สวัสดีค่ะ เราขอปรึกษาหน่อยค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อเดือน ต.ค. ปี 58 แฟนเรากับเพื่อนอีก 2 คน ได้ขี่มอไซค์ โดนรถยนต์ยูเทินกลับรถตัดหน้าวิ่งมาชน เป็นเหตุให้ ทั้ง 3 คนได้รับบาดเจ็บ ค่ะ ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ ว่ารถยนต์ผิดผิด ส่วน ทั้ง 3 คนต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล คนแรก กระโหลกหน้าผากร้าว หมอให้อยู่โรงบาลแค่ 5 วัน
คนที่สอง กระดูกสโพกต้นขาขวาหัก ต้องใส่เหล็กในโพรงกระดูก อยู่โรงพยาบาล 14 วัน
คนที่สาม กระดูกสโพกด้านขวาเคลื่อน ฟันโยก อยู่โรงบาล 30 วัน
ค่ารักษา พรบ.ออกส่วนที่เกินมา บริษัทประกันจ่ายค่ะ (เราเข้าโรงพยาบาลรัฐด้วยความคิดที่ว่าเรากลัวคู่กรณีไม่จ่ายค่ะและด้วยความเห็นใจเค้ามันจึงเกิดเรื่องค่ะ)
เพราะตั้งแต่เข้ารักษาโรงพยาบาล บริษัทประกันไม่เคยมาเดินเรื่องเลยค่ะ เราต้องวิ่งเรื่องเองทั้งหมด ไม่ว่าจะต้องวิ่งไปโรงพัก วิ่งเรื่องเอกสาร ประกันไม่มาถามไถ่อะไรเลย เราต้องคอยติดต่อสอบถามตัวแทนประกันตลอดเลยว่าต้องใช้อะไรบ้าง พอโทรถามคู่กรณี คู่กรณีก้อบอกปัดแต่ว่า เดี๋ยวถามประกันก่อน อยู่ตลอดเวลา มาเยี่ยมแฟน เรา แค่ 2 ครั้ง เอง ในตอนที่อยู่โรงบาล เราเองก้อคิดว่าเดี๋ยวเค้าคงตามประกันให้เราเอง อ๋อลืมบอกไปว่า รถยนต์คู่กรณี ทำประกันภัย ชั้น 1 ค่ะ แต่ผลประกฎว่า เค้าไม่เคยคุยเรื่องค่าเสียหายกับเราเลย จนแฟนเราออกจาก โรงพยาบาล แฟนเราก้อไปให้ปากคำที่โรงพักเพื่อลงบันทึกประจำวันค่ะ ตัวแทนประกันของรถยนต์มานะค่ะ พูดจาดูดีมาก แต่แอบแฝงด้วยความเลวค่ะ
ตัวแทนประกัน : พอเจอหน้ากัน มันบอกเราว่า น้องคิดค่าสินไหมมาเลยนะ ว่าจะเรียกเท่าไหร่ คำนวนมาเลย พี่แนะนำให้ว่าต้องคิดอะไรบ้าง
1. มีค่าหยุดงาน
2. ค่ารักษาต่อเนื่อง ค่านู้ ค่านี่ คือมันแนะนำคำ
พี่ชายเราที่ไปด้วยเลยตอบไปว่า อ๋อคิดมาแล้วล่ะ ไหนขอใบที่จะต้องกรอกเรียกเคลมค่าสินไหมหน่อย มันตอบกลับมาว่า พอดีผมไม่ได้เอามา
พอหลังจากนั้นเราก้อพากันไปพบร้อยเวรเจ้าของเรื่อง ค่ะ คู่กรณีเราบอกว่า เค้าจะให้ 10,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางค่ะ แต่มันให้ลงบันทึกประจำวัน โดยเงินนี้ แบ่งกัน 3 คนนะค่ะ เราเลยถามไปว่า ทำไมต้องลงบันทึก ในเหมือนให้เป็นค่าเสียเวลานิ อีตัวแทนประกันบอกว่า ไม่เป็นไหรหรอก ไม่มีผลต่อการเรียกสินไหม (แต่ที่เราถามมาคือ มีผลนะค่ะ เงินนี้ถ้าลงจะกลายเป็นเงินค่าสินไหมไปในทันที่ค่ะ) เราเลยไม่ขอรับเงินตัวนี้ พอหลังจากนั้น ทั้งตัวแทนประกันและ คู่กรณีไม่เคยติดต่อมาเลย จนทิ้งเวลามานาน เมื่อต้นเดือน มกราคม เค้าไลน์มาถามแค่ว่าแฟนเราหายดีหรือยัง เราตอบกลับไปว่ายัง หมอบอกกระดูกติดนิดเดียวเอง ประมาณ 10ใน 100 % ค่ะ ถามมาแค่นี้ค่ะ เราเลยโทรไปหาตัวแทนประกันค่ะ บอกว่าจะขอเรียกสินไหม ยังไม่เห็นเอาเอกสารมาให้กรอกสักที ตัวแทนตอบกลับมาว่า ให้เราไปขอคัดประวัติคนไข้ที่โรงพยาบาลมาก่อน เอาง่ายๆ คือ การบอกปัดคะ่ หลังจากวันนั้น ล่วงเลยกินเวลา มาจน เดือน พ.ค. 2559 ค่ะ เรื่องยังไม่ไปถึงไหน เราจึงไปที่ร้อยเวรเจ้าของเรื่องเพื่อทำเรื่องขึ้นศาลค่ะ (แต่เราแปลกใจมาก เพราะคู่กรณี โทรหาแต่คนโดนชน คนที่ 3 อย่างเดียวเลย ไม่เคยโทรหาเรากับเพื่อนอีกคนเลยค่ะ) ร้อยเวรทำเรื่องให้ *****และแจ้งให้คู่กรณีมาเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา หลังจากนั้นเดือน มิ.ย.59 ปลายเดือน กรมควบคุมประพฤติก้อโทรมานัดให้เรา 3 คนไปสืบเสาะ และพิมพ์เอกสารเพื่อส่งเรื่องขึ้นศาลค่ะ พอเดือน ก.ค. 59 นี้ ศาลก้อได้เรียกเราไปขึ้นศาล โดยไม่ได้มีหมายศาลมาที่บ้าน และไม่มีเอกสารใดๆ มาที่บ้านเลย เราได้รับข่าวนี้ จะเพื่อนคนที่ 3 ที่ถูกชนด้วยกัน บอกเราว่า กรมควบคุมประพฤติโทรมาบอกให้ไปและหมายศาลพิมพ์ส่งให้ไม่ทัน เรากับแฟนไม่เคยขึ้นศาลมาก่อน เราจึงไม่รู้ต้องทำอย่างไรบ้าง เราก็ไปนั้งฟังศาลนั้งอ่านคำพิพากษาค่ะ
ศาล : อ่านว่า คู่กรณีรับผิด ให้จำคุกและเสียค่าปรับ แต่เนื่องด้วยคู่กรณีไม่เคยทำความผิด ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ให้ไปเสียค่าปรับ และเนื่องด้วย บริษัทประกันและคู่กรณีได้นำเงินค่าเสียหายมาวางไว้ให้ จึงให้ผู้เสียหายไปรับเงินได้ที่ห้องการเงิน ค่ะ (แค่นี้ค่ะ ศาลไม่ได้หันมาถามเราเลยว่าคัดค้านไม่ ซึ่งเราก้อไม่รู้ว่ายกมือคัดค้านได้ แถมรายละเอียดมีแค่นี้ คืองง ) ก้อเลยลงไปที่ห้องการเงิน และถามเจ้าหน้าที่ตรงนั้นค่ะ ว่า เงินนี้ มีแยกรายละเอียดอย่างไรบ้าง ได้คำตอบกลับมากว่า
เป็นเงินของ บริษัทประกัน 150,000 เงินคู่กรณี 20,000 ค่ะ
แยกให้เป็น ของคนที่ 3 110,000 (คือคนที่ สโพกเคลือน ฟันโยกค่ะ )
แยกให้เป็น ของคนที่ 2 37,000 (คือคนที่ สโพกขาขวาหัก ต้องใส่เหล็กดาม)
แยกให้เป็น ของคนที่ 1 23,000 (คือคนที่ หน้าผากร้าว) ..................
