สวัสดีครับ วันนี้ผมไปเจอบทความนึง ชื่อตามหัวข้อเลย จึงขออนุญาติเจ้าของบล็อคที่เขียนขึ้นมา
นำมาแชร์ให้กับตากล้องมือใหม่ทั้งหลาย ซึ่งก็รวมตัวผมเองด้วย อยากจะขอนำมาเขียนในภาษาของผมเอง ผสมไปด้วย
ปล. ไม่รู้ว่าผิดไหมที่นำมาแชร์แบบนี้ ถ้าผิดตรงไหน ติดต่อให้ลบได้เลยครับ
"คือพออ่านแล้วก็แบบ เฮ้อะ ใช่เลย มือใหม่พลาดกันแบบนี้จริงๆ มาดูกันเลยดีกว่า"
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะพัฒนาฝีมือตัวเองโดยที่ไม่เคยทำผิดพลาดมาก่อน ถ้าจะให้พูดให้ถูก “มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสนุกในการเรียนรู้การถ่ายภาพ หากไม่ได้ผิดพลาดมาก่อน อันที่จริงแล้วอะไรที่คุณทำผิดนะแหละ มันจะตามมาด้วยการปรับปรุงตัวแบบทันทีเลยละ
นี่เป็นบางสิ่งที่ฉันจำได้เมื่อเริ่มหัดถ่ายรูป บางอย่างคุณอาจทำอยู่ หรือบางทีมันอาจบอกคุณว่าคุณมาไกลแค่ไหนแล้ว
1) ไม่สนใจ White Balance เลย
มันผ่านไปนานมาก กว่าฉันจะรู้ความสำคัญของมัน
เมื่อเย็นวันหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วง ฉันได้เข้าไปในป่าแถวๆบ้าน เกิดเปลี่ยน white balance ไปเป็น shade โดยบังเอิญ
ถ่ายมาปุ๊ป คุณพระช่วยใบไม้เป็นสีแดงๆส้มๆเต็มไปหมดเลย แต่สุดท้ายฉันก็ค้นพบอีกว่า การถ่าย Raw มา ทำให้เปลี่ยน temperature ของภาพได้อีกด้วย
2) แต่งรูปโคตรหนักมือเลย
อันนี้บอกเลยว่าผมเป็น ผมคิดว่า เฮ้ยแต่งออกมาได้สวยมากเลย พอไปถามคนอื่น มันไม่ใช่เลย
เข้มมาก เกินจริง บรรยากาศของภาพ หายหมดเลย พวกๆโหมด HDR นั่นก็ด้วย
3) กลัวที่จะเพิ่ม ISO
เมื่อฉันรู้ว่า ISO สูงจะทำให้เกิด NOISE ฉันก็หลีกเลี่ยงมัน และครูของฉันก็เคร่งครัดในเรื่องนี้มาก แต่ปัญหาคือ ฉันต้องจบลงกับ ชัตเตอร์สปีด ที่ช้ามากด้วย การถ่ายภาพด้วยมือ(ไม่ใช้ขาตั้ง) ภาพก็เบลอ มันหนักกว่า Noise ซะอีกนะเนี่ย
ช่างภาพระดับพระกาฬส่วนใหญ่ ยินดีที่จะเพิ่ม ISO มากขึ้น ขอเพียงแต่ภาพไม่เบลอก็พอ
4) ไม่เคยล้างเซนเซอร์เลย (อันนี้ผมไม่รู้คืออะไร แต่เวลาปิดกล้อง กล้องของผมจะขึ้น Sensor cleaning อัตโนมัติ ผมใช้ Canon 700D ครับ)
5) ไม่ลงทุนที่จะซื้อสายลั่นชัตเตอร์
หลังจากที่ฉันซื้อขาตั้งกล้องมาก่อนหน้านี้ มันวิเศษมากฉันสามารถถ่ายได้อย่างที่ฉันต้องการมากขึ้น มันสะดวกมากเลย มันทำให้ฉันถ่าย long exposures ได้ ทั้ง ชายหาด ทั้งพลุ และ การจราจร
แต่บางที นิ้วที่กดชัตเตอร์นั้น ก็อาจจะทำให้เบลอได้อีกเช่นกัน อาจจะตั้งเวลา แต่ก็อาจจะไม่ทัน พลาดจังหวะดีๆไป น่าเสียดาย
ลองใช้รีโมทชัตเตอร์ดูก็ดีนะ ^^
