วันนี้จะมาแฉความโง่และไม่ระมัดระวังของตนเองค่ะ
เพื่อเป็นบทเรียนแก่ผู้ที่จะซื้อคอนโดเพื่ออยู่เองต่อไป
ประมาณปลายปีนี้หลายท่านคงจะจำได้ว่า มีงานคอนโดแบรนด์เอ ที่ห้างดัง
ซึ่งตัวเราเอง อยากได้คอนโดเพื่ออยู่เอง และทำเลติดรถไฟฟ้า ที่ราคาไม่เกิน3ล้านบาท
เราได้ตัดสินใจจองห้อง hot price ราคา2.4ล้านบาท 1 bed
เพราะคิดว่า เอ่อ....จากซอยหนึ่ง เข้ามาเกือบกิโล ไกลหน่อย แต่มีรถรับส่ง มีวิน10บาท ขึ้นbtsได้เลย
ราคาจอง 10000 บาท แต่ต้องโอนห้องภายใน14 พย. นี้ จึงจะได้โปรโมชั่นในงาน
ทางคอนโดให้เรายื่นกู้ไป4ธนาคาร ได้แก่ K...,KT...,B..., และ S
ซึ่ง แบ๊งแรก ไม่ติดต่อกลับมาเลย มีแต่2,3 ที่ติดต่อกลับมา และS ติดต่อมาสุดท้าย(โทรมาตอนเราตรวจคอนโดเสร็จ)
และขอบอกว่า S พูดจาด้วยน้ำเสียงที่แย่มาก บอกให้เราส่งเอกสารเพิ่ม เพราะข้อมูลไม่พอกู้ เราก็ค่ะๆ เด๋วจะส่งเพิ่มไป
จนต้นเดือนที่ผ่านมา เราได้ให้บริษัทตรวจคอนโดชื่อดังในพันธิป ไปตรวจห้องให้ ...ปรากฎว่า ห้องสาหัสมาก ต้องรื้อฝ้า รื้อพื้น ทำกำแพง นั่นโน่นนี่ใหม่ทั้งหมด แล้ววิศกรแอบกระซิบว่า ถ้าน้องอยู่เอง พี่ไม่แนะนำให้เอาห้องนี้ มันเน่าจริงๆ งานไม่ดีเลย ดูเหมือนเจ้าของห้องเก่าถอดใจแล้วโครงการเอามาขายต่อราคาถูก ถ้าเป็นไปได้ลองโทรไปบอกธนาคารให้อณุมัติเปน ไม่ผ่าน จะได้เงินจองคืน
เพราะถึงแก้งานไปเพื่อให้ทันโอน14นี้ (ภายในอาทิตย์เดียว) ก็ไม่ทันอยู่ดี
ตรงนี้เราพลาดเอง ที่รอธนาคารติดต่อกลับมาแล้วค่อยไปตรวจ เราน่าจะรีบตรวจไปตั้งแต่แรกๆ
พอตรวจเสร็จ เย็นนั้นหลังSโทรมา เซลส์โทรมากระหน่ำเราด้วยน้ำเสียงตำหนิว่า ทางโครงการห้ามตรวจคอนโดก่อนรับโอน (แต่พี่ๆในนี้บอกห้องต้องตรวจและแก้ให้เสร็จก่อนรับโอนนี่นา) เขาถามว่าตรวจไปหรือยัง เราบอกตรวจไปแล้วค่ะ แล้วเขาก็บอกว่า ห้ามตรวจบลาๆๆอยู่สักพักแล้ววางไป
เราก็คิดได้แล้วล่ะ ว่าจะไม่เอา เพราะถ้าห้องเน่า และพูดจากับเราแบบนี้
เราให้แม่ด่าที่เสียเงินหมื่น ดีกว่าผ่อนเงินเป็นล้าน เพื่อได้ห้องเน่าและไกลจากถนนใหญ่ขนาดนั้น
แถมที่บ้านเราต้องมาเป็นห่วงเรื่องการเดินทางอีกด้วย ซอยค่อนข้างลึกค่ะ คุณแม่กับคุณยายมาดูทีนึงก็บอกว่า มึนลึกไปนะ
เราเลยประกาศขายใบจอง และโทรไปบอกธนาคารทั้งสามว่า ให้เราไม่ผ่าน และถ้าเราจะกู้ซื้อคอนโดครั้งหน้า เราจะบอกว่าเรามีพวกคุณอยู่แล้ว ซึ่ง ธนาคาร 2,3 บอกโอเค แถม 3 บอกใบ้ให้ดูคอนโดของdeveloper อื่นๆให้ด้วย
แต่S ....."ทำไมละคะ ทำไมไม่ผ่าน"
"ก็เอกสารเราไม่ครบนี่คะ แล้วก็..."
