นอนในรถ, รถติดแก้ส, การปฐมพยาบาล, มนุษย์กล้อง, โรบินสันฉะเชิงเทรา

เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นนี้เวลาประมาณ 6 โมงเย็น ขณะที่ผมกำลังออกจากโรบินสันกลับไปที่รถ เห็นพนักงานกลุ่มนึงประมาณ 4-5 คนกำลังมุงรถที่สตาร์ททิ้งไว้ เลยเดินเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น พนักงานผู้หญิงบอกว่าเพื่อนของเค้าอยู่ในรถตั้งนานแล้วไม่ออกมาจากรถ เคาะเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกตัว ทุกคนเป็นห่วงคนข้างในมาก

พนักงานบอกว่ารถคันนี้ติดแก้ส รอบๆบริเวณรถกลิ่นแก้สคละคลุ้งไปทั่ว ผมนึกย้อนกลับไปเคยได้ยินข่าวที่ว่ามีคนนอนในรถแล้วเหมือนว่าแก้สอาจจะรั่วแล้วมันย้อนกลับเข้าไปในรถทำให้ในรถคละคลุ้งโดยที่คนนอนหลับนั้นไม่สามารถรู้สึกตัวได้เลยว่ากำลังจะเกิดอันตรายขึ้นกับตัวเองจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

พอนึกได้ดังนั้นก็เลยบอกพนักงานไปว่าให้ทุบกระจกรถซะ อย่าปล่อยให้เสี่ยงไปมากกว่านี้ ตัวผมเองก็วิ่งไปที่รถเพื่อหาอะไรที่มันพอจะทุบกระจกได้บ้าง พอวิ่งกลับมาก็ปรากฏว่ากระจกโดนทุบแล้วด้วยพนักพิงหัวที่ถอดออกมาจากรถพลเมืองดีอีกคัน

หลังจากทุบกระจกและพาตัวผู้หญิงที่สลบอยู่ในรถออกมาได้ เอาตัวออกมาในสภาพไม่ได้สติ น้ำลายฟูมปาก พลเมืองดีก็เข้ามาช่วยปฐมพยาบาล จับผู้ป่วยนอนราบกับพื้น

หลังจากนั้นผู้ป่วยก็หายใจเองได้ แต่ยังไม่ได้สติ หลายๆคนโทรเรียกรถพยาบาลที่ใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะมาถึง

ระหว่างรอรถพยาบาล เจ้าหน้าที่ของห้างที่เหมือนจะเป็นหมอได้เข้ามาช่วยดูและ โดยเอาเครื่องบีบช่วยหายใจมาช่วย

ระหว่างรอรถพยาบาลผมก็ยืนระยะออกห่างสักหน่อย เพื่อให้อากาศมันถ่ายเทได้สะดวกให้ผู้ป่วยสามารถมีอากาศได้มากขัน ช่วงนั้นผมสังเกตุเห็นผู้ป่วยมีอาการเหมือนมีอะไรจุกที่คอ สังเกตุจากใต้คางและคอที่เกร็งอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมเองบอกตรงๆว่าไม่มีความรู้เรื่องปฐมพยาบาลเลย และคิดว่าหมอก็อยู่น่าจะพอช่วยได้

เมื่อรถพยาบาลมาถึง พนักงานโรงพยาบาลยกตัวผู้ป่วยขึ้นเตียงทันที แต่ช่วงที่ยกผู้ป่วยขึ้นเตียงแล้วนั้นผมสังเกตุเห็นได้ว่าเหมือนเค้าไม่หายใจแล้ว และตาค้างอีกด้วย

ช่วงขับรถกลับมาบ้านคิดตลอดทางว่าจะเป็นยังไงบ้าง จะรอดหรือเปล่า ใครรู้จักกับผู้ป่วยแจ้งข่าวคราวหน่อยก็ดีครับ เห็นแบบนี้ละเป็นห่วงคิดมาตลอดทางจริงๆ

จากเหตุการณ์นี้ผมมีข้อสังเกตุดังนี้ครับ (ไม่ได้จับผิดแต่แค่สงสัย)

1. การปฐมพยาบาลในเคสนี้ทำเหมือนผู้ป่วยที่เป็นลมหมดสติใช่หรือไม่

2. การที่ผู้ป่วยสามารถหายใจเองได้แล้ว ถือว่าปลอดภัยจากการสูดดมแก้สแล้วหรือไม่ครับ หรือว่าการที่หายใจเองได้แล้วก็ยัง 50/50 อยู่

3. เครื่องบีบช่วยหายใจที่ใช้ สงสัยครับว่าอากาศมันก้หมุนเวียนออกจากร่างกายและเข้าไปใหม่ก็มีแต่คาร์บอนไดออกไซด์ อุปกรณ์ที่ว่านี้มันเวิร์กจริงๆหรือเปล่า

4. พนักงานของโรงพยาบาลน่าจะต้องตรวจสอบอาการผู้ป่วยและให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก่อนหรือเปล่าครับ เคสนี้มาถึงจับผู้ป่วยยกขึ้นเตียงเลยโดยไม่เห็นว่ามีการดูอาการและปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วย

5. เกือบลืมมนุษย์กล้องโซเชียล ในสถานการณ์คนจะเป็นคนจะตายแบบนั้นก็ยังมีมนุษย์กล้องโซเชียลอัดคลิปและถ่ายรูปอยู่อีกนะครับ ผมไม่รู้ว่าเค้าคิดยังไงเพราะตอนนั้นผมคิดแต่ว่าผู้ป่วยจะเป็นยังไง ทำยังไงจะช่วยผู้ป่วยได้บ้าง แต่ก็มีบางคนที่ยังอุตส่าห์อัดคลิป ถ่ายรูป เพื่อจะเอาไปลงเฟสบุค ลงยูทูปเพื่อเอาไลค์กันอีกเนอะ เห็นคนอาการแย่นาทีชีวิตแบบนี้จะอยากถ่ายไปเพื่ออะไร

ฝากถึงใครก็ตามที่ชอบนอนในรถ โดยเฉพาะสาวๆ นอนแล้วเปิดเครื่องไว้ก็ควรที่จะเปิดหน้าต่างแง้มไว้ด้วยนะครับ ข่าวออกมาเยอะแล้วว่าแก้สกลับเข้ารถไปบ้าง สตาร์ทรถนอนแล้วอยู่ดีๆรถดับบ้าง ถึงชีวิตนะครับ อย่าประมาท
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่