เขาสูงเสียดฟ้า..........ธาราเย็นใส.............ถิ่นพยัคฆ์ร้ายเจ้าแห่งพงไพร.........หนึ่งในผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของไทย....
ดินแดนที่สายหมอกโอบรอบกาย...........พิชิตใจ พิชิตกาย สู่เป้าหมาย "โมโกจู"............
#10ข้อควรรู้ก่อนพิชิตยอดดอยโมโกจู
1. ดอยโมโกจู เป็นยอดเขาที่สูง 1950 เมตร สูงที่สุดในแถบนี้ (ถ้าไม่นับยอดอื่นที่สูงกว่า) จุดเด่นอยู่ที่เส้นทางเดินป่าระยะไกล 5 วัน 4 คืน รวมระยะทางเดินเท้ากว่า 60 กิโลเมตร และวิวทะเลหมอก 360 บนยอดที่มีก้อนหินรูปเรือใบที่ตั้งเป็นสัญลักษณ์อยู่บนนั้น
2. ในปีนี้ (พ.ศ.2557-58) ทางอุทยานช่วยลดระดับความเหนื่อยของการเดินทาง ด้วยการใช้รถไถพ่วงกระบะรับ-ส่งระหว่างที่ทำการไปแคมป์แม่กระสา จากเดิมที่เป็นการเดินเท้าตามทางลูกรัง ซึ่งทำให้เหลือระยะทางเดินเท้าเพียง 30 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน ถือเป็นการลดจุดเด่นออกไป แต่ผมก็ดีใจเพราะไม่ต้องเดินนาน
3. อช.แม่วงก์เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นโมโกจูได้แค่เดือนพ.ย.ถึงก.พ. เพียงสัปดาห์ละไม่เกิน 24 คน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 12 คน ในทุกวันเสาร์ อาทิตย์ จันทร์ เปิดให้จองแบบทีมมาก่อนได้ก่อน โดยมีการแจ้งกติกาและวันเปิดจองพร้อมกันทีเดียวทั้งปี โดยในรอบปีนี้และต้นปีห้าล้วนเต็มหมดแล้ว!!! หากไม่มีเส้นสายหรืออิทธิพลเหนือธรรมชาติ จงทำใจไว้เที่ยวแบบคนธรรมดาๆในปีหน้า
4. เห็บลม ทาก คุ่น และใบไม้มีพิษเยอะพอสมควร โปรดเตรียมเครื่องแต่งตัว และสารเคมีป้องกันอย่างเต็มยศ หากไม่อยากกลับมาเกาหรือรักษาแผลเป็นทีหลัง
5. เส้นทางวันแรก นั่งรถไถไปแคมป์แม่กระสา-เดินไปแคมป์แม่เรวา-เดินไปน้ำตกแม่เรวา-เดินกลับแคมป์แม่เรวา ระยะทางรถ 14 กม.(4 ชั่วโมง) ระยะทางเดินเท้าไปกลับ 12 กม.(รวม 6 ชั่วโมง) ดังนั้นเผื่อเวลาให้ดี เพราะเรามีแสงอาทิตย์ใช้แค่ 12 ชั่วโมง มัวโอ้เอ้ อาจมืดก่อน หรือพลาดการเล่นน้ำตก และการถ่ายเซลฟีได้
6. เส้นทางวันที่สองขึ้นสู่ยอดดอยด้วยระยะทาง 8 กิโลเมตร แต่มีความลาดชันเกือบ 45 องศาตลอดทาง ไม่ชันมากเท่าเนินมรณะภูสอยดาว หรือปางวัวดอยหลวงเชียงดาว แต่ด้วยความไกลก็ทำให้ขาล้าได้เหมือนกัน รองเท้าต้องเชคสภาพให้ดีเป็นพิเศษ สำคัญมาก
7. เส้นทางวันที่สามตอนลงเขาก็เช่นกัน เดินลงลาดชัน และลื่นระยะทาง 8 กิโลเมตร แถมต้องเดินทางราบต่ออีก 4 กิโลเมตร และยังต้องนั่งรถไถออกมาอีก 4 ชั่วโมง ดังนั้นคำนวณเวลาให้ดี มาช้า อาจตกรถทัวร์เที่ยวสุดท้ายได้ ที่สำคัญ เจ้าหน้าที่จะรอออกมาพร้อมกันทุกคน ดังนั้นต้องเดินพาเพื่อนมาให้ครบพร้อมกัน ไม่ต้องรีบ เพราะสุดท้ายต้องมารอเพื่อนอยู่ดี ดังนั้นควรเผื่อเวลามาเที่ยวไว้ขากลับ เพราะอาจออกจากป่าไม่ทัน หรือตกรถ ทำให้ต้องใช้เวลาเป็น 4 วัน 3 คืน แทน