6) เขินเมื่อไปถ่ายในที่สาธารณะ
อย่างนึงที่ช่วยฉันได้ คือไปดูคลิปใน Youtube ของ Steve McCurry
ส่วนมาก Steve McCurry จะไปทำความรู้จักกับคนที่เขาถ่าย เขาเคารพคนที่เขาถ่าย และคนส่วนมากก็ยินดีให้เขาถ่าย
(ลองดูหลายๆคลิปนะครับ)
7) ไม่ได้ Backup รูปที่ถ่ายไว้
มันเป็นหนึ่งในบทเรียนที่ต้องจ่ายด้วยราคาที่แพง ฉันเข้าคอร์สถ่ายรูป 8 เดือน แล้วรูปครึ่งหนึ่งของฉันก็หายไปอย่างลึกลับ
และฉันต้องส่งรูป พวกนั้นในอีกสองอาทิตย์ ฉันของขึ้นมาก กับโน๊ตบุ๊คเก่าๆของฉัน ฉันต้องใช้เวลาอีกสองอาทิตย์ ในการถ่ายใหม่ สุดท้ายก็ผ่านมันมาได้ หลังจากนั้นฉันซื้อ Hard-drive มา backup และซื้อ memory card มาจำนวนมาก ฉันจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก
8) ทำตามกฏจนเกินไป
มีกฏมากมายในการถ่ายรูป เยอะแยะไปหมด ฉันพยายามดูดซับทุกอย่างที่เรียนมาและมาใช้กับทุกรูป
บางครั้ง ความสนุกในการถ่ายภาพคือการได้ถ่ายอะไรที่คุณเห็นในแบบแนวทางของคุณเอง อย่างที่ Henri Cartier-Bresson กล่าวไว้ว่า
ในการถ่ายภาพนั้น กฏเกณฑ์ในการจัดการมุมมองต่างๆนั้น มันอาจปิดกั้นสัญชาตญาณที่ดีของเราก็ได้ ดังนั้น หากคุณเจออะไรเจ๋งๆในมุมที่คิดว่าดี ก็จงถ่ายมันซะ
9) เมื่อใช้แต่การวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพในที่ต่างๆกัน
หิน และไม้ป้องกันชายฝั่งเหล่านั้นสวยงามมาก แต่ดูดวงอาทิตย์ซิ มันดูไม่ค่อยเจ๋งเลย
การวัดแสงแบบเฉลี่ยทั้งภาพ คือเอาแสงที่ผ่านช่องมองภาพมาเฉลี่ย หลายสถานการณ์ก็เหมาะสม เช่นต้องการความรวดเร็ว หรือต้องรีบเก็บช๊อตในแต่ละโมเมนต์นั้น แต่ จะใช้ทุกสถานการณ์นั้นไม่ดีแน่
การวัดแสงแบบอื่นๆ เฉลี่ยหนักกลาง วัดแสงเฉพาะจุดนั้นมันก็มีเหตุผลในการมีอยู่ของมัน ตัวอย่างเช่น ถ่ายคนที่มีแสงจากด้านหลังค่อนข้างมาก หรือ ถ้าฉาก ที่มี contrast สูง เมื่อแก้ปัญหาตรงนี้ได้แล้ว ฉันก็ได้ภาพที่เสียน้อยกว่าเดิม
10) ใช้กระเป๋าสะพายข้าง
ฉันใช้กระเป๋าสะพายข้าง เพื่อใส่ กล้องและเลนส์อีกสองตัว แต่เมื่อไปออกทริปถ่ายรูปต้องเดินทางนานๆ น้ำหนักอุปกรณ์เหล่านั้น ทำให้ไหล่ฉันเจ็บมากๆ ฉันประหยัดเงิน เพื่อที่จะซื้อเลนส์ตัวใหม่ แต่มันเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าเลย เมื่อต้องแลกกับสุขภาพ ฉันเลยตัดสินใจซื้อกระเป๋าเป้ใส่กล้องดีๆ มันทำให้อาการดีขึ้นมาก
11) ใช้โหมด Manual ตลอด
อันนี้ดูเหมือนเป็นรายการ ความผิดพลาด ที่แปลกๆ ซะหน่อย เพราะ manual mode มันให้คุณควบคุมได้มากที่สุด หลังจากที่ได้เรียนเกี่ยวกับ aperture, shutter speed และ ISO ฉันลืมโหมดอื่นไปเลย ใช้แต่ manual
