คิดอยู่นานว่าจะตั้งกระทู้ดีไหม เพราะมันเหมือนเป็นการตอกย้ำตัวเอง จมอยู่กับความทุกข์
แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจตั้งกระทู้ขึ้นมา เพราะอยากเก็บไว้เป็นความทรงจำ เมื่อเวลาผ่านไป เรากลับมาอ่าน จะได้จำได้ว่าเราเคยรักเค้าแค่ไหน
เพราะผมสัญญากับเค้าไว้ว่าจากนี้ไป ชีวิตที่เหลือจะมีไว้เพื่อจดจำเค้า เค้าในที่นี้ คือดวงใจของผมครับ และเค้าเป็นสุนัข
ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ ย้อนไปเมื่อเจ็ดปีที่แล้วผมกับแฟนเราตัดสินใจซื้อสุนัขมาตัวหนึ่ง เพื่อเป็นแม่พันธุ์ เพราะช่วงนั้นผมและแฟนหลงไหลเรื่อง-
การประกวดสุนัขมาก เราสองคนหาข้อมูลมากมาย เพื่อให้ได้สุนัขที่ดีที่สุด สุดท้ายก็ไปจบที่สุนัขตัวหนึ่ง เค้าชื่อกุชชี่ครับ เป็นชื่อที่เจ้าของเก่าตั้งไว้
กุชชี่เป็นสุนัขพันธุ์ปอมครับ ตอนรับเค้ามาเลี้ยงเค้าอายุได้ 5 ขวบแล้ว กุชชี่เป็นสุนัขตัวเมียที่สวยมากครับ เค้าจะตัวเล็กๆ หน้าสั้นๆ ขนฟูๆ
แต่ที่มากกว่านั้น เค้าเป็นสุนัขที่นิสัยดีมาก ไม่กัดข้าวของ ไม่กัดอะไรเลยดีกว่า ไม่ซน ขี้อ้อน เชื่อฟัง ติดเจ้าของ(เฉพาะเจ้าของ) ไม่ก้าวร้าว
กุชชี่เป็นสุนัขที่ตัวเล็ก แต่อดทนมาก เค้าแทบไม่เคยร้องออกมาให้ได้ยินเลย ไม่ว่าจะตกรถ หรือฉีดยา แล้วกุชชี่ก็กล้าหาญมาก ไม่ยอมใคร ไม่ว่าตัวสุนัข
ตัวอื่นจะใหญ่แค่ไหน กุชชี่ก็จะสู้(แต่เป็นเห่าสู้นะครับ) และที่สำคัญที่สุด คือกุชชี่รักผมกับแฟนมาก เราไม่เคยต้องใส่สายจุงกุชชี่เลย เพราะเค้าจะตาม
เราไปทุกที่ จะชอบกระโดดขึ้นตักเวลาเรานั่ง จะเลียมือเวลาเราเผลอ จะมานอนข้างๆเราเวลามันจะหลับ จะเห่าเวลาเราออกไปข้างนอก และกระโดดดีใจ
เวลาเรากลับมา จะมาหาเราทุกครั้งเวลาเรามองไป ไม่เคยโกรธเวลาโดนแกล้ง เรียกแล้วมาหาเราเสมอ จนในที่สุดกุชชี่ทำให้เราเปลี่ยนความคิด
ที่จะบรีดสุนัขประกวด เพราะเรามองเค้าเป็นคนในครอบครัว เป็นลูกของเรา เราไปเที่ยวกันบ่อยๆ กินนอนด้วยกัน ตื่นมาเจอกัน ก่อนนอนเห็นหน้ากันตลอด
เวลา ไม่เคยห่างกันเกินห้าวันตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาก เราบอกเค้าเสมอ ว่า"กุชชี่คือดวงใจของเฮีย เฮียรักกุชชี่นะ ลูกสาวปะป๊า" เค้าเป็นสิ่งหนึ่งที่เรารักมาก
ที่สุดในชีวิต เป็นความภาคภูมิใจ เป็นแรงใจเวลาเจอเรื่องแย่ๆ