8. บนลานกางเต้นท์คืนที่สอง หมอกลงจัดและลมแรงมาก ตามคอนเซปต์ชื่อดอยที่แปลว่าฝนใกล้จะตกอยู่ตลอดเวลา อุปกรณ์กันหนาวครบชุดเป็นสิ่งจำเป็นสูงสุด ตลอดจนเสื้อกันฝนหากไม่อยากเปียกน้ำค้างที่รุนแรงกว่าฝน อุปกรณ์กล้องและไอทีต่างๆ ต้องใส่ใจเรื่องการเตรียมตัวรับมือกับความชื้นเป็นพิเศษ
9. พี่ๆเจ้าหน้าที่อุทยานแม่วงก์ ดูแลดีมาก ไม่เคยเห็นอุทยานแห่งชาติใดดูแลต้อนรับขับสู้นักท่องเที่ยวดีขนาดนี้มาก่อน พวกเราทุกคนประทับใจมากๆครับ
10. ติดตามเรื่องราวการผจญภัยของพวกเราได้ที่นี่ครับ
http://ppantip.com/topic/32882580 และอย่าลืมมาร่วมท่องเที่ยวไปด้วยกันที่ ไกด์กากๆลากไปเที่ยว ครับ
******************************************************************************************
ติดตามการเดินทางของไกด์กากๆ ลากไปทำเที่ยวได้ที่นี่ครับ -->
https://www.facebook.com/guidejourney
******************************************************************************************
รีวิวการท่องเที่ยวเดินป่าเมืองไทยในช่วงปลายฝนต้นหนาว พฤศจิกายน 2557 กับผืนป่าอันลือเลื่องด้านความโหดของระยะทาง ตลอดจนความสวยงามของวิวทิวทัศน์บนยอดเขาที่สูงติดอันดับหนึ่งใน 15 ของประเทศไทย สไตน์การเล่าเรื่องของนักท่องเที่ยวมือใหม่ มีแรง.. มีใจ... คว้าเป้ 1 ใบละตามไปกับผมได้เลยครับ ใน "ไกด์กากๆลากไปเดินป่า ตอน ฝนใกล้จะตกที่โมโกจู"...........
[CR] ไกด์กากๆลากไปเดินป่า ตอน ฝนใกล้จะตกที่โมโกจู
ดินแดนที่สายหมอกโอบรอบกาย...........พิชิตใจ พิชิตกาย สู่เป้าหมาย "โมโกจู"............
#10ข้อควรรู้ก่อนพิชิตยอดดอยโมโกจู
1. ดอยโมโกจู เป็นยอดเขาที่สูง 1950 เมตร สูงที่สุดในแถบนี้ (ถ้าไม่นับยอดอื่นที่สูงกว่า) จุดเด่นอยู่ที่เส้นทางเดินป่าระยะไกล 5 วัน 4 คืน รวมระยะทางเดินเท้ากว่า 60 กิโลเมตร และวิวทะเลหมอก 360 บนยอดที่มีก้อนหินรูปเรือใบที่ตั้งเป็นสัญลักษณ์อยู่บนนั้น
2. ในปีนี้ (พ.ศ.2557-58) ทางอุทยานช่วยลดระดับความเหนื่อยของการเดินทาง ด้วยการใช้รถไถพ่วงกระบะรับ-ส่งระหว่างที่ทำการไปแคมป์แม่กระสา จากเดิมที่เป็นการเดินเท้าตามทางลูกรัง ซึ่งทำให้เหลือระยะทางเดินเท้าเพียง 30 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน ถือเป็นการลดจุดเด่นออกไป แต่ผมก็ดีใจเพราะไม่ต้องเดินนาน
3. อช.แม่วงก์เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นโมโกจูได้แค่เดือนพ.ย.ถึงก.พ. เพียงสัปดาห์ละไม่เกิน 24 คน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 12 คน ในทุกวันเสาร์ อาทิตย์ จันทร์ เปิดให้จองแบบทีมมาก่อนได้ก่อน โดยมีการแจ้งกติกาและวันเปิดจองพร้อมกันทีเดียวทั้งปี โดยในรอบปีนี้และต้นปีห้าล้วนเต็มหมดแล้ว!!! หากไม่มีเส้นสายหรืออิทธิพลเหนือธรรมชาติ จงทำใจไว้เที่ยวแบบคนธรรมดาๆในปีหน้า
