A la Sous Perfecture aujourd'hui,
Oui, c'est le temps pour moi de prolonger le visa d'un an avant que
je puisse avoir un Titre de séjour. J'ai eu le rendez-vous à 13h30 et terminé
toute la procédure en 30 minutes, vraiment incroyable.
J'ai entendu tellement de commentaires négatifs sur cette action,
mais pas à Reims, pour ce qui me concerne.
Les chiens sont restés à la maison pendant que nous étions à l'extérieur.
Ils s'entendent très bien parce que Hyppo est un vrai gentleman et très
gentil avec Ixess qui est quelquefois un peu rude.
Peppy a un problème de manger à nouveau. J'espère qu'elle sera très bien
dans un jour ou deux, sinon ... nous devrons l'emmener chez le vétérinaire.
เป็นมาดามสองหมาหนึ่งแมว...สนุกจริง จิ๊งงงง....
คุณสองหมาเพิ่งจะเริ่มมีสมานฉันท์ เพราะพาไปเดินพร้อมๆกัน ไอ้ตัวเล็กไม่ค่อยได้เดินหรอกค่ะ อุ้มอยู่แนบอกตลอด เพราะมันยังเล็กมาก เดินไม่ทัน
อีกทั้งท่าทางเขาออกจะตื่นๆ เพราะคงไม่เคยถูกพาเดินไปนอกสถานที่มาก่อน...
คุณแมวเริ่มจะออดแอดอีกแล้ว...ปฏิเสธอาหาร แบบว่า ทานน้อยผิดปรกติ และ ออกนอนตากลมเล่นข้างนอกได้เป็นวันๆ...
ขอแก้ไขค่ะ...เพราะขณะที่กำลังพิมพ์อยู่นี่ ได้ยินเสียงเธอเคี้ยวอาหารเม็ดดังกรอดๆ...คงจะเป็นปรกติแล้วมัง...
ดิฉันยังไปฟิตเนสวันละชั่วโมงครึ่งเช่นเดิม...รู้สึกชัด"ติด" การออกกำลัง เพราะเดี๋ยวนี้ไม่เจ็บเข่าเลย...(เคยมีปัญหากับเข่าซ้ายมานานหลายเดือนแล้ว..)
วันนี้ลาโรงเรียนไปทำธุระต่อวีซ่าที่ ซูส์ แปร์เฟคเตือ ที่มีหน้าที่คล้ายๆกับงานบริหารของเมือง มีนัดตอนบ่ายโมงครึ่ง ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเองค่ะ เสร็จแล้ว...
งานครัวก็ยังคิวเต็มเหมือนเคย...ไปซื้อซัลมอนมาอีก สองตัว....เอามาทำเป็นอาหารให้คุณพ่อบ้าน เป็น ซัลมอนซอสกระเทียม กับ มันฝรั่งและผัดผักสามสี..
ของตัวเอง...จัดเป็นซาชิมิ จานเบ้อเริ่ม...กินให้หายอยากไปเลย...หมดไปหนึ่งตัว
อีกตัวหนึ่งมาดองเค็มเก็บไว้กินหน้าหนาว....ตอนนี้มีอยู่ gravlax ห้าแถบที่อยู่ในตู้แช่แข็ง...สบายใจไปแปดอย่าง
ส่วนกับข้าวที่ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า ก็ทำให้เสร็จไปเลย เช่น ต้มมันฝรั่ง ผัดผัก แถมทำเนื้ออบ แบบพริกไทยกระเทียม โขลกลูกผักชีลงไปด้วย...
ทอดด้วยเครื่องไร้น้ำมัน ทำเสร็จแล้วใส่ถุงแช่แข็งไว้ได้เลย...
ดิฉันเอามาทานกับสลัด เป็นสลัดเนื้อสัน หรือ ทำให้คุณพ่อบ้าน ด้วยการเพิ่มซอสราดแบบตามสะดวก...
ส่วนพอมีของเหลือ อย่างโน้นนิด อย่างนี้หน่อย เช่นเมื่อวาน มีเนื้อที่ว่านี้อยู่สองชิ้น...มันฝรั่งต้ม ผัดผัก ดิฉันเอามาหั่นผสมกัน และคลุกด้วยเพสโตซอส
เติมรสให้พอดี แล้วเอาแผ่นแป้งกรอบวางลง...ทับด้วยแฮมและเนยแข็ง และเอาส่วนผสมที่ว่านี้วางทับอีกที...ปิดทับด้วยแฮม และ ชีสอีกแผ่นหนึ่ง
จับแผ่นแป้งให้ทบเข้าหากัน ปิดเป็นห่อ...
