1) เนื่องจากทำใจมาแล้วว่าคงไม่ได้ดูฉากแอ็คชั่นอะไรมาก เน้นดราม่าซะมากกว่า ก็เลยทำให้ดูหนังได้สนุกมากขึ้นครับ แค่การแสดงของแคสนิส ก็คุ้มค่าตั๋วแล้วครับ
2) ผมชอบภาคนี้มากกว่าภาคที่แล้วนะ เพราะอย่างน้อยเนื้อเรื่องก็ดูมีเหตุมีผล และดูสมจริงสุดๆ แม้ว่าเนื้อเรื่องพอคิดย้อนไป...แทบจะไม่มีอะไรนอกจากการประชาสัมพันธ์ม็อกกิ้งเจย์ และผลกระทบหลังออกอากาศ แต่ผมชอบมากๆในรายละเอียด บทหนัง และแนวคิดต่างๆที่หนังพยายามบอกเล่าสื่อให้คนดูเข้าใจ ซึ่งมากกว่าแค่อารมณ์ผิวเผินในหนังแอ็คชั่นฮีโร่ทั่วๆไป
3) ฉากแอ็คชั่น...ก็ไม่น้อยนะ / ถ้าเปรียบเทียบกับหนังสงคราม ผมว่าแอ็คชั่นเยอะกว่าหนังสงครามทั่วๆไปด้วยซ้ำ แต่ถ้าเปรียบกับหนังไซไฟซุปเปอร์ฮีโร่...คงเปรียบกันไม่ได้ เพราะภาคนี้เน้นเรื่องสงครามจิตวิทยาซะมากกว่า / ฉากบุกตึกท้ายเรื่อง แอบมีอารมณ์ทริลเลอร์หน่อยๆ ชอบๆ
4) เจนนิเฟอร์ ลอเลนซ์ เธอน่าจะได้ออสการ์จากเรื่องนี้อีกเรื่อง เอาไปเลย..(บอกตรงๆ ดูหนังมาทั้งปี แทบไม่มีใครเข้าตาเท่ากับที่เธอแสดงในเรื่องนี้) บทที่ดูง่ายๆแต่ยาก..ก ที่จะทำให้ดูเนียนๆ เช่น บททำตัวเป็นนักแสดงไม่เก่ง เธอตีบทแตกสุดๆ ไม่ต้องพูดถึงฉากคั้นอารมณ์ที่ยิ่งซับซ้อนเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งแสดงออกได้ชัดเจนมากๆ สุดยอดจริงๆ / จริงๆนักแสดงคนอื่นก็เล่นดี แต่ถูกรัศมีการแสดงของนางเอกข่มเรียบ..บ มีที่พอดูสูสีคงมีแค่ effie เท่านั้นมั้ง
5) ยานต่างๆ การสร้างฉาก ทางทีมงานใส่ใจในรายละเอียดมากๆ ไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือกราฟฟิคก็ตาม สุดยอดมากจริงๆ ยิ่งดูลงไปในรายละเอียด เช่น การลงจอดยาน ลิฟท์ ห้องพัก การถ่ายทอดบนทีวี ยิ่งดูก็ยิ่งเห็นถึงความใส่ใจของทีมงานมากขึ้นเท่านั้น
6) ความตลกเชิงย้อนแย้ง ...ผมแอบขำหลายๆฉากเลย กับฉากซีเรียสๆเนี่ยแหละ แต่หนังก็แอบใส่อารมณ์ขันเชิงเปรียบเทียบย้อนแย้งตลอดๆ เหมือนประชดประชันแปลกๆยังไงไม่รู้
7) มุมกล้องต่างๆ บางครั้งหน้านักแสดงไม่ต้องสว่างนวลผ่องตลอดเวลาก็ได้ อาจจะดูมืดไปบ้างในฉากที่เดินในมุมตึก แต่ค่อยๆสว่างสมจริงในฉากถัดมา.ช่วยถ่ายทอดอารมณ์ของฉากนั้นๆได้ดีมากยิ่งขึ้น (ดูๆไปก็แอบขำละครไทยไม่ได้ที่นางเอกพระเอกต้องหน้าเด้งซะ..ตลอดเวลา)
8) แซวหนัง
- แคสนิส เธอเหนื่อกว่าพีต้า คงตรงที่เธอเป็นครีเอทีฟได้ดีอย่างไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะไอเดียประโยคฮิต สโลแกนฮิต รวมถึงเพลงฮิต
- พีต้า ทีมงานแต่งตัวเหมือนแบชเชอเลอร์มากๆ สูทลายแปลกๆ ดูล้นๆดี
- การปราศรัยผ่านทีวีของนายก ทำไมต้องถ่ายทอดสด ทำไมไม่ทำเป็นเทป หรือเพราะความมั่นใจโอเวอร์หลงตัวเองหน่อยๆว่าพูดอะไรก็ไม่ผิด เลยไม่แคร์ว่าจะพลาดเลยนะ
- เขต 13 ไม่มีประชากรเด็กเพิ่ม สงสัยคงเพราะห้องพักแน่ๆ แบบว่าเตียงเล็กมากๆ คงไม่สะดวกแน่ๆเลย
