[CR] HONEYMOON MALDIVES | 4 วัน 3 คืน รักนี้ ต้องติดเกาะ



สวัสดีครับ

วันนี้จะผมจะมารีวิว 1 ในสถานที่ที่บอกว่าต้องมาสักครั้งในชีวิตกับคนรัก กระท่อมกลางน้ำบนเกาะที่แสนจะเงียบสงบและโรแมนติก มองไปทางไหนก็เจอแต่สีฟ้าของท้องฟ้า และเขียวมรกตของท้องทะเล บอกได้เลยว่าเหมาะแก่การมาฮันนีมูนที่สุด ไม่ใช่ที่ไหนครับ มัลดีฟส์นั่นเอง… (เพื่อเพิ่มอรรถรสในการจินตนาการภาพตามรีวิว กรุณาชมคลิปวิดิโอด้านล่างนี้ให้จบเสียก่อนนะครับ ยิ้ม )

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


======================================



-
01 วางแผนเที่ยวมัลดีฟส์
-



มัลดีฟส์มีสภาพอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปีเนื่องจากตำแหน่งตั้งอยู่บนเส้นศูนย์สูตร อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 29-32 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตามฤดูในมัลดีฟส์แบ่งได้เป็น 2 ช่วงคือ ช่วงลมตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างเดือน พ.ย. ถึง เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงฟ้าปลอดโปร่ง แดดจ้า ร้อนที่สุดก็เห็นจะเป็นเดือนเม.ย. คล้ายๆบ้านเรา และช่วงลมตะวันตกเฉียงใต้คือเดือน พ.ค. ถึง ก.ย. จะมีฝนตก แต่จะตกแบบสั้นๆแค่ 15-30 นาทีแล้วลมก็จะพัดเอาเมฆฝนผ่านพ้นไป สภาพทะเลจึงสามารถเที่ยวได้ทั้งปี ช่วงที่เราวางแผนจะไปฮันนีมูนกันไว้นั้นเป็นเดือน ส.ค. ดังนั้นเรามาลุ้นกันดีกว่าครับ ฮันนีมูนมัลดีฟส์หน้าฝน เราจะเจอฝนกันหรือเปล่า

เริ่มจากจองตั๋วเครื่องบินก่อนเลย สายการบินที่บินจากกรุงเทพไปมัลดีฟส์ มี 4 สายการบินครับ คือ

1. Bangkok Airways บินตรงถึงมัลดีฟส์ ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมง
2. Srilankan Airlines ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง แวะเปลี่ยนเครื่องที่ Colombo
3. Malaysian Airlines ใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง แวะเปลี่ยนเครื่องที่มาเลเซีย
4. Singapore Airlines ใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง แวะเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์
(เวลาที่มัลดีฟส์ จะช้ากว่าไทย 2 ชั่วโมงนะครับ ดังนั้นดูเวลาอย่าลืมบวกเผื่อด้วย)

หลังจากหาข้อมูลแล้ว สายการบินที่น่าสนใจที่สุดคือ Bangkok Airways ที่บินตรง สะดวกสบาย และประหยัดเวลาในการเดินทางที่สุด อีกสายการบินคือ Srilankan Airlines ที่ค่าบินค่อนข้างถูก แต่ต้องเสียเวลารอต่อเครื่องอีกเกือบ 2 ชั่วโมง สุดท้ายแล้วสายตาเหลือบไปเห็นโปรโมชั่นบินสบายกับ Bangkok Airways ดูวันเดินทางแล้วลงตัวพอดีเลยจัดไปครับ จองเรียบร้อย 2 ที่ เดินทางวันที่ 7 ส.ค. – 10 ส.ค. 2557 เดินทางตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิ สู่จุดหมายปลายทางสนามบินมาเล่ ประเทศมัลดีฟส์ เบ็ดเสร็จแล้วจ่ายค่าเครื่อง บวกค่าธรรมเนียมต่างๆ ไปคนละ 16,285 บาท โชคดีที่ได้โปรบินถูกมากๆ