แล้วเข้าเตาอบ 180 องศา ประมาณ 30 นาที....
ออกมาเสริฟทั้งก้อน และเตรียมสปาเก็ตตี้ซอสไว้ให้ราด....
ได้เป็นอาหารพิเศษอีกชนิดหนึ่ง...จากของเหลือๆที่เรามี...
ส่วนขนม...ดิฉันก็ต้องทำชิ้นใหญ่ตามเคย เพราะประหยัดเวลา เมื่อจะทำชิ้นใหญ่ทั้งทีก้ต้องทำเป็นขนมที่ทานง่ายๆ และ ไม่เลี่ยน ไม่มันจนเกินไป...
เลยต้องพลิกหากันแทบแย่...มาลงตัวที่ custard cake อันเป็นเค้กที่พวกเม๊กซิกันนิยมรับประทาน...
วิธีทำ..ค่อนข้างที่จะวุ่นวาย หลายชั้นหลายเชิง แต่ก็ไม่ยาก หากว่าเข้าใจในหลักการ ทีมีอยู่สามชั้น...
ชั้นแรก คือ ทำคาราเมล....ใช้น้ำตาลทราย 1 ถ้วย ตั้งบนกะทะหรือ หม้อ เปิดไฟบนเตาให้ร้อนขนาดกลาง เพื่อน้ำตาลละลาย กลายมาเป็นสีอำพัน....เรียกว่า คาราเมล
ก็เอาไปราดแบบเกลี่ยให้ทั่วลงบนพื้นพิมพ์ ที่ควรเป็น ถาดกลม ขนาด 10 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง ส่วนสูงประมาณ 3 นิ้ว หรือ 3 นิ้วครึ่ง...พักไว้
เปิดเตาอบ 180 องศาซี
ชั้นที่สอง...คือ ครีม 1/2 ถ้วย ผสมกับ นมสด 1 ถ้วย ...วานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ...ผสมกัน แล้วพักไว้ ต่อมา ตีไข่ 6 ฟอง กับน้ำตาล ครึ่งถ้วย...จนเป็นเนื้อเนียน...แล้วนำครีมที่ผสมไว้มาคนรวม...
เอาไปเททับลงในคาราเมลที่อยู่ในพิมพ์...
ชั้นที่สาม...นี่คือขั้นตอนของการทำสปันจ์เค้ก...ด้วย แป้งเค้ก 1 1/2 ถ้วย ไข่แดง 6 ฟอง (เก็บไข่ขาวไว้ เพราะจะต้องใช้) น้ำตาล 1/2 ถ้วย ผงฟู 1 ชช. นมสด 1/2 ถ้วย เมือพร้อมแล้ว...
ตีไข่แดงกับน้ำตาลจนเนื้อเนียน ใส่ผงฟู และ แป้ง ลงไปเคล้าให้เป็นเนื้อเดียวกัน เติมนมสด...เคล้าอีกครั้งหนึ่ง พักไว้...
เอาไข่ขาว มาตีเป็นเมอแรงค์กับน้ำตาล ประมาณ 4-5 ชต. พอตั้งยอด...เอาไปตะล่อม แบบพับไปมากับส่วนผสมแป้งที่พักไว้...จนได้เนื้อเค้กฟู
เอาไปใส่ทับในพิมพ์เป็นชั้นสุดท้าย เข้าไปอบประมาณ หนึ่งชั่วโมง หรือ หนึ่งชั่วโมงครึ่ง (อันนี้แล้วแต่ขนาดพิมพ์ที่ใช้นะคะ )
เมื่ออกมาแล้ว...รอให้เย็น..แซะขอบ...แล้วคว่ำลงบนจานเพื่อถอดพิมพ์...ก็จะได้เค้กที่มีหน้าเป็นคาราเมล ตามด้วยสังขยาหรือคัสตาร์ด และ ชั้นสุดท้ายคือเค้กแบบเบาๆ...
ขนมแบบนี้ ทานได้ทั้งวันละค่ะ....
ดิฉันก็เปลี่ยนโฉมให้เขาในทุกครั้งที่เสริฟ กับพวกเบอร์รี่มั่ง กับไอศกรีมมั่ง...
แถมทำคาราเมลซอสเผื่อไว้โรยเป็นสายสำหรับแต่งหน้าด้วย...
แบบว่าเป็นพวกติ๊สต์ ที่มีจินตนาการจัดไง.....
