คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
คือไอ้แสงเนี่ย เป็นอะไรที่เอาเปรียบชาวบ้านที่สุดแล้ว คือมันเป็นนักเลงโต ที่เปลี่ยนกฎทุกอย่างให้เข้ากับตัวมัน
ก็เหมือนกับกฎที่ว่า ข้อ 1 แสงถูกต้องทุกอย่าง 2 ถ้าคิดว่าแสงไม่ถูกต้องให้กลับไปแหกดากดูข้อหนึ่ง
หมายความว่าไง หมายความ ความเร็วแสงเมื่อเทียบกับเราจะคงที่ตลอดเวลา ห้ามไม่ให้ไปแข่งกับมัน เช่น คุณมีความเร็ว 0.9เท่าของแสง
แต่ตัวคุณขณะนั้นจะรู้สึกว่าแสงยังเร็วกว่าคุณเท่าเดิม แล้วคุณก็ไม่ได้ตามเข้าใกล้แสงเลย!!!!!!!!! เป็นไงขี้โกงมั้ย
คือคนอื่นจะมองว่าคุณเร็วยังไงก็ตาม แต่ไอ้แสงมันจะกวนตีนคุณ เช่น อ่อเร็วนักใช่มั้ยสาดดด ให้เวลาของคุณยืดออกเทียบกับคนอื่นแมร่งเลย ให้มวลคุณเพิ่มขึ้นแมร่งเลยเป็นต้น
คือคนอื่นมองว่าคุณเร็วใกล้แสงละ แต่ตัวคุณกลับไม่รู้สึก เพราะเวลาคุณผ่านไปช้ากว่าคนอื่น ยิ่งคุณเร็วเท่าไหร่ เวลาคุณยิ่งช้าลง เพื่อให้คุณมองแสงเร็วเท่าเดิม เอาเปรียบมั้ย
แสงนอกจากจะโกงแล้ว ยังไม่แน่ไม่นอน บางทีมันก็ทำตัวเป็นอนุภาค คือมีมวลเป็นสิ่งที่จับต้องได้ สามารถโดนดึงดูดได้ถ้าแรงดูดแรงมากพอ
ถ้าแรงไม่มากพอก็จะโค้ง เพราะงั้นเวลาที่เกิดสุริยุปราคา นักวิทยาศาสตร์ จะแหกดากส่องดาวที่อยู่หลังดวงอาทิตย์ ถามว่ามองเห็นได้ไง ดวงอาทิตย์บัง ก็ตอบว่า
แสงมันโค้งไปหลังดวงอาทิตย์เลยมองเห็นไง
แต่ถ้าเป็นไอ้ดากดำ หรือ black hole มันแรงดึงดูดสูงมาก จนดูดแสงซะง่อยเลย ก็เลยไม่มีแสงผ่านได้ มันก็เลยมืด ทีนี้พอแสงมันง่อย เอาละดิ มันพาล ใครไปใกล้มันยังต้องเห็นมันเร็วเท่าเดิมไง
ทีนี้พอความเร็วมันเป็นศูนย์ คุณก็น่าจะต้องมีความเร็วเป็นศูนย์ตาม หรือไม่งั้นก็ยืดเวลาออกไปนิรันดรเลย จะได้ไม่ต้องมีความเร็ว
ก็เหมือนกับกฎที่ว่า ข้อ 1 แสงถูกต้องทุกอย่าง 2 ถ้าคิดว่าแสงไม่ถูกต้องให้กลับไปแหกดากดูข้อหนึ่ง
หมายความว่าไง หมายความ ความเร็วแสงเมื่อเทียบกับเราจะคงที่ตลอดเวลา ห้ามไม่ให้ไปแข่งกับมัน เช่น คุณมีความเร็ว 0.9เท่าของแสง
แต่ตัวคุณขณะนั้นจะรู้สึกว่าแสงยังเร็วกว่าคุณเท่าเดิม แล้วคุณก็ไม่ได้ตามเข้าใกล้แสงเลย!!!!!!!!! เป็นไงขี้โกงมั้ย
