เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับชีวิตของเรา และเราก็ไม่คิดว่าเราจะเจอเรื่องแบบนี้ตอนที่เรากำลังเรียนอยู่ม.ปลาย เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่เราเรียนอยู่ชั้น ม.2 เราแอบชอบรุ่นพี่อยู่คนนึง พี่เขาสูง ขาว ดัดฟัน แล้วก็ดูตี๋ๆเป็นเชื้อสายจีน พี่เขาเรียนเก่งด้วย ซึ่งเราเป็นผู้หญิงตัวเตี้ยๆ ตัดผมสั้นแบบหนูหิ่น แล้วยังใส่แว่นตาดูแก่ๆ เราเจอพี่เขาครั้งแรกตอนที่พี่เขาขึ้นไปเต้น cover บนเวที ในงาน open house ของ รร. พี่เขาดูเท่มากๆ เหมือนมีออร่าพุ่งออกมาเลยแหล่ะ ตั้งแต่ตอนนั้นมาเราก็ชอบพี่เขามากๆ พยายามมองหาพี่เขาตลอดตอนที่อยู่ รร. เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่เขาชื่ออะไร รู้แค่ว่าพี่เขาเรียนอยู่ห้องอะไรเท่านั้น วันนหนึ่งเรานั่งทำการบ้านอยู่ใต้อาคารเรียน มีพี่คนนึงมาสะกิดเรา เราจำหน้าพี่เขาได้ว่าเขาคือเพื่อนของพี่ที่เราแอบชอบ พี่เขาบอกเราว่าขอเบอร์หน่อยสิ เพือนพี่ชอบน้องน่ะ เรามองตามไปที่พี่เขาชี้เราก็เห็นพี่ที่เราชอบนั่งหัวเราะอยู่ เรารู้ว่าพี่เขาแกล้งเราแน่ๆ พี่เขาไม่มีทางมาขอเบอร์หนูหิ่นแบบเราหรอก เราเลยลุกเดินหนีไป ตั้งแต่วันนั้นมาเราเลยไว้ผมยาว จนเราขึ้น ม.3 เราก็ยังชอบพี่เขาอยู่ เรามีเพื่อนสนิทเป็นเกย์ มันคอยเป็นที่ปรึกษาและรู้มาตลอดว่าเราชอบพี่คนนี้ เรามีรุ่นพี่คนนึงที่เรารู้จัก และรุ่นพี่ของเราก็รู้จักกับพี่ที่เราชอบด้วย เราเลยรู้ชื่อพี่ที่เราชอบว่าเขาชื่อ พี่เจ (นามสมมติ) เราได้เมลพี่เจมาจากรุ่นพี่ที่เรารู้จัก เราเลยแอดไปคุย msn กับพี่เขา เราทักไปคุยไปเรื่อยๆ เหมือนกับว่าเราเป็นแค่ fc พี่เขาที่เต้น cover แล้วพี่เขาก็เท่ พี่เจใจดีมาก เขาเป็นกันเอง คุยกับเราแบบไม่ถือตัว เราคุยกับพี่เขาทั่วไปเลยรู้ข้อมูลเบื้องต้นของพี่เขามาบ้างว่าพี่เขาชอบสีเหลือง ชอบ stitch ชอบเจสสิก้า snsd เราซื้อปากกาลาย stitch ให้พี่เจ เราถามพี่เจว่าได้ใช้มั้ย พี่เขาก็บอกว่าได้ใช้ และขอบคุณที่เราซื้อให้ พี่เขาเป็นคนดีจริงๆ ยิ่งทำให้เราชอบพี่เขาเข้าไปอีก ชอบมากๆ เวลาเจอพี่เขาก็ยิ้มให้เรา เราดีใจมากที่ตัวเองมาถึงตรงนี้ได้ แต่ลึกๆแล้วเราก็รู้ว่าพี่เขาไม่ได้คิดอะไรกับเราหรอก พี่เขาแค่อยากรักษาน้ำใจของเราเท่านั้นเอง มีครั้งหนึ่งเราซื้อพวงกุญแจเป็นตัวอักษรชื่อพี่เขา เราเอาให้พี่เขาและเราก็ดีใจมากๆที่พี่เขาเอามาห้อยกระเป๋าเป้ของตัวเอง เรารู้ว่าตอนเช้าพี่เขาเดินเข้าประตูไหนของ รร. เราก็มักจะไปทางนั้นบ่อยๆ เพราะอยากจะเจอพี่เขาจริงๆ (นี่แอบจิตนะ 555) มีอีกอย่างนึงที่เราทำตั้งแต่เริ่มชอบพี่เขาใหม่ๆ คือเราไปซื้อไดอารี่เพื่อมาบันทึกสิ่งที่เราทำในแต่ละวันเกี่ยวกับพี่เขา ว่าเราเจอพี่เขาที่ไหน พี่เขาทำอะไรบ้าง เหมือนเป็นนักสืบอ่ะ 555 ตอนนี้เราเริ่มสนิทกับพี่เขาในระดับหนึ่ง ด้วยความที่ว่าเราทักพี่เขาไปเกือบทุกวัน ที่เห็นพี่เขาออนไลน์อยู่ แหะๆ ตอนนั้นเราไปเข้าค่ายลูกเสือ ยุวกาชาด เราส่งข้อความหาพี่เขา เพราะอยากคุยกับพี่เขาจริงๆ "เราส่งไปว่าเหนื่อยมาก แล้วก็พี่เจสู้ๆนะ" (พี่เจเป็นหลีดของ รร. กำลังซ้อมไปแข่ง) พี่เขาก็ส่งกลับมาว่า "พีก็สู้ๆเหมือนกันนะ" (พีนามสมมติของเราเอง) เราดีใจมาก นั่นยิ่งทพให้เรารู้ตัวว่าหยุดชอบพี่เขาไม่ได้จริง ตอนเราใกล้จะจบ ม.3 เราไม่ได้เป็นคนเรียนเก่งอะไรเลย แต่พี่เขาอยู่ห้อง king เลยก็ว่าได้ เราปรึกษาพี่เจว่าเราอยากอยู่ห้องเหมือนพี่เขา เพราะลึกๆในใจเราอยากเป็นน้องรหัสพี่เขาน่ะ พี่เขาก็บอกให้เราแบบว่ามาเลย มาอยู่ด้วยกัน เป็นสายรหัสกัน ทำให้เรายิ่งมีกำลังฮึกเหิม อยากอยู่เขิาไปอีก แต่สุดท้ายเราก็ทำไม่ได้ เพราะเราเรียนในระดับปานกลาง การที่จะเข้าไปเรียนห้อง king เป็นไปได้ยาก แต่เราก็ติดต่อกับพี่เจอยู่ตลอด เอาจริงๆแล้วสถานะที่เป็นได้ในตอนนนั้นก็คงเป็นน้องที่รู้จักคนนึงของพี่เขาเท่านั้นเอง เรากับเพื่อนสนิทที่เป็นเกย์แยกห้องกัน แต่เราก็ยังปรึกษาแล้วก็คุยเรื่องพี่เจกับมันตลอด เพราะเพื่อนเราก็เป็นหลีดของ รร. เหมือนกัน ทำให้มันรู้จักพี่เจ แล้วก็สนิทกับพี่เขา เราเลยสืบข้อมูลจากเพื่อนของเรานี่แหล่ะ มาถึงตอนนี้เรายังไม่ได้บอกผู้อ่านเลยว่าพี่เจที่เราชอบเป็นเกย์ 555 ตกใจกันมั้ยเนี่ย ตอนที่เรารู้ความจริงครั้งแรก เราตกใจอยู่เหมือนกัน ถึงกับร้องไห้เลยนะ แต่เอาเข้าจริงๆเราเลิกชอบพี่เขาไม่ได้จริงๆ ทำยังไงก็เลิกไม่ได้ เราเลยมองข้ามตรงจึดนั้นๆไปเลย แล้วก็มีความสุขกับการที่ได้ชอบพี่เขาต่อไป เพราะพี่เขาเป็นคนดี ยิ้มทักทาย คุยดีกับเรามาตลอด พี่เขาแทนตัวเองว่า "เรา" เป็นกันเองกับเรามากๆ ตั้งแต่เกิดมาเรารู้ตัวเลยว่าเราไม่เคยชอบใครเท่านี้มาก่อน วันเกิดพี่เขา เทศกาลต่างๆ เราให้ของขวัญพี่เขาตลอด วันเกิดของเราพี่เขาก็มากินเลี้ยงกับเราและเพื่อนๆของเราด้วย พี่เขาซื้อตุ๊กตาหมีสีขาวให้เราเป็นของขวัญวันเกิด นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เราเลิกชอบพี่เขาไม่ได้จริงๆ เรามีความสุขมาตลอด รู้สึกว่าทุกวันเป็นวันที่ดีสำหรับเรามากๆ จนมาวันนึงเพื่อนสนิทของเราอีกคนที่ไม่ใช่คนที่เป็นเกย์ มาบอกเราว่า "เนี่ยรู้มั้ยว่า อี่ ที มีคนคุยด้วยแล้วนะ มีแฟนละมั้ง " เราตื่นเต้นมากที่ได้ยินเรื่องนี้ เราเลยอยากรู้ว่าเพื่อนเกย์ของเราตอนนี้คบใครอยู่ เพราะพักหลังๆมานี้เราเริ่มห่างกันเพราะอยู่คนละห้องกัน เพื่อนคนที่มาเล่าทำหน้าเหมือนจะไม่บอกเรา แล้วก็บอกเราว่าเราไม่รู้จักคนนั้นหรอก ไม่ต้องรู้ก็ได้ นั่นยิ่งทำให้เราอยากรู้เข้าไปอีก เพื่อนคนนี้ก็ทำหน้ากระอักกระอ่วนใจเหมือนมีอะไรปิดเราไว้ ความรู้สึกหนึ่งของเราแล่นขึ้นมา และมีลางสังหรณ์ที่รู้สึกไม่ค่อยดี อยู่ดีๆเราก็พูดออกไปว่า "อี่ทีมันกำลังคุยกับพี่เจหรอ"ตอนนั้นหัวใจของเราเริ่มแกว่ง น้ำตาเริ่มคลอ เพราะเห็นสีหน้าบอกไม่ถูกของเพื่อนเรา และเพื่อนคนนี้ก็พยักหน้าเบาๆ ว่าใช่แล้ว สิ่งที่เราพูดไปมันถูกแล้ว และตอนนั้นแหล่ะน้ำตาที่คลอเบ้าก็ไหลออกมาจริงๆ เราร้องไห้ออกมาจริงๆ ตรงข้างถนนหน้า รร. ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น เพื่อนที่เราไว้ใจ ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วเรากับพี่เจยังไงก็เป็นไปไม่ได้ เรารู้ตัวดี และเราก็ไม่ได้หวังว่าเราจะต้องได่เป็นแฟนพี่เขา แต่อย่างน้อยแฟนพี่เจไม่เป็นเพื่อนของเรา ที่เราปรึกษาทุกเรื่องกับมันมาตลอดได้มั้ย เราร้องไห้ตรงนั้น อยู่ดีๆอี่ทีก็เหมือนเดินผ่านมาพอดี ด้วยความที่มันยังไม่รู้ตัวว่าเรารู้ความจริงแล้ว มันเลยถามอย่างตกใจว่าเราเป็นอะไร เราไม่ตอบได้แต่มองหน้ามัน เพื่อนอีกคนเลยบอกอี่ทีว่าเรารู้ความจริงหมดแล้ว เรื่องของมันกับพี่เจ อี่ทีถึงกับหน้าเจื่อนไปเลย มันกำลังจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้เราฟังแต่เรารีบเดินหนีไปก่อนเพราะรู้สึกว่าไม่อยากจะเห็นหน้ามันตอนนี้จริงๆเรากลับบ้านมาร้องไห้ในห้องนอนตัวเอง ร้องหนักมาก เหมือนตัวเองเป็นคนบ้า ความรู้สึกนี้มันบอกไม่ถูกจริง เพื่อน พี่ที่ชอบมานาน ทำไมเป็นแบบนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเกย์ด้วยกันทั้งคู่ก็ตาม เราร้องไห้หนักจริงๆ จนน้องสาวกับป้าของเรารู้เรื่อง เพราะเราร้องไห้เสียงดัง ป้าบอกเราว่าไม่เป็นไรหรอก ตั้งแต่ที่เรารู้ว่าพี่เขาเป็นเกย์เราก็จะทำใจไว้ได้แล้ว เราก็คิดว่าเราสามารถทำใจได้ แต่พอมาเจอเข้าจริงๆมันไปต่อไม่ถูกเลย เหมือนโดนต่อยหน้าแรงๆ ป้าบอกให้เราหยุดร้องไห้ แล้วให้เราออกไปซื้อข้าวเย็น เราเดินออหไปถึงแค่หน้าปากซอยหน้าบ้านตัวเอง เราหยุดคิดเรื่องนี้ไม่ได้จริง เลยนั่งลงร้องไห้ตรงข้างถนนตรงนั้นเลย พอมาถึงตอนนี้ยังคิดอยู่ว่าตัวเองร้องไห้เยอะจริงๆ เรากลับบ้านมาแล้วเข้าห้องนอนของตัวเอง อี่ทีโทรมาเราเลยตัดสินใจรับสายเพราะอยากจะรู้ว่ามันจะบอกกับเรายังไง มันบอกเราว่าขอโทษที่ไม่ได้บอก ถ้าบอกความจริงกับเรา เราก็จะเป็นแบบนี้ไง มันถึงไม่บอก มันบอกว่าความรักมันห้ามกันไม่ได้ จะให้มันทำยังไง เราฟังมันพูดแล้วอึ้งไปเลย คือเหมือนทั้งหมดนี้เราเป็นคนผิด เป็นแค่ผู้หญิงโง่ๆที่แอบชอบเกย์คนนึงมากๆ แล้วเขาก็ไปมีแฟนเป็นเกย์เหมือนกัน ฉะนั้นเหมือนเราผิดเองที่ไปแอบชอบเขา เราเลยได้ถามอี่ทีไปว่าทำไมถึงทำแบบนี้กับกู ทำได้ยังไง และร้องไห้ไปด้วย มันบอกได้แค่ว่าขอโทษ และวางสายไป ดึกมาพี่เจทักแชทเฟสเรามา บอกเราว่า "เราขอโทษนะพี ที่ไม่ได้บอก อย่าร้องไห้เลยนะ" เราอ่านประโยคนี้แล้วร้องไห้หนักกว่าเดิม เราถามพี่เจว่ารู้ได้ไงว่าเรารู้ความจริงแล้ว พี่เจบอกว่าอี่ทีบอก เราเลยถามพี่เจไปตรงๆเลยว่าพี่เจกับอี่ทีคบกันหรอ พี่เจบอกเราว่าไม่ได้คบ คุยกันเฉยๆ และพี่เขาบอกเราว่าไม่อยากให้เราร้องไห้ และขอโทษเรา ในใจเราคิดว่าควรตัดใจได้แล้ว แต่ก็ทำไมได้ เช้าวันต่อมาเราไป รร. เราเจออี่ทีที่สนามเพื่อรอเข้าแถว เราเห็นมันยืนอยู่ ด้วยอารมณ์อะไรซักอย่างของเราเราวิ่งเข้าไปทางข้างหลังของมัน แล้วตีหลังมันไม่ยั้ง แบบสุดแรง คนแถวนั้นงงกันใหญ่อี่ทีก็งง เราร้องไห้ไปด้วยตีมันด้วย อี่ทีมองเราแบบพูดไม่ออก แค่มองหน้าเราเฉยๆ เราเลยพูดไปว่าทำแบบนี้กับกูได้ไง แล้วเราก็เดินหนีไปเลย ตั้งแต่วันนั้นทุกครั้งที่เจอพี่เจที่ รร. พี่เขายิ้มให้เรา แต่เราไม่ยิ้มตอบกลับไป บางครั้งหลบหน้าแล้วเดินหนีไปเลย พี่เจเลยทักแชทเฟสเรามาอีกว่า "หลบหน้าเราทำไม ยังไม่หายโกรธอีกหรอ" เราเลยตอบไปแค่ว่า "มันต้องใช้เวลา" ตั้งแต่วันนั้นจนมาถึงวันนี้เราอยู่ปี 1 แล้ว ความสัมพันธ์ของเรากับพี่เจ ก็ยังไม่ดีเหมือนตอนแรกๆอีกแล้วๆ มันแย่มากจริงๆ ในตอนนั้นพี่เขาทักเรามาเหมือนกัน หลังจากเจอเรื่องนั้นเราก็ไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยร่าเริงเวลาเจอพี่เจ เจออี่ที พี่เจทักมาถามเราว่าเราเป็นอะไร เราก็ตอบไปว่าไม่ได้เป็นอะไร พี่เจถามอะไรมาเราก็แค่ตอบ "อือ" ไปเท่านั้น พี่เจบอกเราว่าอย่าตอบ อือ เฉยๆได้มั้ย ไม่ชอบ มาถึงตรงนี้เรายิ่งตัดใจไม่ได้ มันทำยังไงก็ทำไม่ได้จริงๆ เจอหน้าอี่ทีก็ไม่คุยกัน ความสัมพันธ์ถือว่าติดลบ จนมาถึงม.5 พี่เจอยู่ม.6 พี่สอบติดคณะแพทย์ มหาวิทลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง นั่นก็ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นว่าเราต้องติดมหาลัยนี้ให้ได้ ต้องติดๆ ตอนนี้เรามีแฟนแล้ว เราก็รักแฟนของเรามากเหมือนกัน เพราะเขาดีกับเรามากๆ แต่ในใจลึกๆเรายังลืมพี่เจไม่ได้และยังต้องการจะเจอพี่เจอยู่ วันปัจฉิมนิเทศจบม.6 ของพี่เจ เราทำไวนิลขนาดใหญ่เกือบครึ่งตัว และเราก็เอาสมุดไดอารี่ที่บันทึกเกี่ยวกับพี่เจมาห่อรวมกัน แล้วเอาให้พี่เขาไป พี่เขาบอกขอบคุณและยิ้มให้เรา แค่นั้นเราก็เดินออกมาเลย ตอนนี้เราอยู่ม.6 แล้ว พี่เจก็เข้ามหาลัยไปแล้ว ความสัมพันธ์ของเรากับอี่ทีดีขึ้นมาเหมือนกัน เพราะเรื่องมันก็ผ่านมานานพอสมควร แต่ลึกๆแล้วมันก็ยังเหลือความขุ่นมัวอยู่เหมือนกัน เราจะไม่พูดถึงพี่เจเวลาคุยกัน ถ้ามีคนอื่นพูดถึงมา ส่วนใหญ่เพื่อนๆก็จะล้อพี่เจกับอี่ทีมากกว่า เราได้แต่เงียบรู้สึกเจ็บแปลบๆอยู่ในใจ มันยากจริงๆที่จะผ่านพ้นสถานการณ์แบบนี้ไปได้ เวลาผ่านไปเราสามารถสอบติดมหาลัยได้แล้ว อี่ทีก็ติด มหลัยเดียวกับที่พี่เจอยู่ ในช่วงปิดเทอมที่พวกเรากำลังจะเข้ามหาลัย ได้มีการรับน้องจังหวัดที่ติดมหลัยนี้จากรุ่นพี่จังหวัดเดียวกัน พี่เจก็มา ทุกคนล้ออี่ทีกับพี่เจ ล้อกันสนุกสนานมาก เหลือแต่เราที่นั่งก้มหน้า น้ำตาเราไหลออกมาจริงๆ มันเจ็บ เจ็บจริงๆ ตอนนี้เราก็ยังไม่เลิกกับแฟน เรารู้สึกผิดต่อเขาเหมือนกัน แต่เราก็ยังลืมพี่เจไม่ได้จริงๆ ในงานรับน้อง เราเห็นพี่เจอยู่กับอี่ทีบ่อยมาก เราก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะแฟนของเราก็มา แต่ถึงแฟนของเราไม่มาเราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี มาถึงตอนนี้เราเรียนปี 1 แล้ว นี่ก็ใกล้จะปิดเทอม 1 ละเราไม่เคยเจอพี่เจเลย เพราะเรียนคนละคณะ แล้วพี่เขาก็อยู่ปี 2 เราตามไอจีพี่เขาอย่างน้อยก็ได้รู้ว่าพี่เขาเป็นยังไงบ้าง เอาจริงๆตอนนี้เราก็ยังลืมพี่เจไม่ได้สนิทใจ เรายังอยากเจอพี่เขา ยังเสียใจที่เพื่อนล้ออี่ทีกับพี่เจ แต่ตอนนี้สองคนนี้เลิกกันแล้ว พี่เจก็มีแฟนใหม่ ตั้งแต่ม.2 ถึงปี 1 เป็นเวลานานมากๆ แต่ทำไมเรายังจำเหตุการณ์ทั้งหมดได้ดี ทำไมยังลืมไม่ได้ เรารู้ตัวเองเลยว่าความรู้สึกของเราบอบบางมากสำหรับเรื่องนี้ ถ้ามีใครมาสะกิดใจนิดหน่อยเราก็ร้องไห้ได้เลย ทั้งๆที่เราก็มีแฟนแล้ว เราก็รักเขา แต่ทำไมพี่เจยังไม่ไปไหนจากสมองของเราเลยล่ะ ทั้งๆที่นี่ก็ผ่านมาแล้ว เกือบ 7 ปี แล้ว ถ้าเป็นเพื่อนๆจะทำยังไงคะ ในอนาคตถ้าได้เจอกับพี่เจอีกเราควรทำยังไง เพื่อนๆช่วยแนะนำทีสิคะ
จบ😔
เจ็บมั้ยถ้าเพื่อนสนิทของเราเป็นแฟนกับคนที่เราแอบชอบ ช่วยให้คำแนะนำเราหน่อยค่ะ
จบ😔