จริงๆปกติไม่เคยตั้งกระทู้มาก่อน ส่วนใหญ่จะตั้งกระทู้ตั้งคำถามซะมากกว่า เพราะเวลาไม่รู้อะไรก็มักจะถามที่นี่ก่อน และมักได้รับคำตอบที่ดีเสมอ
ครั้งนี้ มีความตั้งใจอย่างยิ่งยวดมากว่า จะแบ่งปันความรู้สำหรับคนที่กังวลเรื่อง ทอมซินสโตน และหาทางออกไม่เจอว่าจะต้องทำยังไง ผม(เชื่อ) ว่า ผมสามารถช่วยได้นะ เพราะผมมั่นใจว่าทั้งประเทศนี้ ผมเป็นคนลองทุกวิถีทางแล้ว ผมจะอธิบายทุกทางที่ผมได้เคยลองมา และวิธีไหนได้ผลและไม่ได้ผลอย่างไร
ผมต้องขออธิบายสุขภาพของผมแบบคร่าวๆและสั้นๆก่อน เนื่องจากร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกันเลย
1. ผมเป็นโรคภูมิแพ้ และเป็นไซนัส จนได้รับการผ่าตัดขยายโพรงไซรัสแล้วตอนนี้หายเรียบร้อย
2. แน่นอนว่าสิ่งที่โรคภูมิแพ้คู่กันมาอีกโรคคือ ทอนซิลอักเสบ ซึ่งอักเสบบ่อยๆมากๆเข้า จะเกิดโพรงที่ทอนซิน (สามารถหาอ่านได้ตามบทความของหมอทั่วไป) โพรงทอนซินจะเป็นหลุมๆ และเศษอาหารจะไปอุดตามหลุมต่างๆ และเกิดเป็นที่หมักหมมของแบคทีเรียชนิดหนึ่ง (ซึ่งผมจำไม่ได้ว่าคืออะไร) และมันจะปล่อยสารที่โคตรเหม็นออกมาคลุมเศษอาหารนั้น และจะขยายไปเรื่อยๆจนเป็นเม็ดก้อนๆเหลือง ที่มักออกมาจากคอ (หารูปทอนซิลสโตนได้ทั่วไป) ใครเคยเห็นจะรู้ว่ามันเหม็นมาก เหม็นจริงๆ เหม็นตายกันทั้งบ้านได้เลยเวลาขยี้มัน .......
3. ทอนซินของผมเป็นทอนซินหลบใน (คือบางคนอ้าปากมา ก็จะเห็นทอนซินอยู่ข้างๆแล้ว แต่ของผมมันหลบใน จะต้องใช้กระจกเหมือนหมอฟันส่งเข้าไปถึงจะเจอ หรือจะต้องอ้าปากแล้วแบบดันเหงือกออกมาถึงจะเห็น ผมก็อธิบายไม่ถูกแฮะ... ฉะนั้นการรักษาของผมจึงยากกว่าของคนอื่นมาก แต่ผมเชื่อว่าทอนซินหลบใน ก็คงมีอยู่เยอะเหมือนกัน)
4. ทอนซิลสโตนนอกจากจะเกิดจากหลุมแล้ว ยังมีสิ่งที่กระตุ้นมันอีกหลายอย่างคือ ของทอด ของเผ็ด .... คือเอาง่ายๆ ใน REVIEW คนที่บอกว่าหายคือให้กินแต่ผัก เนื้อสัดกินแต่น้อย ... ผมรู้เลยว่าผมทำไม่ได้ มันไม่ใช่...... มันจะเป็นไปได้ยังไง ...เจอหมูปิ้งข้างถนนก็อยากกินป๊ะแว้
รู้ได้ยังไงว่ามีทอนซินสโตน ?
