ให้ 7.8/10 หนัง Romantic Comedy เรื่องราวของ Stanley (Colin Firth) นักมายากลที่ถูกเพื่อนชักชวนให้มาช่วยจับผิดและเปิดโปง Sophie (Emma Stone) คนทรงเจ้าที่เข้าไปพัวพันอยู่กับครอบครัวมหาเศรษฐีในฝรั่งเศสว่าเป็นของปลอม ผลงานการเขียนบทและกำกับโดย Woody Allen
หนังเล่าเรื่องย้อนยุคไปในปี 1928 เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นสีของภาพ มุมกล้อง การนำเสนอ จังหวะ การตัดภาพ หรือเนื้อเรื่องก็จะดูย้อนยุคตามไปด้วย โดยเฉพาะถ้าไปดูที่โรงหนังสกาล่าก็จะได้บรรยากาศย้อนยุคเข้ากับหนังเป็นอย่างมาก
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นความไพเราะของดนตรีเพลงแจ๊ส และเสื้อผ้าของตัวละคร โดยเฉพาะเสื้อผ้าผู้หญิงที่ดูหรูเรียบง่ายและแสนจะน่ารักโดยการสวมใส่ของ Emma Stone รวมเข้ากับดวงตา รอยยิ้ม และสีผมของเธอที่ยากจะละสายตา
เนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรโดดเด่นโลดโผนอยากจะให้เกิดอะไรก็เกิด เล่าเรื่องไปเรื่อยเปื่อยเน้นบทพูดเยอะๆตามสไตล์หนังของ Woody Allen เป็นเรื่องปกติ แต่เรื่องนี้หยิบเอาประเด็นทางความเชื่อระหว่างไสยศาสตร์และวิทยาศาสตร์มาเล่น
แม้ว่า Genre ของหนังคือหนังรัก Romantic Comedy ซึ่งในเนื้อเรื่องก็มีเรื่องของความรักอยู่ก็จริง แต่อยากจะบอกว่าความจริงแล้วมันเป็นหนัง Comedy ล้วนๆที่มีความฟรุ้งฟริ้งสูงซะมากกว่า ด้วยการออกแบบตัวละครที่พิลึกพิลั่นและบทพูดที่แสบกวนเหลือเกิน ทั้งจิกกัด ประชดประชัน เสียดสีอยู่ตลอดเวลา (ซึ่งก็เป็นไปตามสไตล์หนังของ Woody Allen อีกนั่นแหละ) มันจึงเพิ่มเสน่ห์ให้กับหนังเป็นอย่างมาก ทำให้อมยิ้มขำได้ตลอดเรื่องกับความตลกร้าย และต้องขอชื่นชมว่า Woody Allen ช่างเป็นผู้ชายที่ปากจัดจริงๆ
ปล. นี่เป็นการให้คะแนนจากความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนมีมุมมอง ความชอบ ความคิดต่างกัน ซึ่งเมื่อคุณไปดูแล้วคุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ค่ะ (แค่รักการดูหนังและอยากจะแชร์แลกเปลี่ยนความเห็นให้คนชอบดูหนังมาคุยกัน ไม่มีอะไรถูกหรือผิด ทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นเหมือนกันค่ะ)
สามารถอ่าน Review หนังเรื่องอื่นๆได้ที่เพจ Movies Stalker ค่ะ
https://www.facebook.com/MoviesStalker
[CR] รีวิวหนังเรื่อง Magic in the Moonlight
หนังเล่าเรื่องย้อนยุคไปในปี 1928 เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นสีของภาพ มุมกล้อง การนำเสนอ จังหวะ การตัดภาพ หรือเนื้อเรื่องก็จะดูย้อนยุคตามไปด้วย โดยเฉพาะถ้าไปดูที่โรงหนังสกาล่าก็จะได้บรรยากาศย้อนยุคเข้ากับหนังเป็นอย่างมาก
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นความไพเราะของดนตรีเพลงแจ๊ส และเสื้อผ้าของตัวละคร โดยเฉพาะเสื้อผ้าผู้หญิงที่ดูหรูเรียบง่ายและแสนจะน่ารักโดยการสวมใส่ของ Emma Stone รวมเข้ากับดวงตา รอยยิ้ม และสีผมของเธอที่ยากจะละสายตา
เนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรโดดเด่นโลดโผนอยากจะให้เกิดอะไรก็เกิด เล่าเรื่องไปเรื่อยเปื่อยเน้นบทพูดเยอะๆตามสไตล์หนังของ Woody Allen เป็นเรื่องปกติ แต่เรื่องนี้หยิบเอาประเด็นทางความเชื่อระหว่างไสยศาสตร์และวิทยาศาสตร์มาเล่น
แม้ว่า Genre ของหนังคือหนังรัก Romantic Comedy ซึ่งในเนื้อเรื่องก็มีเรื่องของความรักอยู่ก็จริง แต่อยากจะบอกว่าความจริงแล้วมันเป็นหนัง Comedy ล้วนๆที่มีความฟรุ้งฟริ้งสูงซะมากกว่า ด้วยการออกแบบตัวละครที่พิลึกพิลั่นและบทพูดที่แสบกวนเหลือเกิน ทั้งจิกกัด ประชดประชัน เสียดสีอยู่ตลอดเวลา (ซึ่งก็เป็นไปตามสไตล์หนังของ Woody Allen อีกนั่นแหละ) มันจึงเพิ่มเสน่ห์ให้กับหนังเป็นอย่างมาก ทำให้อมยิ้มขำได้ตลอดเรื่องกับความตลกร้าย และต้องขอชื่นชมว่า Woody Allen ช่างเป็นผู้ชายที่ปากจัดจริงๆ
ปล. นี่เป็นการให้คะแนนจากความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนมีมุมมอง ความชอบ ความคิดต่างกัน ซึ่งเมื่อคุณไปดูแล้วคุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ค่ะ (แค่รักการดูหนังและอยากจะแชร์แลกเปลี่ยนความเห็นให้คนชอบดูหนังมาคุยกัน ไม่มีอะไรถูกหรือผิด ทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นเหมือนกันค่ะ)
สามารถอ่าน Review หนังเรื่องอื่นๆได้ที่เพจ Movies Stalker ค่ะ https://www.facebook.com/MoviesStalker