สวัสดีค่ะทุกคน เมื่อวันที่ 10 ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 5 ปี การจากไปของผู้รักษาประตูฝีมือดีคนหนึ่ง...โรเบิร์ต เอ็งเค่
รู้สึกผิดที่ตั้งกระทู้รำลึกถึงเขาช้าไป 2 วัน แต่ขอตั้งแล้วกันนะคะ
เพราะการตายของเขาได้สั่นสะเทือนไปทั้งวงการบอลเยอรมันและระบบสาธารณสุขเยอรมัน โดยเฉพาะด้านสุขภาพจิต
เนื่องจากติดตามฟุตบอลเยอรมันได้ไม่นาน เลยรู้เรื่องราวของเขาน้อยมาก แต่สารคดีบุนเดสลีก้าทางช่อง DW ช่วยไว้เยอะเลย
และจากข้อมูลที่หามาได้ เลยขอตั้งเท่าที่รู้นะคะ...

เอ็งเค่ เป็นคนเมืองเยน่า ในประเทศเยอรมันตะวันออก เขาเป็นเด็กธรรมดาคนหนึ่งที่รักฟุตบอล
เขาเข้าร่วมทีม Carl Zeiss Jena ทีมแถวบ้านเขาตั้งแต่ระดับเยาวชน ในฐานะผู้รักษาประตู ในปี 1986

เขาก็เป็นนักเตะเยอรมันตะวันออกคนหนึ่งที่ได้รับอานิสงส์จากการรวมประเทศและการรวมลีกให้เป็นหนึ่งเดียว
และเขาได้ไปค้าแข้งในฝั่งตะวันตกเหมือนคนอื่นๆ ด้วยการไปร่วมทีมกลัดบัค
และแจ้งเกิดเขา ณ ที่แห่งนั้น เมื่อปี 1996 ด้วยการลงสนาม 36 นัด

3 ปี ต่อมา เขาได้ย้ายร่วมทีมเบนฟิก้า ทีมชั้นนำในโปรตุเกส ด้วยการลงสนามจำนวน 77 นัด

3 ปี ต่อมา เขาได้ย้ายร่วมทีมบาร์ซ่า ทีมชั้นนำในสเปน แต่เขาไม่ได้รับโอกาสในการลงสนามเท่าไหร่นัก
มิหนำซ้ำ ถูกปล่อยยืมตัวให้กับทีมเฟเนบาเช่ในตุรกีและทีมเตเนริเฟ่ในแคว้นหมู่เกาะคานารี่ของสเปนทีมละปี

หลังจากร่อนเร่พเนจรมาหลายทีม สุดท้าย เขาย้ายกลับมาเล่นที่บ้านเกิด ด้วยการร่วมงานกับทีมฮันโนเวอร์ 96 ในปี 2004

และเป็นสโมสรสุดท้ายของเขา...
เขาได้ลงสนามให้กับทีมสุดท้ายของเขาจำนวน 164 นัด

เนื่องจากเขากลับมาร้อนแรงให้กับฮันโนเวอร์ เขาได้รับโอกาสติดทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่ในปี 2007

แน่นอนว่าเขาได้ร่วมงานกับบัลลัค นักเตะที่เยี่ยมยอดในยุคนั้นด้วย รวมทั้งโค้ชเลิฟ และอีกหลายๆคน แต่เขาก็เป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น

ส่วนเรื่องชีวิตครอบครัว เขาได้พบรักกับเทเรซ่า อดีตนักกีฬาไตรกีฬา และมีลูกสาวเป็นโซ่คล้องใจหนึ่งคน เธอชื่อลาร่า

แต่โชคไม่ดีนักที่เธอลืมตาดูโลกได้ไม่นานนัก เธอจากไปด้วยโรคหัวใจรั่ว...
นั่นคือจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม...

...เพราะหลังตั้งแต่ลูกสาวจากไป เขามีภาวะซึมเศร้า จนต้องได้รับการดูแลจากจิตแพทย์อย่างใกล้ชิด
ถึงแม้ว่าเขาได้รับอุปการะลูกบุญธรรมและภรรยาให้กำลังใจเขาในช่วงที่เลวร้ายของเขา แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาดีขึ้นเลย จนกระทั่ง....

