คติเตือนใจนักลงทุน ระหว่าง SVI กับ SMT ความเหมือนหรือแตกต่าง นักลงทุนต้องตระหนัก ว่าอนาคตจะเป็นเหมือน SMT หรือไม่

กระทู้สนทนา
ช่วงก่อนน้ำท่วมปี 2554 หุ้น SMT เป็นหุ้นที่ VI ถือกันเยอะมาก ราคาเคยดีดตัวสูงไปถึง 12.80 บาท มีผลประกอบการเติบโตตลอด จัดเป็นหุ้นเด่นด้านอิเล็กทรอนิกส์ แต่หลังจากน้ำท่วมกลับสู่ภาวะปกติ แม้ SMT จะได้ค่าประกันกลับคืนมา แต่ก็เทียบไม่ได้กลับที่ SMT เสียลูกค้าไป เสียเวลาสั่งซื้อเครื่องจักร เสียออร์เดอร์  จนทุกวันนี้ลูกค้าและออร์เดอร์ที่สูญเสียไปยังกลับมาไม่ถึงครึ่ง ทำให้หุ้น SMT ทุกวันนี้ราคาไหลลงอย่างน่าใจหายเพราะวิกฤติน้ำท่วม บัดนี้ 3 ปีแล้ว SMT ยังไม่ฟื้น

          หันมามอง SVI ต้องคิดก่อนว่าระหว่างน้ำท่วมกับไฟไหม้ครั้งนี้อะไรสูญเสียและหนักกว่ากัน แต่อย่างน้อยๆ SVI โดนปิดโรงงานแน่ๆ 60 วันตามข่าว ไม่ว่าเงินประกันจะได้มากแค่ไหน หากเปรียบเทียบกับเวลา รายได้ และสำคัญที่สุดลูกค้าเดิมและออร์เดอร์จะต้องสูญเสียมหาศาล  ไม่มีลูกค้าที่ไหนจงรักภักดีรอคอยให้ SVI กลับมาผลิตเหมือนเดิมได้ เพราะลูกค้าก็ต้องมีสินค้าเพื่อกำไร ทางธุรกิจรอคอยไม่ได้
           สิ่งที่ต้องเกิดแน่นอนกับ SVI คือ ลูกค้าและออร์เดอร์ที่สูญเสีย และจะดึงลูกค้าและออร์เดอร์ที่หายไปกลับคืนมาได้หรือไม่ อย่าให้ซ้ำรอย SMT ที่ทุกวันนี้ยังดึงลูกค้าและออร์เดอร์เดิมกลับมาไม่ได้
           อย่าลืมว่า SVI มีคู่แข่ง การที่ลูกค้ากลับไปสั่งสินค้าจากคู่แข่ง และ SVI จะดึงกลับมาเป็นเรื่องยาก เพราะอย่างน้อยคู่แข่งต้องเสนอผลประโยชน์และสิทธิพิเศษที่ดีกว่า SVI เหมือนดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับ SMT ในปัจจุบัน

           จำไว้ *** ลมหายใจและเส้นเลือดใหญ่ของธุรกิจ คือ ลูกค้าและคำสั่งซื้อ (ORDER)  ไม่มีลูกค้า ไม่มีออร์เดอร์ ไม่มีกำไรค่ะ สิ่งนี้สำคัญกว่าเงินประกันหลายร้อยเท่า ตอนนี้นักลงทุนกำลังหลงทางไปโฟกัสกันที่เงินประกันกันอย่างเดียว  ให้มองอนาคตตรงที่ลูกค้าและออร์เดอร์ที่ SVI สูญเสียไป จะสามารถดึงกลับมาได้เหมือนเดิมหรือไม่

           ปล. ความเห็นส่วนตัว สิ่งที่หายไปคือลูกค้าและออร์เดอร์ แม้ SVI จะดึงกลับมาได้ แต่อาจจะได้ไม่เกิน 70% ที่ SVI เคยมี บทเรียนนี้เคยมีมาแล้วกับบริษัทอย่าง SMT  โป๊ะ โป๊ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่