หลังจากผมรู้ตัวว่าผมเป็นคนมีทอนซินสโตนง่าย (รู้ได้จากตอนตื่นเช้า คนที่มีทอนซินสโตนจะมีอาการกลิ่นปากรุนแรง คือจะกลิ่นเดียวกับ ตัวทอนซินสโตนที่หลุดออกมาเลย) เวลาดันๆคอจะรู้ว่า อืม มันมีแน่ๆ กลิ่นมันจะไม่เหมือนคนที่ไม่มีทอนซิลสโตน , คนที่เคยเห็นและเคยบีบเม็ดมันน่าจะรู้ว่ากลิ่นมันเป็นยังไง คือมันกลิ่นแย่มากบอกตรงๆ หรือไปหาหมอก็ได้ครับ ถามเค้าตรงๆเลยว่า ผมมีทอนซินสโตนมั้ย ? (หมอ คอ ตา จมูก) ทุกคนรู้จักครับ ถามตรงๆเลยเพราะหมอทุกคนเห็นบ่อยมาก เพราะคนที่เป็นทอนซินอักเสบ ต้องมีทอนซินสโตนอยู่แล้ว
วิธีรักษาของทอนซินสโตน (ที่ผมคิดว่าผมลองทุกรูปแบบมาแล้ว)
1. ใช้นิ้วหรือคัตตอนบัท
แบบง่ายสุดเลยคือ ก็ใช้คัตตอนบัด ครับ (อันนี้เหมาะสำหรับคนที่อ้าปากมาแล้วเจอทอนซินเลย คือทอนซินใหญ่และเจอง่าย) ... Clip สาธิต เจอใน Youtube เยอะมาก (Search ว่า How to remove tonsil stone) ..... สำหรับผม ผมบอกเลยว่าผมทำไม่สำเร็จ พยายามกี่ทีก็ไม่สำเร็จ ทำจนเลือดออกก็ไม่ออก .... ย้ำนะครับว่า เหมาะสำหรับคนที่อ้าปากมาแล้วเจอทอนซินเลย ......
2. ใช้ WATER Pressure (WATERPIK)
พอผมใช้วิธีแรกซักพักไม่สำเร็จ สิ่งที่ผมลองต่อมาคือเริ่มใช้อุปกรณ์ช่วย อ่าน Review เมืองนอกมาเยอะๆมาก จนเค้าแนะนำให้ใช้เครื่อง Water pressure สำหรับแปรงฟัน (ยี่ห้อที่ผมใช้คื่อ WATERPIK) ผมสั่งซื้อมาจากอเมริกาหวังว่าจะช่วยผมได้ ..... วันแรกที่ผมใช้ขอบอกว่า โคตรโง่ ผมปรับแรงดันน้ำเต็มแรง หวังว่ามันจะพ่นน้ำเข้าไปในทอนซินแล้ว ทอนทินสโตนจะหลุดออกมาราวกับดอกเห็ด เหมือนที่เค้า REVIEW กัน ... ผลปรากฏว่า ทอนซินผมเลือดสาดรุนแรง ไหลไม่หยุด ไม่กี่วันต่อมา ดันอักเสบอีก ..... (ความยากของผมก็คือทอนซินดันหลบใน กว่าจะส่องเข้าไปเจอทอนซิน กว่าจะเปิดเครื่องพ่นน้ำ น้ำที่พ่นรุนแรงของผมมันก็ฉีดเข้าคอ จนเลือดออก) .... รู้ตัวเลยว่าเสียเงินค่าซื้อเครื่องนี้มาฟรี .... เสียดายเงินมาก แอบผิดหวังและเศร้าต่อไป
3. การผ่าตัด