4. เห็บลม ทาก คุ่น และใบไม้มีพิษเยอะพอสมควร โปรดเตรียมเครื่องแต่งตัว และสารเคมีป้องกันอย่างเต็มยศ หากไม่อยากกลับมาเกาหรือรักษาแผลเป็นทีหลัง
5. เส้นทางวันแรก นั่งรถไถไปแคมป์แม่กระสา-เดินไปแคมป์แม่เรวา-เดินไปน้ำตกแม่เรวา-เดินกลับแคมป์แม่เรวา ระยะทางรถ 14 กม.(4 ชั่วโมง) ระยะทางเดินเท้าไปกลับ 12 กม.(รวม 6 ชั่วโมง) ดังนั้นเผื่อเวลาให้ดี เพราะเรามีแสงอาทิตย์ใช้แค่ 12 ชั่วโมง มัวโอ้เอ้ อาจมืดก่อน หรือพลาดการเล่นน้ำตก และการถ่ายเซลฟีได้
6. เส้นทางวันที่สองขึ้นสู่ยอดดอยด้วยระยะทาง 8 กิโลเมตร แต่มีความลาดชันเกือบ 45 องศาตลอดทาง ไม่ชันมากเท่าเนินมรณะภูสอยดาว หรือปางวัวดอยหลวงเชียงดาว แต่ด้วยความไกลก็ทำให้ขาล้าได้เหมือนกัน รองเท้าต้องเชคสภาพให้ดีเป็นพิเศษ สำคัญมาก
7. เส้นทางวันที่สามตอนลงเขาก็เช่นกัน เดินลงลาดชัน และลื่นระยะทาง 8 กิโลเมตร แถมต้องเดินทางราบต่ออีก 4 กิโลเมตร และยังต้องนั่งรถไถออกมาอีก 4 ชั่วโมง ดังนั้นคำนวณเวลาให้ดี มาช้า อาจตกรถทัวร์เที่ยวสุดท้ายได้ ที่สำคัญ เจ้าหน้าที่จะรอออกมาพร้อมกันทุกคน ดังนั้นต้องเดินพาเพื่อนมาให้ครบพร้อมกัน ไม่ต้องรีบ เพราะสุดท้ายต้องมารอเพื่อนอยู่ดี ดังนั้นควรเผื่อเวลามาเที่ยวไว้ขากลับ เพราะอาจออกจากป่าไม่ทัน หรือตกรถ ทำให้ต้องใช้เวลาเป็น 4 วัน 3 คืน แทน
8. บนลานกางเต้นท์คืนที่สอง หมอกลงจัดและลมแรงมาก ตามคอนเซปต์ชื่อดอยที่แปลว่าฝนใกล้จะตกอยู่ตลอดเวลา อุปกรณ์กันหนาวครบชุดเป็นสิ่งจำเป็นสูงสุด ตลอดจนเสื้อกันฝนหากไม่อยากเปียกน้ำค้างที่รุนแรงกว่าฝน อุปกรณ์กล้องและไอทีต่างๆ ต้องใส่ใจเรื่องการเตรียมตัวรับมือกับความชื้นเป็นพิเศษ
9. พี่ๆเจ้าหน้าที่อุทยานแม่วงก์ ดูแลดีมาก ไม่เคยเห็นอุทยานแห่งชาติใดดูแลต้อนรับขับสู้นักท่องเที่ยวดีขนาดนี้มาก่อน พวกเราทุกคนประทับใจมากๆครับ
10. ติดตามเรื่องราวการผจญภัยของพวกเราได้ที่นี่ครับ http://ppantip.com/topic/32882580 และอย่าลืมมาร่วมท่องเที่ยวไปด้วยกันที่ ไกด์กากๆลากไปเที่ยว ครับ
******************************************************************************************
ติดตามการเดินทางของไกด์กากๆ ลากไปทำเที่ยวได้ที่นี่ครับ --> https://www.facebook.com/guidejourney
******************************************************************************************
รีวิวการท่องเที่ยวเดินป่าเมืองไทยในช่วงปลายฝนต้นหนาว พฤศจิกายน 2557 กับผืนป่าอันลือเลื่องด้านความโหดของระยะทาง ตลอดจนความสวยงามของวิวทิวทัศน์บนยอดเขาที่สูงติดอันดับหนึ่งใน 15 ของประเทศไทย สไตน์การเล่าเรื่องของนักท่องเที่ยวมือใหม่ มีแรง.. มีใจ... คว้าเป้ 1 ใบละตามไปกับผมได้เลยครับ ใน "ไกด์กากๆลากไปเดินป่า ตอน ฝนใกล้จะตกที่โมโกจู"...........
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น