กล้าถามแฟนนะครับ
เธอตัดสินใจตรวจซ้ำอีกรอบ ผลคือ เหมือนเดิมทุกประการ ซีดีโฟ อยู่ที่ 229 นั่นแปลว่าเธอก็รับเชื้อมานานพอสมควรแต่ก็ยังดีที่เธอไม่ได้ท้องด้วย
เธอวิตกกังวลมากครับ ไม่กล้าสู้หน้าใคร จากคนที่ร่าเริง ไปเที่ยวกับเพื่อนประจำ เปลี่ยนเป็นคนที่เงียบขรึมไปซะดื้อๆ จนเพื่อนๆเธอเริ่มสงสัย เท่านั้นไม่พอแฟนเธอคนนี้ก็ยังมีพฤติกรรมแบบเดิมๆ จนเธอระอามาก จึงตัดสินใจบอกเลิก และชายคนนี้ก็ไม่ได้สนใจอะไรยิ่งทำให้จิตตกไปอีก ว่าเค้าไม่ได้รักเราเลยหรือ
เธอท้อมาก หมดกำลังใจที่สุด เพราะไม่มีความรู้เรื่องนี้มากพอเลย จนแม่เธอรู้เรื่องเข้า ด้วยความที่แม่เธอค่อนข้างหัวโบราณนะครับ จนทุกวันนี้ยังแทบรับไม่ได้อยู่เลย แต่ก็เป็นโชคดีที่ไม่ได้ไล่เะอ หรือผลักไสเธอไปไหน (ก็คนเป็นแม่อ่ะเนอะ)
ด้วยความกลัว ผสมปนเปกับความอายที่ต้องมาเป็นโรคนี้ จนเครียดน้ำหนักลดลงกว่า ห้า กิโล และไม่ยอมรับยาต้าน เพราะเธอไม่กล้าแม่กระทั่งเดินใกล้ หรือเฉียดใคร แต่บอกก่อนนะครับดูแล้วไม่รู้เลย เธอยังปกติมากๆครับ จนวันหนึ่งเธอเริ่มมีตุ่มใสๆขึ้น และเกามัน ซึ่งเรารู้ดีว่าคืออะไร เธอจึงบอกแม่ และหาทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดทั้งที่ยังกล้าๆกลัวๆ การรับยา จน...
มาได้รู้จักกับแฟนของผม และเธออัดอั้นมาก (คือ ผมกะแฟนเรามีกลุ่มเล็กๆไว้ช่วยเหลือ หรือให้กำลังใจอะครับ) เธอติดต่อมาผ่านเฟสบุค เล่า และระบายเหมือนกับเธอกำลังระเบิดอารมณ์ที่ซ่อนมาจนแทบทนไม่ไหว ด้วยมีอาการของตุ่มพีพีอีมาแล้วยิ่งอาย ยิ่งกลัว จนผมกะแฟนปลอบเธออยู่พักใหญ่
และพยายามอธิบายเรื่องการรับยา จนตอนนี้อาการเธอดีขึ้นมาก เกือบปีแล้วมั้งครับผมไม่แน่ใจช่วงเวลา ซีดีโฟเธอขึ้นมา 440 แล้ว และมีความสุขดี
ดูแลสุขภาพมากขึ้น ความเครียดแทบจะหายไปจนหมด แถมยังกลับมาร่าเริงแจ่มใสอีกครั้งทำให้เกือบลืมไปแล้วว่าเป็นโรคอะไร
๙๙๙๙๙๙ ที่กล่าวมานี้ไม่ได้จะต้องการสื่ออะไรมากนะครับ แค่อยากให้ทุกคนเข้าว่าในบางกรณีของผู้ป่วยไม่ได้เกิดจากการเป็นคนไม่ดีเสมอไป
บางครั้งเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนในสังคมมีใครที่เป้นหรือเปล่า หรือเราจะตัดสินคนเหล่านี้ด้วยเพราะเค้าเป็นโรคนี้งั้นหรือออออออออออออออ
คนที่เป็นโรคอื่นๆ สามารถมีชีวิตได้สั้นกว่าคนที่เป็นโรคนี้มากมายถมไป แถมยังบางคนอาการแย่กว่าด้วยซ้ำ เพราะละเลยการดูแลตัวเอง ละเลยว่าเราควรจะต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง ละเลยไปว่าคนที่เรารักคือใคร เครียดกับภาวะต่างๆมากจนล้มป่วยมากมาย
ดังนั้น ขอให้คนในสังคมนะครับอย่าได้รังเกียจเลยครับ โรคนี้ไม่ได้ติดง่าย ไม่ได้ติดต่อทางลมหายใจ ไม่ได้แค่สัมผัสผิวหนังแล้วจะเป็น
ให้โอกาส ให้กำลังใจ แต่ไม่ใช่เพราะสงสาร แต่เพราะเราเป้นเพื่อนมนุษย์ร้วมกันนะครับ
มันก็แค่โรค โรคหนึ่งที่ต้องกินยาตลอด เหมือนเบาหวาน เหมือนความดัน อะไรประมาณนั้นนะครับ
และคนที่เป็นโรคนี้นะครับอย่ากังวลกับการรักษา หรืออย่ากังวลกับการกินยาเลย ยาทุกชนิดมีผลข้างเคียงทั้งนั้น
อย่าท้อ อย่าหมดหวังถ้าคุณยังไม่ได้สู้ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกายประจำ และรับการรักษาจากแพทย์เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
คิดเสียว่าเราต้องรักตัวเราเอง และรักคนที่รักเราอย่างจริงใจนั่นคือ พ่อ แม่เรานะครับ
หากเื่อนๆคนไหน ไม่มีใคร หรืออยากคุย หรือปรึกษา ผมและแฟนยินดีนะครับที่จะเป้นสื่อกลาง ในการช่วยให้ท่านได้ระบาย หรือไม่กล้าไปหาหมอคนเดียวหรืออย่างไร ลองแอดไลน์ผมเข้ามาได้นะครับ เพราะเรามีพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์ และสามารถถามไถ่ได้ จงจำไว้ว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
ปล. รักตัวเอง ดูแลสุขภาพดีๆนะครับ ไลน์Todsapornneung แอดมาคุย มาปรึกษาได้นะครับ ไม่ต้องกังวลใดๆ ดีกว่าเก็บไว้ ล้มป่วยแล้วไม่มีแม้แต่คำปรึกษา เราจะได้ช่วยเหลือกันนะครับ ขอบคุณครับ