สอบถามเรื่องปูนบำเหน็จทหารที่ ฮ. ตกครับ

ตามข้อมูลจากข่าวนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ประเด็นนี้ผมไม่ได้มีเจตนาอื่นใดนอกจากสงสัยในส่วนของ ร.อ.วรพงศ์ ช่างสลัก ได้รับพระราชทานยศเป็น พ.อ แต่ จ.ส.อ.อนันต์ ชมเชียงคำ ได้รับพระราชทานยศเป็น พล.ท. จ.ส.อ.อภิรุณ แสนดอนดู่ ได้รับพระราชทานยศเป็น พล.ต. ผมเลยสงสัยว่าข่าวเขียนผิดหรือเปล่า เพราะ ร.อ. นั้นยศสูงกว่า จ.ส.อ. น่าจะได้รับการปูนบำเหน็จในยศที่สูงกว่า และ จ.ส.อ. ทั้งสองท่านทำไมไม่ได้รับการปูนบำเหน็จเท่ากันครับ หรือว่าเขาพิจารณาจากเรื่องอื่นด้วยครับ

ขอบคุณครับผม

ขอแท็ก อาวุธยุทโธปกรณ์ กฎหมายการเมือง เพราะสองแท็กนี้น่าจะเข้ากับกระทู้ที่สุดแล้ว และน่าจะมีผู้รู้อยู่ครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เฟซบุ้ค Wassana Nanuam กับ Waswas Journalist
5 นาที ·

เกร็ดความรู้ กรณีปูนบำเหน็จทหาร ฮ.ตก

พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เผยว่า การพิจารณาปูนบำเหน็จ 7 ขั้น และ เลื่อนยศ9 ขั้น นั้น พิจารณาจากขั้นเงินเดือน หลังได้รับการปูนบำเหน็จ ว่าขั้นเงินเดือนเทียบแล้วอยู่ในชั้นยศใด
กรณีของ จ่าสิบเอก อนันต์ ชมเขียงคำ นั้น รับราชการมานาน ขั้นเงินเดือนสูง เดิมขั้น น.2ขั้น20. จึงได้ปูนบำเหน็จเป็น น.7ชั้น 2.5 ถ้าเทียบยศจะอยู่ที่ พลโท

เช่นเดียวกับ จ่าสิบเอก อภิรุณ แสนดอนดู่ ได้รับพระราชทานยศเป็น “พลตรี”

ส่วน รอ.วรพงศ์ ช่างสลัก อายุราชการน้อย ขั้นเงินเดือนยังไม่มาก น1.ชั้น20 ปรับเป็น น.4 ชั้น 2.5 เทียบแล้วคือยศ พันเอก

พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบ 212ของ ศูนย์การบินทหารบก ที่จัดสนับสนุน คณะรองแม่ทัพภาค 3 ในภารกิจตรวจงานส่งกำลังบำรุงของหน่วยทหารในค่ายขุนเจืองธรรมิกราช จ.พะเยา ได้ประสบอุบัติเหตุตก เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 57 ที่บริเวณบ้านดอกบัว ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา นั้น

จากอุบัติเหตุดังกล่าวทำให้มีกำลังพลเสียชีวิต 9 นาย ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ นับเป็นการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่ายิ่งของกองทัพบก ที่ได้เสียสละ มุ่งมั่น ทุ่มเท ปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มกำลังความสามารถ เหตุการณ์ในครั้งนี้นำมาซึ่งความเสียใจอย่างสุดซึ้งของผู้บังคับบัญชา ผู้ร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา ครอบครัว ตลอดจนประชาชนที่ทราบข่าว

ปัจจุบันกองทัพภาคที่3ได้เข้าดูแลและอำนวยความสะดวกในทุกเรื่องให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ กองทัพบกได้ดำเนินการเกี่ยวกับสิทธิกำลังพล การมอบเงินช่วยเหลือตามสิทธิของทางราชการ ได้แก่ เงินค่าทดแทน, เงินบำเหน็จตกทอด, เงินสินไหมทดแทนจากการประกันชีวิตของกองทัพบก, เงินบำรุงขวัญจากหน่วยงานต่างๆ และเงินสงเคราะห์ฌาปนกิจ เป็นต้น โดยจะได้รับประมาณ 2-6 ล้านบาท ตามสิทธิของแต่ละบุคคล

พร้อมกันนี้กองทัพบกได้ปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น และขอพระราชทานยศเป็นกรณีพิเศษ9 ขั้น ให้กับผู้เสียชีวิต ซึ่งจะได้รับพระราชทานยศสูงขึ้นดังนี้

พลตรีทรงพล ทองจีน ,พันเอกกิตติ สุวรรณเจริญ ,พันเอกยุทธพงษ์ เพื่อนฝูง, พันโทวุฒิศักดิ์ สุนทรสุข และ พันโทมานิต สุระเสนา ทั้ง5ท่านจะได้รับพระราชทานยศสูงขึ้นเป็น " พลเอก"

สำหรับ ร้อยเอกวรพงศ์ ช่างสลัก ได้รับพระราชทานยศเป็น "พันเอก"

จ่าสิบเอก อนันต์ ชมเชียงคำ ได้รับพระราชทานยศเป็น "พลโท"

จ่าสิบเอก อภิรุณ แสนดอนดู่ ได้รับพระราชทานยศเป็น “พลตรี”

และ จ่าสิบโท สมภพ มาลัยวงศ์ ได้รับพระราชทานยศเป็น "พันโท"


อย่างไรก็ตาม กองทัพบกขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้นหาและช่วยเหลือในเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในครั้งนี้ และขอขอบคุณประชาชนทุกท่านที่ได้ส่งข้อความแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและครอบครัว ตามช่องทางต่างๆเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้กองทัพบกจะให้การดูแดครอบครัวของผู้เสียชีวิตในทุกด้านอย่างดีที่สุด

ส่วนการใช้อากาศยานในทุกประเภทของกองทัพบกนั้น ขณะนี้ยังคงเป็นไปตามภารกิจของหน่วยที่ได้รับมอบหมาย ส่วนการปรนนิบัติบำรุงเป็นไปตามวงรอบและระเบียบปฏิบัติ ภายใต้มาตรฐานในการดูแลอากาศยานและนิรภัยการบิน ทั้งนี้ในวันนี้คณะกรรมการนิรภัยการบินของกองทัพบก ได้เดินทางถึงพื้นที่เกิดเหตุแล้ว โดยได้ดำเนินการตรวจสอบสภาพพื้นที่ เก็บข้อมูล รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนำไปสู่การสอบสวนและสรุปเหตุการณ์รวมถึงสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่