ปฏิทินแม่บ้านปัจฉิมวัย....ในฝรั่งเศส!! ตอนสิบเอ็ด
Oui, c'est le temps pour moi de prolonger le visa d'un an avant que
je puisse avoir un Titre de séjour. J'ai eu le rendez-vous à 13h30 et terminé
toute la procédure en 30 minutes, vraiment incroyable.
J'ai entendu tellement de commentaires négatifs sur cette action,
mais pas à Reims, pour ce qui me concerne.
Les chiens sont restés à la maison pendant que nous étions à l'extérieur.
Ils s'entendent très bien parce que Hyppo est un vrai gentleman et très
gentil avec Ixess qui est quelquefois un peu rude.
Peppy a un problème de manger à nouveau. J'espère qu'elle sera très bien
dans un jour ou deux, sinon ... nous devrons l'emmener chez le vétérinaire.
เป็นมาดามสองหมาหนึ่งแมว...สนุกจริง จิ๊งงงง....
คุณสองหมาเพิ่งจะเริ่มมีสมานฉันท์ เพราะพาไปเดินพร้อมๆกัน ไอ้ตัวเล็กไม่ค่อยได้เดินหรอกค่ะ อุ้มอยู่แนบอกตลอด เพราะมันยังเล็กมาก เดินไม่ทัน
อีกทั้งท่าทางเขาออกจะตื่นๆ เพราะคงไม่เคยถูกพาเดินไปนอกสถานที่มาก่อน...
คุณแมวเริ่มจะออดแอดอีกแล้ว...ปฏิเสธอาหาร แบบว่า ทานน้อยผิดปรกติ และ ออกนอนตากลมเล่นข้างนอกได้เป็นวันๆ...
ขอแก้ไขค่ะ...เพราะขณะที่กำลังพิมพ์อยู่นี่ ได้ยินเสียงเธอเคี้ยวอาหารเม็ดดังกรอดๆ...คงจะเป็นปรกติแล้วมัง...
ดิฉันยังไปฟิตเนสวันละชั่วโมงครึ่งเช่นเดิม...รู้สึกชัด"ติด" การออกกำลัง เพราะเดี๋ยวนี้ไม่เจ็บเข่าเลย...(เคยมีปัญหากับเข่าซ้ายมานานหลายเดือนแล้ว..)
วันนี้ลาโรงเรียนไปทำธุระต่อวีซ่าที่ ซูส์ แปร์เฟคเตือ ที่มีหน้าที่คล้ายๆกับงานบริหารของเมือง มีนัดตอนบ่ายโมงครึ่ง ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเองค่ะ เสร็จแล้ว...
งานครัวก็ยังคิวเต็มเหมือนเคย...ไปซื้อซัลมอนมาอีก สองตัว....เอามาทำเป็นอาหารให้คุณพ่อบ้าน เป็น ซัลมอนซอสกระเทียม กับ มันฝรั่งและผัดผักสามสี..
ของตัวเอง...จัดเป็นซาชิมิ จานเบ้อเริ่ม...กินให้หายอยากไปเลย...หมดไปหนึ่งตัว
อีกตัวหนึ่งมาดองเค็มเก็บไว้กินหน้าหนาว....ตอนนี้มีอยู่ gravlax ห้าแถบที่อยู่ในตู้แช่แข็ง...สบายใจไปแปดอย่าง
ส่วนกับข้าวที่ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า ก็ทำให้เสร็จไปเลย เช่น ต้มมันฝรั่ง ผัดผัก แถมทำเนื้ออบ แบบพริกไทยกระเทียม โขลกลูกผักชีลงไปด้วย...
ทอดด้วยเครื่องไร้น้ำมัน ทำเสร็จแล้วใส่ถุงแช่แข็งไว้ได้เลย...
ดิฉันเอามาทานกับสลัด เป็นสลัดเนื้อสัน หรือ ทำให้คุณพ่อบ้าน ด้วยการเพิ่มซอสราดแบบตามสะดวก...
ส่วนพอมีของเหลือ อย่างโน้นนิด อย่างนี้หน่อย เช่นเมื่อวาน มีเนื้อที่ว่านี้อยู่สองชิ้น...มันฝรั่งต้ม ผัดผัก ดิฉันเอามาหั่นผสมกัน และคลุกด้วยเพสโตซอส
เติมรสให้พอดี แล้วเอาแผ่นแป้งกรอบวางลง...ทับด้วยแฮมและเนยแข็ง และเอาส่วนผสมที่ว่านี้วางทับอีกที...ปิดทับด้วยแฮม และ ชีสอีกแผ่นหนึ่ง
จับแผ่นแป้งให้ทบเข้าหากัน ปิดเป็นห่อ...
แล้วเข้าเตาอบ 180 องศา ประมาณ 30 นาที....
ออกมาเสริฟทั้งก้อน และเตรียมสปาเก็ตตี้ซอสไว้ให้ราด....
ได้เป็นอาหารพิเศษอีกชนิดหนึ่ง...จากของเหลือๆที่เรามี...
ส่วนขนม...ดิฉันก็ต้องทำชิ้นใหญ่ตามเคย เพราะประหยัดเวลา เมื่อจะทำชิ้นใหญ่ทั้งทีก้ต้องทำเป็นขนมที่ทานง่ายๆ และ ไม่เลี่ยน ไม่มันจนเกินไป...
เลยต้องพลิกหากันแทบแย่...มาลงตัวที่ custard cake อันเป็นเค้กที่พวกเม๊กซิกันนิยมรับประทาน...
วิธีทำ..ค่อนข้างที่จะวุ่นวาย หลายชั้นหลายเชิง แต่ก็ไม่ยาก หากว่าเข้าใจในหลักการ ทีมีอยู่สามชั้น...
ชั้นแรก คือ ทำคาราเมล....ใช้น้ำตาลทราย 1 ถ้วย ตั้งบนกะทะหรือ หม้อ เปิดไฟบนเตาให้ร้อนขนาดกลาง เพื่อน้ำตาลละลาย กลายมาเป็นสีอำพัน....เรียกว่า คาราเมล
ก็เอาไปราดแบบเกลี่ยให้ทั่วลงบนพื้นพิมพ์ ที่ควรเป็น ถาดกลม ขนาด 10 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง ส่วนสูงประมาณ 3 นิ้ว หรือ 3 นิ้วครึ่ง...พักไว้
เปิดเตาอบ 180 องศาซี
ชั้นที่สอง...คือ ครีม 1/2 ถ้วย ผสมกับ นมสด 1 ถ้วย ...วานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ...ผสมกัน แล้วพักไว้ ต่อมา ตีไข่ 6 ฟอง กับน้ำตาล ครึ่งถ้วย...จนเป็นเนื้อเนียน...แล้วนำครีมที่ผสมไว้มาคนรวม...
เอาไปเททับลงในคาราเมลที่อยู่ในพิมพ์...
ชั้นที่สาม...นี่คือขั้นตอนของการทำสปันจ์เค้ก...ด้วย แป้งเค้ก 1 1/2 ถ้วย ไข่แดง 6 ฟอง (เก็บไข่ขาวไว้ เพราะจะต้องใช้) น้ำตาล 1/2 ถ้วย ผงฟู 1 ชช. นมสด 1/2 ถ้วย เมือพร้อมแล้ว...
ตีไข่แดงกับน้ำตาลจนเนื้อเนียน ใส่ผงฟู และ แป้ง ลงไปเคล้าให้เป็นเนื้อเดียวกัน เติมนมสด...เคล้าอีกครั้งหนึ่ง พักไว้...
เอาไข่ขาว มาตีเป็นเมอแรงค์กับน้ำตาล ประมาณ 4-5 ชต. พอตั้งยอด...เอาไปตะล่อม แบบพับไปมากับส่วนผสมแป้งที่พักไว้...จนได้เนื้อเค้กฟู
เอาไปใส่ทับในพิมพ์เป็นชั้นสุดท้าย เข้าไปอบประมาณ หนึ่งชั่วโมง หรือ หนึ่งชั่วโมงครึ่ง (อันนี้แล้วแต่ขนาดพิมพ์ที่ใช้นะคะ )
เมื่ออกมาแล้ว...รอให้เย็น..แซะขอบ...แล้วคว่ำลงบนจานเพื่อถอดพิมพ์...ก็จะได้เค้กที่มีหน้าเป็นคาราเมล ตามด้วยสังขยาหรือคัสตาร์ด และ ชั้นสุดท้ายคือเค้กแบบเบาๆ...
ขนมแบบนี้ ทานได้ทั้งวันละค่ะ....
ดิฉันก็เปลี่ยนโฉมให้เขาในทุกครั้งที่เสริฟ กับพวกเบอร์รี่มั่ง กับไอศกรีมมั่ง...
แถมทำคาราเมลซอสเผื่อไว้โรยเป็นสายสำหรับแต่งหน้าด้วย...
แบบว่าเป็นพวกติ๊สต์ ที่มีจินตนาการจัดไง.....