เธอเคยรู้สึกเหมือนกันบ้างไหม

1
เราเคยรักคนอยู่คนนึง เหตุการณ์มันเริ่มจากเรารู้จักเขาจากคนใกล้ตัว จำได้เลยว่าตอนที่เจอกันครั้งแรกเราไม่ชอบหน้าเขาเลยแต่หลังจากที่เจอกันครั้งนั้นเขาก็ได้แอดเฟสบุ๊คมาหาเรา เราก็จำได้ว่าเป็นเขาก็เลยรับเฟรนไปโดยไม่คิดอะไร ผ่านไปไม่กี่วันเขาก็ทักแชทเฟสบุ๊คมาเขาถามเราว่าจำเขาได้ไหมเราก็บอกไปว่าจำได้ค่ะ จากนั้นเขาก็ชวนคุยนิดหน่อยแล้วก็หายไป(ช่วงนั้นเราสอบพอดีก็เลยไม่ได้สนใจอะไรสักเท่าไหร่) หลังจากที่เราสอบเสร็จเขาก็ทักแชทมาระบายเกี่ยวกับรถเขาที่โดนทุบกระจกแล้วโดนขโมยของไป(เราไม่รู้หรอกว่าเค้าตั้งใจทักมารึป่าว)แล้วเขาก็ถามอีกว่าเป็นไงบ้าง สอบเสร็จรึยังเราก็บอกว่าสอบเสร็จแล้วก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้างไปตามภาษา หลังจากวันนั้นเขาก็ทักมาหาเราทุกวันชวนเราคุย(เราไม่รู้ตัวเลยว่าเขาเข้ามาจีบหรือคุยเล่นๆ)จนวันนึงเขาขอไลน์เราไป หลังจากที่เขาได้ไลน์เราไปเขาก็ทักมาชวนเราคุยตลอดเวลา(เราก็เริ่มรู้ตัวว่าเข้ามาจีบ)จากนั้นก็คุยมาเรื่อยๆจนวันนึงเขาชวนเราไปกินข้าว เราก็ถามเพื่อนว่าไปดีไหม เพื่อนก็บอกกลับมาว่าก็ไปสิ เคยเจอกันแล้วก็คงไม่มีอะไร เราก็เลยตัดสินใจไปแต่เราก็ชวนเพื่อนไปด้วยเพราะเรากลัวทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่กับเขา หลังจากที่ได้ไปกินข้าวกัน เขาก็ดูจะจีบเราอย่างเต็มรูปแบบ ไลน์มาชวนคุยทั้งวัน เลิกงานก็โทรมาหา อยู่ที่ไหนก็โทรมาหา ชวนไปกินข้าว ดูหนัง ชวนไปนู่นไปนี่อยู่เรื่อยๆ จนวันนึงเราก็ไปกินข้าวกันสองคน(ก่อนหน้านี้ไปไหนส่วนมากเราจะชวนเพื่อนไปด้วยจนเริ่มรู้สึกว่าเกรงใจเขา ก็เลยไปกับเขาแค่สองคน) เราก็กินข้าวร้านริมน้ำกันปกติ พอขากลับเขาก็ชวนแวะไหว้พระหลังจากที่ไหว้พระเสร็จ เรารู้สึกได้ว่าหนามดอกกุหลาบตำนิ้วเรา เราเลยเดินไปที่แสงสว่างๆเพื่อไปดูว่าโดนตำจริงไหม เขาก็ช่วยดูแล้วอยู่ๆเขาก็จับมือเราแล้วก็บอกเราไม่เป็นไรนะเดี๋ยวหาย(ก่อนหน้านี้ที่ไปไหนด้วยกันไม่เคยจับมือกันเลย) หลังจากที่เขาจับมือเราเขิลมากเลยเพราะจากคนที่ไม่ชอบหน้ากลายเป็นความรู้สึกดีๆ เราก็ทำตัวไม่ค่อยถูกก็ได้แต่กุมมือเขาไว้เหมือนกัน แล้วเราก็เดินเล่น ถ่ายรูปคู่กัน เค้าจะเป็นคนชอบถ่ายรูปมากๆวันนั้นเรามีรูปสวยๆกลับมาเยอะเลย แต่ก่อนจะกลับตอนนั่งอยู่บนรถเขาก็เอื้มมือมากุมมือเราอีก แล้วก็หันมามองหน้าเราแล้วยิ้มเราก็ได้แต่เขิล เขิลจนทำตัวไม่ถูก เขาก็ชวนเราคุยตลอดทางระหว่างทางกลับ เขาก็กุมมือเราไว้ตลอด เราจะเอามือออกเพื่อให้เขาขับรถถนัดๆ แต่เขาก็ไม่ยอม วันนั้นเป็นวันที่เรารู้สึกว่าเราเริ่มรู้สึกดีกับเขาจริงๆแล้วแหละเพราะเรามีความสุขมากๆ พอเขาส่งเราเสร็จ กลับถึงบ้านเขาก็รีบโทรหาเรา คุยกับเราเกือบชั่วโมง วันต่อมาเขามีงานเลี้ยงที่บริษัทเขาก็ชวนเราให้ไปด้วยกัน เราก็ไม่กล้าไปเพราะเรากับเขาอายุต่างกันมาก กลัวว่าจะทำตัวต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน เจ้านายเขาไม่ถูก ก็เลยตัดสินใจไม่ไปดีกว่าแต่หลังจากที่เขากลับจากงานเลี้ยง เขาก็งอแง อ้อนอยากจะเจอเรา. อยากคุยกับเราก็เลยขอมาหาที่หอพัก ตอนแรกเราบอกเขาว่าค่อยเจอกันพรุ่งนี้ก็ได้วันนี้ดึกแล้วพรุ่งนี้เขาก็ต้องทำงานอีก แต่เขาก็ไม่ยอมพูดอ้อนจนเราใจอ่อนให้เขามาหา พอเราขึ้นรถเขา เขาก็พูดว่าเขาดื่มมา มันทำให้เขาอยากเจอเรา อยากคุย อยากมาหา อยากกอด(จริงๆคือเขาเมาทำให้เขากล้าพูดอะไรออกมามากมาย) หลังจากที่เขาจอดรถเขาก็มากอดเรา เราก็ตกใจเพราะปกติเราค่อนข้างถือตัว ไม่เคยให้ผู้ชายกอด(นอกจากเพื่อนที่สนิทกันจริงๆ)แล้วก็บอกว่าคิดถึงจากนั้นเขาก็พูดนั่น พูดนี่ชวนคุยอยู่นานมากๆ จนเราเริ่มรู้สึกง่วง เราก็บอกเขาว่ากลับได้แล้ว มันดึกแล้วพรุ่งนี้เขาต้องทำงานอีก เดี๋ยวพักผ่อนไม่พอหน้าจะแก่ไปอีกนะ(เราชอบพูดแกล้งเขาว่าเขาแก่ อายุเยอะ ซึ่งมันก็จริงแหละเพราะเขาแก่กว่าเราตั้ง11ปี)เขาก็กอดเราแน่นขึ้นอีกเขาบอกว่าหมั่นเขี้ยวเพราะเราชอบพูดว่าเขาแก่(ถึงเธอแก่เเต่เรารักเธอมากเลยนะ เราไม่เคยอายที่คุยกับเธอไม่อายที่จะบอกใครๆว่าเธอคือคนพิเศษ เป็นคำพูดที่เราพูดในใจตั้งแต่ที่รู้สึกว่าเขาจริงจังกับเราแล้วเราก็รักเขาไปแล้ว)หลังจากกอดกันอยู่นานเราก็บอกให้เขาวนรถกลับไปส่งเราหน้าหอพัก หลังที่ขับรถออกไปเขาก็โทรหาเราคถยกันตลอดทางจนเขาถึงบ้าน เราก็บอกให้เขาอาบน้ำ นอนได้แล้ว แต่ละวันที่คุยกับเขาเรารู้สึกมีความสุขมากๆขึ้นทุกๆวัน จนบางครั้งคนรอบข้างบอกว่าอิจฉา บางคนก็บอกว่าไม่เคยเห็นเราในมุมมุ้งมิ้งกับใครขนาดนี้เลย(เราก็รู้สึกนะว่าเราไมีเคยเป็นแบบนี้กับใคร แฟนเก่าก็ไม่เคยเลย)เราก็คุยกับเขาไปเรื่อยๆ แต่เขาก็ไม่เคยบอกว่าเราอยู่ในฐานะอะไร ไม่เคยขอเราเป็นแฟน เราก็มีอารมณ์ที่คิดเหมือนกันนะว่าคุยกันมาขนาดนี้แล้ว เราเป็นอะไรกันวะ ทำไมไม่ขอเราเป็นแฟนสักที แต่เราก็ไม่ได้ถามอะไรเขา ก็คิดมโนไปเองอีกว่าเขาอาจจะไม่ชอบพูดแต่เขาแสดงออกทางการกระทำแทน ก็เลยลืมๆมันไป