หนึ่งใจในแผ่นดิน ตอนที่ 48

กระทู้สนทนา
ตอนที่ผ่านมาอยู่ คห สุดท้ายค่ะ




แจ้งให้ทราบค่ะ
เนื่องจากว่าผู้เขียนรีไรท์เรื่องราวโดยการตัดทอนความยาวแต่ละตอนให้กระชับ และมีการยกเนื้อหาไปขึ้นตอนถัดไป
ทำให้ลำดับตอนเลื่อนออกค่ะ  แค่เลขลำดับเลื่อนค่ะ แต่เนื้อหาต่อกัน




หนึ่งใจในแผ่นดิน
ตอนที่ 48 (1/2)




หลังเสร็จภารกิจบุกถ้ำเสือ สองสิงห์ก็ถือโอกาสใช้เส้นทางบนถนนสายชนบทที่โล่งร้างไร้ยานพาหนะเป็นสนามแข่งความเร็ว รถสี่ล้อปิดเสียงไซเรนแล้วทะยานตามมอเตอร์ไซค์สีเดียวกับปีกแมลงทับของชายหนุ่มไปอย่างไม่ลดละ การไล่แซงขับเขี้ยวกันอย่างดุเดือดโดยไม่สนใจว่าคือเพื่อนกันมันสร้างความมันส์ได้ถึงใจ

    แต่ที่มากกว่าความมันส์คือความเสียวสันหลังเมื่อมีเสียงปืนไล่หลัง เพลงพิณรีบหันไปมองท้องถนนแล้วพบว่ามีขบวนมีมอเตอร์ไซค์เร่งเข้ามาพร้อมกับรถกระบะคันใหญ่

    “พี่ พวกมันตามมาแล้ว !” เพลงพิณบอกคนขับที่กำลังชำเลืองดูกระจกมองหลัง

    “เอ็งจะตกใจทำไม บุกถ้ำเสือ ได้ลูกเสือ เสือออกจากถ้ำ มันก็ถูกแล้วสิวะ” กลางแสยะยิ้มอย่างพึงใจ “เอ็งเอาหัวหลบกระสุนให้ดีก็แล้วกัน”

    ปัง !!!    ปัง !!!    ปัง !!!    

    ไม่ทันขาดคำ ลูกกระสุนก็พุ่งเข้าใส่ ชายหนุ่มบิดพวงมาลัยเป๋ไปเป๋มาเพื่อเป็นการกันกระสุนให้กับตฤณที่เร่งความเร็วอยู่ด้านหน้า เสียงสัญญาณจากอุปกรณ์สื่อสารที่ติดตั้งมากับรถดังขึ้น ชายหนุ่มคว้าขึ้นมาแล้วกรอกเสียงลงไปทันที

    “ทุกอย่างพร้อม แผนจับเสือเริ่มได้ !”

    กลุ่มนักบิดกลุ่มใหญ่วิ่งด้วยความเร็วเพื่อไล่ล่า ตามมาติดๆด้วยรถกระบะคันโต เสียงก่นด่าของผู้เป็นนายตะโกนกร้าว

    “นี่กูมีลูกน้องหรือลูกควาย ยิงกราดแบบนั้นถ้าโดนลูกสาวกู กูจะเอาพวกตายด้วย !”

    “นายครับ นั่นมันรถตำรวจ เราขับตามมันไปจะดีหรือครับ !” คนขับค่อนข้างยำเกรงเมื่อเห็นตราสัญลักษณ์ที่ปรากฏบนตัวถังรถที่เขากำลังไล่บี้

    “แล้วจะรอให้มันพาไปหาคุกหรือไง จัดการมันให้เสร็จก่อนถึงตัวเมือง” ทรงชัยตวาดคำสั่งแล้วเปิดหน้าต่างเพื่อยกปืนยาวขึ้นเล็ง แต่ไอ้เวรนั่นก็ขับฉวัดเฉวียนจนเขาเสียลูกกระสุนไปหลายนัด และนัดสุดท้ายที่ปล่อยออกไปทำได้แค่กระจกร้าวเพราะมันเป็นกระจกกันกระสุน การฆ่าตามคำสั่งแปรเปลี่ยนฆ่าเพื่อศักดิ์ศรี ชื่อของกำธรที่มันเปล่งออกจากปากเด็กตัวปัญหายังติดอยู่ในหัว ไม่คิดว่าในวันนี้ลูกของคนที่เขาเคยบังคับขู่ฆ่าลูกเมียเพื่อให้ทำตามแผนหักหลังนายพนาจะโผล่มาลบหลู่นักเลงเจ้าถิ่นด้วยการย่ำหน้าลูกชายของเขา

