ณ ตรงนี้จะเป็นการแชร์ประสบการณ์นะ ไม่ได้มีเจตนาจะตำหนิหรือต่อว่าหรือบูลลี่ใครเลยนะ โปรดเข้าใจด้วย แต่แค่อยากรู้ว่าความจริงและที่ถูกต้องมันคืออะไร ?
คือเหตุการณ์ประมาณว่าทางเราได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ประสบอุบัติเหตุชนกับรถมอเตอร์ไซค์ด้วยกัน ไม่มีผู้เสียชีวิต มีเพียงบาดเจ็ดและรถเสียหาย และคดีคือทั้งเราและคู่กรณีตกลงกันได้ไม่เอาความและต่างคนต่างรับผิดชอบ เคสนี้ประมาทร่วม
และเมื่อตกลงกันได้และเสียค่าปรับให้กับทาง สน.ไปจำนวนหนึ่ง *** ค่าปรับทางกฎหมาย ***
แต่เมื่อวันที่เสียค่าปรับเราก็จะไปเอารถออกจากโรงพัก เราและเพื่อนเดินหารถของตัวเองเพราะ
1. ร้อยเวรที่ดูแลเคสนี้พอเขียนรายงานประจำวันเสร็จและให้จ่ายค่าปรับก็ไม่ได้ดำเนินการต่อหรือแนะนำใด ๆ ** เมื่อได้สอบถามภายหลังว่าทำไมถึงไม่แนะนำต่อ ร้อยเวรผู้นี้แจ้งว่า "ผมก็เขียนรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีให้เรียบ้อยแล้ว มันก็คือจบหน้าที่ผมแล้ว " แต่ทั้งนี้เราเองก็ไม่รู้ระเบียบ ณ ตรงนี้ว่า เมื่อจบคดีแล้วเราจะเอารถออกจาก สน.เราจะต้องติดต่อใครและเราจะต้องบอกใคร และรถเราจอดอยู่ตรงไหน หรือทุกเคสต้องเดินหาเองแบบเราและเพื่อน หากันสักพักถึงเจอ
2. เมื่อเจอรถของกลางที่ตำรวจยึดมาตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว เราจะต้องเสียค่าที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ จำนวน 1000 บาท ถึงจะสามารถนำรถออกมาซ่อมแซมได้ สำหรับเคสนี้คือวันเกิดเหตุรถที่ใช้ขนรถของกลางคือ รถกระบะของ "สน." ไม่ใช่รถของบริษัทเอกชนใด ๆ และคนที่ยกขึ้นรถคือ คนของเราเองที่ไปช่วยเหลือตอนเกิดอุบัติเหตุ
3. คำว่า "รถของกลาง" ตำรวจต้องยึดไว้ที่เก็บของกลาง จนกว่าจะจบคดีไม่มีต่อที่ต้องฟ้องร้องอะไรกันอีก ถึงจะสามารถนำรถออกมาได้ ณ วันนึงเราได้ติดต่อโทรคุยกับ ตำรวจท่านนึง คำพูดในสายคือ "ถ้าไม่อยากเสียเงินสามารถนำไปจอดไว้ที่บ้านได้ --- หลุด --- แต่สักพักบอกว่าให้เข้ามาคุยกัน ที่ สน. ดีกว่า ตรงนี้ผมกับตำรวจที่คุยกันอาจจะเข้าใจกันผิดหรือเปล่า และแกก็ไม่รู้รายละเอียดของคดีเท่า ร้อยเวร
4. คำว่า รถของกลาง เมื่อจนคดีแล้ว ถ้าตามกฎหมายเราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ผมเข้าใจถูกหรือไม่ โดยทาง สน.อ้างว่า ที่ต้องเก็บค่าจอดเพราะ
4.1 ที่จอดไม่ใช่ของ สน. เป็นบ้านคนอื่น
4.2 เมื่อชำระเงินแล้ว "ไม่มีใบเสร็จรับเงิน" ให้
4.3 ทางร้อยเวรเจ้าของคดีไม่ทราบรายละเอียดตรงนี้ ว่าค่าจอดเท่าไหร่และใครเป็นผู้ดูแลตรงนี้ ? เพราะจากการพูดคุยหลังจบคดี ร้อยเวรคนนี้บอกไม่รู้เลยว่ามีตรงนี้และมีค่าใช้จ่าย และแจ้งว่าเดี๋ยวจะไปคุยให้ แต่พอเราบอกว่าจ่ายเงินไปแล้วร้อยเวรก็บอกว่า คงจะไม่ได้แล้ว
