ฟันเฟืองหัวใจ กลไกเวลา: Clockwork planet
รูปจาก
http://www.luckpim.com/license_show/1136/
จุดจบของโลก มีผู้คนคิดฝันไว้มากมายว่าจะจบอย่างไร
สงคราม, โรคระบาด, อุกาบาต, มหันตภัย, น้ำท่วมโลก และต่างๆนาๆ
ไม่มีใครคาดเลยว่าจุดจบนั้นจะเรียบง่ายอย่างยิ่ง
โลกกำลังหมดอายุขัย
มีเวลาราว 100 ปีก่อนที่โลกจะไม่เกื้อแก่ชีวิตอีกต่อไป
มนุษย์ต่อสู้และดิ้นร้น
บ้างสู่อวกาศ หาดาวดวงใหม่
ที่เหลือคิดค้น ขนขวาย ขยายอายุดาวเกิด
ผู้ที่ทำสำเร็จเป็นแค่ ช่างนาฬิกา
เค้าดัดแปลงดาวทั้งดวง ต่ออายุ ให้ชีวิต ด้วยกลไกฟันเฟืองเพียงเท่านั้น
จาก Planet สู่ Clockwork planet
และโลกก็ได้จารึกชื่อของเค้าไว้ “Y”
กระนั้นดาวดวงนี้ก็ยังต้องการการบำรุงรักษา
จึงมีการก่อตั้ง สมาพันธ์ไมสเตอร์
สมาพันธ์ที่รวบรวมช่างนาฬิกาที่เชี่ยวชาญที่สุด ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด
ไม่สังกัดประเทศ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการภายใน หน้าที่เหนือสิ่งอื่นใด
ซ่อมบำรุง นาฬิกา ดวงนี้
เรา มารี เบล บริเกต์ และทีมเฉพาะกิจได้รับคำสั่งเร่งด่วนจากสมาพันธ์ให้ไปแก้ไขอาการผิดปกติที่กริดเกียวโต
ระหว่างการขนส่ง สมบัติประจำตระกูลอันล่ำค่าได้หล่นหายไป
มันเป็นลางร้าย ที่กว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว
ความเสียหายที่กำลังจะเกิดคือเมืองหนึ่งเมือง
และผู้อยู่อาศัยอีก 20 ล้านคน
ฉันไม่ยอม
หากโลกนี้คือโลกแห่งฟันเฟือง บางทีอาจจะมีฟันเฟืองแห่งโชคชะตาที่ไหนซักแห่ง
ทำให้เมรีได้พบกับสมบัติที่สูญหายไป
ริวสึ มรดกของ “Y”
ออโตมาตาที่เสียหาย ออโตมาตาที่แม้แต่เธอยังซ่อมไม่ได้ กำลังเคลื่อนไหว
เคียงข้าง นาโอโตะ ที่ซ่อมได้ด้วยเวลาเพียงสามชั่วโมง
ความหวังสุดท้ายของเมรี ชีวิตของคน 20ล้านคน ขึ้นอยู่กับ นาโอโตะ แล้ว
ผมเดาว่าหลายๆคนซื้อเรื่องนี้เพราะผู้แต่ง No game No Life มีส่วนในการแต่งเรื่องนี้ด้วย ผมก็เหมือนกัน
แต่ส่วนตัวแล้ว ผมโดนหน้าปกล่อลวงอีกแล้วครับ
โดยเฉพาะการออกแบบชุดที่โดดเด่น แต่ที่สะดุดตามากที่สุดคือเครื่องประดับที่ผม
ตอนเห็นครั้งแรกนี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นึกว่าเธอขว้างเมทัลเบรดได้
นิยายเรื่องนี้ถือว่าหนาพอสมควรสำหรับสำนักพิมพ์นี้ 400หน้าทีเดียว
เป็น 400หน้าที่ สนุก มาก ครับ อ่านเพลินทีเดียว มาดูกันว่าทำไม
ในด้านเนื้อเรื่องนั้น ใครที่อ่านเรื่องย่อปกหลังแล้วคิดว่าเป็นแฟนตาซีแนวพระเอกเจอของเทพ โลกสวยสดใส
เปล่า เลย ครับ
เรื่องนี้จัดด้านมืดของมนุษย์มาแรงพอสมควรทีเดียว คนที่ชอบเนื้อเรื่อง ที่ เข้ม ข้น น่า จะ ชอบ กัน
