นี่หรือ....คือความไว้วางใจที่ประชาชนคนนึงมีให้ (สภอ.เมืองสุพรรณบุรี)

สวัสดีค่ะ เรื่องที่ดิชั้นอยากจะเล่าให้ฟัง หรือจะเรียกว่าร้องเรียนดีค่ะ เกี่ยวกับความดูแลความปลอดภัย และทรัพย์สินของประชานผู้บริสุทธิ์ ที่คุณตำรวจจะมีให้ได้

                  เรื่องมีอยู่ว่า แฟนดิชั้นได้ถูกโจร(ติดยา)ขโมยรถรถมอเตอร์ไซค์สุดรัก สุดหวง ยี่ห้อ Sonic 125 CC แต่งครบสวยของที่แต่งมีแต่ของดีๆทั้งนั้นคือว่าออฟชั่นครบอ่ะค่ะ ซึ่งมันเลยอาจจะดูกลายเป็นที่หมายปองของเหล่ามิจฉาชีพได้ พอแฟนดิชั้นทราบว่ารถหายในตอนเช้า (รถโดนขโมยตอนกลางคืนแล้วมาทราบในตอนเข้า) ก็ได้เข้แจ้งความกับตำรวจ สน.ตลิ่งชันทันทีเลยค่ะ และก็คาดหวังไว้นิดนึงค่ะว่าน่าจะยังทัน เพราะพอรู้ตัวคนร้ายบ้างแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถจับตัวและรถที่หายได้ค่ะ ดังนั้นแฟนดิชั้นและญาติๆจึงถอดใจที่จะตามหากันค่ะ ถือว่าฟาดเคราะห์ไปค่ะ ก็ดีกว่าใครเป็นอะไรไปค่ะ....

                 ผ่านไปไม่นานค่ะประมาณ 20 วันได้ดิชั้นกับแฟนก้ได้รับจดหมายราชการจาก สภอ.เมืองสุพรรณบุรี ว่ารถมอเตอร์ไซค์ได้อยู่ที่นั่นค่ะ สาเหตุน่าจะเกิดจากการที่รถโดนขโมยไปแล้วส่งต่อกันเป็นทอดๆ จนคนที่โดนจับน่าจะซื้อต่อมาแล้วนำไปแปลงบ้างเล็กน้อยในสไตล์ของเค้า แล้วนำมาขี่ในตอนกลางคืนดันไปเจอด่านตำรวจที่ตั้งอยู่เข้าจึงโดนจับตรวจหาสิ่งเสพติดแล้วเจอ เลยโดนจับพร้อมของกลางที่เป็นรถของแฟนดิชั้นด้วยนั่นเอง ดังนั้นทางตำรวจสุพรรณจึงตรวจสอบรถเพื่อหาเจ้าของรถ และพอทราบจึงได้ส่งจดหมายมาให้เพื่อเชิญเจ้าของรถไปแสดงตัวอะไรประมาณนี้นะคะ

                 หลังจากที่ทราบว่าเจอรถแล้ว และตอนนี้อยู่ที่ไหน แฟนดิชั้นก็รีบเตรียมหลักฐานแสดงตนว่าเป็นเจ้าของและเอกสารใบแจ้งความต่างๆ ให้กับทาง สน.ตลิ่งชัน ที่เป็นเจ้าของคดีช่วยประสานงานกับทาง สภอ.สุพรรณ ได้ทราบว่าเราเป็นเจ้าของรถแต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นกับคดียาเสพติด และอีกอย่างเราแจ้งความว่ารถ๔ุกขโมยก่อนที่จะโดนคดียาเสพติดนี้ด้วย จากนั้นจึงตัดสินใดเดินทางไปสุพรรณพร้อมหลักฐานและเอกสารที่มีทั้งหมด