แต่เมื่อคุณต้องแนว กีฬา, สัตว์ป่า, สารคดี มันต้องการการจับภาพที่รวดเร็ว มันจะดีกว่าถ้าใช้โหมด aperture priority หรือ shutter priority ปัจจุบัน ฉันชอบใช้ aperture priority เพราะมันยอมให้ฉันควบคุมระยะชัด ได้ มันเร็วกว่า โหมด manual มาก
12) ถ่ายหลาย shot เกินไป
คุณคงได้ยินคำที่คุ้นหูมาก นั่นคือ ทุกวันนี้เขาใช้ กล้องดิจิตอลแล้วไม่ใช่กล้องฟิลม์ กดๆ ไปเถอะ แต่ผ่านมาระยะนึง ฉันก็สงสัยว่าความรู้สึกดีๆในการกดรูปสวยๆ ของฉันอยู่ไหน ในเมื่อฉันถ่ายมา 250 รูปในมุมที่ต่างกัน แล้วสุดท้ายก็เลือกมาแค่รูปเดียว
มันทำให้ฉันเรียนรู้ที่จะ “มอง” การมองและรับรู้ความสวยงามในที่นั้นๆ ก่อนที่จะถ่ายมันออกมา มันเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราพัฒนาขึ้นไปได้มาก
การถ่ายหลายๆช๊อต โดยไม่ได้คิด และ มอง ซะก่อนนั้น นั้นยังมีข้อเสียอีกมาก เช่น แบต หมดเร็ว หน่วยความจำเต็มเร็ว ต้องมานั่งเลือกภาพในการแต่งภาพทีหลังอีกจำนวนมากเกินไปด้วย
13) ถ่ายสิ่งที่ไม่ได้น่าสนใจเลย แต่คิดว่ามันดูดี ข้อนี้ผมเคยบ่อยนะ ถ่ายเพราะมันดูดี ทั้งๆที่ไม่มีอะไรเลย
การถ่ายรูปมันไม่เหมือนกับการวาดรูป คุณอาจมองเห็นสิ่งต่างๆ แล้วมโนขึ้นมาว่ามันสวยจังเลย
คุณมีสิทธิ์ที่จะจินตนาการเหล่านั้น แต่ความจริงก็คือความจริง คุณไม่สามารถเปลี่ยนน้ำเปล่าให้เป็นไวน์ได้หรอก
ฉันเคยคิดกับตัวเองว่าฉันรู้การควบคุมกล้องอย่างดี ฉันต้องได้รูปสวยแน่ๆ แต่ฉันก็ยังคงถ่ายรูปขยะๆ รูปน่าเบื่อ ก่อนที่จะเข้าใจว่าการหา subject ที่จะถ่ายนั้นสำคัญอย่างไร
14) ไม่เคยวางแผนก่อนกดชัตเตอร์เลย
ฉันไม่ได้พูดถึงว่าต้องวางแผนให้รอบคอบทุกกระเบียดนิ้ว วางแผนทุกขั้นตอนให้เป๊ะๆ วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ คงไม่มีใครใช้เวลาขนาดนั้น
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวอย่างน้อยควร เช็คสภาพอากาศ เช็คแบตเตอรรี่ พก memory card อย่างน้อย สองตัว เช็คอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ND Filter , Remote เสื้อผ้าสำรอง เช่น ไปถ่ายชายหาด อาจต้องพกถุงเท้าสำรอง อย่างน้อยพวกนี้ก็เป็นการเตรียมตัวที่ดี หลังจากนั้นคุณก็คิดแผนว่าจะถ่าย อะไรยังไงต่อไป
15) ถ่ายเพื่อนและครอบครัวน้อยเกินไป
คุณคงได้ยินบ่อยๆว่า ให้ถ่ายสิ่งที่น่าสนใจจริงๆ ซึ่งหลายคนอาจละเลยที่จะถ่ายเพื่อนหรือครอบครัว
รีบถ่ายซะ ขณะที่คุณยังมีโอกาส เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะได้ไม่ต้องมาเสียดายทีหลัง