เดินเรื่องได้ดี ช่วงตลกก็สนุก ช่วงบู๊ อ่าน เพลิน แต่ จบ เล่น ง่าย ไป หน่อย
มาดูที่ตัวละครกันบ้าง
จัดวางตัวละครได้ดีครับ แต่ละตัวละครมีลักษณะนิสัยที่ต่างกันมาก ความสามารถพิเศษก็ต่างกันออกไป ไม่มีใครเทพทุกทาง แต่ทั้งหมดก็ต้องมาร่วมมือเพื่อทำภาระกิจเดียวกัน การได้ดูตัวละครที่นิสัยต่างขั่วมาทำงานร่วมกันถือว่าน่าสนใจและทำออกมาได้สนุกซะด้วย อารมณ์ Avengers (ตอนไม่ได้ตีกันเอง)
สิ่งที่เด่นที่สุดของเรื่องนี้คือคาแรกเตอร์ของ ริวสึ ครับ
เป็น ตัว ละ คร ที่ ปาก จัด มาก
ไม่ได้ปากจัดแบบตลาดบ้านเราด้วย ปากจัดแบบผู้ดี
ถ้อย คำ ไพ เราะ แต่ ความ หมาย นี่ เหมือน บี้ มด
ไม่นานมานี้มีข่าวหนึ่งที่มีการด่าว่าอีกฝ่ายว่า
ใบ เกิด ของ เธอ คือ หนังสือขอ โทษ ของ บริษัท ถุง ยาง
ริวสึเธอว่าแสบขนาดนั้นได้เลยครับ
งานภาพอาจจะด้วยเรื่องฉากหลังไปบ้างแต่ด้วยการจัดอัตราส่วนของภาพที่ดีทำให้ภาพไม่ดูโล่งเกินไป
นอก นั้น สวย ดี ครับ
ตอนนี้หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าจะพิมพ์เว้นวักคำต่อคำไปทำไป
นี่ คือ ข้อ เสีย ของ เรื่อง นี้ ครับ
แนวการเขียนของเรื่องนี้ ตรงประโยคสำคัญที่ต้องการเน้นจะเขียนแบบเว้นคำ
แรกๆก็พอไหวแต่อ่านๆไปซักเยอะ
มัน น่า หงุด หงิด สุด สุด เลย
สรุป 4ดาวครับ ผู้ที่ชอบตัวละครปากจัดบวกหนึ่งดาว สำหรับชาวM ให้บวกสองดาว
[CR] New LN Review;ฟันเฟืองหัวใจ กลไกเวลา: Clockwork planet
รูปจาก http://www.luckpim.com/license_show/1136/
จุดจบของโลก มีผู้คนคิดฝันไว้มากมายว่าจะจบอย่างไร
สงคราม, โรคระบาด, อุกาบาต, มหันตภัย, น้ำท่วมโลก และต่างๆนาๆ
ไม่มีใครคาดเลยว่าจุดจบนั้นจะเรียบง่ายอย่างยิ่ง
โลกกำลังหมดอายุขัย
มีเวลาราว 100 ปีก่อนที่โลกจะไม่เกื้อแก่ชีวิตอีกต่อไป
มนุษย์ต่อสู้และดิ้นร้น
บ้างสู่อวกาศ หาดาวดวงใหม่
ที่เหลือคิดค้น ขนขวาย ขยายอายุดาวเกิด
ผู้ที่ทำสำเร็จเป็นแค่ ช่างนาฬิกา
เค้าดัดแปลงดาวทั้งดวง ต่ออายุ ให้ชีวิต ด้วยกลไกฟันเฟืองเพียงเท่านั้น
จาก Planet สู่ Clockwork planet
และโลกก็ได้จารึกชื่อของเค้าไว้ “Y”
กระนั้นดาวดวงนี้ก็ยังต้องการการบำรุงรักษา
จึงมีการก่อตั้ง สมาพันธ์ไมสเตอร์
สมาพันธ์ที่รวบรวมช่างนาฬิกาที่เชี่ยวชาญที่สุด ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด
ไม่สังกัดประเทศ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการภายใน หน้าที่เหนือสิ่งอื่นใด
ซ่อมบำรุง นาฬิกา ดวงนี้
เรา มารี เบล บริเกต์ และทีมเฉพาะกิจได้รับคำสั่งเร่งด่วนจากสมาพันธ์ให้ไปแก้ไขอาการผิดปกติที่กริดเกียวโต
ระหว่างการขนส่ง สมบัติประจำตระกูลอันล่ำค่าได้หล่นหายไป
