จากกระทู้ปากเหม็นแก้ยังไง      http://ppantip.com/topic/31612432      
ผมอ่านแล้วอยากจะแชร์ปสก.แก้ปัญหาปากเหม็นให้คนที่มีปัญหาได้เเอาไปลองใช้ดู   ฟรี  ไม่เสียเงินสักบาท  ถ้ายังปากเหม็นอยู่อีก เชิญหลังไมค์เข้ามา

ต่อว่าได้เลยครับ    ผมเองก็เป็นอีกคนนึงที่เคยมีกลิ่นปากมาตั้งแต่เด็ก   ทำยังไง รักษายังไงก็ไม่หาย หาหมอฟันเท่าไหร่ก็ยังมีอยู่   ก็คิดว่าคงเป็นเวรเป็น

กรรมของเรานั่นแหละ   โตขึ้นมาก็ยิ่งอับอายเพื่อนฝูง   แต่ก็ไม่รู้จะแก้ยังไง   อยากฆ่าตัวตายให้พ้นๆไป    เคยอ่านตามบอร์ดเกี่ยวกับคนปากเหม็น  บาง

คนแนะนำว่าลองซื้อน้ำยาบ้วนปากจากไต้หวันตัวนี้สิ  เลยลองโทรไปสั่ง   แพงอ่ะ  เซ็ตนึง3-4พันบาท   นอกจากไม่หายเหม็นแล้ว  มันกลับมีกลิ่นแปลกๆที่

มาจากไอ่น้ำยานี่เพิ่มมาอีก     บางคนโพสต์ว่ามาจากต่อมทอนซิน   เกือบจะไปผ่าออกแระ(โชคดีที่รั้งไว้ได้)   บางคนบอกว่ามีคลีนิคกลิ่นปาก   ก็เลยรีบ

ไปตรวจที่โรงบาลเวชธานี  มีคลีนิคกลิ่นปาก  ก็ไปตรวจระดับกลิ่นปากด้วยเครื่องตรวจพร้อมคุณหมอสอนแปรงฟันที่ถูกวิธี  คชจ.ทั้งสิ้น 4,500 บาท   ผล

ออกมาว่า ไม่มีปัญหาที่ช่องปาก  อาจมาจากช่องทางอื่น เช่นกระเพาะอาหาร     ก็เลยต้องไปตรวจกระเพาะอาหารด้วยการส่องกล้อง  อันนี้เป็นเรื่องเลย  

เพราะไปส่องกระเพาะอาหารนี่ค่อนข้างเจ็บตัวทีเดียว  ผลออกมา  มีแนวโน้มว่าจะเป็นกรดไหลย้อนระยะต้น   ก็กินยารักษากระเพาะ+ยาฆ่าเชื้อ  มันก็ช่วย

ได้บ้าง จนคิดว่า  กลิ่นปากเรามันมาจากกระเพาะนี่เอง   แต่พอหยุดยา  มันก็เหม็นอีก    แต่ที่สุดแล้ว  บ่องตง   กลิ่นปากที่ผมเป็น   มันไม่ได้มา

จากกระเพาะอาหาร  กรดไหลย้อน   ต่อมทอนซิล  หรือฟันคุดฟันเก  (อ้อ  ลืมเล่า  ไปถอนฟันเกมาด้วย  นึกว่าเป็นสาเหตุของกลิ่นปาก  เจ็บมากมาย )   

แต่  มันมาจากเศษอาหารเล็กๆ  ที่เข้าไปสะสมจนเป็นน้ำเมือกในซอกฟัน อยู่ในร่องเหงือกนั่นเอง      จะไม่เล่าการค้นพบสาเหตุมากมาย  แต่จะบอก

ประเด็นการรักษาให้เลย ว่า

1.  ไม่ต้องไปซื้อยาผงวิเศษอะไรที่บอกว่าใช้แล้วหมดกลิ่นปาก   หรือกินแล้วจะไม่มีกลิ่นปากอีกต่อไป   เพราะมันไม่ใช่มาตั้งแต่ต้น

2.  วิธีแก้ปากเหม็นง่ายนิดเดียว   คือการแปรงฟันที่ถูกวิธีดังนี้   ใช้แปรงสีฟันที่ดีที่สุด เอาแบบแปรงธรรมดาก็พอ  ไม่ต้องแปรงไฟฟ้า เพราะมันสั่นแรงเกิน

อาจกระทบเหงือก    เลือกแปรงยี่ห้อดีๆ  เอาแบบนิ่มสุด  (ขอแนะนำ คอลเกต 360 องศา )  

3. น้ำยาบ้วนปาก  ไม่จำเป็นอีกต่อไป  แต่ถ้ายังกังวล  ก็เอาไว้ใช้ระหว่างวัน

4. ซื้อ Dental Floss มาตุนไว้เยอะๆ   เพราะเราต้องใช้มันทั้งวัน  รวมถึงแปรงขูดลิ้น  แต่ถ้าไม่อยากเสียเงินซื้อที่ขูดลิ้น  ก็ใช้ช้อนกินข้าวธรรมดาๆนี่แหละ  

ใช้ได้เหมือนกันแหละ อิอิ

5. คุณรู้จักเครื่อง Waterpik  ไหม ?   