หลังจากนั้นผมก็มาใช้วิธีสุดท้ายที่ผมไม่อยากทำเลยคือ การผ่าตัดทอนซิน .... ความตั้งใจแรกจะผ่าตัดออกเลย ... แต่พอ Search คำว่า ทอนซินสโตน เป็นภาษาไทยใน google ... จะมีโรงพญาบาล XXX "3" หมอคนนั้นให้ความรู้เรื่องทอนซิลสโตนเยอะมาก ..... เค้าจะใช้วิธีการรักษาคือ "LASER ปาดทอนซินจนผิวมันเรียบ จากเดิมที่มันเป็นผิวขรุขระหลังจากที่มันอักสบจนเป็นรูพรุน" เค้าบอกผมว่า ทำแบบนี้ดีกว่าตัดออก เพราะทอนซินก็ยังคงใช้งานได้อยู่ แค่เป็นการตกแต่งผิวให้เรียบ จะได้ไม่มีทอนซินสโตนตกค้าง ... ผมเลยตัดสินใจผ่าตัด (ใครเคยผ่าตัดทอนซิน จะรู้ว่ามันโคตรเจ็บและทรมาน มัน....มันเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่จริงๆ !) ... ผลการผ่าตัด หมอคงทอนซินให้ผมเหลือ 20-30% .... นอกนั้นโดนเลเซอร์ปาดทิ้งออกหมด ผมก็คงคิว่าหมดเวรหมดกรรมกันแล้ว พอกันที ชีวิตจะได้สงบสุขเหมือนชาวบ้าน ... รักษาตัวอยู่นานประมาณ 1-2 เดือนกว่าจะกลืนข้าวได้อย่างปกติ ... ช่วงแรกบอกเลยมีความสุขมาก หายเป็นปลิดทิ้ง ..... จนะกระทั่งผ่านไป ครึ่งปี .... ผมรู้สึกมีกลิ่นในคอเหมือนเมื่อก่อน .... และในที่สุด ทอนซินอักเสบก็กลับมา และก็เป็นหลุมอีก และแมร่ง ทอนซินสโตนก็กลับมาอีก ..... รู้มั้ยครับว่าผมกลับไปหาหมอคนเดิม สิ่งที่ผมได้รับคำตอบคือ .... คุณก็เลเซอร์ใหม่สิ เอาประกันออก ....... ผมแบบผิดหวังกับหมอคนนั้นมาก ตอนแรกรับปากว่าจะหายแน่ๆอาการนี้ ผมค่อนข้างผิดหวังกับโรงพยาบาลนี้ และหมอคนนี้มาก คือทำทุกอย่างเป็นการค้า เค้าบอกว่าเดี๋ยวเค้าไม่คิดค่าหมอก็ได้ แต่ค่าอุปกรณ์โรงพญาบาลยังไงก็ต้องจ่าย (คือมันไม่หายเหมือนที่เค้ารับปาก เค้าเลยพยายามจะชักจูงผมให้ทำใหม่) ผมตัดสินใจไม่ทำ และผมกลับไปหาหมอไซนัสที่โรงพยาบาลเดียวกันแต่เป็น สาขา2 แถวพหลโยธิน (ซึ่งที่นั่นเก่งเรื่องไซนัสมาก) ผมเล่าเรื่องนี้ให้หมอที่เคยผ่าตัดไซนัสให้ผมฟัง หมอบอกว่ามันไม่ใช่หรอก ยังไงมันก็ไม่หาย คุณนะโดนหลอก ...เค้าบอกว่าหมอคนนี้หลายทีละ ชอบไปโฆษณาเชิงการค้า ให้คนไข้เข้าใจผิด ซึ่งมันจริง !!! มันไม่หาย !!! .......... จบ ทุกวันนี้ผมยังเคืองอยู่เลยนะครับบอกตรงๆ เพราะเสียเงินก็เกือบหลักแสนนะครับค่าผ่าตัดนะ
4. หนทางที่ดีที่สุดคือช่วยตัวเอง