นี่แหละครับ ลองถามตัวเองนะ ว่าคุณมีกี่ข้อ ผมก็เป็นมือใหม่เช่นกันครับ อ่านบางข้อ ผมเองก็งง
แต่หลายๆข้อ ก็ชัดเจนสำหรับผมเลย
คิดว่าบทความนี้ยังไม่มีคนเคยนำมาเล่าบอกต่อกันเนอะ
"สุดท้ายนี้ ผมอยากฝากทุกคนะครับ อยากถ่ายสวย ต้องยอมรับคำติเตียนวิจารณ์จากคนรอบข้างให้ได้"
และ "อย่าคิดว่าตนเองเก่งแล้ว เพราะคุณอาจจะไม่พัฒนาขึ้นอีกเลย"
สิ่งผิดพลาด 15 อย่าง ที่คนเพิ่งหัดถ่ายภาพชอบทำ by Fotofaka
นำมาแชร์ให้กับตากล้องมือใหม่ทั้งหลาย ซึ่งก็รวมตัวผมเองด้วย อยากจะขอนำมาเขียนในภาษาของผมเอง ผสมไปด้วย
ปล. ไม่รู้ว่าผิดไหมที่นำมาแชร์แบบนี้ ถ้าผิดตรงไหน ติดต่อให้ลบได้เลยครับ
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะพัฒนาฝีมือตัวเองโดยที่ไม่เคยทำผิดพลาดมาก่อน ถ้าจะให้พูดให้ถูก “มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสนุกในการเรียนรู้การถ่ายภาพ หากไม่ได้ผิดพลาดมาก่อน อันที่จริงแล้วอะไรที่คุณทำผิดนะแหละ มันจะตามมาด้วยการปรับปรุงตัวแบบทันทีเลยละ
นี่เป็นบางสิ่งที่ฉันจำได้เมื่อเริ่มหัดถ่ายรูป บางอย่างคุณอาจทำอยู่ หรือบางทีมันอาจบอกคุณว่าคุณมาไกลแค่ไหนแล้ว
1) ไม่สนใจ White Balance เลย
มันผ่านไปนานมาก กว่าฉันจะรู้ความสำคัญของมัน
เมื่อเย็นวันหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วง ฉันได้เข้าไปในป่าแถวๆบ้าน เกิดเปลี่ยน white balance ไปเป็น shade โดยบังเอิญ
ถ่ายมาปุ๊ป คุณพระช่วยใบไม้เป็นสีแดงๆส้มๆเต็มไปหมดเลย แต่สุดท้ายฉันก็ค้นพบอีกว่า การถ่าย Raw มา ทำให้เปลี่ยน temperature ของภาพได้อีกด้วย
2) แต่งรูปโคตรหนักมือเลย
อันนี้บอกเลยว่าผมเป็น ผมคิดว่า เฮ้ยแต่งออกมาได้สวยมากเลย พอไปถามคนอื่น มันไม่ใช่เลย
เข้มมาก เกินจริง บรรยากาศของภาพ หายหมดเลย พวกๆโหมด HDR นั่นก็ด้วย
3) กลัวที่จะเพิ่ม ISO
เมื่อฉันรู้ว่า ISO สูงจะทำให้เกิด NOISE ฉันก็หลีกเลี่ยงมัน และครูของฉันก็เคร่งครัดในเรื่องนี้มาก แต่ปัญหาคือ ฉันต้องจบลงกับ ชัตเตอร์สปีด ที่ช้ามากด้วย การถ่ายภาพด้วยมือ(ไม่ใช้ขาตั้ง) ภาพก็เบลอ มันหนักกว่า Noise ซะอีกนะเนี่ย
ช่างภาพระดับพระกาฬส่วนใหญ่ ยินดีที่จะเพิ่ม ISO มากขึ้น ขอเพียงแต่ภาพไม่เบลอก็พอ
4) ไม่เคยล้างเซนเซอร์เลย (อันนี้ผมไม่รู้คืออะไร แต่เวลาปิดกล้อง กล้องของผมจะขึ้น Sensor cleaning อัตโนมัติ ผมใช้ Canon 700D ครับ)
5) ไม่ลงทุนที่จะซื้อสายลั่นชัตเตอร์
หลังจากที่ฉันซื้อขาตั้งกล้องมาก่อนหน้านี้ มันวิเศษมากฉันสามารถถ่ายได้อย่างที่ฉันต้องการมากขึ้น มันสะดวกมากเลย มันทำให้ฉันถ่าย long exposures ได้ ทั้ง ชายหาด ทั้งพลุ และ การจราจร