เขาก็ทำตัวปกติคือหวานเหมือนเดิม พาไปนู่นไปนี่ พาไปบ้านเขา จนวันนึงเขาก็พาเราไปบ้านเขา บังเอิญวันนั้นพ่อเขาอยู่ที่บ้าน(ปกติไปไม่เคยเจอใครเลย)พอลงจากรถปุ๊ป เห็นหน้าพ่อเขาเราก็ทำตัวไม่ถูกอีก จนเขาก็แนะนำว่าเราเป็นรุ่นน้อง แต่แรกยังไม่ได้คิดอะไรยกมือไหว้เดินเอ๋อๆเข้าบ้านเขาไป แต่พอสักพักสติเริ่มกลับมาก็คิดได้ว่าเมื่อกี้เขาบอกว่าเราเป็นแค่รุ่นน้องเขาหรอ แล้วทุกครั้งที่เจอกันจับมือเรา กอดเรา ทำอะไรมุ้งมิ้งน่ารักให้เรามันคืออะไรวะ? ก็เคืองๆ แต่ก็ไม่พูดเพราะกลัวว่าเค้าจะหาว่าเราเด็กคิดมาก ก็เลยนั่งดูหนังเงียบๆไป ดูไปสักพักเขาก็นึกขึเนได้ว่านัดลูกค้าไว้จะเอาของไปให้ ก็ชวนเราออกไปด้วยกันเราก็ไป ตอนอยู่บนรถเขาก็พูดว่าเนี่ยลูกค้าเขาเป็นเกย์ เดี๋ยวตอนเอาของไปให้เราเดินจับมือกันไปนะ(เขาบอกว่าลูกค้าคนนี้ชอบทองเหมือนจะกินเขา เราก็แกล้งเขาว่าก็เธอหุ่นล่ำ สเป็กเขาไงก็หัวเราะกันไป)พอไปถึงเขาก็เดินจับมืออย่างที่เขาพูดไว้จริงๆ แล้วก็เอาของให้ลูกค้าพอเสร็จจากเอาของให้ลูกค้าขึ้นรถปุ๊ป เขาพูดทันทีเลยว่าเห็นไหมว่าลูกค้าน่ากลัว จะกินเขาอีกแล้วดูใส่เสื้อมาดิ ซีทรูเชียว จะมาอ่อยเขาอะดิแต่ฝันไปเถอะเขาชอบผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชายยยย เราก็ได้แต่ขำเพราะมันเป็นเหมือนที่เขาว่าจริงๆ 5555555 ทุกๆวันๆเราก็คุยกันมุ้งมิ้งกัน เขาทำอะไรเราไม่เคยโกรธเขาเลย เคยพยายามโกรธเขาครั้งนึงแต่ก็โกรธๆม่ลงเลยจริงๆ เจอกันก็ทำให้เรามีความสุขทุกครั้ งจนวันนึงอยู่ๆเขาหายไป โทรหาก็ไม่รับจนเราโมโหแล้วจริงๆเลยให้คนที่ทำให้เรารู้จักเขาโทรไปหาเขาแล้วถามว่าเป็นอะไร อยู่ที่ไหน ปรากฏว่าเขารับโทรศัพท์แล้วบอกว่าเค้าปวดท้องไส้ติ่ง ตอนนี้อยู่รพ. ที่ต่างจังหวัด(เขากลับไปหาแม่ที่นั่นพอดี)หลังจากที่คนนั้นบอกเรามา เขาก็โทรหาเรา เราก็ถามเขาว่าทำเราโทรไปไม่รับเลย ทำไมคนอื่นโทรไปแล้วรับ เป็นอะไร อยู่ที่ไหน รู้มั้ยว่าเราเป็นห่วงมากๆ. เขาก็บอกเหมือนที่คนนั้นบอกมา แล้วเขาก็บอกว่าขอโทษที่ไม่ได้บอก ตอนนั้นที่รู้ว่าเขาไม่สบายเราอยากจะไปหาเขาให้ได้เลย คิดด้วยนะว่าไปจังหวัดนั้นต้องไปขึ้นรถที่ไหน แล้วไปยังไงต่อ คิดอย่างเดียวเลยว่าอยากไปหา อยากไปอยู่ด้วยข้างๆ แต่เขาบอกว่าไปต้องไปเพราะเราจะลำบากเพราะต้องนั่งรถมา แล้วไหนจะถ้ามาถึงแล้วใครจะไปรับมาที่รพ  เราก็โอเคไม่ไปก็ได้แต่เธอต้องโทรหาเรานะ หรือถ้าเราโทรไปเธอต้องรับสายนะเพราะเราเป็นห่วงเธอกลัวเธอเป็นอะไร