เกิดเรื่องรถยนต์ของคู่กรณีเป็นฝ่ายผิด เนื่องจากออกจากซอย โดยไม่ดูรถทางตรง ทำให้แฟนซึ่งขี่มอเตอร์ไซด์ หลบไม่ทัน ชนเข้าตรงส่วนล้อขวาด้านหน้า
ตั้งแต่เกิดเรื่องตัวแทนประกันไม่เคยมาติดต่อดูแล ทั้งๆที่ต้องนอนโรงพยาบาล ส่วนคู่กรณีมาหาที่ รพ. เพื่อมาถ่ายบัตรประชาชนส่งให้ตัวแทน
พอออกจากรพ.ในวันที่ 23 ตุลา เวลาประมาณ บ่ายโมง ได้นัดคู่กรณีไปตกลงกันที่โรงพัก (คู่กรณี ได้แจ้งไว้ว่า พี่ออกจาก รพ. ตอนไหน ให้โทรนัดมาเลย) แต่ตัวแทนได้อ้างว่า อยู่ต่างจังหวัด เลยเลื่อนเป็นวันรุ่งขึ้น
ซึ่งระหว่างที่ตกลงค่าสินไหม ทางตัวแทนได้หลุดปากออกมาเองว่า เมื่อวาน ช่วงเช้าไปวัด หลังจากนั้นไปนั่งตากแอร์อยู่ออฟฟิศทั้งวัน
หลังจากตกลงเรียกค่าเสียหายกันเรียบร้อยที่ 40000 ไม่รวมค่าซ่อมรถ เพราะต้องนอน รพ. มีใบเสร็จพร้อมทั้งใบรับรองแพทย์ให้เรียบร้อย
รอไปประมาณ 2 อาทิตย์ ไม่มีการส่งข่าว ต้องโทรไปติดตามผล ทางตัวแทนจึงบอกว่า บริษัทจะจ่ายแค่ 13000 เลยถามว่า เอาอะไรมาคิด ค่ารพ. ก้อ 19000 แล้ว ยังจะมีค่าทำกายภาพอีก (ไม่มีคนเดินเรื่องพรบ.ให้ เพราะนอนรักษาตัวรพ. และบังเอิญมีสวัสดิการของบริษัท และ ประกันชีวิตส่วนตัว จึงไม่เดือดร้อน)
ทางตัวแทนได้บอกว่า ก้อพี่ไม่ได้จ่ายตังค์เองสักบาท ประกันของพี่จ่ายทั้งนั้น พี่จะเรียกร้องอะไร ค้าใช้จ่ายประกันของพี่จ่ายทั้งหมด แล้วพี่รู้ได้ไงว่าประกันของพี่จะไม่มาไล่เบี้ยจากผม พี่ไม่รู้เรื่อง พี่อย่ามาพูด ตอนนั้น ก็ยัง งง ๆ เพราะไม่เข้าใจ แต่หลังจากสอบถามเพื่อนที่เคยขายประกัน เลยได้ความรู้มาว่า ประกันบุคคล กับ ประกัยรถยนต์ ไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายกันได้ เพราะคุ้มครองไม่เหมือนกัน เลยเรียกไปใหม่ คราวนี้ 30000 บอกถ้าได้น้อยกว่านี้ จะไม่รับ
ครั้งสุดท้าย ก็ต้องโทรไปตามเรื่องเอง พอคุณตัวแทนรับสาย ก็เลยถามไปว่า ไหนนัดจะแจ้งต้ังแต่ วันจันทร์ที่ผ่านมา นี้ก็ครบอาทิตย์แล้ว เลยโทรตาม แต่คำตอบที่ได้รับ คือ ผมลืม พร้อมทั้งบอกว่า ครั้งนี้ ได้เต็มที่แล้ว 25000 พี่ก็รับๆไปเถอะ จะได้มีเงินไว้เที่ยวปีใหม่ แฟนบอกว่า ของปรึกษากับคนที่บ้านก่อน คุณตัวแทน บอกว่า โอ๊ยไม่ต้องถามเมียพี่หรอก พี่ก้อรับๆ ไปเถอะ จะได้มีเงินไว้ใช้ ไว้เที่ยวตอนปีใหม่ (พูดย้ำเป็นครั้งที่ 2 ) ถ้าพี่ไม่รับนะ ไปฟ้องร้อง ยุ่งยากเปล่าๆ ต้องเดินเรื่องกันอีกเยอะ เสียเวลา แฟนไม่อยากมากเรื่อง เลยตัดสินใจตกลง คุณตัวแทนเลยบอกว่า มันพี่ ถ่ายบัตรประชาชน และ ทะเบียนบ้านส่งให้ผมนะ เดี๋ยวผมจัดการให้
ขอโทษนะคะ อยากจะบอกคุณๆ ตัวแทนว่า คงไม่ลงทุนเจ็บตัว เพื่อเอาเงินสินไหมไปเที่ยวหรอกคะ เพราะทำงาน มีเงินเดือน มีโบนัส
ทางบริษัทน่าจะมีการอบรมพนักงาน ให้เคารพในสิทธิของคู่กรณีหน่อยนะคะ ถึงจะขี่มอเตอร์ไซด์ก็ไม่ใช่จะมาดูถูกกันได้นะคะ
อยากแบ่งปันประสบการณ์แย่ๆ ที่ได้รับจากตัวแทนบริษัทประกันรถ ทั้งๆที่ ลูกค้าคุณเป็นฝ่ายขับขี่ อย่างผิดกฏจราจร และประมาท