เวลาผ่านไปหกปี กุชชี่ยังคงเป็นสุนัขที่แข็งแรง กุชชี่แทบไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเลย เรายังคงพากุชชี่ไปเที่ยวด้วยกันเสมอ กุชชี่ยังคงร่าเริง
และดีใจทุกครั้งที่ได้ออกไปเที่ยว เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา เราผ่านกุชชี่ไปเที่ยวเล่นที่กาญฯ เป็นที่ที่เราวางแผนว่าจะทำรีสอร์ต เราอยากให้เค้า
ได้วิ่งเล่นบ้าง เพราะบ้านที่กรุงเทพคับแคบไม่มีสนามให้เค้า เราไปเล่นน้ำกันตามปกติที่เวลามา แต่คราวนี้กุชชี่เปลี่ยนไป กุชชี่มีไข้ ไม่ยอมกินข้าว
เราขับรถเข้าเมือง ไปซื้อยา และอาหารสุนัขป่วย เอามาให้กุชชี่ทาน แล้วเค้าก้ดีขึ้น ทำให้เราชะล่าใจ กุชชี่กลับมาเป็นปกติ ร่าเริงอีกครั้ง
แต่ยังคงไม่ยอมกินข้าวเหมือนเดิม ตลอดเวลาที่กาญฯ เราต้องค่อยป้อนอาหารกุชชี่เสมอ จนเมื่อวันที่ 22 พ.ย. เรามีเหตุให้ต้องเข้าเมือง
โดนทิ้งกุชชี่ไว้ที่พัก เราออกไปตอน 11โมง และกลับมาตอน 4โมงเย็น คราวนี้เราไม่ได้ยินเสียงเห่าต้อนรับเหมือนเคย แต่เหมือนเรากำลังยุ่ง
เลยไม่ได้เข้าไปดูเค้าเลย เราลืมกุชชี่ไปซะสนิท เราเอาของที่ซื้อมาจัด เตรียมไว้ให้ช่างในวันพรุ่งนี้ พอเสร็จแล้ว ผมเดินเข้าไปในห้อง สิ่งที่ผมเห็นคือ
กุชชี่กำลังหลับอยู่บนกระเป๋าเดินทางที่ประจำของเค้า แต่ต่างไป เพราะเค้านิ่งผิดปกติ ผมเรียกชื่อเค้า แต่ไม่มีการตอบสนอง ผมเริ่มรู้แล้ว
ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ผมก้มตัวไปอุ้มเค้า เค้าได้จากเราไปแล้ว กุชชี่เริ่มตัวแข็ง เวลานั้นผมช็อค น้ำตาผมไหลมาไม่หยุด ผมอุ้มเค้าไปแถวบ้าน
ร้องไห้ เรียกชื่อเค้า ภายปอดให้เค้า ปั้มหัวใจให้เค้า แต่สายเกินไป ตาดำเค้าไม่ใสอีกแล้ว นี้เป็นความสูญเสียครั้งยินใหญ่ในชีวิตของผม
อย่างที่ผมไม่เคยพบเจอมาก่อน สิ่งที่ผมรักมากที่สุดสิ่งหนึ่ง จากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ ผมเอาแต่ร้องไห้ ทั้งหมดเป็นความผิดของที่ผมลืมเค้า
ผมไม่ดูแลเค้าให้ดี ผมชอบแกล้งเค้า ผมรำคาญเวลาเค้ามาเล่นกับผม ผมเครียดกับงานแล้วไปลงที่เค้า ทั้งหมดเป็นเวรกรรมที่ทำให้ผมต้อง
พบกับความเจ็บปวดที่สุดในชีวิต คืนนั้นผมเก็บของเข้ากลับกรุงเทพ ตลอดทางผมได้แต่ร้องไห้ โดยมีคำถามในใจว่า ผมฆ่าเค้าหรือปล่าว?