เขาก็รับปาก แต่เค้าก็ไม่ได้ทำอย่างที่รับปากหรอก เราโทรไปเขาก็รับบ้างไม่รับบ้างเราก็คิดแง่ดีไปว่าเขาป่วย เขาพักผ่อนก็ไม่ได้โกรธอะไรเขาอีก ก็ได้แต่รอเวลาให้เขาหายกลับมากรุงเทพ พอเขากลับมากรุงเทพเราก็รีบนัดเจอกันเลย แต่ก็นานเหมือนกันกว่าเขาจะว่างมาเจอเพราะเขาบอกว่าต้องเคลียงานที่ค้างไว้ให้เสร็จ เราก็พยายามเข้าใจไม่บังคับให้เขามาหา จนวันที่เราได้เจอกันเรารีบถามเขาเลยว่าเป็นไงบ้าง เจ็บไหม ลำบากรึป่าว เราถามเขาทุกอย่างเป็นห่วงเขามากๆ แต่คำตอบที่ได้กลับมาทำให้เรารู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่กำลังเปลี่ยนไปคือเขาตอบคำถามเราแค่ไม่กี่คำถาม พูดกันน้อยลงปกติเขาจะเป็นคนเฮฮาชวนเราคุยตลอด แต่เราก็ยังพยายามมองโลกในแง่ดีอยู่ว่าเขาอาจจะเหนื่อย เครียดจากงานแล้วแผลผ่าตัดก็ยังไม่หาย อาจจะทำให้เขาหงุดหงิดหรืออะไร เราก็พยายามทำตัวปกติชวนเขาคุยบ้าง ทำให้เขายิ้มจากวันที่เจอกันเขาก็กลับมาทำตัวปกติ เฮฮาเหมือนเดิม แต่ก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงได้ทีละนิดๆ เขาเริ่มบอกว่างานเยอะ ไม่ค่อยว่างเลย แต่ก็ยังคุยกันตลอดแค่ไม่มีเวลามาเจอกัน เรื่อยๆจนคุยก็กลายเป็นไม่ค่อยได้คุย เราก็คิดมาเสมอนะว่าคงเหลือเวลาอยู่ด้วยกันไม่นานแล้วใช่ไหม ทำไมเรารักเขาไปแล้วต้องเป็นแบบนี้เริ่มคิดมากขึ้นเรื่อยๆบางครั้งอึดอัดจนต้องบอกเขาไปว่าเขาเปลี่ยนไปนะ ทำไมทำงานตลอด ไม่มีเวลาตอบไลน์เรา โทรหาเราเลยหรอ เขาก็มักจะตอบกลับมาว่าทำไงได้ละก็เขาเป็นลูกน้อง เขาไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัทสักหน่อย เราก็ได้แต่ค่ะๆ เข้าใจแล้วอยู่แบบนั้นเรื่อยๆ เขาเริ่มไปไหนโดยไม่บอกอยู่ๆก็หายไป บางครั้งไปทำงานที่ต่างจังหวัดโดยไม่บอก ติดต่อไม่ได้เราก็คิดมากอีก ก็งองแง่งใส่เขาอีก ก็รู้ว่ามันยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดแต่ทำไงได้ละเราเป็นห่วงเขานิ เขาทำเหมือนเราเป็นแค่คนรู้จักที่เขาไปไหนก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องบอกเราทั้งที่เมื่อก่อนมันไม่ใช่แบบนี้เลย มันเป็นแบบนี้อยู่ซ้ำๆหลายครั้ง บางครั้งบอกเราว่าลืมโทรศัพท์ไว้แล้ต้องบินไปทำงานที่เชียงใหม่ ที่น่นที่นี่ด่วน คือก็ไม่คิดจะหาทางบอกเราเลยว่าลืมโทรศัพท์นะ ต้องไปทำงานที่นู่นนะ จนเราเริ่มทำใจว่าเราคงไม่ใช่คนสำคัของเขาจริงๆ ก็พยายามไม่จู้จี้เขาอีก จนเขาต้องบินไปดูงานที่ญี่ปุ่นคือไปต่างประเทศก็โรคุยกันก็ลำบากอยู่แล้ว. เราก็เลยไลน์ไปหาเขาแทน