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2009 ช่วง 1 ทุ่มกว่าๆ มีรายงานจากตำรวจในย่าน Neustadt am Rübenberge
ในเมืองฮันโนเวอร์ว่าเกิดอุบัติเหตุทางรถไฟตรงจุดตัด
อุบัติเหตุครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อรถไฟสายเบรเมน-ฮันโนเวอร์ วิ่งด้วยความเร็ว 160  กม./ชม. เมื่อวิ่งผ่านจุดเกิดเหตุ ตอน เวลา 18.17 น
มีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งตัดหน้าให้รถไฟชน ซึ่งรถไฟขบวนนั้นไม่สามารถหยุดได้ทัน
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่รถไฟแจ้งหน่วยกู้ภัยเข้ามากู้ศพ ซึ่งเขาคนนั้นเป็นเอ็งเค่...

เจ้าหน้าที่เข้าไปกู้ศพตรงที่เกิดเหตุ และทำการเคลื่อนย้ายรถของเขา

สถานีรถไฟใกล้ที่เกิดเหตุ

บรรดาแฟนบอลที่ตามไปที่เกิดเหตุ

จากการสันนิษฐานของตำรวจในที่เกิดเหตุคาดว่าเป็นการจงใจฆ่าตัวตาย และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะมีการสอบปากคำผู้ใกล้ชิด พบว่า ตอนบ่ายในวันเดียวกัน เอ็งเค่ยังลงฝึกซ้อมกับผู้ฝึกประตูอยู่ ดูว่าเอ็งเค่ทำใจได้ที่เลิฟไม่เรียกติดทีมชาติลงแข่งกระชับมิตรกับชิลีและไอวอรี่โคสต์ (กำลังสงสัยว่านี่เป็นฟางเส้นสุดท้ายของเขาหรือเปล่า เพราะตอนนั้นเป็นช่วงแย่งมือหนึ่งในการเฝ้าเสา) แต่ช่วงบ่ายเอ็งเค่กลับไม่มาซ้อมตามกำหนด

นาย เนบลุง ที่ปรึกษาส่วนตัวของเอ็งเค่รู้สึกกังวลมากและได้พยายามโทรติดต่อเอ็งเค่ แต่ปรากฎว่าเอ็งเค่ปิดมือถือเสียแล้ว นายเนบลุงบอกว่า"เรากลัวกันมาก ผมบอกเทเรซ่าภรรยาของเขาให้รีบออกตามหา ส่วนผมก็แจ้งเรื่องไปยังตำรวจ"

ในช่วงเวลานั้น เอ็งเค่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเลย เมือง Eilvese ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากบ้านของเอ็งเค่เพียงแค่ 2.5 กม.

ช่วงนั้นเอ็งเค่คงเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ถนนบริเวณทางโค้งที่รถไฟจะเลี้ยวเข้ามา เขาจอดรถทิ้งไว้แล้วก็เดินไปตามเขตกั้นทางรถไฟ ทางตำรวจบอกว่าเอ็งเค่ทิ้งกระเป๋าสตางค์ไว้ในรถ เมื่อรถไฟขบวนนั้นมา
เขาตัดสินใจที่จะปลิดชีวิตตัวเองด้วยการให้รถไฟชนเขาจนถึงแก่ความตาย

เขาทิ้งภรรยาและลูกบุญธรรมของเขาเผชิญกับโลกตามลำพัง ซึ่งในตอนนั้นเธอได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากจิตแพทย์ด้วย

บรรดานักเตะทีมชาติเยอรมันทำใจไม่ได้หลังทราบข่าวในช่วงเก็บตัวที่บอนน์เพื่อสู้ศึกกับชิลีในนัดกระชับมิตรจนต้องทำการยกเลิกการแข่งขันในวันที่ 14 ที่จะถึงนี้

วันต่อมา บาร์ซ่าได้มีการยืนรำลึกถึงเขาในเกมที่พบกับ La Cultural Leonesa ในศึกโคปา เด เรย์