กุชชี่โกรธเฮียหรือปล่าว? ผมห่อด้วยผ้าตัวเค้าค่อยๆอ่อนลง จนผมเกิดความคิดว่าเค้าอาจจะยังไม่ตาย อาจจะแค่สลบไป ผมตั้งจิตบนบาลกับสิ่งศักสิทธิ์
ตลอดทางที่กลับจนถึงกรุงเทพ ผมรู้ว่าเค้าได้จากไปแล้ว แต่อีกใจก็คิดว่าอาจจะมีปาฏิหาริย์ เมื่อกลับมาถึงบ้าน ทุกอย่างทุกอย่างทำให้ผมแย่ลง
ผมเห็นภาพกุชชี่ชัดเจนขึ้นมาก เราอยู่ด้วยกันมานาน เราทำทุกอย่างด้วยกัน "ตรงนั้นที่นอนเค้า ตรงนั้นถาดอาหารเค้า ตรงนั้นที่เค้าชอบฉี่ ที่เค้าชอบแอบ"
ทุกอย่างมันขึ้นมาในหัว เป้นช่วงเวลาที่แย่มาก คืนนั้นผมอาบน้ำให้กุชชี่ ผมตัดสินใจดูแลเค้าเป็นครั้งสุดท้าย และส่งเค้าเข้าที่นอนประจำของเค้า
ผมนั่งเฝ้าอยู่ใกล้ๆคุยกับเค้า จนเผลอหลับไป
รุ่งเช้าผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา รีบไปดูกุชชี่โดยยังหวังลึกๆว่าเค้าอาจจะฟื้นขึ้นมา แต่สิ่งศักสิทธิ์ไม่เคยเห็นใจ กุชชี่ยังคงนอนแน่นิ่ง มีเลือดและอุจระออกทางปาก
และก้น น้ำตาผมไหลอีกครั้ง คราวนี้ผมยอมรับจริงๆ ว่าเค้าไปแล้ว และเค้าจะไม่กลับมาอีก ทางบ้านผมแนะนำให้เผา แต่ผมไม่อยากเผาเค้า ผมทำใจไม่ได้
ผมเลยตัดสินใจจะฝังเค้าที่กาญ ที่นั้นเค้าจะได้วิ่งเล่นอีกครั้ง เช้าวันนั้น ผมขับรถกลับไปที่กาญอีกครั้ง ผมกับพี่ชายเลือกที่จะฝังเค้าใต้ต้นไม้ ใกล้ๆบ้าน
ของเรา ถัดไปนิดมีแม่น้ำ ที่นี้เงียบสงบมาก บรรยากาศดี เราจะทำพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นสวนสวยๆ เป็นที่ๆเราจะมานั่งเล่น นั่งคุยกับกุชชี่ได้
ผมพิมพ์ทุกอย่างพร้อมน้ำตาที่ไหล ไม่มีใครเค้าใจถึงความรักที่เราจะมีให้สุนัขตัวหนึ่ง แต่สำหรับผม เค้าไม่ใช่แค่สุนัข เค้าคือดวงใจ
วันนี้หัวใจผมแตกสลาย สิ่งที่ผมรักที่สุดจากผมไป นี้เป็นสิ่งที่ผมให้ผมเสียใจที่สุดในชีวิตที่เคยเกิดขึ้นกับผม ผมดูแลเค้าไม่ดี
แต่นี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะดูแลเค้าได้ ผมจะทำให้ดีที่สุด เค้าจะต้องสวย ต้องมีดอกไม้ เพราะเค้าเป็นสิ่งสวยงาม น่ารัก
ผมยอมแรกทุกอย่าง เพียงให้เค้ารับรู้ว่า ผมรักเค้าจนถึงวินาทีสุดท้าย และจะใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อจดจำเค้า
สุดท้าย ผมมีสิ่งที่อยากจะบอกให้เค้ารับรู้ "เฮียขอโทษที่ดูแลหนูไม่ดี ขอโทษที่เฮียลืมหนู แต่ต่อจากนี้ เฮียสัญาญาจะไม่ลืมหนูอีกแล้ว