ได้ตั๋วเครื่องบินแล้ว ต่อไปก็หาที่พักครับ เราหากันไว้หลายที่ สภาพภูมิประเทศของมัลดีฟส์จะเป็นหมู่เกาะเล็กๆ หลายแห่งมารวมกัน ส่วนมากแล้วรีสอร์ทโรงแรมต่างๆก็จะจองพื้นที่ทั้งเกาะ เกาะใครเกาะมันเป็นที่ส่วนตัวกันไป การเดินทางจากสนามบินมาเล่ ไปยังรีสอร์ทที่พักต่างๆนั้นก็จะมี 2 วิธีคือ นั่งเรือ speed boat สำหรับโรงแรมที่ไม่ไกลจากสนามบินมาก และนั่งเครื่องบิน Sea Plane สำหรับโรงแรมที่อยู่ค่อนข้างไกลจากสนามบิน (ค่าบริการ Sea Plane ค่อนข้างแพง ราคาไปกลับ 294 USD หรือเป็นเงินไทยประมาณ 8,855 บาท!! แต่คุณจะได้สัมผัสวิวทะเลมัลดีฟส์แบบ 360 องศาเลยทีเดียว) โรงแรมยอดนิยมที่คนไทยชอบพักกันก็มี Centara Grand Island Resort & Spa, Angsana Ihuru Resort และก็ Club Med ส่วนเราตกลงเลือกพักที่ Centara Ras Fushi Resort & Spa โดยจองห้อง Deluxe Ocean Front Beach Villas ไว้ 4 วัน 3 คืน ทั้งหมด 43,580 บาท เป็นแบบ All Inclusive Meal คือรวมค่าอาหารและเครื่องดื่มทุกมื้อ และค่าบริการเรือ Speed Boat รับส่งที่สนามบิน ซึ่งการจองผ่านเอเจนซี่จะได้ราคาถูกกว่าหน้าเว็บของโรงแรมเองครับ ลองเปรียบเทียบราคาจากเอเจนซี่หลายๆที่ดูอีกที อย่างตอนที่ผมจ่ายเงินมัดจำค่าที่พักไปแล้ว ปรากฏว่ามีเอเจนซี่อีกที่ที่ติดต่อไว้พึ่งส่งราคากลับมาให้ ถูกกว่า 3,000 บาทเลยทีเดียว (พี่ส่งราคามาให้ผมช้าไปวันเดียวเอง โถ่ๆๆๆ T^T)




-
03 วันเดินทาง
-



เรามาถึงสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 8 โมงเช้า ถ้าใครบินกับ Bangkok Airways หลังจากเช็คอินเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถไปใช้บริการที่ Lounge ระหว่างรอขึ้นเครื่องได้ฟรีเลยครับ มีเครื่องดื่ม เบเกอรี่ และขนมปังให้ทานรองท้องด้วย อร่อยใช้ได้เลยครับ หรือใครไม่หิวก็ไปนั่งเล่นอินเทอร์เน็ตได้ฟรีเหมือนกัน



ถึงเวลาขึ้นเครื่อง โชคดีเราได้ที่นั่งริมหน้าต่าง ระหว่างเดินทางมีอาหารให้ทาน 1 มื้อบนเครื่อง และมีจอส่วนตัวทุกที่นั่งให้เลือกดูหนังฟังเพลงได้ตามสบาย นั่งเครื่องบิน 4 ชั่วโมง ดูหนังเพลินๆ มองไปนอกหน้าต่าง เริ่มเห็นหมู่เกาะปะการังขาวๆ ตัดกับน้ำทะเลสีคราม ซักพักเสียงกัปตันก็ประกาศ เรามาถึงสนามบินมาเล่ ประเทศมัลดีฟส์แล้วครับ เย้!!!





ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินเรียบร้อย ออกมาจะมีบูทของโรงแรมรอรับเราอยู่ หน้าที่ของเราก็คือกวาดสายตาให้เจอว่าบูทของโรงแรมที่เราพักนั้นตั้งอยู่ตรงไหน แล้วเราก็เดินตรงเข้าไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ได้เลยครับ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาเราไปขึ้นเรือ Speed Boat เพื่อเดินทางไปที่พักของเราครับ Centara Ras Fushi


เตรียมตัวขึ้นเรือสปีดโบ๊ท ต้องสวมชูชีพให้เรียบร้อย


ภายในเรือกว้างขวาง และดูปลอดภัยมากครับ มีเจ้าหน้าที่เดินถ่ายรูปให้ผู้โดยสารด้วย


เอกลักษณ์ของเมืองมาเล่ก็คือตึกที่ทาสีหวานๆ เป็นโทนพาสเทลเนี่ยแหละครับ

ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 20 นาทีก็ถึงที่พักครับ เห็นตัว C สีแดงโดดเด่นเป็นแลนด์มาร์คมาแต่ไกล ขึ้นจากเรือมาก็จะได้รับ Welcome Drink ตามธรรมเนียมคนละแก้ว พร้อมผ้าเช็ดหน้าอุ่นๆคนละผืน เนื่องจากที่นี่เป็นโรงแรมของคนไทย จึงไม่แปลกครับที่จะมีพนักงานคนไทยมาต้อนรับเราด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มเมื่อเจอคนไทยด้วยกัน แล้วเราก็ต้องตกใจครับ เมื่อพนักงานต้อนรับถามเราว่า “ไม่ทราบมีบัตร The 1 Card มามั้ยคะ สามารถใช้สะสมแต้มตามมูลค่าที่พักได้ค่ะ” เมื่อได้ยินคำถามนี้ผมกับแฟนถึงกับอุทาน โอ้วแม่เจ้า!!! The 1 Card มาไกลถึงนี่เชียวหรือนี่ แฟนผมค้นกระเป๋าจนทั่ว แต่เสียดายที่ไม่ได้พกบัตรมาด้วยจริงๆ เพราะไม่ทราบมาก่อนว่าสามารถใช้สะสมแต้มที่พักได้ด้วย ไม่เป็นไรครับ พนักงานบอกว่าสามารถสมัคร Centara The 1 Card แล้วสะสมแต้มได้เลยค่ะ ไม่รอช้าครับ แฟนผมรีบไปสมัครบัตรใหม่ทันที 555 (ได้รับบัตรทันทีตอนวัน Check Out กลับเลยครับ เยี่ยมจริงๆ)


แลนด์มาร์ค C สีแดงริมท่าเรือที่เห็นชัดแต่ไกล


ถึงแล้วครับ Centara Ras Fushi Resrort & Spa

เซอร์ไพรส์แรกกับ The1Card ผ่านไป เจอเซอร์ไพรส์ที่สองครับ ระหว่างรอเช็คอินก็หาสัญญาณไวไฟเล่นตามเรื่องตามราว ปรากฏว่าเจอสัญญาณ AIS Wifi ด้วยครับ!!! ไม่น่าเชื่ออีกครั้ง AIS ก็มาไกลถึงมัลดีฟส์ด้วย (ขากลับลองแวะเข้าไปร้าน Swensen’s ที่สนามบินมาเล่ ก็มีป้ายน้องอุ่นใจตัวเขียวๆ แปะโปรโมชั่นสำหรับลูกค้า AIS อีกเหมือนกัน น้องอุ่นใจมาเที่ยวไกลจริงๆครับ) เซอร์ไพรส์ที่สามครับ พนักงานรับเรื่องเช็คอินหันมาบอกว่า ห้องพักที่เราจองเต็มไว้ครับ ผมจองห้องพัก Deluxe Ocean Front Beach Villas ไว้ เป็นห้องพักริมหาดติดทะเลเค้าเลยอัพเกรดห้องพักให้เราฟรีครับ เป็น Deluxe Water Villa บ้านบังกะโลกลางน้ำที่เราเห็นตั้งแต่หน้าเว็บแต่ไม่กล้าจอง เพราะด้วยงบประมาณในกระเป๋าที่จำกัด มาคราวนี้โชคดีสุดๆครับ ได้พักบ้านกลางน้ำที่โรแมนติกสุดๆ 555
ชื่อสินค้า:   Centara Ras Fushi Maldives
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่