จับพลทหารวิชัย รักษ์คีรีเขต ขนไอซ์150 กก. ยาบ้าอีก 1.6 ล้านบาท รวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท

น่าจะเป็นการจับยาไอซ์มากที่สุดในประเทศไทย 150กก.
งานนี้คงได้ไปคุยกับรากมะขาม ไม่รอดแน่ๆ

แพร่/เชียงใหม่ - เจ้าหน้าที่ตรวจนับของกลางทหารเกณฑ์ ซิ่งรถตู้ติดป้ายทะเบียนตรากงจักรปลอม แหกด่านตำรวจแพร่แล้วอึ้งหนัก พบขนไอซ์มากถึง 150 กก. ยาบ้าอีก 1.6 ล้านบาท รวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท
       
       วันนี้(16 พ.ย.)ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบของกลางยาเสพติดที่ยึดได้จากรถตู้ ที่พลทหารวิชัย รักษ์คีรีเขต สังกัด ร.17 พัน 4 เช่ารถตู้ติดป้ายทะเบียนปลอมของทางราชการ พร้อมติดสติ๊กเกอร์ พล.ร.7 ตบตาเจ้าหน้าที่ ขนยาเสพติดแหกด่านตรวจที่จังหวัดแพร่ ช่วงสายที่ผ่านมาว่า หลังพล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และนายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ร่วมตรวจนับของกลางที่พบในรถตู้ และให้เจ้าหน้าที่ตรวจนับโดยละเอียดแล้ว
       
       ปรากฏพบของกลางยาเสพติดเป็นยาบ้า บรรจุอยู่ในกระสอบฟาง 11 ใบ ยาบ้าประมาณ 1.6 ล้านเม็ด (อยู่ในรถ) ยาไอซ์บรรจุอยูในกระเป๋าเป้ สีเขียว 10 ใบ ใบละ 50 ก้อน รวมยาไอซ์ประมาณ 150 กก. (อยู่ในรถ) โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง(ตกในรถ
       )
       โดยในส่วนของยาไอซ์นั้น มีราคาซื้อขายตามแนวชายแดนประมาณ 600,000 บาท/กก. คิดเป็นมูลค่าประมาณ 90 ล้านบาท แต่หากนำมาขายพื้นที่ชั้นในจะมีราคาประมาณ 2 ล้านบาท/กก. คิดเป็นมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท ขณะที่ยาบ้าราคาต้นทุนตามแนวชายแดน จะมีมูลค่าราว 56 ล้านบาท แต่ถ้านำมาขายในพื้นที่ชั้นใจ จะมีมูลค่าราว 265 ล้านบาท รวมมูลค่าของกลางยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 556 ล้านบาท
       
       ส่วนผลการตรวจสอบจากเอกสารการเช่า จากสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนา ใบขับขี่ พบว่า ผู้เช่าเป็นคนๆ เดียวกัน คือนายวิชัย รักษ์คีรีเขต บ้านเลข 210 ม.4 ต.เชียงบาน อ.เชียงคำ จ.พะเยา ที่อยู่ตามบัตร เป็นค่าย ร.17 พัน 4 ค่ายขุนจองคำ และนายวิชัย เป็นทหารเกณฑ์ สังกัด ร.17 พัน4 ร7 ค่ายขุนจองคำ อ.เชียงคำ จ.พะเยา มี บ้านเดิมอยู่บ้านเลขที่ 54 ม.9 บ่านม่วงกาญจน์ ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย
       
       ทั้งนี้ การตรวจยึดของกลางครั้งนี้ เกิดขึ้นหลัง พ.ต.ท.รณฤทธิ์ นาเจริญ สว.ปพ./ปฎิบัติหน้าที่ประจำ ชปส.ภ.5 ได้รับแจ้งจากสายลับแจ้ง ว่า นายวิชัย รักษ์คีรีเขต อายุประมาณ 20-25 ปี เป็นชาวเขาเผ่าม้ง บ้านม่วงกาญจน์ ม.9 ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ มักจะลักลอบนำยาเสพติดครั้งละจำนวนมากจากพื้นที่ เชียงราย ไปส่งให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ และภาคกลาง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และสั่งการให้สืบสวนติดตาม
       
       กระทั่ง 15 พ.ย.2557 สายลับได้แจ้งให้ พ.ต.ท.รณฤทธิ์ ทราบว่า นายวิชัย ได้เตรียมการจะขนยาเสพติดจำมาก จากพื้นที่เชียงราย ไปส่งให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ โดยได้ติดต่อเช่ารถตู้จากร้านพลศักดิ์ ในตัวเมืองเชียงราย
       
       พ.ต.ท.รณฤทธิ์ จึงได้ติดต่อประสานกับร้านรถเช่า เพื่อขอข้อมูลการเช่ารถ และทราบว่า นายวิชัย ได้ใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน / สำเนาใบขับขี่/ และหมายเลขโทรศัพท์ เช่ารถตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแกรน์ไฮแอท สีขาวคาดบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน นค.1000 เชียงใหม่ ที่ติดตั้งเครื่องมือติดตามรถผ่านดาวเทียม(GPS) ไว้ และนายวิชัย ได้รับรถออกจากร้านไปเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 15 พ.ย. โดยแต่งเครื่องแบบทหารชุดลายพรางเต็มยศมาด้วย
       
       จากนั้นจึงได้วางแผนติดตามสะกดรอยจนพบว่า นายวิชัย นำรถไปที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย เมื่อรับยาบ้าแล้ว ได้ใช้เส้นทางเชียงของ - เทิง - เชียงคำ - งาว - สอง - เมืองแพร่- สูงเม่น และระหว่างติดตามเจ้าหน้าที่พบว่า รถยนต์ได้เปลี่ยนป้านทะเบียน มาเป็นป้ายกงจักร เมื่อผ่านจุดตรวจระหว่างทาง ก็จะชลอรถรถ และเปิดไฟขอทาง เมื่อเจ้าหน้าทีประจำด่านเห็นเป็นรถราชการ จึงปล่อยผ่านไป
       
       เมื่อรถเข้าเขต อ.สูงเม่น มุ่งหน้าไป อ.เด่นชัย จ.แพร่ พ.ต.ท.รณฤทธิ์ เห็นว่า รถเป้าหมายใกล้ออกนอกเขตพื้นที่ภาค 5 จึงประสานกับจุดตรวจธรรมาราม สภ.เด่นชัย ตั้งด่านตรวจค้นรถคันดังกล่าว แต่คนขับไม่ยอมจอด และเร่งเครื่องจะเฉี่ยวชน จนท. ด่านตรวจ และแหกด่านไปได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ไล่ติดตาม และใช้อาวุธปืนยิงยางรถ แต่รถคันยังวิ่งต่อไปได้
       
       เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามจนพบรถเสียหลักจอดข้างทาง ที่เวณใกล้ร้านกาแฟดอยช้าง ห่างจากด่านตรวจประมาณ 1 กม. และเห็นชายคนหนึ่งแต่งกายชุดลายพรางวิ่งลงจากรถเข้าไปในป่าข้างทาง จึงไล่ติดตาม พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เด่นชัย ช่วยติดตามมาดำเนินคดี
)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่