แต่ก่อนมีเพื่อนๆถามว่า.....เธอแต่งงานกับหนุ่มน้อยเวลาแต่งงานเค้ามีแบบคุกเข่าขอแต่งงานรึเปล่าแก๊!!!!!
จขกท.ตอบว่าคุกเข่าตั้งแต่ขอเป็นแฟนแล้วแหล่ะย่ะ!!!! เพื่อนบอกว้ายกรี๊ด!!!!!วี๊ดบึ๊ม!!!!!
อ๊ะๆ!!!ขอบอกว่าในชีวิตนี้มีคนมาคุกเข่าสองครั้งนะแจ๊ะ....เป็นคนๆเดียวกันไม่ต้องตกใจเพียงแต่...ขอเป็นแฟนกับขอแต่งงาน....

ตอนเดิมเล่าไปแล้วว่าวัดใจกันไปเลยเวลาจะคบกับใคร ชั้นเป็นคนชัดเจน....ชอบก็บอกว่าชอบคบก็บอกว่าคบอย่ามา....เพื่อนกันค่ะ...อ่อพี่ชายค่ะ....อ่อพี่น้องกันค่ะ....
จะคบกับใครบอกมาเลยว่าใช่รึไม่ใช่.....ถ้าไม่ใช่ก็สะบัดตรูดลา....ไม่เสียเวลาร่ำไร

ตอนเป็นแฟนหรือแต่งงานกันแล้ว สามีบอกรักเช้าเย็น ปัจจุบันนี้เปลี่ยนไป.....มีแต่เริ่มคุยกันว่าตายแล้วไปไหน555
ไม่ใช่อะไรหรอก สามีเคยบอกว่าถ้ารักก็ต้องบอกสิว่าเรารักกัน ถ้าหากรักนี้ไม่บอกไม่พูดไม่กล่าวแล้วเราจะรู้รึเปล่าว่าเค้ารู้สึกเช่นไร
ไม่บอกรักกันเองก็ไม่รู้จะไปบอกรักใคร แต่พอมีลูกความรักมันก็แปรเปลี่ยน .....
แบ่งปันความรักที่เคยมีกันแค่สองคนส่งผ่านไปให้ลูกๆแทน.....  เพราะเค้าคือผลพวงจากความรักของเรา
ไม่รักลูกจะให้ไปรักแมวที่ไหนจริงม๊ะ???

เวลาเห็นสามีเล่นกับลูกบางครั้งก็คิดว่าเออมีสามีเด็กมันดีอย่างนี้นี่เอง 5555 วิ่งเล่นกับลูกเสียงดังบ้านจะแตก เหมือนมีลูกๆสามคนในบ้าน
ไม่รู้เลยคนไหนคนเล็กคนไหนคนโต  โดยเฉพาะก่อนอาบน้ำให้เด็กๆพ่อเค้าจะเป็นคนอาบน้ำให้ วิ่งร้องกรี๊ดๆกันสักวันข้างบ้านได้ตะโกนด่าแน่
วิ่งไล่จับ เล่นซ่อนหากันในบ้านบ้าง ทำกิจกรรมต่างๆกับลูกบ้าง  อ่อมันดีแบบนี้นี่เอง.....แม่มันแก่วิ่งไม่ไหวแล้วลูกเอ้ยให้พ่อทำหน้าที่แทน
เด็กๆก็สนุกสนานมีความสุข  วันไหนพ่อไปทำงานลูกๆนี่เหี่ยวเหมือนต้นไม้ไม่ได้รดน้ำกันเลยทีเดียวเชียว    บางครั้งลูกชายคนเล็กนี่ถามเลยกี่โมงแล้วเมื่อไรพ่อจะโทรมาให้ไปรับสักที
เด็กๆตื่นเต้นกันมากเวลาจะไปรับพ่อที่ทำงาน หรือบางวันสามีบอกว่ามารับเค้าก่อนนะจะไปเซอร์ไพร์เด็กๆที่ร.ร. ซึ่งแน่นอนเวลาเด็กๆเห็นพ่อไปรับที่ร.ร.นี้กรี๊ดยังกับติ่งเกาหลี
ดีใจกันมากพ่อหนูมาแล้ว   กระโดดกระเด้งทั้งอุ้มทั้งขี่คอล้อมหน้าล้อมหลัง.....