ทางโน่นกระแทกเสียงมา"มันจะไม่ผ่านได้ไงคะ เงินน้องตั้งขนาดนี้!!!!"
"ก็พี่ขอเอกสารเพิ่มนี่คะ เพราะว่าข้อมูลไม่พอ"
"ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ไม่ได้ เอกสารรอบแรกที่น้องส่งมา ธนาคารเห็น คอนโดก็เห็นเหมือนกัน ยังไงก็ผ่านค่ะ"
"โอเค ขอบคุณค่ะ"
เอ่อออพูดกันดีๆก็ได้ ไม่เห็นต้องใส่อารมณ์เลย
เราได้โทรไปขอโทษคุณพ่อคุณแม่ ว่าเราดูไม่ดีเองทำให้ต้องเสียเงิน10000ไป
ท่านก็บอกว่า "งั้นค่อยๆดูไปละกัน ไม่ต้องรีบก็ได้ งานเราก็ยังไม่มั่นคง ใจเย็นๆ" T T
สรุป
1. เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ๆในนี้ถึงบอก "พอทีแบรนด์ A...."
2. ไม่ใจร้อนเพียงแค่เห็นว่า hot price
3. เราจะหากระทู้อ่านในการตรวจคอนโดเบื้องต้นด้วยตนเอง และ ใช้บริษัทตรวจให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ
หากมีข้อสงสัยจุดไหน ถามได้เลย เดี๋ยวเรามาตอบค่ะ
อุทาหรณ์โง่ๆของผู้หญิงคนหนึ่งกับการจองคอนโด
ประมาณปลายปีนี้หลายท่านคงจะจำได้ว่า มีงานคอนโดแบรนด์เอ ที่ห้างดัง
ซึ่งตัวเราเอง อยากได้คอนโดเพื่ออยู่เอง และทำเลติดรถไฟฟ้า ที่ราคาไม่เกิน3ล้านบาท
เราได้ตัดสินใจจองห้อง hot price ราคา2.4ล้านบาท 1 bed
เพราะคิดว่า เอ่อ....จากซอยหนึ่ง เข้ามาเกือบกิโล ไกลหน่อย แต่มีรถรับส่ง มีวิน10บาท ขึ้นbtsได้เลย
ราคาจอง 10000 บาท แต่ต้องโอนห้องภายใน14 พย. นี้ จึงจะได้โปรโมชั่นในงาน
ทางคอนโดให้เรายื่นกู้ไป4ธนาคาร ได้แก่ K...,KT...,B..., และ S
ซึ่ง แบ๊งแรก ไม่ติดต่อกลับมาเลย มีแต่2,3 ที่ติดต่อกลับมา และS ติดต่อมาสุดท้าย(โทรมาตอนเราตรวจคอนโดเสร็จ)
และขอบอกว่า S พูดจาด้วยน้ำเสียงที่แย่มาก บอกให้เราส่งเอกสารเพิ่ม เพราะข้อมูลไม่พอกู้ เราก็ค่ะๆ เด๋วจะส่งเพิ่มไป
จนต้นเดือนที่ผ่านมา เราได้ให้บริษัทตรวจคอนโดชื่อดังในพันธิป ไปตรวจห้องให้ ...ปรากฎว่า ห้องสาหัสมาก ต้องรื้อฝ้า รื้อพื้น ทำกำแพง นั่นโน่นนี่ใหม่ทั้งหมด แล้ววิศกรแอบกระซิบว่า ถ้าน้องอยู่เอง พี่ไม่แนะนำให้เอาห้องนี้ มันเน่าจริงๆ งานไม่ดีเลย ดูเหมือนเจ้าของห้องเก่าถอดใจแล้วโครงการเอามาขายต่อราคาถูก ถ้าเป็นไปได้ลองโทรไปบอกธนาคารให้อณุมัติเปน ไม่ผ่าน จะได้เงินจองคืน