มันเป็นลางร้าย ที่กว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว
ความเสียหายที่กำลังจะเกิดคือเมืองหนึ่งเมือง
และผู้อยู่อาศัยอีก 20 ล้านคน
ฉันไม่ยอม
หากโลกนี้คือโลกแห่งฟันเฟือง บางทีอาจจะมีฟันเฟืองแห่งโชคชะตาที่ไหนซักแห่ง
ทำให้เมรีได้พบกับสมบัติที่สูญหายไป
ริวสึ มรดกของ “Y”
ออโตมาตาที่เสียหาย ออโตมาตาที่แม้แต่เธอยังซ่อมไม่ได้ กำลังเคลื่อนไหว
เคียงข้าง นาโอโตะ ที่ซ่อมได้ด้วยเวลาเพียงสามชั่วโมง
ความหวังสุดท้ายของเมรี ชีวิตของคน 20ล้านคน ขึ้นอยู่กับ นาโอโตะ แล้ว
ผมเดาว่าหลายๆคนซื้อเรื่องนี้เพราะผู้แต่ง No game No Life มีส่วนในการแต่งเรื่องนี้ด้วย ผมก็เหมือนกัน
แต่ส่วนตัวแล้ว ผมโดนหน้าปกล่อลวงอีกแล้วครับ
โดยเฉพาะการออกแบบชุดที่โดดเด่น แต่ที่สะดุดตามากที่สุดคือเครื่องประดับที่ผม
ตอนเห็นครั้งแรกนี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นิยายเรื่องนี้ถือว่าหนาพอสมควรสำหรับสำนักพิมพ์นี้ 400หน้าทีเดียว
เป็น 400หน้าที่ สนุก มาก ครับ อ่านเพลินทีเดียว มาดูกันว่าทำไม
ในด้านเนื้อเรื่องนั้น ใครที่อ่านเรื่องย่อปกหลังแล้วคิดว่าเป็นแฟนตาซีแนวพระเอกเจอของเทพ โลกสวยสดใส
เปล่า เลย ครับ
เรื่องนี้จัดด้านมืดของมนุษย์มาแรงพอสมควรทีเดียว คนที่ชอบเนื้อเรื่อง ที่ เข้ม ข้น น่า จะ ชอบ กัน
เดินเรื่องได้ดี ช่วงตลกก็สนุก ช่วงบู๊ อ่าน เพลิน แต่ จบ เล่น ง่าย ไป หน่อย
มาดูที่ตัวละครกันบ้าง
จัดวางตัวละครได้ดีครับ แต่ละตัวละครมีลักษณะนิสัยที่ต่างกันมาก ความสามารถพิเศษก็ต่างกันออกไป ไม่มีใครเทพทุกทาง แต่ทั้งหมดก็ต้องมาร่วมมือเพื่อทำภาระกิจเดียวกัน การได้ดูตัวละครที่นิสัยต่างขั่วมาทำงานร่วมกันถือว่าน่าสนใจและทำออกมาได้สนุกซะด้วย อารมณ์ Avengers (ตอนไม่ได้ตีกันเอง)
สิ่งที่เด่นที่สุดของเรื่องนี้คือคาแรกเตอร์ของ ริวสึ ครับ
เป็น ตัว ละ คร ที่ ปาก จัด มาก
ไม่ได้ปากจัดแบบตลาดบ้านเราด้วย ปากจัดแบบผู้ดี
ถ้อย คำ ไพ เราะ แต่ ความ หมาย นี่ เหมือน บี้ มด
ไม่นานมานี้มีข่าวหนึ่งที่มีการด่าว่าอีกฝ่ายว่า
ใบ เกิด ของ เธอ คือ หนังสือขอ โทษ ของ บริษัท ถุง ยาง
ริวสึเธอว่าแสบขนาดนั้นได้เลยครับ
งานภาพอาจจะด้วยเรื่องฉากหลังไปบ้างแต่ด้วยการจัดอัตราส่วนของภาพที่ดีทำให้ภาพไม่ดูโล่งเกินไป
นอก นั้น สวย ดี ครับ
ตอนนี้หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าจะพิมพ์เว้นวักคำต่อคำไปทำไป
นี่ คือ ข้อ เสีย ของ เรื่อง นี้ ครับ
แนวการเขียนของเรื่องนี้ ตรงประโยคสำคัญที่ต้องการเน้นจะเขียนแบบเว้นคำ
แรกๆก็พอไหวแต่อ่านๆไปซักเยอะ
มัน น่า หงุด หงิด สุด สุด เลย
สรุป 4ดาวครับ ผู้ที่ชอบตัวละครปากจัดบวกหนึ่งดาว สำหรับชาวM ให้บวกสองดาว