เข้าใจมั้ย!ภาพหลุด“อัยการ”ไม่ได้คุยเพื่อไทย!? ไม่เกี่ยวคดี“ถอดปู”




          กระหึ่มโซเชียลทันที เมื่อมีการแชร์ภาพที่ลือกันว่านายตระกูล วินิจนัยภาคอัยการสูงสุด ร่วมรับประทานอาหารกับทีมผู้บริหารบริษัท “SC ASSET” พร้อมด้วยน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตรัฐมนตรีเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) และน.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ ในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ร้านโฮคิทเช่น (Ho kichen) ย่านเหม่งจ๋าย กทม. เมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา
              
         ทั้งนี้ ทันทีที่ปรากฏข่าวออกไป อัยการสูงสุดได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ไปร่วมงานตามที่กล่าวหา ภาพที่แชร์ว่อนเน็ตเป็นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นโดยกลุ่มศึกษาหลักสูตรผู้บริหารในกระบวนการยุติธรรมชั้นสูง (บ.ย.ส.) รุ่นที่ 18 ภายใต้ชื่อกลุ่ม “บัลลังก์” โดยมีนายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครอง ที่อบรม บ.ย.ส.รุ่นที่ 18 เข้าร่วมในงานเพื่อหารือเตรียมจัดงาน บ.ย.ส.รวมรุ่นที่ 1-19 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 18 พ.ย.57 โดยน.อ.อนุดิษฐ์ กับ น.ส.ศันสนีย์ เป็นพิธีกรดำเนินรายการบนเวที
            
         อย่างไรก็ตาม ภาพที่อัยการสูงสุดบอกว่า เป็นงานเลี้ยงบ.ย.ส.รุ่น18แต่ในโซเชียลเน็ตเวิร์คได้นำไปเชื่อมโยงกับคดีจำนำข้าวที่อัยการยืดเยื้อ กระทั่งไม่สั่งฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนในที่สุดป.ป.ช.ได้ยื่นสำนวนดังกล่าวเพื่อเอาผิดในคดีถอดถอน ทางการเมือง 5 ปี ต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จะมีภาพที่ปรากฏดังกล่าวมีนัยสำคัญทางการเมืองหรือไม่ ซึ่งก็โปรดใช้วิจารณญาณ
    
     แต่หากอัยการสูงสุดไม่ได้ไปร่วมงานดังกล่าวจริง ก็ไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจอะไร     มีก็แต่อัยการสูงสุดแค่เข้าใจความรู้สึกของประชาชน โดยเฉพาะกรณีจำนำข้าวที่ยืดเยื้อมานาน และยังจับคนผิดมาลงโทษไม่ได้ ซึ่งคดีนี้ทำให้ประเทศชาติเสียหายกว่า 7 แสนล้าน ชาวนาผูกคอตายไป 11 ราย คดีทุจริตจำนำข้าวที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะมีส่วนรับผิดชอบมากน้อยเพียงใด นี่คือสิ่งที่ประชาชนกังวล

          ที่สำคัญ คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เพิ่งเด้งฟ้าผ่าอัยการสูงสุดไปเมื่อวันที่ 11 .มิ.ย.57 โดยมีคำสั่งฉบับที่ 62/2557 แต่งตั้งข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ ให้นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อัยการสูงสุด ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และให้นายตระกูล วินิจนัยภาค รองอัยการสูงสุด ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนอัยการสูงสุดแทน นั่นจึงเป็นความห่วงใยเป็นพิเศษของพล.อ.ประยุทธ์ที่มีต่อคดีจำนำข้าว ถึงได้มีการเปลี่ยนอัยการสูงสุดกระทันหัน

         แต่ความห่วงใยของพล.อ.ประยุทธ์ จนถึงบัดนี้ คดีทุจริตจำนำข้าว ที่อัยการสูงสุดจะชี้มูลความผิดในคดีอาญายังหาข้อสรุปไม่ได้ ติดขัดสำนวนยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ จึงทำให้ป.ป.ช.ยื่นเรื่องให้กับประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เข้าสู่วาระการประชุมสนช. นั่นจึงทำให้อัยการสูงสุดถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักว่า ที่ผ่านมาได้ยืดเยื้อคดีจนกระทั่งถูกลดทอนความน่าเชื่อถือ

         ย้อนกลับไปวันที่ 4 ก.ย.57 อัยการสูงสุดยังไม่สั่งฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยให้ความเห็นว่าสำนวนยังไม่สมบูรณ์ พร้อมให้ตั้งคณะทำงานร่วมกับ ป.ป.ช.ภายใน14 วัน เพื่อพิจารณาสำนวนคดี

         10 ต.ค.57 คณะกรรมการป.ป.ช.ประชุมร่วมกับอัยการสูงสุด นำโดยนายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุด ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายอัยการ กับนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาป.ป.ช. เพื่อหาข้อสรุปส่งสำนวนฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติจะส่งฟ้องคดี โดยต้องรับฟังความเห็นในการไต่สวนพยานเพิ่มเติม ก่อนที่อัยการจะนำข้อมูลที่ได้กลับไปประชุมอีกครั้ง
    
    22 ต.ค.57 นายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุด ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานอัยการพิจารณาคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ประชุมร่วมกันระหว่างอัยการกับป.ป.ช. ได้ข้อสรุปว่ายังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากสำนวนคดีดังกล่าวยังมีข้อไม่สมบูรณ์หลายประเด็น

        7.พ.ย. 57 นายวุฒิพงษ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุด ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน ร่วมหารือครั้งที่ 3 เพื่อพิจารณาหลักฐานที่ไม่สมบูรณ์ และรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ โดยได้ข้อยุติยังไม่สั่งฟ้อง ให้สอบพยานเพิ่มเติม เพื่อให้หลักฐานแน่นหนาขึ้น
    กระทั่งล่าสุด 14พ.ย. ป.ป.ช.ได้ยื่นคดีถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ต่อประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้สนช.นำเข้าวาระการประชุมเพื่อดำเนินการพิจารณาถอดถอน และสนช.ได้มีการเลื่อนพิจารณาคดีไปเป็นวันที่ 28 พ.ย.57
    
     อย่างไรก็ถาม กระแสภาพที่ว่อนเน็ต อ้างอิงถึงนายตระกูล วินิจนัยภาค ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย และทีมบริษัทเอสซี แอสเสท ที่ดำเนินธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ โดยมีนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ หนึ่งในคณะกรรมการบริษัท เอสซี แอสเสทสามีของเอม-พิณทองทา ชินวัตร ลูกเขยของทักษิณ ชินวัตร รวมอยู่ด้วย จะทำให้สังคมโยงใยไปถึงคดีทุจริตจำนำข้าวที่ยืดเยื้อมายาวนาน

          เพราะไม่ใช่คนอื่น คนไกล แต่ที่แน่ชัดคืออัยการสูงสุดได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่า ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการจัดงานเลี้ยงบ.ย.ส.รุ่นที่ 18 ที่ปรากฏคนของพรรคเพื่อไทยและทีมบริษัทเอสซี แอสเสทแม้แต่น้อย
    
    
     โปรดใช้วิจารณญาณ... ดังที่อัยการสูงสุดได้กล่าวไว้!?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่