- ฉากล่าสัตว์ ดูตอนแรกแอบนึกว่าสัตว์ป่าจะเข้าใจในจิตวิญญาณของแคสนิส กลายเป็นว่ามันก็แค่สัตว์โง่ๆตัวนึงเท่านั้นเฉยเลย
- เอาเข้าจริง ฉากชู 3 นิ้วในหนัง ผมว่ามีไม่เกิน 3 ฉากได้มั้งในภาคนี้ แถมในหนังก็ไม่ได้ให้สาระสำคัญอะไรด้วย แต่ทำไมดันไปซีเรียสอะไรนักหนาน้า ถึงขั้นเรียกปรับพฤติกรรมกันเลย แปลกดีเหมือนกัน
9) สรรสาระ...การประชาสัมพันธ์มีผลต่อความนึกคิดของประชาชนอย่างมาก โชคดีที่เรื่องนี้ฝ่ายที่เราเชียร์มีทีมครีเอทีฟที่เหนือกว่า แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง..บางครั้งก็แบ่งแยกยากเหลือเกิน ว่าสิ่งที่เห็น...ใช่ความจริง หรือแค่งานประชาสัมพันธ์กันแน่
10) สรุป...งานสร้างระดับเพอร์เฟค การแสดงของนางเอกก็สุดยอด แค่นี้ก็คุ้มค่าคุ้มเวลาที่จะดูแล้วครับ (แต่เรื่องนี้ไม่ใช่หนังเบาสมอง ดูไปต้องคิดไปนิดนึง บางคนอาจไม่ชอบก็ได้)
******************************
สงสัยหรืออยากพูดคุยทักทาย เจอะกันได้ที่นี่เลยครับ
https://www.facebook.com/choord.k
หรือจะเข้าไปกด like แล้วกด get notification ที่เพจของผม จะเป็นกำลังใจให้ผมได้มากเลยครับที่
https://www.facebook.com/tomyumtumnoir
ลิงค์นี้รวบรวมรีวิวหนังที่เคยเขียนมาแล้วครับ
http://goo.gl/yDRPd7
[CR] hunger game mocking jay part 1 : ภาคสงครามประชาสัมพันธ์ ถึงไม่บู้มาก แต่ก็เต็มอิ่มกับอารมณ์หนังนะเออ
1) เนื่องจากทำใจมาแล้วว่าคงไม่ได้ดูฉากแอ็คชั่นอะไรมาก เน้นดราม่าซะมากกว่า ก็เลยทำให้ดูหนังได้สนุกมากขึ้นครับ แค่การแสดงของแคสนิส ก็คุ้มค่าตั๋วแล้วครับ
2) ผมชอบภาคนี้มากกว่าภาคที่แล้วนะ เพราะอย่างน้อยเนื้อเรื่องก็ดูมีเหตุมีผล และดูสมจริงสุดๆ แม้ว่าเนื้อเรื่องพอคิดย้อนไป...แทบจะไม่มีอะไรนอกจากการประชาสัมพันธ์ม็อกกิ้งเจย์ และผลกระทบหลังออกอากาศ แต่ผมชอบมากๆในรายละเอียด บทหนัง และแนวคิดต่างๆที่หนังพยายามบอกเล่าสื่อให้คนดูเข้าใจ ซึ่งมากกว่าแค่อารมณ์ผิวเผินในหนังแอ็คชั่นฮีโร่ทั่วๆไป
3) ฉากแอ็คชั่น...ก็ไม่น้อยนะ / ถ้าเปรียบเทียบกับหนังสงคราม ผมว่าแอ็คชั่นเยอะกว่าหนังสงครามทั่วๆไปด้วยซ้ำ แต่ถ้าเปรียบกับหนังไซไฟซุปเปอร์ฮีโร่...คงเปรียบกันไม่ได้ เพราะภาคนี้เน้นเรื่องสงครามจิตวิทยาซะมากกว่า / ฉากบุกตึกท้ายเรื่อง แอบมีอารมณ์ทริลเลอร์หน่อยๆ ชอบๆ
4) เจนนิเฟอร์ ลอเลนซ์ เธอน่าจะได้ออสการ์จากเรื่องนี้อีกเรื่อง เอาไปเลย..(บอกตรงๆ ดูหนังมาทั้งปี แทบไม่มีใครเข้าตาเท่ากับที่เธอแสดงในเรื่องนี้) บทที่ดูง่ายๆแต่ยาก..ก ที่จะทำให้ดูเนียนๆ เช่น บททำตัวเป็นนักแสดงไม่เก่ง เธอตีบทแตกสุดๆ ไม่ต้องพูดถึงฉากคั้นอารมณ์ที่ยิ่งซับซ้อนเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งแสดงออกได้ชัดเจนมากๆ สุดยอดจริงๆ / จริงๆนักแสดงคนอื่นก็เล่นดี แต่ถูกรัศมีการแสดงของนางเอกข่มเรียบ..บ มีที่พอดูสูสีคงมีแค่ effie เท่านั้นมั้ง