คือคนอื่นจะมองว่าคุณเร็วยังไงก็ตาม แต่ไอ้แสงมันจะกวนตีนคุณ เช่น อ่อเร็วนักใช่มั้ยสาดดด ให้เวลาของคุณยืดออกเทียบกับคนอื่นแมร่งเลย ให้มวลคุณเพิ่มขึ้นแมร่งเลยเป็นต้น
คือคนอื่นมองว่าคุณเร็วใกล้แสงละ แต่ตัวคุณกลับไม่รู้สึก เพราะเวลาคุณผ่านไปช้ากว่าคนอื่น ยิ่งคุณเร็วเท่าไหร่ เวลาคุณยิ่งช้าลง เพื่อให้คุณมองแสงเร็วเท่าเดิม เอาเปรียบมั้ย
แสงนอกจากจะโกงแล้ว ยังไม่แน่ไม่นอน บางทีมันก็ทำตัวเป็นอนุภาค คือมีมวลเป็นสิ่งที่จับต้องได้ สามารถโดนดึงดูดได้ถ้าแรงดูดแรงมากพอ
ถ้าแรงไม่มากพอก็จะโค้ง เพราะงั้นเวลาที่เกิดสุริยุปราคา นักวิทยาศาสตร์ จะแหกดากส่องดาวที่อยู่หลังดวงอาทิตย์ ถามว่ามองเห็นได้ไง ดวงอาทิตย์บัง ก็ตอบว่า
แสงมันโค้งไปหลังดวงอาทิตย์เลยมองเห็นไง
แต่ถ้าเป็นไอ้ดากดำ หรือ black hole มันแรงดึงดูดสูงมาก จนดูดแสงซะง่อยเลย ก็เลยไม่มีแสงผ่านได้ มันก็เลยมืด ทีนี้พอแสงมันง่อย เอาละดิ มันพาล ใครไปใกล้มันยังต้องเห็นมันเร็วเท่าเดิมไง
ทีนี้พอความเร็วมันเป็นศูนย์ คุณก็น่าจะต้องมีความเร็วเป็นศูนย์ตาม หรือไม่งั้นก็ยืดเวลาออกไปนิรันดรเลย จะได้ไม่ต้องมีความเร็ว
แสดงความคิดเห็น
ถ้าทำแบบนี้ แสงก็น่าจะเดินทางช้ากว่าความเร็วแสง ??
..
ผมไม่มีความรู้ทางฟิสิกส์นะครับ
แต่เคยจินตนาการว่า จากทฤษฎี แสงมีความเร็วคงที่เสมอไม่ว่าจะเคลื่อนไหวในทิศทางใด
..
ถ้าสมมุติว่า เราอยู่ในยานอวกาศลำหนึ่งที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 99.9999 % ของความเร็วแสง
แล้วเราฉายไฟฉายออกจากหน้ายาน เมื่อแสงพุ่งออกไป แสงก็ควรเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 00.0001% ของความเร็วปกติ
เพราะเมื่อรวมความเร็วของยานและความเร็วของแสงที่พุ่งออกไป ก็จะเท่ากับ 100 % ของความเร็วแสง คือ ซึ่งเท่ากับ 186,282 ไมล์/วินาที พอดี ซึ่งขัดต่อทฤษฎีความเร็วแสงของไอนสไตน์
แต่ถ้าแสงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วปกติคือ 186,282 ไมล์/วินาที เมื่อรวมกับความเร็วของยาน แสงก็จะเคลื่อนที่เร็วกว่าความเร็วแสง ซึ่งขัดต่อทฤษฎีเช่นกัน
...
มันจะเป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ ถ้าไม่เป็นก็เหตุผลอะไรครับ?
ขอขอบคุณ.