หนูจะอยู่กับเฮียตลอดไป กุชชี่คือดวงใจของเฮีย เฮียรักกุชชี่นะ ลูกสาวของปะป๊า" ที่ตรงนี้จะมีดอกไม้ มีต้นหญ้า มีชิงช้า และมีเราตลอดไป
คุณรู้จักความเจ็บปวดดีพอหรือยัง?นี้คือความเจ็บปวดที่สุดของผม
แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจตั้งกระทู้ขึ้นมา เพราะอยากเก็บไว้เป็นความทรงจำ เมื่อเวลาผ่านไป เรากลับมาอ่าน จะได้จำได้ว่าเราเคยรักเค้าแค่ไหน
เพราะผมสัญญากับเค้าไว้ว่าจากนี้ไป ชีวิตที่เหลือจะมีไว้เพื่อจดจำเค้า เค้าในที่นี้ คือดวงใจของผมครับ และเค้าเป็นสุนัข
ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ ย้อนไปเมื่อเจ็ดปีที่แล้วผมกับแฟนเราตัดสินใจซื้อสุนัขมาตัวหนึ่ง เพื่อเป็นแม่พันธุ์ เพราะช่วงนั้นผมและแฟนหลงไหลเรื่อง-
การประกวดสุนัขมาก เราสองคนหาข้อมูลมากมาย เพื่อให้ได้สุนัขที่ดีที่สุด สุดท้ายก็ไปจบที่สุนัขตัวหนึ่ง เค้าชื่อกุชชี่ครับ เป็นชื่อที่เจ้าของเก่าตั้งไว้
กุชชี่เป็นสุนัขพันธุ์ปอมครับ ตอนรับเค้ามาเลี้ยงเค้าอายุได้ 5 ขวบแล้ว กุชชี่เป็นสุนัขตัวเมียที่สวยมากครับ เค้าจะตัวเล็กๆ หน้าสั้นๆ ขนฟูๆ
แต่ที่มากกว่านั้น เค้าเป็นสุนัขที่นิสัยดีมาก ไม่กัดข้าวของ ไม่กัดอะไรเลยดีกว่า ไม่ซน ขี้อ้อน เชื่อฟัง ติดเจ้าของ(เฉพาะเจ้าของ) ไม่ก้าวร้าว
กุชชี่เป็นสุนัขที่ตัวเล็ก แต่อดทนมาก เค้าแทบไม่เคยร้องออกมาให้ได้ยินเลย ไม่ว่าจะตกรถ หรือฉีดยา แล้วกุชชี่ก็กล้าหาญมาก ไม่ยอมใคร ไม่ว่าตัวสุนัข
ตัวอื่นจะใหญ่แค่ไหน กุชชี่ก็จะสู้(แต่เป็นเห่าสู้นะครับ) และที่สำคัญที่สุด คือกุชชี่รักผมกับแฟนมาก เราไม่เคยต้องใส่สายจุงกุชชี่เลย เพราะเค้าจะตาม
เราไปทุกที่ จะชอบกระโดดขึ้นตักเวลาเรานั่ง จะเลียมือเวลาเราเผลอ จะมานอนข้างๆเราเวลามันจะหลับ จะเห่าเวลาเราออกไปข้างนอก และกระโดดดีใจ
เวลาเรากลับมา จะมาหาเราทุกครั้งเวลาเรามองไป ไม่เคยโกรธเวลาโดนแกล้ง เรียกแล้วมาหาเราเสมอ จนในที่สุดกุชชี่ทำให้เราเปลี่ยนความคิด
ที่จะบรีดสุนัขประกวด เพราะเรามองเค้าเป็นคนในครอบครัว เป็นลูกของเรา เราไปเที่ยวกันบ่อยๆ กินนอนด้วยกัน ตื่นมาเจอกัน ก่อนนอนเห็นหน้ากันตลอด
เวลา ไม่เคยห่างกันเกินห้าวันตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาก เราบอกเค้าเสมอ ว่า"กุชชี่คือดวงใจของเฮีย เฮียรักกุชชี่นะ ลูกสาวปะป๊า" เค้าเป็นสิ่งหนึ่งที่เรารักมาก