จากเขียนซะยืดยาว 3 วิธีการรักษาของผม (จริงๆกินระยะเวลามากกว่า 5-6 ปีนะครับ) ผมมาเจอทางสุดท้ายที่ดีที่สุดและดีมากๆ จนไม่อยากจะเชื่อคือ การขาก
.... อาจจะงงนะครับ , จริงๆทอนซินสโตนมันจะติดตามร่องทอนซิน วิธีจะเอาออกเนี่ยมันมีหลายวิธี แต่วิธีเจ็บตัวน้อย แต่เอาออกได้ดีที่สุดคือ การทำให้ทอนซินสั่นโดยการขาก
(ให้นึกเหมือนคนจีน จะขากกกกกกก เหมือนเป็นการเค้นเสลดออกมาก่อนจะ
อะครับ) ... ผมพูดตรงๆนะว่าอาจจะนึกภาพไม่ออก มันเหมือนพูดคำว่า "ขาก" แต่เป็นการตะโกน คำว่า "ขาก" ขอสั้นๆครับ "ขาก" สั้นๆ เป็นการตะโกน ย้ำนะครับว่าตะโกน ... หลักการคือให้ทอนซินสั่น แล้วสโตนที่ติดตามร่องจะหลุด ... รู้มั้ยครับทุกครั้งที่ผมได้กลิ่นคอตัวเอง ก่อนนอนผมจะเข้าห้องน้ำแล้วก็ ขากในอ่างล้างนะแรงๆซัก 4-5 ที , แรงๆนะครับ สั้นๆแต่แรง (ยาวๆก็ได้นะครับถ้ารู้สึกถนัดกว่า) ขอแรงที่สุดเท่าที่ทำได้ ..... ออกมาตลอดครับ ออกมาเม็ดน้อยเม็ดเล็กเต็มไปหมด กลิ่นเหม็นบ้าง ไม่เหม็นบ้าง แต่บางทีถ้าทำแล้วกลิ่นในคอยังมีอยู่ แปลว่ายังมีเม็ดใหญ่ติดอยู่แล้วหลุดยาก พยายามทำต่อไปครับ ทำทุกคืน ทุกเช้า มันจะหลุดแน่ๆ ผมทำนะหลุดออกมาตลอดครับ แล้วไม่เจ็บตัวเท่า 3 วิธีแรก (ถึงแม้ว่าการขากแรงๆ บางครั้งของผมจะทำให้เลือดออกบ้าง เพราะมันแรงจริงๆ แต่มันออกแบบซิบๆนะครับเหมือนแปรงฟันแล้วเลือดออก แต่ 1 นาทีก็หายครับ ถ้ารู้ว่าขากจนแสบคอแล้วมันยังไม่หลุด แปลว่าเค้นออกมาไม่ถูกครับ มันต้องเค้นแบบสั้นๆแต่แรง อย่าพยายามเค้นเยอะ เค้นเยอะไปจะเจ็บคอ ซึ่งทำไม่ถูก) ......
บทความนี้อาจจะยาว แต่ผมเชื่อว่าคนที่มีปัญหา มันทรมานจริงๆนะครับ ผมยอมผ่าตัด ยอมทุกอย่าง แต่มันไม่หาย บอกตรงๆว่าเหมือนโลกนี้มันสิ้นจริงๆหลังจากที่ผ่าตัดแล้วไม่หาย (จะหายก็คือผ่าออกไปเลยนะครับ ซึ่งตอนนี้ยังมาคิดว่ารู้งี้ ใช้ระบบผ่าตัดแบบมีดควักออกไปเลยดีกว่า)
ทุกวันนี้ก็ทำวิธีที่ 4 , หลังจากทำผมจะควักเกลือที่อยู่ในห้องน้ำ มากล๊วกคอทุกครั้ง ช่วยได้ครับ น้ำเกลืออช่วยได้มากๆๆๆ แต่ยังไงเวลาคุณเกิดหน้ามืด กินส้มตำปูปลาร้าเผ็ดๆ กินไก่ทอด กินหมูปิ้ง ยังไงมันก็กลับมาครับ ผมเลยบอกแล้วว่าจะให้ทุกคนมากินผักเผื่อลดอาการปากเหม็น...มันไม่ได้หรอก ลองทำตามผมดูนะครับ ใครมีอะไรก็แชร์ๆกันดู ผมแอบมีความมั่นใจว่า วิธีผมนะ Work มากสุดแล้ว