บอกเล่าประสบการณ์ที่เจอจากตัวแทนบ.ประกันรถ แห่งหนึ่ง
ตั้งแต่เกิดเรื่องตัวแทนประกันไม่เคยมาติดต่อดูแล ทั้งๆที่ต้องนอนโรงพยาบาล ส่วนคู่กรณีมาหาที่ รพ. เพื่อมาถ่ายบัตรประชาชนส่งให้ตัวแทน
พอออกจากรพ.ในวันที่ 23 ตุลา เวลาประมาณ บ่ายโมง ได้นัดคู่กรณีไปตกลงกันที่โรงพัก (คู่กรณี ได้แจ้งไว้ว่า พี่ออกจาก รพ. ตอนไหน ให้โทรนัดมาเลย) แต่ตัวแทนได้อ้างว่า อยู่ต่างจังหวัด เลยเลื่อนเป็นวันรุ่งขึ้น
ซึ่งระหว่างที่ตกลงค่าสินไหม ทางตัวแทนได้หลุดปากออกมาเองว่า เมื่อวาน ช่วงเช้าไปวัด หลังจากนั้นไปนั่งตากแอร์อยู่ออฟฟิศทั้งวัน
หลังจากตกลงเรียกค่าเสียหายกันเรียบร้อยที่ 40000 ไม่รวมค่าซ่อมรถ เพราะต้องนอน รพ. มีใบเสร็จพร้อมทั้งใบรับรองแพทย์ให้เรียบร้อย
รอไปประมาณ 2 อาทิตย์ ไม่มีการส่งข่าว ต้องโทรไปติดตามผล ทางตัวแทนจึงบอกว่า บริษัทจะจ่ายแค่ 13000 เลยถามว่า เอาอะไรมาคิด ค่ารพ. ก้อ 19000 แล้ว ยังจะมีค่าทำกายภาพอีก (ไม่มีคนเดินเรื่องพรบ.ให้ เพราะนอนรักษาตัวรพ. และบังเอิญมีสวัสดิการของบริษัท และ ประกันชีวิตส่วนตัว จึงไม่เดือดร้อน)
ทางตัวแทนได้บอกว่า ก้อพี่ไม่ได้จ่ายตังค์เองสักบาท ประกันของพี่จ่ายทั้งนั้น พี่จะเรียกร้องอะไร ค้าใช้จ่ายประกันของพี่จ่ายทั้งหมด แล้วพี่รู้ได้ไงว่าประกันของพี่จะไม่มาไล่เบี้ยจากผม พี่ไม่รู้เรื่อง พี่อย่ามาพูด ตอนนั้น ก็ยัง งง ๆ เพราะไม่เข้าใจ แต่หลังจากสอบถามเพื่อนที่เคยขายประกัน เลยได้ความรู้มาว่า ประกันบุคคล กับ ประกัยรถยนต์ ไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายกันได้ เพราะคุ้มครองไม่เหมือนกัน เลยเรียกไปใหม่ คราวนี้ 30000 บอกถ้าได้น้อยกว่านี้ จะไม่รับ
ครั้งสุดท้าย ก็ต้องโทรไปตามเรื่องเอง พอคุณตัวแทนรับสาย ก็เลยถามไปว่า ไหนนัดจะแจ้งต้ังแต่ วันจันทร์ที่ผ่านมา นี้ก็ครบอาทิตย์แล้ว เลยโทรตาม แต่คำตอบที่ได้รับ คือ ผมลืม พร้อมทั้งบอกว่า ครั้งนี้ ได้เต็มที่แล้ว 25000 พี่ก็รับๆไปเถอะ จะได้มีเงินไว้เที่ยวปีใหม่ แฟนบอกว่า ของปรึกษากับคนที่บ้านก่อน คุณตัวแทน บอกว่า โอ๊ยไม่ต้องถามเมียพี่หรอก พี่ก้อรับๆ ไปเถอะ จะได้มีเงินไว้ใช้ ไว้เที่ยวตอนปีใหม่ (พูดย้ำเป็นครั้งที่ 2 ) ถ้าพี่ไม่รับนะ ไปฟ้องร้อง ยุ่งยากเปล่าๆ ต้องเดินเรื่องกันอีกเยอะ เสียเวลา แฟนไม่อยากมากเรื่อง เลยตัดสินใจตกลง คุณตัวแทนเลยบอกว่า มันพี่ ถ่ายบัตรประชาชน และ ทะเบียนบ้านส่งให้ผมนะ เดี๋ยวผมจัดการให้
ขอโทษนะคะ อยากจะบอกคุณๆ ตัวแทนว่า คงไม่ลงทุนเจ็บตัว เพื่อเอาเงินสินไหมไปเที่ยวหรอกคะ เพราะทำงาน มีเงินเดือน มีโบนัส
ทางบริษัทน่าจะมีการอบรมพนักงาน ให้เคารพในสิทธิของคู่กรณีหน่อยนะคะ ถึงจะขี่มอเตอร์ไซด์ก็ไม่ใช่จะมาดูถูกกันได้นะคะ
อยากแบ่งปันประสบการณ์แย่ๆ ที่ได้รับจากตัวแทนบริษัทประกันรถ ทั้งๆที่ ลูกค้าคุณเป็นฝ่ายขับขี่ อย่างผิดกฏจราจร และประมาท