         “แต่อีกไม่กี่กิโลก็จะถึงตัวเมืองแล้วนะครับ” ลูกน้องของเขาเตือน

          ทรงชัยกัดฟันเสียงดังกรอดด้วยความแค้น หากไม่ได้ชีวิตของเด็กคนนั้นเท่ากับว่าทุกอย่างที่เขาทำเพื่อเอกรัตน์ก็อาจจะสูญเปล่า คลิปเสียงที่ยายคุณนายเจ้าเล่ห์บันทึกไว้ถูกเปิดเผยและเมื่อนั้นอนาคตของเอกรัตน์ก็จะดับมืด และเขาไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแน่  

          เสียงปืนยังดังต่อเนื่อง การกราดยิงใส่ตัวถังรถเพื่อหยุดดูจะเป็นทางเดียวที่ทำลายเจ้าเครื่องยนต์ขับเคลื่อนคันนั้นได้ แต่ไม่มีทีท่าว่ามันจะหยุดเลยสักนิด ลูกสมุนของนักเลงโตต่างบิดเครื่องให้เร็วขึ้นเพื่อขยับตำเหน่งให้เคียงคู่กับเป้าหมาย

          “มันใกล้เข้ามาแล้วพี่ !” เพลงพิณตะโกนบอกชายหนุ่มเมื่อเห็นว่าทั้งสองด้านมีมอเตอร์ไซค์ตีคู่ขึ้นมา คนซ้อนท้ายของทั้งสองคันต่างยกปืนขึ้นเตรียมพร้อมเมื่ออยู่ในระยะเล็ง

          “จับเบาะไว้ !” กลางสั่งหนุ่มรุ่นน้องแล้วหักพวงมาลัยพร้อมกับดึงเบรกมืออย่างรวดเร็ว

          เพลงพิณยึดตัวเองกับเบาะแน่นเมื่อท้ายรถเริ่มเหวี่ยงปัด ชายหนุ่มปล่อยเบรกมือพร้อมกับกดคันเร่งตามทันทีแล้วประคองพวงมาลัยในทิศทางที่ท้ายรถไป ซึ่งมันคือรอบทิศสามร้อยหกสิบองศา และเกิดเสียงดังโครมครามเมื่อมีการกระปะทะ สิ่งที่เพลงพิณเห็นคือภาพมอเตอร์ไซค์สองคันถูกท้ายรถตำรวจชนกระแทกอย่างแรงเมื่อรถหมุนคว้างเป็นควงสว่าง และคันอื่นที่ขับตามมาอย่างเร็วต่างหักหลบกันยุ่งเหยิง ถ้าไม่ชนกันเองก็พุ่งลงคู

          “อุบัติเหตุป้องกันได้ถ้าไม่ประมาท ดันไม่ใส่หมวกกันน็อคก็โทษข้าไม่ได้นะ” คำพูดเยือกเย็นตามมาด้วยเสียงหัวเราะลั่นรถ เด็กหนุ่มขนลุกซู่แทบไม่เชื่อสายตาว่าผู้ชายคนนี้ทำไมถึงเลือดเย็นนัก และขนที่ลุกยังไม่ทันได้นอนดีเมื่อพี่ชายขาโหดหันรถประจันหน้ากับรถกระบะที่กำลังพุ่งมาด้วยความเร็ว
เพลงพิณกลืนน้ำลายดังเอื๊อก ความหวาดผวาไล่ตั้งแต่ปลายเล็บเท้ายันกลางกระหม่อม เข้าใจความรู้สึกของทวีรัตน์ขึ้นมาทันที

          “หันไปดูซิว่าตฤณมันหยุดรถหรือยัง”

           เพลงพิณทำตามคำสั่งทันที “หยุดแล้วพี่”

          ยังไม่ขาดคำดี หลังของเด็กหนุ่มก็ติดกับเบาะด้วยความเร็วของรถที่กระชากตัวกะทันหัน เพิ่งรู้เอาวันนี้ว่ารถเจ้าพนักงานแรงวายป่วง เพลงพิณจ้องมองรถคันใหญ่ที่เข้ามาใกล้จนได้ยินเสียงเครื่องตาไม่กระพริบ ไม่นึกว่าคนที่บ้าดีเดือดอย่างเขาจะเจอคนที่บ้าขั้นพระอาทิตย์เดือดแบบผู้ชายคนนี้

           “นั่นเขาจะบ้าหรือ !” ตรีรัตน์มองภาพเบื้องหน้าด้วยความสะพรึง “พ่อฉันอยู่ในรถนะ!”

