วันนี้ผมมาแชร์แนวทางการเล่นหุ้นของผมครับ

ผมเป็นคนที่ชอบเล่นหุ้นคนหนึ่ง สมัยแรกเริ่ม ผมเป็นเม่าน้อยที่ชอบบินเข้ากองเพลิง เห็นหุ้นตัวไหนวิ่งแรง ผมซื้อตามทันที ซึ่งสุดท้ายก็โดนเผาสดตายคาที่…  ต่อมาผมด็ได้พร่ำฝึกวิชาเล่นหุ้นทางเทคนิค วันๆผมนั่งดูกราฟ ดู volume ดูสัญญาณ ตัวไหนสัญญาณมาวันแรก ผมซื้อตามทันที ซึ่งการเล่นหุ้นแบบนี้นั้นทำให้ผมรู้สึกเหมือนยืนอยู่บนรถไฟเหาะ ได้ลุ้นระทึกับราคาโดยที่ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหุ้นตัวที่ผมซื้อเลย ต้องนั่งจ้องหน้าจอทั้งวัน ระแวงว่ากลัวจะ cut-loss ไม่ทัน(ซึ่งก็ไม่ทันไปหลายครั้ง) และเมื่อหุ้นวิ่ง ผมก็ไม่รู้จะขายตอนไหนดีก็ต้องมานั่งเฝ้าอีก ว่าสัญญาณขายจะมาเมื่อไหร่… แต่แล้วผมได้มาลองศึกษาการเล่นหุ้นแบบ VI  ซึ่งทำให้ผมเปลี่ยนมาเล่นหุ้นแบบเน้นหามูลค่า ทำให้ผมมีเวลามากขึ้น ซึ่งก็ทำให้สามารถมานั่งเขียนบทความแทนที่จะนั่งจ้องราคาหุ้นได้

ย้อนอดีตมาพอละ ทีนี้มาเข้าเรื่องกันดีกว่า

เป็นที่รู้กันดีกว่าราคาหุ้นนั้น ถูกขับเคลื่อนด้วยรายใหญ่ หรือที่เรียกกันว่า “จ้าว” รายย่อยอย่างเรามีหน้าที่ต้องตามเจ้าให้ทัน ไม่งั้นจะโดนจ้าวหลอกลวงพาไปติดดอย ซึ่งการที่เราจะรู้ทันจ้าว เราต้องรู้ถึงพฤติกรรมคนเหล่านี้ซะก่อน

นักลงทุนระดับพันล้าน จะลงทุนทั้งที เขาจะต้องมั่นใจว่าบริษัทมีโครงสร้างที่ดี มีอนาคต สามารถงอกเงยสร้างกำไรให้ได้ ซึ่งอย่างที่ทราบกันว่ากำไรที่ได้จากหุ้นนั้นมาจาก capital gain กับ dividend (ส่วนต่างของราคาหุ้น กับ เงินปันผล) ซึ่งจ้าวส่วนมากมักจะคำนึงถึงเงินปันผล เนื่องจากมีอันจะกินอยู่แล้ว แค่ปันผลก็อยู่ได้สบายๆทั้งปีแล้ว