ครั้งที่ 1 เดินทางไปสุพรรณ
                 แฟนดิชั้นเดินทางไปสุพรรณกับญาติประมาณ 2 คน เพื่อที่จะไปดูรถและไปแสดงตัวเป็นเจ้าของ ไม่ได้คิดนะคะว่าจะได้นำรถกลับเลย (แอบมีหวังนิดนึง) แต่สุดท้ายแล้วก็ยังนำกลับมาไม่ได้หรอกค่ะ ดพราะตำรวจสุพรรณเจ้าของคดีนั้นบอกว่าต้องรอให้คดีถูกตัดสินก่อนก็ประมาณ 2 เดือน หลังจากนี้ค่ะ แต่เวลา 2 เดือนที่คิดว่าแป๊ปเดียว แต่สำหรับแฟนดิชั้นนั้นรู้สึกว่านานมากค่ะ และรู้สึกสงสารรถรถมากค่ะ ที่ต้องอยุ่โดยไม่ได้มีการใช้งานเพราะคงทราบกันดีนะคะว่าของแบบนี้จะต้องได้มีการนำมาใช้ถึงจะไม่เสื่อมสภาพ ดิชั้นก็เลยให้แฟนถ่ายรูปรถและสภาพที่อยู่มาให้ดูค่ะ แฟนบอกก่อนว่าเข้าไปถ่ายข้างในไม่ได้นะตำรวจไม่ให้เข้ามันเป็นที่ไว้ของกลางเลยถ่ายได้แค่ด้านนอกลอดตามรูรั้วเอา แต่พอเห็นก็ทราบค่ะว่าเป็นรถของเรายังไงก็จำได้ถึงแม้จะโดนเปลี่ยนอะไรไปบ้างก็ตาม เช่นกรอบเฟรม เบาะรถ และอื่นๆ รูปภาพที่แฟนถ่ายมาให้ดู คือเป็นสถานที่ข้างนอก โล่งแจ้ง ไม่มีหลังคา ล้อมรอบด้วยรั้วเหล็ก และข้างในก็จะมีแต่รถมอเตอร์ไซค์ที่เป็นของกลางนับร้อยๆคันสภาพก็มีทั้งของใหม่เพิ่งโดนและของเก่าที่อาจจะทิ้งไว้นานแล้วตามสภาพ แฟนบอกว่ากลัวรถไม่ได้ขี่แล้วจะแบบรถพวกนั้นที่จอดแน่นิ่งอยู่ไม่ต่างอะไรกับซากรถพังๆคันนึงค่ะ ถึงอย่างไรก็ต้องเดินทางกลับตัวเปล่า แต่ก็รู้สึกดีค่ะที่ได้เห็นรถและรู้ว่ายังอยู่สภาพดีและอยู่ในที่ปลอดภัย....

ครั้งที่ 2 เดินทางไปสุพรรณ
                    แฟนดิชั้นก็ไม่ได้ลดละความพยายามค่ะ เพราะรถปกติเราต้องใช้กันในชีวิตประจำวันทุกครั้ง พอไม่มีก็ลำบากนิดนึงอ่ะค่ะ อีกอย่างเราก็ไม่ได้มีเงินมากพอขนาดต้องซื้อคันใหม่มาแทนเลย (ยังขาดสภาพคล่องทางการเงิน) จากนั้นเราก็ให้ตำรวจทาง สน.ตลิ่งชันให้ช่วยประสานงานกับทาง สภอ.เมืองสุพรรณให้ค่ะเพื่อติดต่อเรื่องรถกันอีกครั้งนึง จนตำรวจ สน.ตลิ่งชันได้นัดแฟนดิชั้นไปที่สุพรรณด้วยกันอีกครั้งนึง ครั้งนี้แฟนดิชั้นไปกับตำรวจ สน.ตลิ่งชัน 2 คน ที่เป็นเจ้าของตดีรถหายด้วยและได้นำเอกสารที่มีลายเซ็นของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว แต่....ก็ไม่เป็นผลค่ะ ไม่ได้อะไรกลับมาอีกเหมือนเดิม และก็ไปดูรถทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิมค่ะ  ตอนนี้ความรู้สึกของแฟนดิชั้นคือเหนื่อยค่ะ ถอดใจเลย มารอบที่ 2 แถมเอาตำรวจที่เป็นเจ้าของคดีมาด้วยยังไม่เป็นผลเลย ก็เลยคิดว่าจะรอจนกว่าคดีจะถูกตัดสินแล้วกัน ดิชั้นเลยปลอบเค้าไปว่าไม่เป็นไรหรอกรถเราอยู่ในที่ๆปลอดภัยแค่เราไม่ได้ขี่เฉยๆ ถ้าตอนนั้นได้นำออกมาแล้วเดี๋ยวก็ค่อยเอาไปทำใหม่อีกแค่นิดหน่อยก็กลับมาใช้ได้แล้ว แฟนดิชั้นก็ตอบตกลงแบบเศร้าๆค่ะ