ที่สุดในชีวิต เป็นความภาคภูมิใจ เป็นแรงใจเวลาเจอเรื่องแย่ๆ
เวลาผ่านไปหกปี กุชชี่ยังคงเป็นสุนัขที่แข็งแรง กุชชี่แทบไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเลย เรายังคงพากุชชี่ไปเที่ยวด้วยกันเสมอ กุชชี่ยังคงร่าเริง
และดีใจทุกครั้งที่ได้ออกไปเที่ยว เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา เราผ่านกุชชี่ไปเที่ยวเล่นที่กาญฯ เป็นที่ที่เราวางแผนว่าจะทำรีสอร์ต เราอยากให้เค้า
ได้วิ่งเล่นบ้าง เพราะบ้านที่กรุงเทพคับแคบไม่มีสนามให้เค้า เราไปเล่นน้ำกันตามปกติที่เวลามา แต่คราวนี้กุชชี่เปลี่ยนไป กุชชี่มีไข้ ไม่ยอมกินข้าว
เราขับรถเข้าเมือง ไปซื้อยา และอาหารสุนัขป่วย เอามาให้กุชชี่ทาน แล้วเค้าก้ดีขึ้น ทำให้เราชะล่าใจ กุชชี่กลับมาเป็นปกติ ร่าเริงอีกครั้ง
แต่ยังคงไม่ยอมกินข้าวเหมือนเดิม ตลอดเวลาที่กาญฯ เราต้องค่อยป้อนอาหารกุชชี่เสมอ จนเมื่อวันที่ 22 พ.ย. เรามีเหตุให้ต้องเข้าเมือง
โดนทิ้งกุชชี่ไว้ที่พัก เราออกไปตอน 11โมง และกลับมาตอน 4โมงเย็น คราวนี้เราไม่ได้ยินเสียงเห่าต้อนรับเหมือนเคย แต่เหมือนเรากำลังยุ่ง
เลยไม่ได้เข้าไปดูเค้าเลย เราลืมกุชชี่ไปซะสนิท เราเอาของที่ซื้อมาจัด เตรียมไว้ให้ช่างในวันพรุ่งนี้ พอเสร็จแล้ว ผมเดินเข้าไปในห้อง สิ่งที่ผมเห็นคือ
กุชชี่กำลังหลับอยู่บนกระเป๋าเดินทางที่ประจำของเค้า แต่ต่างไป เพราะเค้านิ่งผิดปกติ ผมเรียกชื่อเค้า แต่ไม่มีการตอบสนอง ผมเริ่มรู้แล้ว
ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ผมก้มตัวไปอุ้มเค้า เค้าได้จากเราไปแล้ว กุชชี่เริ่มตัวแข็ง เวลานั้นผมช็อค น้ำตาผมไหลมาไม่หยุด ผมอุ้มเค้าไปแถวบ้าน
ร้องไห้ เรียกชื่อเค้า ภายปอดให้เค้า ปั้มหัวใจให้เค้า แต่สายเกินไป ตาดำเค้าไม่ใสอีกแล้ว นี้เป็นความสูญเสียครั้งยินใหญ่ในชีวิตของผม
อย่างที่ผมไม่เคยพบเจอมาก่อน สิ่งที่ผมรักมากที่สุดสิ่งหนึ่ง จากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ ผมเอาแต่ร้องไห้ ทั้งหมดเป็นความผิดของที่ผมลืมเค้า
ผมไม่ดูแลเค้าให้ดี ผมชอบแกล้งเค้า ผมรำคาญเวลาเค้ามาเล่นกับผม ผมเครียดกับงานแล้วไปลงที่เค้า ทั้งหมดเป็นเวรกรรมที่ทำให้ผมต้อง
พบกับความเจ็บปวดที่สุดในชีวิต คืนนั้นผมเก็บของเข้ากลับกรุงเทพ ตลอดทางผมได้แต่ร้องไห้ โดยมีคำถามในใจว่า ผมฆ่าเค้าหรือปล่าว?