           “เงียบแล้วจับลูกระเบิดในมือให้แน่น” เขาพูดพลางจ้องมองสิ่งที่กำลังเกิด สองมือจับแฮนด์รถแน่น เท้าที่วางบนพื้นยกขึ้นเตรียมพร้อม เด็กสาวที่ถูกโอบในสองแขนแกร่งผวากระชับน้อยหน่าในมือแน่น ตกลงเธอหนีเสือเพื่อมาปะกับคนบ้าถึงสองคนหรือนี่ น้ำตาที่เพิ่งแห้งเริ่มไหลซึมอีกหน

          เสียงเร่งเครื่องดังพร้อมกับแรงสั่นสะเทือน แต่แรงสั่นสะเทือนที่เกิดนั้นคือหัวใจที่เต้นแรงของเด็กสาวเมื่อชายหนุ่มบิดเครื่องยนต์เร่งความเร็วตามรถเจ้าหน้าที่คันนั้นไป ตรีรัตน์ปิดตาสนิทด้วยความกลัว ไม่อยากมองสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เด็กสาวเอนตัวเบียดกับชายหนุ่มด้านหลังโดยอัตโนมัติเพราะในยามนี้นายตี๋ห่ามคือคนเดียวที่เธอต้องยึดเป็นที่พึ่ง

          แต่เมื่อได้ยินเสียงเบรกดังแหลมแสบหูและเจ้าน้อยหน่าในมือของเธอถูกฉกฉวยไป ตรีรัตน์ลืมตาแล้วอ้าปากค้างเมื่อรถตำรวจคันหน้าแฉลบออกข้างได้อย่างหวุดหวิดแต่เจ้าเขียวของเขากลับพุ่งทะยานไปหารถกระบะของพ่อเธอแทน

           แต่ชั่วแวบตาเห็น ผู้ขับขี่นั้นไม่ใช่พ่อของเธอ และไม่มีพ่อเธออยู่ในรถคันนั้น !

           “เกาะรถให้แน่น !” เสียงคำสั่งที่ไม่ต้องสั่งเธอก็รู้หน้าที่ดี เด็กสาวก้มตัวกอดตัวถังรถแน่นแบบฟ้าผ่าก็ไม่ปล่อย

            “กรี๊ดดด !!!”
          
            ตรีรัตน์กรีดร้องลั่นเมื่อกำลังจะประสานงา ชายหนุ่มบังคับยกล้อขึ้นแล้วหักแฮนด์เหวี่ยงหลบรถกระบะได้ทันควัน ความเร็วที่พุ่งมาอย่างแรงของรถสองล้อที่ถูกหยุดกะทันหันส่งผลให้ตัวรถลอยหมุนคว้างขึ้นสู่อากาศ ลูกระเบิดถูกปล่อยลงไปยังหลังรถกระบะราวกับจับวางและเกิดแรงระเบิดทันทีเมื่อมีการกระแทก

          ภาพที่ตรีรัตน์เห็นเบื้องล่างขณะที่เธอลอยบนอากาศด้วยมอเตอร์ไซค์ที่กลายเป็นเรือเหาะคือการระเบิดที่ดังกึกก้องจากรถคันใหญ่ และเสียหลักพุ่งลงข้างทาง รถเจ้าหน้าที่ตำรวจของจริงหลายคันที่พุ่งเข้าจอดล้อมรถกระบะคันนั้นด้วยความเร็ว นายตำรวจหลายนายวิ่งตรงเข้าจับกุมเหล่าลูกสมุนของพ่อเธอที่นอนเจ็บครวญคราง

         ยางรถสัมผัสพื้นอย่างนิ่มนวลและวิ่งตามรถคันหน้าไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ใจเด็กสาวตอนนี้มันระทวยไปหมด ตรีรัตน์สาบานกับตัวเองว่าเธอจะลาออกจากการเป็นเด็กแว้นโดยถาวร !
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่