การรปห. ครั้งที่แล้วกับครั้งนี้ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
หลังการรปห.๔๙ มีการเผาโรงเรียนจังหวัดทางภาคอีสานกันบ่อยครั้ง และมีการก่อเหตุวางระเบิดตามป้ายรถเมล์ในกทม.
เสื้อแดงเริ่มก่อตัวไปประท้วงที่บ้านป๋า สื่อต่างๆ คอยเล่นข่าวของฝ่ายเสียอำนาจ ลงข่าวจอมบงการไปโผล่ที่นั่นที่นี่
เดินทางไปรอบโลกทั้งลงทุน ทั้งเดินสายอภิปราย ที่จัดฉากขึ้นทั้งนั้น
รบ.ได้แต่ทำตาปริบๆ เมื่อข้าราชการใต้อำนาจเก่าใส่เกียร์ว่าง รอให้จอมบงการกลับมา
การรปห.ครั้งนี้ ก็ไม่ได้ต่างกับคราวที่แล้ว อำนาจเก่าพยายามทำทุกอย่างแบบเดิมๆ เหมือนปี๔๙ แต่แห้วรับทาน
ครั้งนี้ หัวหน้าคสช. มาเป็นนายกฯ และคงกฎอัยการศึกเอาไว้ สามารถคุมเกมใต้ดินของจอมบงการได้อยู่หมัด
มีการจับอาวุธสงครามที่พวกใต้ดินสะสมไว้ ปรามสื่อของอำนาจเก่าไม่ให้เล่นข่าวมั่วๆ และจัดการอย่างเด็ดขาดกับพวกใต้ดิน
อดีตเป็นบทเรียนเสมอ ศึกษาและทำความเข้าใจจนปรับปรุงแก้ไข จึงสยบอำนาจเก่าได้ทุกทาง แล้วพาชาติก้าวเดินไปข้างหน้า
พวกของจอมบงการพยายามจะดึง จะถ่วงชาติเอาไว้ให้อยู่กับความขัดแย้ง ปัญหาเดิมๆ ยังไง รบ.ก็ไม่สน แล้วเดินหน้าลูกเดียว
ศึกครั้งนี้บอกได้เลยว่า ใครจะเป็นฝ่ายแพ้อย่างราบคราบ เพราะฝ่ายอำนาจเก่าของจอมบงการ เลือกใช้ยุทธวิธีเดิมๆ ที่เขารู้ทางแล้ว
แต่ก็มองอย่างเข้าใจได้ว่า จอมบงการไม่มีลูกเล่นใหม่ไปกว่านี้แล้ว เพราะขาดซึ่งการขับเคลื่อนอย่างมีอุดมการณ์นั่นเอง
การเคลื่อนไหวที่เคยใช้อย่างได้ผล ครั้งที่ผ่านๆ มา ก็เป็นเพียงทำไปเพื่ออำนาจของตัวเองเท่านั้น
แหล่งข่าวลึกๆ บอกว่า จอมบงการก็เริ่มอึดอัดกับสถานการณ์ในตอนนี้ และเริ่มยอมรับความพ่ายแพ้อย่างยับเยินที่จะมาถึงในอนาคต
และจอมบงการก็มีท่าทีอ่อนลงในการคิดทำลายชาติ แหล่งข่าวย้ำว่า ก่อนที่รธน.ใหม่จะประกาศใช้ จอมบงการจะโยนผ้าขาว
เพื่อรักษาสิ่งที่ตัวเองยังมีอยู่ โดยการประกาศเข้าร่วมมือกับ คสช. โดยข้ออ้างสวยหรูว่า อยากให้ประเทศชาติเดินหน้า
บ้านเมืองกำลังเดินเข้าสู่โหมดของความสงบสุข ทุกอย่างเริ่มเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ
อดีตเป็นบทเรียนที่ดีเสมอ???
หลังการรปห.๔๙ มีการเผาโรงเรียนจังหวัดทางภาคอีสานกันบ่อยครั้ง และมีการก่อเหตุวางระเบิดตามป้ายรถเมล์ในกทม.
เสื้อแดงเริ่มก่อตัวไปประท้วงที่บ้านป๋า สื่อต่างๆ คอยเล่นข่าวของฝ่ายเสียอำนาจ ลงข่าวจอมบงการไปโผล่ที่นั่นที่นี่
เดินทางไปรอบโลกทั้งลงทุน ทั้งเดินสายอภิปราย ที่จัดฉากขึ้นทั้งนั้น
รบ.ได้แต่ทำตาปริบๆ เมื่อข้าราชการใต้อำนาจเก่าใส่เกียร์ว่าง รอให้จอมบงการกลับมา
การรปห.ครั้งนี้ ก็ไม่ได้ต่างกับคราวที่แล้ว อำนาจเก่าพยายามทำทุกอย่างแบบเดิมๆ เหมือนปี๔๙ แต่แห้วรับทาน
ครั้งนี้ หัวหน้าคสช. มาเป็นนายกฯ และคงกฎอัยการศึกเอาไว้ สามารถคุมเกมใต้ดินของจอมบงการได้อยู่หมัด
มีการจับอาวุธสงครามที่พวกใต้ดินสะสมไว้ ปรามสื่อของอำนาจเก่าไม่ให้เล่นข่าวมั่วๆ และจัดการอย่างเด็ดขาดกับพวกใต้ดิน
อดีตเป็นบทเรียนเสมอ ศึกษาและทำความเข้าใจจนปรับปรุงแก้ไข จึงสยบอำนาจเก่าได้ทุกทาง แล้วพาชาติก้าวเดินไปข้างหน้า
พวกของจอมบงการพยายามจะดึง จะถ่วงชาติเอาไว้ให้อยู่กับความขัดแย้ง ปัญหาเดิมๆ ยังไง รบ.ก็ไม่สน แล้วเดินหน้าลูกเดียว
ศึกครั้งนี้บอกได้เลยว่า ใครจะเป็นฝ่ายแพ้อย่างราบคราบ เพราะฝ่ายอำนาจเก่าของจอมบงการ เลือกใช้ยุทธวิธีเดิมๆ ที่เขารู้ทางแล้ว
แต่ก็มองอย่างเข้าใจได้ว่า จอมบงการไม่มีลูกเล่นใหม่ไปกว่านี้แล้ว เพราะขาดซึ่งการขับเคลื่อนอย่างมีอุดมการณ์นั่นเอง
การเคลื่อนไหวที่เคยใช้อย่างได้ผล ครั้งที่ผ่านๆ มา ก็เป็นเพียงทำไปเพื่ออำนาจของตัวเองเท่านั้น
แหล่งข่าวลึกๆ บอกว่า จอมบงการก็เริ่มอึดอัดกับสถานการณ์ในตอนนี้ และเริ่มยอมรับความพ่ายแพ้อย่างยับเยินที่จะมาถึงในอนาคต
และจอมบงการก็มีท่าทีอ่อนลงในการคิดทำลายชาติ แหล่งข่าวย้ำว่า ก่อนที่รธน.ใหม่จะประกาศใช้ จอมบงการจะโยนผ้าขาว
เพื่อรักษาสิ่งที่ตัวเองยังมีอยู่ โดยการประกาศเข้าร่วมมือกับ คสช. โดยข้ออ้างสวยหรูว่า อยากให้ประเทศชาติเดินหน้า
บ้านเมืองกำลังเดินเข้าสู่โหมดของความสงบสุข ทุกอย่างเริ่มเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