กุชชี่โกรธเฮียหรือปล่าว? ผมห่อด้วยผ้าตัวเค้าค่อยๆอ่อนลง จนผมเกิดความคิดว่าเค้าอาจจะยังไม่ตาย อาจจะแค่สลบไป ผมตั้งจิตบนบาลกับสิ่งศักสิทธิ์
ตลอดทางที่กลับจนถึงกรุงเทพ ผมรู้ว่าเค้าได้จากไปแล้ว แต่อีกใจก็คิดว่าอาจจะมีปาฏิหาริย์ เมื่อกลับมาถึงบ้าน ทุกอย่างทุกอย่างทำให้ผมแย่ลง
ผมเห็นภาพกุชชี่ชัดเจนขึ้นมาก เราอยู่ด้วยกันมานาน เราทำทุกอย่างด้วยกัน "ตรงนั้นที่นอนเค้า ตรงนั้นถาดอาหารเค้า ตรงนั้นที่เค้าชอบฉี่ ที่เค้าชอบแอบ"
ทุกอย่างมันขึ้นมาในหัว เป้นช่วงเวลาที่แย่มาก คืนนั้นผมอาบน้ำให้กุชชี่ ผมตัดสินใจดูแลเค้าเป็นครั้งสุดท้าย และส่งเค้าเข้าที่นอนประจำของเค้า
ผมนั่งเฝ้าอยู่ใกล้ๆคุยกับเค้า จนเผลอหลับไป
รุ่งเช้าผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา รีบไปดูกุชชี่โดยยังหวังลึกๆว่าเค้าอาจจะฟื้นขึ้นมา แต่สิ่งศักสิทธิ์ไม่เคยเห็นใจ กุชชี่ยังคงนอนแน่นิ่ง มีเลือดและอุจระออกทางปาก
และก้น น้ำตาผมไหลอีกครั้ง คราวนี้ผมยอมรับจริงๆ ว่าเค้าไปแล้ว และเค้าจะไม่กลับมาอีก ทางบ้านผมแนะนำให้เผา แต่ผมไม่อยากเผาเค้า ผมทำใจไม่ได้
ผมเลยตัดสินใจจะฝังเค้าที่กาญ ที่นั้นเค้าจะได้วิ่งเล่นอีกครั้ง เช้าวันนั้น ผมขับรถกลับไปที่กาญอีกครั้ง ผมกับพี่ชายเลือกที่จะฝังเค้าใต้ต้นไม้ ใกล้ๆบ้าน
ของเรา ถัดไปนิดมีแม่น้ำ ที่นี้เงียบสงบมาก บรรยากาศดี เราจะทำพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นสวนสวยๆ เป็นที่ๆเราจะมานั่งเล่น นั่งคุยกับกุชชี่ได้
ผมพิมพ์ทุกอย่างพร้อมน้ำตาที่ไหล ไม่มีใครเค้าใจถึงความรักที่เราจะมีให้สุนัขตัวหนึ่ง แต่สำหรับผม เค้าไม่ใช่แค่สุนัข เค้าคือดวงใจ
วันนี้หัวใจผมแตกสลาย สิ่งที่ผมรักที่สุดจากผมไป นี้เป็นสิ่งที่ผมให้ผมเสียใจที่สุดในชีวิตที่เคยเกิดขึ้นกับผม ผมดูแลเค้าไม่ดี
แต่นี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะดูแลเค้าได้ ผมจะทำให้ดีที่สุด เค้าจะต้องสวย ต้องมีดอกไม้ เพราะเค้าเป็นสิ่งสวยงาม น่ารัก
ผมยอมแรกทุกอย่าง เพียงให้เค้ารับรู้ว่า ผมรักเค้าจนถึงวินาทีสุดท้าย และจะใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อจดจำเค้า
สุดท้าย ผมมีสิ่งที่อยากจะบอกให้เค้ารับรู้ "เฮียขอโทษที่ดูแลหนูไม่ดี ขอโทษที่เฮียลืมหนู แต่ต่อจากนี้ เฮียสัญาญาจะไม่ลืมหนูอีกแล้ว
หนูจะอยู่กับเฮียตลอดไป กุชชี่คือดวงใจของเฮีย เฮียรักกุชชี่นะ ลูกสาวของปะป๊า" ที่ตรงนี้จะมีดอกไม้ มีต้นหญ้า มีชิงช้า และมีเราตลอดไป