ขอให้ทุกคนโชคดีครับ
สำหรับคนที่เป็น ทอมซินสโตน (อาการปากเหม็น) และหาทางออกไม่เจอ ผมเจอแล้ว
ครั้งนี้ มีความตั้งใจอย่างยิ่งยวดมากว่า จะแบ่งปันความรู้สำหรับคนที่กังวลเรื่อง ทอมซินสโตน และหาทางออกไม่เจอว่าจะต้องทำยังไง ผม(เชื่อ) ว่า ผมสามารถช่วยได้นะ เพราะผมมั่นใจว่าทั้งประเทศนี้ ผมเป็นคนลองทุกวิถีทางแล้ว ผมจะอธิบายทุกทางที่ผมได้เคยลองมา และวิธีไหนได้ผลและไม่ได้ผลอย่างไร
ผมต้องขออธิบายสุขภาพของผมแบบคร่าวๆและสั้นๆก่อน เนื่องจากร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกันเลย
1. ผมเป็นโรคภูมิแพ้ และเป็นไซนัส จนได้รับการผ่าตัดขยายโพรงไซรัสแล้วตอนนี้หายเรียบร้อย
2. แน่นอนว่าสิ่งที่โรคภูมิแพ้คู่กันมาอีกโรคคือ ทอนซิลอักเสบ ซึ่งอักเสบบ่อยๆมากๆเข้า จะเกิดโพรงที่ทอนซิน (สามารถหาอ่านได้ตามบทความของหมอทั่วไป) โพรงทอนซินจะเป็นหลุมๆ และเศษอาหารจะไปอุดตามหลุมต่างๆ และเกิดเป็นที่หมักหมมของแบคทีเรียชนิดหนึ่ง (ซึ่งผมจำไม่ได้ว่าคืออะไร) และมันจะปล่อยสารที่โคตรเหม็นออกมาคลุมเศษอาหารนั้น และจะขยายไปเรื่อยๆจนเป็นเม็ดก้อนๆเหลือง ที่มักออกมาจากคอ (หารูปทอนซิลสโตนได้ทั่วไป) ใครเคยเห็นจะรู้ว่ามันเหม็นมาก เหม็นจริงๆ เหม็นตายกันทั้งบ้านได้เลยเวลาขยี้มัน .......
3. ทอนซินของผมเป็นทอนซินหลบใน (คือบางคนอ้าปากมา ก็จะเห็นทอนซินอยู่ข้างๆแล้ว แต่ของผมมันหลบใน จะต้องใช้กระจกเหมือนหมอฟันส่งเข้าไปถึงจะเจอ หรือจะต้องอ้าปากแล้วแบบดันเหงือกออกมาถึงจะเห็น ผมก็อธิบายไม่ถูกแฮะ... ฉะนั้นการรักษาของผมจึงยากกว่าของคนอื่นมาก แต่ผมเชื่อว่าทอนซินหลบใน ก็คงมีอยู่เยอะเหมือนกัน)
4. ทอนซิลสโตนนอกจากจะเกิดจากหลุมแล้ว ยังมีสิ่งที่กระตุ้นมันอีกหลายอย่างคือ ของทอด ของเผ็ด .... คือเอาง่ายๆ ใน REVIEW คนที่บอกว่าหายคือให้กินแต่ผัก เนื้อสัดกินแต่น้อย ... ผมรู้เลยว่าผมทำไม่ได้ มันไม่ใช่...... มันจะเป็นไปได้ยังไง ...เจอหมูปิ้งข้างถนนก็อยากกินป๊ะแว้
รู้ได้ยังไงว่ามีทอนซินสโตน ?