                       
ใครที่มีทรัพย์  ก็ให้ซื้อเครื่องวอเตอร์พิกส์  แต่ผมมีเครื่อง "วอเตอร์พลิก(แพลง)"  มาเสนอ  เอาล่ะ  มาดูวิธีกัน

                 เมื่อทานอาหารเสร็จ  อาจบ้วนปากก่อน  แต่อย่าเพิ่งแปรงฟัน  รอเวลา30นาทีหลังอาหารค่อยแปรง  เพราะกรดจากอาหารที่อยู่ในปากจะยิ่ง  

ทำปฏิกริยากับเคลือบฟัน ถ้าเรารีบแปรงหลังอาหาร    หลังจากนั้น   เริ่มแปรงฟัน  (จะใช้ Dental Floss ก่อนแปรงก็ได้  หรือจะใช้หลังแปรงก็ได้  แต่ถ้า

คุณใช้ไหมขัดฟันก่อนแปรงแล้ว  หลังแปรงเสร็จ คุณก็ต้องใช้อีกครั้งอยู่ดี  เพราะมันยังมีเศษอาหารติดอยู่ในหลืบซอกเหงือก)     ลองใช้ยาสีฟันที่เพิ่งออก

ใหม่ ดีมาก  ดาร์ลี่ EXPERT FRESH  หลอดละ 99 บาท      แปรงฟันให้ถูกวิธี(ไปลองหาดูวิธีแปรงเองนะ)  แล้วอย่าลืมแปรงเหงือกด้วยนะ    บ้วนปาก

เสร็จ  ใช้ Dental Floss อีกรอบ  แล้วเอาขึ้นมาดม     ถ้าดมแล้วยังมีกลิ่นเหม็น   ก็เปลี่ยนไหมใหม่ (หรืออาจใช้อันเดิม แต่จุ่มน้ำ/ล้างน้ำ ก็ใช้ได้  จนกว่า

ไหมจะแตก  แต่ถ้าใช้ไหมแบบเป็นแผ่นฟิล์ม มันจะไม่แตก )    ขัดไหมไปทุกซี่   จากนั้นก็ขูดลิ้น  ขูดไปสัก 10 ครั้ง   จากนั้น  ล้างแปรงสีฟันกับที่ขูดลิ้น

ให้สะอาด  ถ้าใช้แปรงที่แนะนำ  เวลาล้างน้ำ จะไม่มีเศษอาหารติดค้างที่ขนแปรง   แต่ถ้าใช้แปรงธรรมดา  ใช้ไปนานๆมันจะล้างไม่สะอาด เพราะมีเศษ

อาหารติดหัวแปรง   ขั้นตอนสุดท้าย  ใช้วอร์เตอร์พลิก(แพลง)    มันคืออัลไล ?     มันก็คือ.......  ฝักบัวในห้องน้ำนั่นแหละ   ลองเอาฝักบัว มาเปิดน้ำให้

แรงสุด แล้วจ่อเข้าที่ปาก ให้แรงดันน้ำมันฉีดไปที่ซอกฟันให้ทั่ว  ทั้งฟันหน้า ฟันใน   จากนั้น  ให้ถอดหัวฝักบัวออก  เหลือแต่สาย  จากนั้น ลองเอานิ้วปิดรู

ท่อน้ำให้เหลือรูเล็กๆ เพื่อให้แรงดันน้ำยิ่งพุ่งแรงขึ้น  คราวนี้เอาสายฝักบัว แหย่เข้าปาก ไปฉีดที่ฟันข้างกระพุ้งแก้ม และโดยรอบ   ฉีดๆๆประมาณ1นาที  

โดยไม่ต้องบ้วนน้ำยาบ้วนปากอีก   เท่านี้  กลิ่นปาก(ที่เกิดจากแบคทีเรียในซอกเหงือก)มันจะหลุดออกมาพร้อมแรงดันน้ำ  ปากคุณจะไม่เหม็นอีกแล้ว (ไช

โย้)  ลองทำดูนะครับ   ไม่ต้องเสีเงินสักบาท     อ้อ  ผมเคยลองใช้ลิสเตอร์ลีนหลังฉีดวอร์เตอร์พลิก(แพลง)  มันมีกลิ่นแอลกอฮอลจางๆอยู่ เหมือนตอนไป

กินเหล้าแล้วปากเหม็นอ่ะ  ถึงได้บอกว่าไม่ต้องใช้อีก  เพราะแค่นี้ก็ไม่มีกลิ่นปากแล้ว  แถมตอนตื่นนอนก็ไม่มีกลิ่นปากด้วย  ดีจริงๆ  ส่วนน้ำยาบ้วนปากที่

ซื้อตุนไว้เยอะๆ  จะทิ้งก็เสียดาย  เก็บไว้ใช้ระหว่างวันก็แล้วกันนะ  

ปล.  แท็กปัญหาชีวิต  เพราะปากเหม็นเป็นปัญหาชีวิตจริงๆ   เป็นปัญหาสังคมด้วยซ้ำ