เขาอ่านแต่ก็ไม่ตอบเราส่งมาแค่รูปที่เขากำลังทำงาน แล้วก็ไม่มีคำพูดอะไรอีก(แต่ในเฟสบุ๊คนี่ลงรูปอย่างกับไปเที่ยวมากกว่าทำงาน)แล้วก่อนวันที่เขาจะกลับก็คอลไลน์มาหาเรา เราก็พูดไปว่าวันนี้คงฝันดีแน่ๆเลยเธอโทรมาหาเขา(ที่เขาโทรมาเพราะเมาจนพิมพ์คุยไม่ได้)ก็คุยกันได้ประมาณสามนาทีกว่าๆเขาก็ขอวางบอกว่าจะไปอาบน้ำนอนแล้ว ตอนนั้นคุยกันแค่ไม่กี่ประโยคเองเราก็บอกเขาไปว่าเราคิดถึงนะ เรารักเขานะ กลับมาแล้วมาเจอกันนะเขาก็ตอบโอเค เดี๋ยวเรามาเจอกัน เขาก็บอกคิดถึงเราเหมือนกัน พูดเสร็จก็วางไป แต่ความรู้สึกเราตอนนั้นอย่กจะร้องไห้มากๆคุยกันแค่ไม่กี่ประโยค ไปเป็นอทิตได้คยกันแคสามนาทีคือมันแย่มากๆอ่ะ วันรุ่งขึ้นเป็นวันที่เขากลับมาเราไม่รู้หรอกว่าเค้าจะกลับมาถึงตอนไหเค้ได้บอกเรา เราก็ลองโทรไปเรื่อยๆจนโทรติดแต่เขาก็ไม่รับ ผ่านไปจากหนึ่งวันเป็นหนึ่งอาทิตย์ก็ไม่ติดต่อเรา. จนเราร้องไห้โทษตัวเองว่าเราทำอะไรผิดหรอ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เราทำทุกทางจนได้คุยกับเขา คำตอบที่ตอบกลับมาคืองานเยอะอีกแล้ว งานๆๆๆๆๆๆๆ อีกแล้ว เราก็บอกโอเคงั้นเราจัได้เจอกันเมื่อไหร่ เขาก็บอกว่ายังไม่แน่ใจแต่ถ้าเขาว่างจะรีบมาหานะ. เราก็โอเคงั้นค่อยเจอกันวันที่เขาว่าง  แต่ละวันที่รอเขาเราคิดตลอดเลยว่ามันคงจะจบแล้วจริงๆ ก็ได้แตแอบร้องไห้คนเดียว จนวันที่เขาบอกว่าเขาว่างแล้วนะเดี๋ยวไปหา วันนั้นเรามีความสุขมากที่จะได้เจอเขาหลังจากที่ไม่ได้เจอกันเดือนนึง แต่สุดท้ายเขาก็ไม่มเรารอเก้อโทรไปก็ปิดเครื่อง เช้ามาเราก็รีบโทรหาเขาเลยนะว่าไหนบอกจะมา โกหกกันทำไมมีอะไรพูดกันตรงได้ไหมอย่าปล่อยให้เราคิดคนเดียวเขาก็บอกว่าเขาเหนื่อยเขาลืม กลับบ้านมาก็หลับเลยแบตก็หมด เราเป็นนงเอกอีกแล้วบอกเขาไปว่างั้นไม่เป็นไรค่อยเจอกัน แต่วันหลังอย่าทำแบบนี้อีกเพราะคนรอก็มีความรู้สึก หลังจากวันนั้นกว่าจะได้เจอกันก็ประมาณอาทิตย์กว่าๆซึ่งเราบังคับให้เขามาหาเอง เพราะเราคิดถึงเป็นห่วงเขามาก โทรปก็ไม่ค่อยรับก็เลยต้องบังคับให้มา เจอกันเขาก็ทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่กลายเป็นว่าเราคิดมากอยู่คนเดียวจนเราอยากจะร้องไห้ เค้าทำตัวปกติมากจับมือเรากอดเราหอมแก้มเราปกติเลย หมดวันเขากลับบ้านไปก็เหมือนเดิมคือไม่รับโทรศัพท์อีกเหตุการณ์แบบนี้มันค้างคาอยู่หลายเดือนมาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่