เพราะฉะนั้น ถ้านักลงทุนเห็นว่าบริษัทจะยิ่งใหญ่อนาคต จะมีกำไรอู้ฟู้ มีความมั่นคง ก็ต้องสนใจเป็นแท้แน่นอน  และยิ่งราคาหุ้นยังไม่แพง มีหรือจะไม่ซื้อ ทีนี้เมื่อนักลงทุนทยอยเข้ามาราคาหุ้นก็จะพุ่งสูงขึ้น ก็จะได้ capital gain เป็นผลพลอยได้  ซึ่งปัญหาต่อมาคือ เมื่อราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น มี Volume มากผิดปกติ ฝูงเม่าก็จะบินเข้ามาซื้อตามหวังรวยตามนายใหญ่ โดยหารู้ไม่ว่าจ้าวเหล่านี้หยุดซื้อแล้วเนื่องจากว่าราคาสมเหตุสมผลกับมูลค่าในอนาคตแล้ว  แต่ปัญหาคือเม่าไม่หยุด ลากกันเองไปจน P/E 60-100 เท่า… ทีนี้เมื่อรายใหญ่เห็นกำไรตรงหน้าอย่างนี้ มีหรือจะไม่ทุบขายทิ้งเอากำไร พอทุบแล้วเม่าก็ตกใจเหมือนไฟที่กำลังได้ที่ จู่ๆแรงขึ้นมาเผาเม่าตายเรียบซะงั้น ซึ่งเพื่อความอยู่รอดเม่าจึงแข่งกันขายหุ้นออกมาทุกราคาทำให้ราคาร่วงลงไปอีก เมื่อราคาต่ำกว่าราคาหุ้นในอนาคตที่คาดการณ์ไว้ รายใหญ่ก็ค่อยเข้ามาซื้อใหม่ ได้กำไรสองต่อ หรือไม่ก็หาลงทุนบริษัทอื่น เพราะบริษัทดีๆมีอีกเยอะแยะ ส่วนเม่าก็เจ้งกันไปตามๆกัน…

เอาหละ ถ้าเรารู้อย่างนี้แล้ว เราอยากอยู่ในวัฏจักรเม่าไหม…

เราจึงต้องรู้ทันจ้าว โดยการหาหุ้นที่มีอนาคตที่ดี และยังมีราคาถูก  ซึ่งหุ้นแบบนี้ต้องใจเย็นศึกษาหาข้อมูล ตามข่าวไปเรื่อยๆ ดูงบการเงิน เปรียบเทียบกับคู่แข่ง คำนึงถึงสภาพแวดล้อม และเมื่อซื้อก็ต้องยอมถือยาวๆหน่อย รอวันที่จ้าวเห็นคุณค่าแล้วพาฝูงเม่ามาลาก ซึ่งจะทำให้เราอยู่ในภาวะที่ปลอดภัยและมีโอกาสได้กำไรมหาศาล

ผมยกตัวอย่างง่ายๆกับหุ้น IEC เมื่อคุณภูษณได้เข้ามาบริหาร พอได้สืบประวัติ ได้อ่านแผนการบริษัทต่างๆ หลายคนคงเริ่มเห็นอนาคตกับหุ้นตัวนี้ หลังจากที่ศึกษาโดยละเอียด จึงซื้อที่ 0.04 บาท ซึ่งถือนิ่งมาหลายเดือน จนสุดท้ายจ้าวก็ลากหุ้นก็วิ่งไปถึง 0.09  ก็ขายทำกำไรได้มา 125% ชิวๆ แล้วก็มา short ต่อ เนื่องจากราคา fair มันยังอยู่ที่ 0.06-0.07 ซึ่งไม่เสียหาย มีแต่กำไร…

ซึ่งการเล่นหุ้นแบบนี้ ทำให้เรามีความรู้เพิ่มขึ้น ทำให้เราสบายใจ และมีความมั่นใจที่จะลงทุน และเป็นการลงทุนจริงๆ ไม่ใช่การพนัน ซึ่งจะทำให้เราได้กำไรอย่างยั่งยืน…

เห็บ

ติดตามผมได้ที่
website: www.hoontook.com
facebook: https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81/750830284966595

โพสที่ผ่านมา
วิเคราะห์ ESTAR หุ้นซ่อนมูลค่า: http://ppantip.com/topic/32841111
วิเคราะห์ IFEC ทำกำไรได้อีก 76%: http://ppantip.com/topic/32837323
วิเคราะห์ IEC กับราคาในอนาคต: http://ppantip.com/topic/32826510
วิเคราะห์ MILL ปีหน้าราคาจะไปเท่าไหร่: http://ppantip.com/topic/32824573