4.4 เราแจ้งว่า ขอปรึกษาท่านผู้กำกับซึ่งเราได้มีการโทรคุยกับ ท่าน ผกก.ก่อนหน้านี้แล้ว ร้อยเวรแจ้งว่า ให้คุยกับเค้าดีกว่าเพราะ ผกก.ก็คงจะบอกไม่ต่างกันกับร้อยเวรหรอกเพราะ ผกกท่าน ไม่ทราบรายละเอียด แต่เรามีรายละเอียดทุกอย่างในมือเราไง ไม่ยากหากท่านผกก จะเสียเวลาดูหลักฐานต่าง ๆจากผมคงไม่ยากหากท่านจะเข้าใจ แต่ร้อยเวรแจ้งว่าทำไมต้องแจ้ง ผู้กำกับ ผมอยากจะบอกว่าเพราะอะไร "เพราะผู้กำกับคือเจ้านายของร้อยเวรและอำนาจบริหารคือของ ผกก. " หากจะขอตรวจสอบให้ก็ไม่ยาก
***เราไม่ได้พาดพิง สน.ไหนนะ อย่าดราม่ากัน เพราะมีตำรวจท่านนึงบอกว่า "ลงโซเชียลไปหรือยัง" อันนี้มาแชร์ มาบอกประสบการณ์ และอยากถามว่าพอจะมีใครรู้ข้อกฎหมายที่แท้จริงเกี่ยวกับ การเก็บของกลางและค่าจอดรถ
***คำตอบจากสน.ในส่วนของค่าจอดรถ*** คือ ที่จอดมอเตอร์ไซค์ของ สน.เต็ม จนต้องเช่าพื้นที่เอกชน คำว่าเอกชนคือคำที่ตำรวจใช้บอกผมนะ แต่เมื่อไปดูแล้วไม่มีป่ายบอกว่าของเอกชนอะไรนะ เป็นเพียงบ้านของชาวบ้านคนนึงเท่านั้น เพราะถ้าเป็นบริษัท เอกชนหรือเป็นเอกชนจริงนั้น มันต้องมีชื่อบริษัทห้างร้านหรือหลักฐานใด ๆ ที่แสดงว่าเป็นที่เอกชน และในเมื่อไม่มีใบเสร็จรับเงินให้ก็ต้องสงสัยไว้ก่อนว่า "ทำไม" และรายละเอียดรายละเอียดต่าง ๆ ก็ต้องแจ้งเราให้ครบถ้วน
*****และในเมื่อโรงพักไม่มีที่จะเก็บของกลางแล้ว และคนที่ประสบอุบัติเหตุโดยยึดรถไปเป็นของกลางคดีทางจราจรต้องเสียเงินค่าที่จอดทุกคนหรือไม่ ****
ทำไม? การนำรถของกลางจาก สน.ต้องเสียเงินค่าที่จอด และจริงๆเราจำเป็นต้องเสียเงินค่าที่จอดรถของกลางไหม?
คือเหตุการณ์ประมาณว่าทางเราได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ประสบอุบัติเหตุชนกับรถมอเตอร์ไซค์ด้วยกัน ไม่มีผู้เสียชีวิต มีเพียงบาดเจ็ดและรถเสียหาย และคดีคือทั้งเราและคู่กรณีตกลงกันได้ไม่เอาความและต่างคนต่างรับผิดชอบ เคสนี้ประมาทร่วม
และเมื่อตกลงกันได้และเสียค่าปรับให้กับทาง สน.ไปจำนวนหนึ่ง *** ค่าปรับทางกฎหมาย ***
แต่เมื่อวันที่เสียค่าปรับเราก็จะไปเอารถออกจากโรงพัก เราและเพื่อนเดินหารถของตัวเองเพราะ
1. ร้อยเวรที่ดูแลเคสนี้พอเขียนรายงานประจำวันเสร็จและให้จ่ายค่าปรับก็ไม่ได้ดำเนินการต่อหรือแนะนำใด ๆ ** เมื่อได้สอบถามภายหลังว่าทำไมถึงไม่แนะนำต่อ ร้อยเวรผู้นี้แจ้งว่า "ผมก็เขียนรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีให้เรียบ้อยแล้ว มันก็คือจบหน้าที่ผมแล้ว " แต่ทั้งนี้เราเองก็ไม่รู้ระเบียบ ณ ตรงนี้ว่า เมื่อจบคดีแล้วเราจะเอารถออกจาก สน.เราจะต้องติดต่อใครและเราจะต้องบอกใคร และรถเราจอดอยู่ตรงไหน หรือทุกเคสต้องเดินหาเองแบบเราและเพื่อน หากันสักพักถึงเจอ
