รำคาญพนักงานยืนแจกบัตรกำนัลพวกลดน้ำหนัก หรือเลเซอร์หน้าตามห้างไหมคะ?

คือเมื่อวันก่อนดิฉันเดินห้างแถวบ้าน ซึ่งอารมณ์ก็แบบวันหยุดเนอะ เดินเล่นๆ ตากแอร์ ไม่ได้พกเงินมาก กะมาหาไรกินแล้วกลับ
พอกำลังจะเดินออกประตูจอดรถ หันไปเจอกองทัพพริตตี้และนางพยาบาลยืนอยู่หน้าคลีนิคเสริมความงามแห่งหนึ่ง

ซึ่งดิฉันคิดว่า เขาต้องมาแบบ เนี่ยคุณน้องวันนี้ลดพิเศษวันสุดท้ายขอบัตรเครดิตสไตล์นี้แน่นอน แล้วดิฉันก็คิดใหม่
เอ้ะ วันนี้ดิฉันแต่งตัวโทรมมาก เขาอาจจะปล่อยผ่านไป โอเค ลุย เดินให้ถึงรถ!

แต่ไม่รอดค่ะคุณผู้ชม มีผู้ชายใส่สูทดูดีเดินมา ชมนู่นชมนี่ เคลิ้ม สักพักบอก คุณน้องมีปัญหาสิวนิดหน่อยนะคะ ปกติรักษาที่ไหนไหม
เราก็เลี่ยงไง เลยบอก มีที่รักษาแล้ว เขายังสวนกลับ แล้วทำไมยังไม่หายล่ะครับ? ไม่ดีสิ้นะ? แล้วไปหาบ่อยแค่ไหน?
เราเลยบอก ไม่ค่อยได้ไปเท่าไหร่แล้ว ติดเรียน ยังถามกลับว่าแบบ เพราะรักษาไม่หาย เลยไม่ไปสินะ ดิฉันเลยหงุดหงิดยืนฟัง รอคำถามที่อยากให้ถาม
ในที่สุดเขาก็ถาม น้องมีเวลาสักหน่อยไหมครับ? ดิฉันตอบเลย ไม่ค่ะ! เขาก็บอกว่า เชิญเข้าไปคุยกับคุณหมอด้านในแปปนึง

ดิฉันแบบเอ้า เดี๋ยวนี้มันขนาดนี้แล้วหรอ ขายของหัวชนฝาจริงๆ แต่ก็ไม่อะไรก็เข้าไป ไหนอะหมอ? เจอแต่พนักงาน
อย่าว่าอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะคะ ให้เข้ามานั่งคุยกับพนักงาน ซึ่งนี่เป็นคลีนิครักษาหน้า แต่หน้าพนักงานแบบ... แล้วฉันจะไว้ใจคลีนิคคุณได้ไงว้า
เขาก็อธิบาย เลเซอร์นี้ดีมาก หน้าเขานี่ใสเลยนะคะ ดิฉันเลยแบบขำในใจ เขาอบรมพนักงานดีก็จริงแต่แบบ ควรปรับให้เข้ากับตัวเองหน่อย
ดิฉันก็นั่งฟังไปเรื่อยๆ ก็เข้าคำถามหลัก ขอบัตรเครดิต และจะให้ทำหน้าไปเลย ซึ่งดิฉันบอกดิฉันไม่พร้อมเพราะดิฉันพึ่งแว็กซ์คิ้วมา เขาห้ามเลเซอร์ พนักงานคนนั้นก็ยังเถียง บอกว่าแว็กซ์คิ้วกับเลเซอร์หน้ามันคนละที่กันนะคะ พร้อมกับไปยกฝูงทีมพนักงานมาเถียงต่อ โดยใช้วาจาอารมณ์แบบ
ใครเป็นคนพูดคะว่าแว็กซ์คิ้วแล้วห้ามเลเซอร์ ถ้าพนักงานพูดอย่าไปเชื่อค่ะ ระหว่างพนักงานกับหมอเชื่อใครคะ ดิฉันถึงกับ งง เพราะคนที่ยืนเถียงดิฉันปาวๆ ก็พนักงานไม่ใช่หรอ แล้วถ้าใครเคยแว็กซ์คิ้วที่เบเนฟิต หรืออนาสตาเซียคือมันห้ามเลเซอร์จริงๆ แบบมีใบให้เซนต์รับรู้ก่อนทำการแว็กซ์เลยว่า ไม่เลเซอร์ ไม่ทาเบนแซค เอเอชเอ หรือผลิตภัณฑ์รักษาสิวแบบแรงๆ ไม่งั้นเกิดอะไรขึ้นกับหน้าเขาไม่รับผิดชอบ ซึ่งดิฉันก็กลัวสิคะ บวกกับทำหน้ามีที่ทำอยู่แล้ว และดิฉันคิดว่าที่ที่ดิฉันทำเป็นประจำมันดีอยู่แล้วถึงแม้ว่ามันจะหายช้าหรืออะไรก็ตามแต่หนังหน้าดิฉัน