ต่อมา เบนฟิก้า กลัดบัค และฮันโนเวอร์ก็มีการรำลึกถึงเขาเช่นกันก่อนทำการแข่งขัน

วันที่ 15 พฤศจิกายน มีพิธีรำลึกเขาที่สนาม AWD อารีน่า สนามเหย้าของทีมฮันโนเวอร์ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงาน 40,000 คน...
บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า และทั้งงานมีแต่ดอกกุหลาบสีขาว




เพื่อนร่วมทีมฮันโนเวอร์ 6 คน เป็นผู้ยกโลงศพของเขา....



เทเรซ่ายังทำใจไม่ได้กับการตายของสามี



โค้ชเลิฟและทีมงานได้ยืนไว้อาลัย



บรรดานักเตะทีมชาติที่อยู่ในอาการเศร้าสลด



และแน่นอน คนที่เสียใจกว่าใครไหนๆ คือ ภรรยาและคนในครอบครัวของเขา

บรรยากาศการไว้อาลัยของแฟนบอล

ศพของเขาถูกฝังอยู่เคียงข้างลูกสาวของเขา ณ ชานเมืองฮันโนเวอร์

จากที่เกริ่นไปตอนต้นว่าการตายของเขาสั่นสะเทือนไปทั้งวงการลูกหนังและสาธารณสุขของเยอรมัน
เพราะทำให้เยอรมันให้ความสำคัญและตระหนักถึงสุขภาพจิตทั้งนักเตะและคนในประเทศมากขึ้น
ซึ่งต่อมา ทีมฮันโนเวอร์และสมาคมฟุตบอลเยอรมันได้จัดตั้งมูลนิธิโรเบิร์ต เอ็งเค่ เพื่อช่วยเหลือในการฟื้นฟูสุขภาพจิตของนักฟุตบอลทั้งประเทศ




โดยภรรยาของเขาเป็นหัวหอกในการดูแลมูลนิธินี้
จากภาพนี้ เธอในปัจจุบันที่ดูดีขึ้นกว่าห้าปีที่แล้ว แต่เหมือนเธอยังเก็บความขมขื่นในใจไว้อยู่
แต่เราจะให้กำลังใจคุณค่ะ เทเรซ่า

ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ นอกเหนือจากผลงานในอาชีพฟุตบอลแล้ว เขาเป็นตัวตั้งตัวตีในการรณรงค์ต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์เลี้ยงในวงการอุตสาหกรรมแฟชั่น สังเกตได้จากการที่เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับพีต้า ซึ่งได้รับคำชื่นชมอย่างมากในตอนนั้น





เราจะเก็บความทรงจำที่ดีไว้ค่ะ

สิ่งที่ได้จากกระทู้นี้ เราอยากจะบอกพวกคุณว่า โรคซึมเศร้าและโรคอื่นๆที่เกี่ยวกับสุขภาพจิตไม่ใช่เรื่องล้อเล่น มันดูเป็นเรื่องตลกสำหรับคนไทยที่มีค่านิยมผิดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่มันอันตรายยิ่งกว่าโรคทางกายเสียด้วยซ้ำ ฉะนั้น เมื่อคุณรู้สึกไม่สบายใจ อย่าอายที่จะบอกใคร ควรกล้าเพื่อที่หาหนทางรักษาได้ ในขณะเดียวกัน คนที่ไม่มีปัญหาต้องเปิดใจยอมรับว่าสุขภาพจิตไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป หวังว่าการตายของเอ็งเค่จะจุดประกายให้ทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพจิตมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยควรจะจริงจังกับเรื่องนี้เช่นกัน ไม่ใช่แค่คนทั่วไปอย่างพวกเรา นักฟุตบอลก็เช่นกัน เพราะเป็นอาชีพที่ได้รับความกดดันอย่างหนักอยู่เสมอๆ
สิ่งที่อยากร้องขอถึงทุกคน คือ ....อย่าให้เรื่องราวของเขาถูกเลือนหายไปตามกาลเวลา