เราเลยเลยมาเอ๊ะใจตรง คนที่ 3 นี่แหละค่ะ ว่าทำไม คู่กรณีโทรหาบ่อยมาก (แต่กับอีก 2 คนไม่เคยโทรหาเลย)
ตอนนี้ ผ่านมา 9 เดือนแล้ว คนที่ 1,3 คือปกติ หมดแล้ว ทำงานได้แล้ว
ส่วนคนที่ 2 หมอนัดตรวจอาการและเอ๊กซเรย์ทุกเดือน กระดูกยังติดไม่สนิทดี หมอสั่งห้ามยกของหนัก ตอนนี้ต้องตกงานเพราะหยุดงานนานแล้ว สภาพตอนนี้คือ เดินได้แต่เดินตัวเอียงๆ เสียบุคลิก *********** เลยสงสัยว่าเค้าเอาอะไรในการตัดสินค่ะ ในการจ่ายมาแบบนี้
ปล. เงินส่วนนี้เราก้อไม่ได้รับมานะค่ะ เพราะเราว่าเราจะฟ้องแพ่งค่ะ
ขอความคิดเห็นด้วยนะค่ะ...ขอบคุณค่ะ
ขอปรึกษากฎหมายเรียกสินไหม กรณีโดนรถชน
คนที่สอง กระดูกสโพกต้นขาขวาหัก ต้องใส่เหล็กในโพรงกระดูก อยู่โรงพยาบาล 14 วัน
คนที่สาม กระดูกสโพกด้านขวาเคลื่อน ฟันโยก อยู่โรงบาล 30 วัน
ค่ารักษา พรบ.ออกส่วนที่เกินมา บริษัทประกันจ่ายค่ะ (เราเข้าโรงพยาบาลรัฐด้วยความคิดที่ว่าเรากลัวคู่กรณีไม่จ่ายค่ะและด้วยความเห็นใจเค้ามันจึงเกิดเรื่องค่ะ)
เพราะตั้งแต่เข้ารักษาโรงพยาบาล บริษัทประกันไม่เคยมาเดินเรื่องเลยค่ะ เราต้องวิ่งเรื่องเองทั้งหมด ไม่ว่าจะต้องวิ่งไปโรงพัก วิ่งเรื่องเอกสาร ประกันไม่มาถามไถ่อะไรเลย เราต้องคอยติดต่อสอบถามตัวแทนประกันตลอดเลยว่าต้องใช้อะไรบ้าง พอโทรถามคู่กรณี คู่กรณีก้อบอกปัดแต่ว่า เดี๋ยวถามประกันก่อน อยู่ตลอดเวลา มาเยี่ยมแฟน เรา แค่ 2 ครั้ง เอง ในตอนที่อยู่โรงบาล เราเองก้อคิดว่าเดี๋ยวเค้าคงตามประกันให้เราเอง อ๋อลืมบอกไปว่า รถยนต์คู่กรณี ทำประกันภัย ชั้น 1 ค่ะ แต่ผลประกฎว่า เค้าไม่เคยคุยเรื่องค่าเสียหายกับเราเลย จนแฟนเราออกจาก โรงพยาบาล แฟนเราก้อไปให้ปากคำที่โรงพักเพื่อลงบันทึกประจำวันค่ะ ตัวแทนประกันของรถยนต์มานะค่ะ พูดจาดูดีมาก แต่แอบแฝงด้วยความเลวค่ะ
ตัวแทนประกัน : พอเจอหน้ากัน มันบอกเราว่า น้องคิดค่าสินไหมมาเลยนะ ว่าจะเรียกเท่าไหร่ คำนวนมาเลย พี่แนะนำให้ว่าต้องคิดอะไรบ้าง
1. มีค่าหยุดงาน
2. ค่ารักษาต่อเนื่อง ค่านู้ ค่านี่ คือมันแนะนำคำ
พี่ชายเราที่ไปด้วยเลยตอบไปว่า อ๋อคิดมาแล้วล่ะ ไหนขอใบที่จะต้องกรอกเรียกเคลมค่าสินไหมหน่อย มันตอบกลับมาว่า พอดีผมไม่ได้เอามา
พอหลังจากนั้นเราก้อพากันไปพบร้อยเวรเจ้าของเรื่อง ค่ะ คู่กรณีเราบอกว่า เค้าจะให้ 10,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางค่ะ แต่มันให้ลงบันทึกประจำวัน โดยเงินนี้ แบ่งกัน 3 คนนะค่ะ เราเลยถามไปว่า ทำไมต้องลงบันทึก ในเหมือนให้เป็นค่าเสียเวลานิ อีตัวแทนประกันบอกว่า ไม่เป็นไหรหรอก ไม่มีผลต่อการเรียกสินไหม (แต่ที่เราถามมาคือ มีผลนะค่ะ เงินนี้ถ้าลงจะกลายเป็นเงินค่าสินไหมไปในทันที่ค่ะ) เราเลยไม่ขอรับเงินตัวนี้ พอหลังจากนั้น ทั้งตัวแทนประกันและ คู่กรณีไม่เคยติดต่อมาเลย จนทิ้งเวลามานาน เมื่อต้นเดือน มกราคม เค้าไลน์มาถามแค่ว่าแฟนเราหายดีหรือยัง เราตอบกลับไปว่ายัง หมอบอกกระดูกติดนิดเดียวเอง ประมาณ 10ใน 100 % ค่ะ ถามมาแค่นี้ค่ะ เราเลยโทรไปหาตัวแทนประกันค่ะ บอกว่าจะขอเรียกสินไหม ยังไม่เห็นเอาเอกสารมาให้กรอกสักที ตัวแทนตอบกลับมาว่า ให้เราไปขอคัดประวัติคนไข้ที่โรงพยาบาลมาก่อน เอาง่ายๆ คือ การบอกปัดคะ่ หลังจากวันนั้น ล่วงเลยกินเวลา มาจน เดือน พ.