https://socialcam.com/v/NCTf6MVL?ogmetatype=0
นี่คืออีกตัวอย่างหนึ่งของ "SIBLING RIVALRY" "ภาวะอิจฉาน้อง" ที่เกิดขึ้นเกือบทุกบ้านอยู่แล้ว แต่เคสนี้อาการหนักเนื่องจากพฤติกรรมการตอบสนองของแม่ที่ไม่ถูกต้อง.... เมื่อพี่น้องทะเลาะกัน พ่อแม่ไม่ควรเป็นฝ่ายเข้าไปตัดสินเหตุการณ์.... พ่อแม่มักจะโทษฝ่ายพี่เสมอ โดยการอ้างว่าเป็นพี่ต้องเสียสละให้น้อง ไม่ว่าจะเป็นของเล่น ของกิน หรือแม้แต่ความรักของพ่อแม่.... เข้าใจอยู่ว่าพ่อแม่ทุกบ้านไม่มีใครรักลูกเท่ากันหรอก แต่การแสดงความรักไม่ควรจะลำเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากนัก....เพราะเด็กจะฝังใจเจ็บ จนแสดงอาการก้าวร้าวกับน้อง กับแม่ กับตัวเองออกมา หรือบางคนอาจเกิดพัฒนาการถดถอยก็ได้ เช่น พูดไม่ชัด ฉี่รดที่นอน.....
แล้วจะแก้ไขป้องกันได้อย่างไร....
แม่ควรระงับอารมณ์โกรธของตัวเองไว้ก่อนเป็นอันดับแรก แล้วเข้าไปแยกเด็กออกจากกัน พูดคุยกับพี่ด้วยเหตุผลว่าทำไมถึงตีน้อง ถ้าตัวพี่ยังโมโหอยู่ให้ใช้วิธี "time out" หามุมสงบให้เด็กสงบสติอารมณ์ตัวเองก่อนสัก2-3นาที เมื่อเด็กเย็นลงแล้วค่อยคุยกัน โดยอย่าตัดสินว่าพี่ผิดเสมอเด็ดขาด!!
ทั้งนี้ควรจะต้องเตรียมใจคนโตตั้งแต่แม่ตั้งท้องคนเล็กตั้งแต่เนิ่นๆ พูดคุยให้เขาฟังว่าเขากำลังจะเป็นพี่แล้ว... อย่าให้เขารู้วันที่คลอดแล้วเด็ดขาด มันทำใจไม่ทัน!! ....จากนั้นปฏิบัติกับคนโตใส่ใจคนโตเหมือนเดิมที่เคยทำมา อย่าได้เห่อคนเล็กมากจนออกหน้าออกตา.... เปิดโอกาสให้คนโตช่วยแม่เลี้ยงน้องด้วย... ทำกิจกรรมครอบครัวที่เป็น "เวลาคุณภาพ" "QUALITY TIME" อยู่สม่ำเสมอเพื่อเสริมสร้างให้เด็กรักน้อง....
พี่น้องทะเลาะกัน....ปัญหาบ้านแตก
นี่คืออีกตัวอย่างหนึ่งของ "SIBLING RIVALRY" "ภาวะอิจฉาน้อง" ที่เกิดขึ้นเกือบทุกบ้านอยู่แล้ว แต่เคสนี้อาการหนักเนื่องจากพฤติกรรมการตอบสนองของแม่ที่ไม่ถูกต้อง.... เมื่อพี่น้องทะเลาะกัน พ่อแม่ไม่ควรเป็นฝ่ายเข้าไปตัดสินเหตุการณ์.... พ่อแม่มักจะโทษฝ่ายพี่เสมอ โดยการอ้างว่าเป็นพี่ต้องเสียสละให้น้อง ไม่ว่าจะเป็นของเล่น ของกิน หรือแม้แต่ความรักของพ่อแม่.... เข้าใจอยู่ว่าพ่อแม่ทุกบ้านไม่มีใครรักลูกเท่ากันหรอก แต่การแสดงความรักไม่ควรจะลำเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากนัก....เพราะเด็กจะฝังใจเจ็บ จนแสดงอาการก้าวร้าวกับน้อง กับแม่ กับตัวเองออกมา หรือบางคนอาจเกิดพัฒนาการถดถอยก็ได้ เช่น พูดไม่ชัด ฉี่รดที่นอน.....
แล้วจะแก้ไขป้องกันได้อย่างไร....
แม่ควรระงับอารมณ์โกรธของตัวเองไว้ก่อนเป็นอันดับแรก แล้วเข้าไปแยกเด็กออกจากกัน พูดคุยกับพี่ด้วยเหตุผลว่าทำไมถึงตีน้อง ถ้าตัวพี่ยังโมโหอยู่ให้ใช้วิธี "time out" หามุมสงบให้เด็กสงบสติอารมณ์ตัวเองก่อนสัก2-3นาที เมื่อเด็กเย็นลงแล้วค่อยคุยกัน โดยอย่าตัดสินว่าพี่ผิดเสมอเด็ดขาด!!
ทั้งนี้ควรจะต้องเตรียมใจคนโตตั้งแต่แม่ตั้งท้องคนเล็กตั้งแต่เนิ่นๆ พูดคุยให้เขาฟังว่าเขากำลังจะเป็นพี่แล้ว... อย่าให้เขารู้วันที่คลอดแล้วเด็ดขาด มันทำใจไม่ทัน!! ....จากนั้นปฏิบัติกับคนโตใส่ใจคนโตเหมือนเดิมที่เคยทำมา อย่าได้เห่อคนเล็กมากจนออกหน้าออกตา.... เปิดโอกาสให้คนโตช่วยแม่เลี้ยงน้องด้วย... ทำกิจกรรมครอบครัวที่เป็น "เวลาคุณภาพ" "QUALITY TIME" อยู่สม่ำเสมอเพื่อเสริมสร้างให้เด็กรักน้อง....