เพราะถึงแก้งานไปเพื่อให้ทันโอน14นี้ (ภายในอาทิตย์เดียว) ก็ไม่ทันอยู่ดี
ตรงนี้เราพลาดเอง ที่รอธนาคารติดต่อกลับมาแล้วค่อยไปตรวจ เราน่าจะรีบตรวจไปตั้งแต่แรกๆ
พอตรวจเสร็จ เย็นนั้นหลังSโทรมา เซลส์โทรมากระหน่ำเราด้วยน้ำเสียงตำหนิว่า ทางโครงการห้ามตรวจคอนโดก่อนรับโอน (แต่พี่ๆในนี้บอกห้องต้องตรวจและแก้ให้เสร็จก่อนรับโอนนี่นา) เขาถามว่าตรวจไปหรือยัง เราบอกตรวจไปแล้วค่ะ แล้วเขาก็บอกว่า ห้ามตรวจบลาๆๆอยู่สักพักแล้ววางไป
เราก็คิดได้แล้วล่ะ ว่าจะไม่เอา เพราะถ้าห้องเน่า และพูดจากับเราแบบนี้
เราให้แม่ด่าที่เสียเงินหมื่น ดีกว่าผ่อนเงินเป็นล้าน เพื่อได้ห้องเน่าและไกลจากถนนใหญ่ขนาดนั้น
แถมที่บ้านเราต้องมาเป็นห่วงเรื่องการเดินทางอีกด้วย ซอยค่อนข้างลึกค่ะ คุณแม่กับคุณยายมาดูทีนึงก็บอกว่า มึนลึกไปนะ
เราเลยประกาศขายใบจอง และโทรไปบอกธนาคารทั้งสามว่า ให้เราไม่ผ่าน และถ้าเราจะกู้ซื้อคอนโดครั้งหน้า เราจะบอกว่าเรามีพวกคุณอยู่แล้ว ซึ่ง ธนาคาร 2,3 บอกโอเค แถม 3 บอกใบ้ให้ดูคอนโดของdeveloper อื่นๆให้ด้วย
แต่S ....."ทำไมละคะ ทำไมไม่ผ่าน"
"ก็เอกสารเราไม่ครบนี่คะ แล้วก็..."
ทางโน่นกระแทกเสียงมา"มันจะไม่ผ่านได้ไงคะ เงินน้องตั้งขนาดนี้!!!!"
"ก็พี่ขอเอกสารเพิ่มนี่คะ เพราะว่าข้อมูลไม่พอ"
"ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ไม่ได้ เอกสารรอบแรกที่น้องส่งมา ธนาคารเห็น คอนโดก็เห็นเหมือนกัน ยังไงก็ผ่านค่ะ"
"โอเค ขอบคุณค่ะ"
เอ่อออพูดกันดีๆก็ได้ ไม่เห็นต้องใส่อารมณ์เลย
เราได้โทรไปขอโทษคุณพ่อคุณแม่ ว่าเราดูไม่ดีเองทำให้ต้องเสียเงิน10000ไป
ท่านก็บอกว่า "งั้นค่อยๆดูไปละกัน ไม่ต้องรีบก็ได้ งานเราก็ยังไม่มั่นคง ใจเย็นๆ" T T
สรุป
1. เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ๆในนี้ถึงบอก "พอทีแบรนด์ A...."
2. ไม่ใจร้อนเพียงแค่เห็นว่า hot price
3. เราจะหากระทู้อ่านในการตรวจคอนโดเบื้องต้นด้วยตนเอง และ ใช้บริษัทตรวจให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ
หากมีข้อสงสัยจุดไหน ถามได้เลย เดี๋ยวเรามาตอบค่ะ