เคยแซวสามีว่าแหม่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยบอกรักชวนเลี่ยนเลยนะย๊ะ....สามีทำหน้าซีเรียสดินเข้ามากอดและตอบว่า.......
ขอโทษด้วยนะที่แต่ก่อนเค้าคิดว่าเค้าคงไม่รักใครได้มากมายเท่ากับเราอีก
ตอนนี้อยากจะขอโทษและขอถอนคำพูดว่าเราเป็นที่หนึ่งตลอด......  ตอนนี้ความรักของเค้ากับเรามันไม่เหมือนแบบแต่ก่อน.....  
ใช่ซี๊ชั้นมันแก่และย้วย!!!!
เค้าบอกไม่ช่ายๆๆ เธอยังสวยและงามแงะในสายตาผมเสมอ....แต่......ความรักตอนนี้ที่เค้ามีให้มันถูกแบ่งออกไปเป็นสามส่วน
เค้ารักเราสามคนเท่าๆกันแต่ถ้าให้เรียงลำดับตอนนี้เค้าปันใจไปให้ลูกสาวเป็นอันดับหนึ่งเพราะคือแก้วตาดวงใจของเค้า ตัวเราเค้ายังรักเหมือนเดิมแต่ต้องให้เป็นอันดับสอง
ส่วนลูกชายอันดับสาม555โถ่วลูกชายของแม่  ทูนหัวของบ่าววว....รั้งท้ายมาเป็นอันดับสามเลยนะลูก ไม่เป็นไรหนูเป็นลูกชายอันดับหนึ่งในใจแม่เสมอ....
แอบอิจฉาลูกสาวนิดหน่อยนะ ยูโนว์......
ไม่เป็นไร ชีวิตของชั้น......
"ฉันจะตายโดยไม่ปราศจากคนที่รักฉัน และฉันก็ยังอิ่มใจที่ยังมีคนที่ฉันรัก"

มีหนุ่มน้อยที่เดินเข้ามในชีวิต ด้วยวัย21ตอนมาคุกเข่าขอเป็นแฟน และคุกเข่าอีกครั้งตอนขอแต่งงานด้วยวัย24 ซึ่งตอนนั้นเราอายุ 31  
หนุ่มน้อยคนนั้นบอกว่าภาคภูมิใจมากๆในวันที่คุกเข่าขอแต่งงาน วันที่จะบอกกับใครๆได้ว่าเราคือFiance' ไม่ใช่ Girlfriend อีกต่อไป
เค้าถามว่ารู้มั้ยถึงอยากใช้คำว่าฟิยองเซ่....ไม่ใช่บิยองเซ่นะยูว์โนว

หนุ่มน้อยคนนั้นเค้าบอกว่า คำว่าคู่หมั้นมันฟังดูดีมีอนาคต ดูเป็นคำที่ศักดิ์สิทธิ์มีความหมาย ดูแววว่ามีอนาคตที่ชัดเจนร่วมกัน
ดีกว่าคำว่าMy Girlfriend เป็นไหนๆ
เพราะเวลาบอกใครมันคือความภาคิภูมิใจว่านี่คือคนที่เค้าอยากจะแต่งงานด้วย คนที่เค้าอยากจะมีอนาคตร่วมกัน
เรื่องนั้นมันผ่านมาเกือบสิบปีแล้วแต่ยังไม่ลืม ถึงแม้ปัจจุบันนี้อายุมากขึ้นแต่ชั้นจะเป็นอมตะ555 และมีความจำเป็นเลิศ  เรื่องดีๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแหม่ใครเค้าจะลืมกันจริงเปล่า?ตอบ!!!!

วันเสาร์  11'11'06 เวลาบ่ายสามโมงตรง
เสียงระฆังก้องกังวาลในโบสถ์เล็กๆ รายล้อมด้วยสวนองุ่นร่มรื่นสบายตา.....พร้อมกับคำสัญญาของหนุ่มน้อยคนหนึ่ง......



I call upon the persons here present,
To witness that I, พระเอก take you ช้อยชบา to be my lawful wedded wife.
All that I am I give to you. All that I have I share with you.

Whatever the future holds I will love and stand by you throughout our lives together.
This is my solemn vow.