ถ้าใครเปิดกระทู้นี้แล้วเห็นว่าเป็นการท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นอีกแล้วก็อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ เผื่อใครยังไม่มีไอเดียว่าจะไปที่ไหน จะได้มีข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

ทริปนี้เป็นช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปี 2014 ขอเปิดด้วยรูปที่ Hakuba เลยแล้วกันค่ะ


ฤดูหนาวแล้ว ไปเที่ยวไหนดี?
เราอยากไปเห็นหิมะตกหนาๆ และอยากสัมผัสอากาศหนาว -10 กว่าองศาด้วย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของทริปนี้ค่ะ

วันที่ 1/2/2014:
ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิโดยสายการบิน Delta ไฟลท์ 5:30 น. ไปถึงสนามบิน Narita 13:10 น.
ซื้อตั๋วเครื่องบินผ่านเว็บไซต์ของสายการบินโดยตรงเลยค่ะ www.delta.com ราคาไป-กลับอยู่ที่ 20,375 บาท
ซื้อก่อนวันเดินทางประมาณ 4 เดือนค่ะ สายการบิน Delta โอเคเลยค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร


พอถึงสนามบิน Narita แล้ว เราก็นั่ง Keisei Limited Express เที่ยวเดียว 1,100 เยน ซื้อตั๋วได้ที่เคาท์เตอร์ที่สนามบินเลยนะคะ เพื่อไปสถานี Nippori เราจองที่พักคืนแรกของเราไว้ใกล้ๆ สถานี


เราจองที่พักทั้งหมดผ่านเว็บไซต์ www.booking.com จองล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน ข้อดีของการจองผ่านเว็บไซต์ booking.com คือ ไม่มีค่ามัดจำ และสามารถยกเลิกได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (ถ้ายกเลิกก่อนวันเข้าพัก 2 วัน)
ที่พักคืนแรก Hotel Lungwood (รูปจาก google นะคะ) คืนละ 7,500 เยน ห้องพักสะอาด ขนาดเล็กตามมาตรฐานโรงแรมทั่วไปในโตเกียว


เช็คอินเรียบร้อยแล้วก็นั่งรถไฟไปเดินเที่ยวที่ Harajuku ซะหน่อย ถึงสถานี Harajuku แล้ว คนแน่นมากๆ


แถมรูปให้สาวกสาวแว่นค่ะ


แล้วก็นั่งรถไฟไปดู Tokyo Tower

สิ่งที่ฉันคิด... (รูปจาก google นะคะ)


ความจริงแล้ว สิ่งที่ฉันเห็น...


เราแค่จะไปดูภายนอกเฉยๆ ไม่ได้จะขึ้นไปด้านบน เราจึงไปช้า ประมาณ 3 ทุ่มกว่า เพราะมัวเดินเล่นที่ Harajuku ซะเพลิน
ทำให้ไฟบางส่วนเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน แล้วพอ 4 ทุ่ม ไฟก็จะดับทั้งหมดค่ะ ใครจะไปอย่าลืมดูเวลาให้ดีนะคะ
อย่าให้พลาดเหมือนเรา เพราะคิดว่าเค้าจะเปิดไฟทิ้งไว้ทั้งคืน

หลังจากนั้น เรานั่งรถไฟไปที่สถานี Akihabara และปิดท้ายอาหารมื้อดึกของเราด้วยเนื้อย่าง


แล้วจึงนั่งรถไฟกลับไปสถานี Nippori หมดไป 1 วันแล้วค่ะ

วันที่ 2/2/2014:
ออกเดินทางตั้งแต่ตี 5 กว่า โดยนั่งรถไฟสาย JR Yamanote เพื่อไปต่อรถบัสที่สถานี Shinjuku เพื่อไป Hakuba ซึ่งอยู่ใน Prefecture Nagano
การเดินทางไป Hakuba ไปได้หลายวิธี แต่เราเลือกนั่งรถบัสเพราะถูกที่สุด แล้วก็สะดวกด้วยนะคะ แล้วค่อยมาหลับบนรถ
รสบัสจะต้องจองล่วงหน้าที่เว็บไซต์ http://highway-buses.jp/hakuba/ สามารถจองก่อนล่วงหน้าได้นานที่สุด 1 เดือน
จากนั้นจึงปริ้นเอกสารการจองแล้วนำไปแลกเป็นตั๋วที่สถานีรถบัสค่ะ ของเราจองรอบ 7:30 น. จะไปถึง Hakuba ประมาณ 12:20 น.
ค่ารถบัสไป-กลับ 8,500 เยน


ถึงแล้ววววว ฝนตกเล็กน้อย


พอจัดการมื้อเที่ยงใกล้ๆ สถานีรถไฟ Hakuba เสร็จแล้ว เนื่องจากที่พักอยู่ไกลจากสถานี แต่ไม่ไกลมาก
เราก็โทรให้รถจากโรงแรมมารับ ใช้เวลาขับประมาณ 5 นาที


เราพักที่ Hakuba Highland Hotel 1 คืน 11,600 เยน รวมอาหารเช้าแล้ว


มองวิวจากโรงแรม


ภูเขาหิมะเหมือนเนื้อลายหินอ่อนเลย : )