หลังจากผมรู้ตัวว่าผมเป็นคนมีทอนซินสโตนง่าย (รู้ได้จากตอนตื่นเช้า คนที่มีทอนซินสโตนจะมีอาการกลิ่นปากรุนแรง คือจะกลิ่นเดียวกับ ตัวทอนซินสโตนที่หลุดออกมาเลย) เวลาดันๆคอจะรู้ว่า อืม มันมีแน่ๆ กลิ่นมันจะไม่เหมือนคนที่ไม่มีทอนซิลสโตน , คนที่เคยเห็นและเคยบีบเม็ดมันน่าจะรู้ว่ากลิ่นมันเป็นยังไง คือมันกลิ่นแย่มากบอกตรงๆ หรือไปหาหมอก็ได้ครับ ถามเค้าตรงๆเลยว่า ผมมีทอนซินสโตนมั้ย ? (หมอ คอ ตา จมูก) ทุกคนรู้จักครับ ถามตรงๆเลยเพราะหมอทุกคนเห็นบ่อยมาก เพราะคนที่เป็นทอนซินอักเสบ ต้องมีทอนซินสโตนอยู่แล้ว
วิธีรักษาของทอนซินสโตน (ที่ผมคิดว่าผมลองทุกรูปแบบมาแล้ว)
1. ใช้นิ้วหรือคัตตอนบัท
แบบง่ายสุดเลยคือ ก็ใช้คัตตอนบัด ครับ (อันนี้เหมาะสำหรับคนที่อ้าปากมาแล้วเจอทอนซินเลย คือทอนซินใหญ่และเจอง่าย) ... Clip สาธิต เจอใน Youtube เยอะมาก (Search ว่า How to remove tonsil stone) ..... สำหรับผม ผมบอกเลยว่าผมทำไม่สำเร็จ พยายามกี่ทีก็ไม่สำเร็จ ทำจนเลือดออกก็ไม่ออก .... ย้ำนะครับว่า เหมาะสำหรับคนที่อ้าปากมาแล้วเจอทอนซินเลย ......
2. ใช้ WATER Pressure (WATERPIK)
พอผมใช้วิธีแรกซักพักไม่สำเร็จ สิ่งที่ผมลองต่อมาคือเริ่มใช้อุปกรณ์ช่วย อ่าน Review เมืองนอกมาเยอะๆมาก จนเค้าแนะนำให้ใช้เครื่อง Water pressure สำหรับแปรงฟัน (ยี่ห้อที่ผมใช้คื่อ WATERPIK) ผมสั่งซื้อมาจากอเมริกาหวังว่าจะช่วยผมได้ ..... วันแรกที่ผมใช้ขอบอกว่า โคตรโง่ ผมปรับแรงดันน้ำเต็มแรง หวังว่ามันจะพ่นน้ำเข้าไปในทอนซินแล้ว ทอนทินสโตนจะหลุดออกมาราวกับดอกเห็ด เหมือนที่เค้า REVIEW กัน ... ผลปรากฏว่า ทอนซินผมเลือดสาดรุนแรง ไหลไม่หยุด ไม่กี่วันต่อมา ดันอักเสบอีก ..... (ความยากของผมก็คือทอนซินดันหลบใน กว่าจะส่องเข้าไปเจอทอนซิน กว่าจะเปิดเครื่องพ่นน้ำ น้ำที่พ่นรุนแรงของผมมันก็ฉีดเข้าคอ จนเลือดออก) .... รู้ตัวเลยว่าเสียเงินค่าซื้อเครื่องนี้มาฟรี .... เสียดายเงินมาก แอบผิดหวังและเศร้าต่อไป
3. การผ่าตัด