5) ยานต่างๆ การสร้างฉาก ทางทีมงานใส่ใจในรายละเอียดมากๆ ไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือกราฟฟิคก็ตาม สุดยอดมากจริงๆ ยิ่งดูลงไปในรายละเอียด เช่น การลงจอดยาน ลิฟท์ ห้องพัก การถ่ายทอดบนทีวี ยิ่งดูก็ยิ่งเห็นถึงความใส่ใจของทีมงานมากขึ้นเท่านั้น
6) ความตลกเชิงย้อนแย้ง ...ผมแอบขำหลายๆฉากเลย กับฉากซีเรียสๆเนี่ยแหละ แต่หนังก็แอบใส่อารมณ์ขันเชิงเปรียบเทียบย้อนแย้งตลอดๆ เหมือนประชดประชันแปลกๆยังไงไม่รู้
7) มุมกล้องต่างๆ บางครั้งหน้านักแสดงไม่ต้องสว่างนวลผ่องตลอดเวลาก็ได้ อาจจะดูมืดไปบ้างในฉากที่เดินในมุมตึก แต่ค่อยๆสว่างสมจริงในฉากถัดมา.ช่วยถ่ายทอดอารมณ์ของฉากนั้นๆได้ดีมากยิ่งขึ้น (ดูๆไปก็แอบขำละครไทยไม่ได้ที่นางเอกพระเอกต้องหน้าเด้งซะ..ตลอดเวลา)
8) แซวหนัง
- แคสนิส เธอเหนื่อกว่าพีต้า คงตรงที่เธอเป็นครีเอทีฟได้ดีอย่างไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะไอเดียประโยคฮิต สโลแกนฮิต รวมถึงเพลงฮิต
- พีต้า ทีมงานแต่งตัวเหมือนแบชเชอเลอร์มากๆ สูทลายแปลกๆ ดูล้นๆดี
- การปราศรัยผ่านทีวีของนายก ทำไมต้องถ่ายทอดสด ทำไมไม่ทำเป็นเทป หรือเพราะความมั่นใจโอเวอร์หลงตัวเองหน่อยๆว่าพูดอะไรก็ไม่ผิด เลยไม่แคร์ว่าจะพลาดเลยนะ
- เขต 13 ไม่มีประชากรเด็กเพิ่ม สงสัยคงเพราะห้องพักแน่ๆ แบบว่าเตียงเล็กมากๆ คงไม่สะดวกแน่ๆเลย
- ฉากล่าสัตว์ ดูตอนแรกแอบนึกว่าสัตว์ป่าจะเข้าใจในจิตวิญญาณของแคสนิส กลายเป็นว่ามันก็แค่สัตว์โง่ๆตัวนึงเท่านั้นเฉยเลย
- เอาเข้าจริง ฉากชู 3 นิ้วในหนัง ผมว่ามีไม่เกิน 3 ฉากได้มั้งในภาคนี้ แถมในหนังก็ไม่ได้ให้สาระสำคัญอะไรด้วย แต่ทำไมดันไปซีเรียสอะไรนักหนาน้า ถึงขั้นเรียกปรับพฤติกรรมกันเลย แปลกดีเหมือนกัน
9) สรรสาระ...การประชาสัมพันธ์มีผลต่อความนึกคิดของประชาชนอย่างมาก โชคดีที่เรื่องนี้ฝ่ายที่เราเชียร์มีทีมครีเอทีฟที่เหนือกว่า แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง..บางครั้งก็แบ่งแยกยากเหลือเกิน ว่าสิ่งที่เห็น...ใช่ความจริง หรือแค่งานประชาสัมพันธ์กันแน่
10) สรุป...งานสร้างระดับเพอร์เฟค การแสดงของนางเอกก็สุดยอด แค่นี้ก็คุ้มค่าคุ้มเวลาที่จะดูแล้วครับ (แต่เรื่องนี้ไม่ใช่หนังเบาสมอง ดูไปต้องคิดไปนิดนึง บางคนอาจไม่ชอบก็ได้)
******************************
สงสัยหรืออยากพูดคุยทักทาย เจอะกันได้ที่นี่เลยครับ https://www.facebook.com/choord.k
หรือจะเข้าไปกด like แล้วกด get notification ที่เพจของผม จะเป็นกำลังใจให้ผมได้มากเลยครับที่ https://www.facebook.com/tomyumtumnoir
ลิงค์นี้รวบรวมรีวิวหนังที่เคยเขียนมาแล้วครับ http://goo.gl/yDRPd7