พอดิฉันเริ่มโมโหจะลุกออก พนักงานนางเดิมบอกว่า โอเคค่ะ ไม่ทำวันนี้ก็ไม่ทำวันนี้ แต่จองคอร์สไว้ก่อนได้ค่ะ คอร์สละ ประมาณ 20,000 บาท จอง 1000  ได้ค่ะ ดิฉันเลยบอกว่า ดิฉันไม่มีเงิน มากินข้าว จะกลับบ้านแล้ว ไว้วันหลัง(พูดแบบรักษาน้ำใจ) แต่พนังงานก็แบบ ไม่ได้ค่ะ วันนี้วันสุดท้าย เดี๋ยวแถมมาร์สหน้านู่นนี่ให้ บลาๆๆๆ ดิฉันก็ย้ำว่า ไม่มีเงินค่ะ......  พนักงานตัวดียังคงพูดต่อไป คุณน้องพอจะมีสัก 500 ไหมคะ..? 500 ก็ได้ค่ะ ดิฉันเลยบอกว่า จะเก็บไว้เติมน้ำมันรถ พนักงานคนเดิมงัดไม้เด็ด 300 ก็ได้ค่ะ บร้ะ!!!! คอร์ส สองหมื่น จ่ายก่อนพร้อมทำครั้งแรกเพียง สามร้อย!! หมดศรัทธาค่ะ เลยบอกไม่เอาค่ะ ขอไปปรึกษาแฟน ถ้าอยากมาเดี๋ยวมาเอง เขาก็ทำหน้าแบบ เข้าใจฟิวคนที่เหมือนคิดว่าจะได้อะไรจากเราแล้วไม่ได้ไหมคะ เขาทำหน้าฟิวนั้นใส่เลย ดิฉันก็เอือมค่ะ จะให้ทำไงล่ะ ยิ่งยัดให้ยิ่งไม่อยากเอาค่ะ แล้วเขาก็บอกว่า กันลืมเดี๋ยวเขาจะแถมนู่นนี่ให้ ขอไลน์ดิฉัน ดิฉันก็ให้ไปพร้อมเดินออกจากร้าน เดินผ่านไปสามก้าว ทักไลน์มาเลยค่ะ ดิฉันจัดการบล็อคซะเลย เหนื่อยค่ะ ตื้อจัง

ไม่ได้มีเจตนาว่าคนที่ประกอบอาชีพนี้นะคะเพราะเข้าใจว่าคนเราก็ต้องทำมาหากิน แค่อยากจะบอกว่าบางทีทำแบบนี้มันน่ารำคาญเกินไป จากจะได้ลูกค้าเพิ่ม กลับเป็นไม่ได้เลย ควรมีในความพอดีนะคะ ถ้าลูกค้าคนไหนสนใจ เขาก็จะเข้ามาหาเองค่ะ ถ้าสินค้าของคุณดีพอมันก็จะเรียกลูกค้าด้วยตัวมันเอง ไม่ต้องมายัดเหยียดให้กับลูกค้าขนาดนี้ก็ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่