ครั้งที่ 3 เดินทางไปสุพรรณ
                     มาถึงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 ค่ะ เรื่องก็ผ่านมาราวๆ 4 เดือน หลังจากที่รถหาย ซึ่งดิชั้นคิดว่าคดียาเสพติดนั้นน่าจะตัดสินได้แล้ว แต่แล้วได้มีข้อความ จากญาติของแฟนที่เป็นตำรวจอยู่ที่ สน.??? (ท่านได้ช่วยเหลือประสานงานให้ตั้งแต่แรกๆแล้วแหละค่ะ) ท่านส่งข้อความมาหาญาติของแฟนว่าติดต่อแฟนไม่ติด ให้ฝากบอกแฟนดิชั้นว่าให้ลางานวันไหนก็ได้ให้โทรบอกร้อยเวรที่สุพรรณ นัดไว้เลยว่าจะไปเอารถ ให้ไปรับหนังสือที่สำนักงานอัยการและขอรับรถที่ สภอ.เมืองสุพรรณ พอแฟนได้ทราบเรื่องแล้วก็ลางานทันทีเลยค่ะ วันรุ่งขึ้นก็นัดกับทางญาติไปสุพรรณในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2557 ทันทีค่ะ ดิชั้นก็ลุ้นด้วยความดีใจนะคะว่าครั้งนี้ต้องได้รถแน่ๆแล้วค่ะ ....  แต่....ผลปรากฎว่า "ผิดหวัง" มากๆค่ะ ไม่ได้รถคืนค่ะ แถมยังบอกให้เรากลับไปเอาเอกสารที่ ปปส. เพื่อมารับรถคืน แต่ดิชั้นคิดว่า เพื่ออไรยังไงคะ ไม่เช้าใจ คือพวกเราคนธรรมดาค่ะ ไม่ได้เรียนกฎหมงกฎหมายอะไรทั้งนั้น ทำไมขั้นตอนมันยุ่งยากซับซ้อนอย่างนี้คะทุกครั้งที่จะมาสุพรรณ ก่อนมาทางเรามีการติดต่อไปทางนู้นตลอด เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องเสียเที่ยวไป กรุงเทพฯ ไป สุพรรณ นะคะคุณไมใช่มีนบุรีกับบางกะปิ ถึงจะได้ไปกันได้ทุกวันตลอดๆอย่างนั้นมันเหนื่อค่ะ เสียเวลา เสียเงิน และเสียความรู้สึกค่ะ ทำไมค่ะพวกคุณจะเล่นแง่กับเรารึป่าว จะเอาเงินเหรอค่ะหรือยังไง ถ้าเงินคงไม่มีให้นะคะ ดิชั้นคนธรรมดาสามัญทำงานหาเช้ากินค่ำ มีครอบครัวที่ต้องดูแลมากมาย...แต่อย่างไรก็ตามเรื่องไม่ได้จบเพียงแค่นี้นะคะ ส่งที่อยากจะร้องไห้ และร้องเรียนไปด้วยพร้อมกันคือ....


                    คือเรื่องรถค่ะ...สภาพรถที่มาดูในวันนี้ค่ะ ไม่เหมือนเดิมแล้วค่ะ ทุกอย่างหายไปหมดแล้วค่ะ เหลือเแต่โครงและเครื่องไว้ให้ดูเล่นค่ะ ส่วนที่เป็นชิ้นส่วนต่างๆนั้นหายไปหมดแล้วค่ะ โดนถอด โดนรื้อ แม้เฟรมรถยังเอาไปเลยค่ะ แฟนดิชั้นตกใจมากค่ะรีบโทรศัพท์มาหาดิชั้นและเล่าให้ดิชั้นฟังพร้อมกับถ่ายรูปส่งไลน์มาให้ดูด้วยค่ะ แต่ว่าก็ถ่ายได้แต่ไกลๆเหมือนเดิมไม่ค่อยชัดเท่าไร แต่ดิชั้นก็ทราบได้ค่ะว่าเป็นรถของแฟนดิชั้น ดิชั้นถามแฟนว่าได้ถามตำรวจที่เฝ้าของกลางมั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น  แฟนบอกว่าพอเห็นรถเป็นสภาพนั้นแฟนก็เดินไปเรียกตำรวจคนนั้นว่า "ทำไมของที่รถผมถึงเหลือแค่นี้ นอกนั้นหายไปไหนหมด" ตำรวจคนนั้นก้เดินมาดูด้วยสีหน้าแบบเสียๆ และบอกกับแฟนว่า "โดนขโมยไปแล้วมั้ง" แค่นั้นค่ะ จบข่าวตรงนั้นเลย แฟนดิชั้นบอกว่าแทบอยากจะเข้าไปต่อยได้เดี๋ยวนั้นเลย แต่ญาติๆที่ไปด้วยกันห้ามไว้ไม่งั้นคงโดนข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่แน่นอนค่ะ แต่ความรู้สึกของเจ้าของรถสิคะ พูดยากนะคะ เพราะในหัวมันมีแต่คำว่า ทำไม ยังไง เกิดอะไรขึ้น ใครรับผิดชอบ ???