หลังจากนั้นผมก็มาใช้วิธีสุดท้ายที่ผมไม่อยากทำเลยคือ การผ่าตัดทอนซิน .... ความตั้งใจแรกจะผ่าตัดออกเลย ... แต่พอ Search คำว่า ทอนซินสโตน เป็นภาษาไทยใน google ... จะมีโรงพญาบาล XXX "3" หมอคนนั้นให้ความรู้เรื่องทอนซิลสโตนเยอะมาก ..... เค้าจะใช้วิธีการรักษาคือ "LASER ปาดทอนซินจนผิวมันเรียบ จากเดิมที่มันเป็นผิวขรุขระหลังจากที่มันอักสบจนเป็นรูพรุน" เค้าบอกผมว่า ทำแบบนี้ดีกว่าตัดออก เพราะทอนซินก็ยังคงใช้งานได้อยู่ แค่เป็นการตกแต่งผิวให้เรียบ จะได้ไม่มีทอนซินสโตนตกค้าง ... ผมเลยตัดสินใจผ่าตัด (ใครเคยผ่าตัดทอนซิน จะรู้ว่ามันโคตรเจ็บและทรมาน มัน....มันเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่จริงๆ !) ... ผลการผ่าตัด หมอคงทอนซินให้ผมเหลือ 20-30% .... นอกนั้นโดนเลเซอร์ปาดทิ้งออกหมด ผมก็คงคิว่าหมดเวรหมดกรรมกันแล้ว พอกันที ชีวิตจะได้สงบสุขเหมือนชาวบ้าน ... รักษาตัวอยู่นานประมาณ 1-2 เดือนกว่าจะกลืนข้าวได้อย่างปกติ ... ช่วงแรกบอกเลยมีความสุขมาก หายเป็นปลิดทิ้ง ..... จนะกระทั่งผ่านไป ครึ่งปี .... ผมรู้สึกมีกลิ่นในคอเหมือนเมื่อก่อน .... และในที่สุด ทอนซินอักเสบก็กลับมา และก็เป็นหลุมอีก และแมร่ง ทอนซินสโตนก็กลับมาอีก ..... รู้มั้ยครับว่าผมกลับไปหาหมอคนเดิม สิ่งที่ผมได้รับคำตอบคือ .... คุณก็เลเซอร์ใหม่สิ เอาประกันออก ....... ผมแบบผิดหวังกับหมอคนนั้นมาก ตอนแรกรับปากว่าจะหายแน่ๆอาการนี้ ผมค่อนข้างผิดหวังกับโรงพยาบาลนี้ และหมอคนนี้มาก คือทำทุกอย่างเป็นการค้า เค้าบอกว่าเดี๋ยวเค้าไม่คิดค่าหมอก็ได้ แต่ค่าอุปกรณ์โรงพญาบาลยังไงก็ต้องจ่าย (คือมันไม่หายเหมือนที่เค้ารับปาก เค้าเลยพยายามจะชักจูงผมให้ทำใหม่) ผมตัดสินใจไม่ทำ และผมกลับไปหาหมอไซนัสที่โรงพยาบาลเดียวกันแต่เป็น สาขา2 แถวพหลโยธิน (ซึ่งที่นั่นเก่งเรื่องไซนัสมาก) ผมเล่าเรื่องนี้ให้หมอที่เคยผ่าตัดไซนัสให้ผมฟัง หมอบอกว่ามันไม่ใช่หรอก ยังไงมันก็ไม่หาย คุณนะโดนหลอก ...เค้าบอกว่าหมอคนนี้หลายทีละ ชอบไปโฆษณาเชิงการค้า ให้คนไข้เข้าใจผิด ซึ่งมันจริง !!! มันไม่หาย !!! .......... จบ ทุกวันนี้ผมยังเคืองอยู่เลยนะครับบอกตรงๆ เพราะเสียเงินก็เกือบหลักแสนนะครับค่าผ่าตัดนะ
4. หนทางที่ดีที่สุดคือช่วยตัวเอง