เรามาถึง Hakuba ช่วงบ่ายแล้ว วันนี้จึงยังไม่ได้เล่นสกี หลังจากถ่ายรูปเล่นเสร็จ ก็ทานบุฟเฟต์อาหารเย็น (จ่ายเพิ่ม จำราคาไม่ได้)
แช่ออนเซ็น แล้วก็พักผ่อน หมดไป 1 วันแล้วค่ะ

วันที่ 3/2/2014:
ก่อนไปสกีก็ขอแช่ออนเซ็นอีกครั้ง ออนเซ็นของ Hakuba Highland Hotel สามารถมองวิวสวยๆ ของ Hakuba ได้ตามรูปเลยค่ะ
(รูปจากเว็บไซต์ของโรงแรมนะคะ เพราะที่ออนเซ็นห้ามถ่ายรูปค่ะ)


วิวตอนทานอาหารเช้าที่โรงแรม ประทับใจที่นี่สุดๆ อาหารเย็นอร่อย ออนเซ็นวิวสวย อาหารเช้าอร่อย พนักงานน่ารัก แนะนำเลยค่ะ


เนื่องจาก Hakuba Highland Hotel ค่อนข้างไกล วันนี้เราจึงย้ายไปพักอีกที่ ซึ่งอยู่ใกล้กับ Happo One ที่เราจะไปเล่นสกีมากกว่า
เราพักที่ Hakuba Ski-Kan 1 คืน 9,000 เยน เป็นที่พักเล็กๆ เราสามารถซื้อบัตรสำหรับเล่นสกีได้ที่ที่พักเลย  
ต้องลองสอบถามดูค่ะ เราซื้อ Ski Pass สำหรับเล่นช่วงบ่าย คุณป้าที่ดูแลที่พักแนะนำให้เราไปเช่าอุปกรณ์สกีที่ร้านตรงข้ามที่พัก
(รูปที่พักจาก google นะคะ)


Hakuba Ski-Kan ใกล้กับป้าย shuttle bus ที่จะพาเราไปเล่นสกีที่ Happo One ต้องเช็คตารางรถบัสดีๆ เพราะมีรอบรถน้อย และรอบสุดท้ายหมดก่อน 6 โมงเย็นค่ะ

สามารถเข้าไปดูแผนที่ได้ที่เว็บไซต์ http://ski-resorts-japan.com/hakuba-trail-maps จะได้แพลนได้ว่าเราจะขึ้นลิฟท์และเล่นตรงไหน ตามความสามารถของเราเลยค่ะ เส้นสีเขียวสำหรับ beginner เส้นสีแดงสำหรับ intermediate เส้นสีดำสำหรับ advance


ส่วนของเรา แน่นอน...ก็ต้อง beginner เท่านั้น!!! เลยไปเริ่มที่ Sakka จุดที่ 4 ของ map แล้วก็ขึ้นลิฟท์เพื่อมาเล่นค่ะ
สำหรับเส้นสีเขียวของที่นี่ แต่จะมีบางช่วงที่ค่อนข้างชันสำหรับ beginner อย่างเราค่ะ


อากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ฟ้าครื้ม


เล่นไปเล่นมาก็เริ่มเย็น รถบัสรอบสุดท้ายแล้ว แต่ยังรู้สึกว่าเล่นไม่พอ เราจึงตัดสินใจเล่น night ski ต่อ
โดยนั่งรถบัสจาก Sakka มาที่ Nakiyama จุดที่ 1 ซึ่งเป็นจุดเดียวที่มี night ski

ก่อนเล่นก็ทานอาหารเย็นกันซะก่อน มีร้านอาหารไทยด้วยค่ะ
เจ้าของเป็นคนญี่ปุ่น (ภรรยาก็เป็นคนญี่ปุ่น) เคยมาเมืองไทยหลายครั้ง แล้วจึงเรียนทำอาหารไทย
และมาเปิดร้านอาหารไทยที่ญี่ปุ่น และยังเป็นเจ้าของร้านนวดไทยด้วยนะคะ


หลังจากท้องอิ่มก็ไปเล่นกันต่อ จากรูปดูเหมือนไม่ชัน แต่จริงๆ แล้วค่อนข้างชันเลยล่ะค่ะ สำหรับ beginner อย่างเรา
บวกกับขาล้าเพราะเล่นสกีติดกันมาหลายชั่วโมงแล้วด้วย


พอเล่นเสร็จก็เดินพร้อมแบกอุปกรณ์สกีกลับที่พัก เดินประมาณ 20 นาที ฝนตกเบาๆ
อาบน้ำ แล้วออกมาหาอะไรทาน ตอนนั้น 3 ทุ่มกว่าแล้ว ร้านอาหารส่วนใหญ่จะปิดแล้ว
มินิมาร์ทก็ปิดแล้ว ร้านที่เปิดก็จะเป็นร้านขายเหล้าเบียร์กับอาหารแกล้ม ราคาแพงทีเดียว
ใครที่จะเล่นสกีตอนกลางคืน อย่าลืมเตรียมอาหารไว้นะคะ แล้วก็จบไปอีก 1 วันค่ะ


กระทู้นี้ขอจบ 3 วันแรกของทริปไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ เพราะกระทู้ยาวแล้ว แล้วจะมาต่อกระทู้ถัดไปเร็วๆ นี้ค่ะ
ใครชอบก็ช่วยติดตามกันด้วยนะคะ