2. เมื่อเจอรถของกลางที่ตำรวจยึดมาตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว เราจะต้องเสียค่าที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ จำนวน 1000 บาท ถึงจะสามารถนำรถออกมาซ่อมแซมได้ สำหรับเคสนี้คือวันเกิดเหตุรถที่ใช้ขนรถของกลางคือ รถกระบะของ "สน." ไม่ใช่รถของบริษัทเอกชนใด ๆ และคนที่ยกขึ้นรถคือ คนของเราเองที่ไปช่วยเหลือตอนเกิดอุบัติเหตุ
3. คำว่า "รถของกลาง" ตำรวจต้องยึดไว้ที่เก็บของกลาง จนกว่าจะจบคดีไม่มีต่อที่ต้องฟ้องร้องอะไรกันอีก ถึงจะสามารถนำรถออกมาได้ ณ วันนึงเราได้ติดต่อโทรคุยกับ ตำรวจท่านนึง คำพูดในสายคือ "ถ้าไม่อยากเสียเงินสามารถนำไปจอดไว้ที่บ้านได้ --- หลุด --- แต่สักพักบอกว่าให้เข้ามาคุยกัน ที่ สน. ดีกว่า ตรงนี้ผมกับตำรวจที่คุยกันอาจจะเข้าใจกันผิดหรือเปล่า และแกก็ไม่รู้รายละเอียดของคดีเท่า ร้อยเวร
4. คำว่า รถของกลาง เมื่อจนคดีแล้ว ถ้าตามกฎหมายเราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ผมเข้าใจถูกหรือไม่ โดยทาง สน.อ้างว่า ที่ต้องเก็บค่าจอดเพราะ
4.1 ที่จอดไม่ใช่ของ สน. เป็นบ้านคนอื่น
4.2 เมื่อชำระเงินแล้ว "ไม่มีใบเสร็จรับเงิน" ให้
4.3 ทางร้อยเวรเจ้าของคดีไม่ทราบรายละเอียดตรงนี้ ว่าค่าจอดเท่าไหร่และใครเป็นผู้ดูแลตรงนี้ ? เพราะจากการพูดคุยหลังจบคดี ร้อยเวรคนนี้บอกไม่รู้เลยว่ามีตรงนี้และมีค่าใช้จ่าย และแจ้งว่าเดี๋ยวจะไปคุยให้ แต่พอเราบอกว่าจ่ายเงินไปแล้วร้อยเวรก็บอกว่า คงจะไม่ได้แล้ว
4.4 เราแจ้งว่า ขอปรึกษาท่านผู้กำกับซึ่งเราได้มีการโทรคุยกับ ท่าน ผกก.ก่อนหน้านี้แล้ว ร้อยเวรแจ้งว่า ให้คุยกับเค้าดีกว่าเพราะ ผกก.ก็คงจะบอกไม่ต่างกันกับร้อยเวรหรอกเพราะ ผกกท่าน ไม่ทราบรายละเอียด แต่เรามีรายละเอียดทุกอย่างในมือเราไง ไม่ยากหากท่านผกก จะเสียเวลาดูหลักฐานต่าง ๆจากผมคงไม่ยากหากท่านจะเข้าใจ แต่ร้อยเวรแจ้งว่าทำไมต้องแจ้ง ผู้กำกับ ผมอยากจะบอกว่าเพราะอะไร "เพราะผู้กำกับคือเจ้านายของร้อยเวรและอำนาจบริหารคือของ ผกก. " หากจะขอตรวจสอบให้ก็ไม่ยาก
***เราไม่ได้พาดพิง สน.ไหนนะ อย่าดราม่ากัน เพราะมีตำรวจท่านนึงบอกว่า "ลงโซเชียลไปหรือยัง" อันนี้มาแชร์ มาบอกประสบการณ์ และอยากถามว่าพอจะมีใครรู้ข้อกฎหมายที่แท้จริงเกี่ยวกับ การเก็บของกลางและค่าจอดรถ
***คำตอบจากสน.ในส่วนของค่าจอดรถ*** คือ ที่จอดมอเตอร์ไซค์ของ สน.เต็ม จนต้องเช่าพื้นที่เอกชน คำว่าเอกชนคือคำที่ตำรวจใช้บอกผมนะ แต่เมื่อไปดูแล้วไม่มีป่ายบอกว่าของเอกชนอะไรนะ เป็นเพียงบ้านของชาวบ้านคนนึงเท่านั้น เพราะถ้าเป็นบริษัท เอกชนหรือเป็นเอกชนจริงนั้น มันต้องมีชื่อบริษัทห้างร้านหรือหลักฐานใด ๆ ที่แสดงว่าเป็นที่เอกชน และในเมื่อไม่มีใบเสร็จรับเงินให้ก็ต้องสงสัยไว้ก่อนว่า "ทำไม" และรายละเอียดรายละเอียดต่าง ๆ ก็ต้องแจ้งเราให้ครบถ้วน
*****และในเมื่อโรงพักไม่มีที่จะเก็บของกลางแล้ว และคนที่ประสบอุบัติเหตุโดยยึดรถไปเป็นของกลางคดีทางจราจรต้องเสียเงินค่าที่จอดทุกคนหรือไม่ ****