จากเขียนซะยืดยาว 3 วิธีการรักษาของผม (จริงๆกินระยะเวลามากกว่า 5-6 ปีนะครับ) ผมมาเจอทางสุดท้ายที่ดีที่สุดและดีมากๆ จนไม่อยากจะเชื่อคือ การขาก .... อาจจะงงนะครับ , จริงๆทอนซินสโตนมันจะติดตามร่องทอนซิน วิธีจะเอาออกเนี่ยมันมีหลายวิธี แต่วิธีเจ็บตัวน้อย แต่เอาออกได้ดีที่สุดคือ การทำให้ทอนซินสั่นโดยการขาก (ให้นึกเหมือนคนจีน จะขากกกกกกก เหมือนเป็นการเค้นเสลดออกมาก่อนจะอะครับ) ... ผมพูดตรงๆนะว่าอาจจะนึกภาพไม่ออก มันเหมือนพูดคำว่า "ขาก" แต่เป็นการตะโกน คำว่า "ขาก" ขอสั้นๆครับ "ขาก" สั้นๆ เป็นการตะโกน ย้ำนะครับว่าตะโกน ... หลักการคือให้ทอนซินสั่น แล้วสโตนที่ติดตามร่องจะหลุด ... รู้มั้ยครับทุกครั้งที่ผมได้กลิ่นคอตัวเอง ก่อนนอนผมจะเข้าห้องน้ำแล้วก็ ขากในอ่างล้างนะแรงๆซัก 4-5 ที , แรงๆนะครับ สั้นๆแต่แรง (ยาวๆก็ได้นะครับถ้ารู้สึกถนัดกว่า) ขอแรงที่สุดเท่าที่ทำได้ ..... ออกมาตลอดครับ ออกมาเม็ดน้อยเม็ดเล็กเต็มไปหมด กลิ่นเหม็นบ้าง ไม่เหม็นบ้าง แต่บางทีถ้าทำแล้วกลิ่นในคอยังมีอยู่ แปลว่ายังมีเม็ดใหญ่ติดอยู่แล้วหลุดยาก พยายามทำต่อไปครับ ทำทุกคืน ทุกเช้า มันจะหลุดแน่ๆ ผมทำนะหลุดออกมาตลอดครับ แล้วไม่เจ็บตัวเท่า 3 วิธีแรก (ถึงแม้ว่าการขากแรงๆ บางครั้งของผมจะทำให้เลือดออกบ้าง เพราะมันแรงจริงๆ แต่มันออกแบบซิบๆนะครับเหมือนแปรงฟันแล้วเลือดออก แต่ 1 นาทีก็หายครับ ถ้ารู้ว่าขากจนแสบคอแล้วมันยังไม่หลุด แปลว่าเค้นออกมาไม่ถูกครับ มันต้องเค้นแบบสั้นๆแต่แรง อย่าพยายามเค้นเยอะ เค้นเยอะไปจะเจ็บคอ ซึ่งทำไม่ถูก) ......
บทความนี้อาจจะยาว แต่ผมเชื่อว่าคนที่มีปัญหา มันทรมานจริงๆนะครับ ผมยอมผ่าตัด ยอมทุกอย่าง แต่มันไม่หาย บอกตรงๆว่าเหมือนโลกนี้มันสิ้นจริงๆหลังจากที่ผ่าตัดแล้วไม่หาย (จะหายก็คือผ่าออกไปเลยนะครับ ซึ่งตอนนี้ยังมาคิดว่ารู้งี้ ใช้ระบบผ่าตัดแบบมีดควักออกไปเลยดีกว่า)
ทุกวันนี้ก็ทำวิธีที่ 4 , หลังจากทำผมจะควักเกลือที่อยู่ในห้องน้ำ มากล๊วกคอทุกครั้ง ช่วยได้ครับ น้ำเกลืออช่วยได้มากๆๆๆ แต่ยังไงเวลาคุณเกิดหน้ามืด กินส้มตำปูปลาร้าเผ็ดๆ กินไก่ทอด กินหมูปิ้ง ยังไงมันก็กลับมาครับ ผมเลยบอกแล้วว่าจะให้ทุกคนมากินผักเผื่อลดอาการปากเหม็น...มันไม่ได้หรอก ลองทำตามผมดูนะครับ ใครมีอะไรก็แชร์ๆกันดู ผมแอบมีความมั่นใจว่า วิธีผมนะ Work มากสุดแล้ว
ขอให้ทุกคนโชคดีครับ