ค. 2559 ค่ะ เรื่องยังไม่ไปถึงไหน เราจึงไปที่ร้อยเวรเจ้าของเรื่องเพื่อทำเรื่องขึ้นศาลค่ะ (แต่เราแปลกใจมาก เพราะคู่กรณี โทรหาแต่คนโดนชน คนที่ 3 อย่างเดียวเลย ไม่เคยโทรหาเรากับเพื่อนอีกคนเลยค่ะ) ร้อยเวรทำเรื่องให้ *****และแจ้งให้คู่กรณีมาเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา หลังจากนั้นเดือน มิ.ย.59 ปลายเดือน กรมควบคุมประพฤติก้อโทรมานัดให้เรา 3 คนไปสืบเสาะ และพิมพ์เอกสารเพื่อส่งเรื่องขึ้นศาลค่ะ พอเดือน ก.ค. 59 นี้ ศาลก้อได้เรียกเราไปขึ้นศาล โดยไม่ได้มีหมายศาลมาที่บ้าน และไม่มีเอกสารใดๆ มาที่บ้านเลย เราได้รับข่าวนี้ จะเพื่อนคนที่ 3 ที่ถูกชนด้วยกัน บอกเราว่า กรมควบคุมประพฤติโทรมาบอกให้ไปและหมายศาลพิมพ์ส่งให้ไม่ทัน เรากับแฟนไม่เคยขึ้นศาลมาก่อน เราจึงไม่รู้ต้องทำอย่างไรบ้าง เราก็ไปนั้งฟังศาลนั้งอ่านคำพิพากษาค่ะ
ศาล : อ่านว่า คู่กรณีรับผิด ให้จำคุกและเสียค่าปรับ แต่เนื่องด้วยคู่กรณีไม่เคยทำความผิด ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ให้ไปเสียค่าปรับ และเนื่องด้วย บริษัทประกันและคู่กรณีได้นำเงินค่าเสียหายมาวางไว้ให้ จึงให้ผู้เสียหายไปรับเงินได้ที่ห้องการเงิน ค่ะ (แค่นี้ค่ะ ศาลไม่ได้หันมาถามเราเลยว่าคัดค้านไม่ ซึ่งเราก้อไม่รู้ว่ายกมือคัดค้านได้ แถมรายละเอียดมีแค่นี้ คืองง ) ก้อเลยลงไปที่ห้องการเงิน และถามเจ้าหน้าที่ตรงนั้นค่ะ ว่า เงินนี้ มีแยกรายละเอียดอย่างไรบ้าง ได้คำตอบกลับมากว่า
เป็นเงินของ บริษัทประกัน 150,000 เงินคู่กรณี 20,000 ค่ะ
แยกให้เป็น ของคนที่ 3 110,000 (คือคนที่ สโพกเคลือน ฟันโยกค่ะ )
แยกให้เป็น ของคนที่ 2 37,000 (คือคนที่ สโพกขาขวาหัก ต้องใส่เหล็กดาม)
แยกให้เป็น ของคนที่ 1 23,000 (คือคนที่ หน้าผากร้าว) ..................
เราเลยเลยมาเอ๊ะใจตรง คนที่ 3 นี่แหละค่ะ ว่าทำไม คู่กรณีโทรหาบ่อยมาก (แต่กับอีก 2 คนไม่เคยโทรหาเลย)
ตอนนี้ ผ่านมา 9 เดือนแล้ว คนที่ 1,3 คือปกติ หมดแล้ว ทำงานได้แล้ว
ส่วนคนที่ 2 หมอนัดตรวจอาการและเอ๊กซเรย์ทุกเดือน กระดูกยังติดไม่สนิทดี หมอสั่งห้ามยกของหนัก ตอนนี้ต้องตกงานเพราะหยุดงานนานแล้ว สภาพตอนนี้คือ เดินได้แต่เดินตัวเอียงๆ เสียบุคลิก *********** เลยสงสัยว่าเค้าเอาอะไรในการตัดสินค่ะ ในการจ่ายมาแบบนี้
ปล. เงินส่วนนี้เราก้อไม่ได้รับมานะค่ะ เพราะเราว่าเราจะฟ้องแพ่งค่ะ
ขอความคิดเห็นด้วยนะค่ะ...ขอบคุณค่ะ