คำถามที่มีอยู่
"ทำไมคะของที่เราคิดว่าอยู่ในที่ๆปลอดภัย ถึงได้หายโดยที่ไม่ทราบได้ว่าหายไปไหน ???"

หรือว่า "จะเป็นลูกท่านหลานเธอของพวกเหล่านายตำรวจทั้งหลาย เอ๊ะยังไง???"

แล้วทำไม "ของอยู่ที่ สน. มีสถานที่เก็บ มีที่ล๊อค มีรั่ว มีตำรวจอยู่ตลอดเวลา ทำไมถึงยังหายไปได้"

แล้วอย่างนี้ "ถ้าดิชั้นจะฝากบ้านในโดครงการของพวกคุณ พวกคุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะดูแลให้เราได้จริงๆ ขนาดในบ้าน (สน.) ของพวกคุณเองแท้ๆยังดูแลไม่ได้เลย และพวกดิชั้นจะไปไว้ใจได้ยังไงคะ"

และเรื่องนี้ "พวกดิชั้นควรจะแจ้งความเอาผิดกับใครดีคะ และฝ่ายไหนของคุณจะเข้ามาช่วยรับผิดชอบกับเรื่องนี้ด้วยคะ"
ทั้งรถก็ยังไม่ได้คืน แถมยังต้องโดนถอดชิ้นส่วนอะไหล่หายไปไหนไม่รู้ มันรู้สึกมากกว่าคำว่าแย่แล้วค่ะ ดิชั้นขอฝากเรื่องนี้ให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยรับผิดชอบและอธิบายขั้นตอนต่างๆให้ด้วยนะคะ คนธรรมดาอย่างพวกดิชั้นจะต้องทำตามคุณอย่างนี้โดยที่ไม่มีอะไรคืบหน้าไปถึงเมื่อไหร่ค่ะ

มันเป็นความโมโหปนความรู้สึกที่ไม่ดีค่ะ ดิชั้นไม่ชอบอยู่แล้วนะคะพวกตำรวจค่ะ พูดตรงๆเลย แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะหาเรื่องอะไรเพราะถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่มีอะไรที่จะต้องให้เกี่ยวข้องอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ที่เจอนี่ คนที่มีของรักของหวงคงจะเข้าใจนะคะ ว่าเป็นยังไง
สมแล้วนะคะที่ เบนซ์ ท่าทราย ท้ายิงตำรวจทั้ง สน.สุพรรรณ เพราะว่าคนที่นี่เป็นอย่างนี้นี่เอง

ดิชั้นขอกราบขอโทษนะคะถ้าดิชั้นลงโพสนี้แล้วอาจจะใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม และอาจจะทำให้ใครบางคนไม่พอใจ แต่ทุกอย่างออกมาจากใจจริงๆค่ะ ทุกอย่างคือเรื่องจริง และทุกคนมีตัวตนจริง ดิชั้นทราบชื่อนายตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ถ้ายังไงแล้วดิชั้นก็อยากจะให้มีคนออกมารับผิดชอบเรื่องนี้ก็จะดีมากนะคะ และดิชั้นคงจะทำทุกอย่างให้เรื่องนี้ดำเนินไปในทางที่ถูกต้องค่ะ

ขอบคุณทุกๆท่านที่เสียเวลาอ่านเรื่องราวที่ดิชั้นเล่ามาให้ฟังนะคะ
ถ้าเรื่องนี้คืบหน้าไปอย่างไรแล้วดิชั้นจะมาเล่าให้ฟังใหม่ค่ะ
ขอบคุณค่ะ

ปล.ดิชั้นขอยืมล๊อกอินเพื่อนมาใช้ เนื่องจากว่ารอทนสมัครไม่ไหว มันอัดอั้นมากเหลือเกินค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่