ลองใช้รีโมทชัตเตอร์ดูก็ดีนะ ^^
6) เขินเมื่อไปถ่ายในที่สาธารณะ
อย่างนึงที่ช่วยฉันได้ คือไปดูคลิปใน Youtube ของ Steve McCurry
ส่วนมาก Steve McCurry จะไปทำความรู้จักกับคนที่เขาถ่าย เขาเคารพคนที่เขาถ่าย และคนส่วนมากก็ยินดีให้เขาถ่าย
(ลองดูหลายๆคลิปนะครับ)
7) ไม่ได้ Backup รูปที่ถ่ายไว้
มันเป็นหนึ่งในบทเรียนที่ต้องจ่ายด้วยราคาที่แพง ฉันเข้าคอร์สถ่ายรูป 8 เดือน แล้วรูปครึ่งหนึ่งของฉันก็หายไปอย่างลึกลับ
และฉันต้องส่งรูป พวกนั้นในอีกสองอาทิตย์ ฉันของขึ้นมาก กับโน๊ตบุ๊คเก่าๆของฉัน ฉันต้องใช้เวลาอีกสองอาทิตย์ ในการถ่ายใหม่ สุดท้ายก็ผ่านมันมาได้ หลังจากนั้นฉันซื้อ Hard-drive มา backup และซื้อ memory card มาจำนวนมาก ฉันจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก
8) ทำตามกฏจนเกินไป
มีกฏมากมายในการถ่ายรูป เยอะแยะไปหมด ฉันพยายามดูดซับทุกอย่างที่เรียนมาและมาใช้กับทุกรูป
บางครั้ง ความสนุกในการถ่ายภาพคือการได้ถ่ายอะไรที่คุณเห็นในแบบแนวทางของคุณเอง อย่างที่ Henri Cartier-Bresson กล่าวไว้ว่า
ในการถ่ายภาพนั้น กฏเกณฑ์ในการจัดการมุมมองต่างๆนั้น มันอาจปิดกั้นสัญชาตญาณที่ดีของเราก็ได้ ดังนั้น หากคุณเจออะไรเจ๋งๆในมุมที่คิดว่าดี ก็จงถ่ายมันซะ
9) เมื่อใช้แต่การวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพในที่ต่างๆกัน
หิน และไม้ป้องกันชายฝั่งเหล่านั้นสวยงามมาก แต่ดูดวงอาทิตย์ซิ มันดูไม่ค่อยเจ๋งเลย
การวัดแสงแบบเฉลี่ยทั้งภาพ คือเอาแสงที่ผ่านช่องมองภาพมาเฉลี่ย หลายสถานการณ์ก็เหมาะสม เช่นต้องการความรวดเร็ว หรือต้องรีบเก็บช๊อตในแต่ละโมเมนต์นั้น แต่ จะใช้ทุกสถานการณ์นั้นไม่ดีแน่
การวัดแสงแบบอื่นๆ เฉลี่ยหนักกลาง วัดแสงเฉพาะจุดนั้นมันก็มีเหตุผลในการมีอยู่ของมัน ตัวอย่างเช่น ถ่ายคนที่มีแสงจากด้านหลังค่อนข้างมาก หรือ ถ้าฉาก ที่มี contrast สูง เมื่อแก้ปัญหาตรงนี้ได้แล้ว ฉันก็ได้ภาพที่เสียน้อยกว่าเดิม
10) ใช้กระเป๋าสะพายข้าง
ฉันใช้กระเป๋าสะพายข้าง เพื่อใส่ กล้องและเลนส์อีกสองตัว แต่เมื่อไปออกทริปถ่ายรูปต้องเดินทางนานๆ น้ำหนักอุปกรณ์เหล่านั้น ทำให้ไหล่ฉันเจ็บมากๆ ฉันประหยัดเงิน เพื่อที่จะซื้อเลนส์ตัวใหม่ แต่มันเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าเลย เมื่อต้องแลกกับสุขภาพ ฉันเลยตัดสินใจซื้อกระเป๋าเป้ใส่กล้องดีๆ มันทำให้อาการดีขึ้นมาก
11) ใช้โหมด Manual ตลอด
อันนี้ดูเหมือนเป็นรายการ ความผิดพลาด ที่แปลกๆ ซะหน่อย เพราะ manual mode มันให้คุณควบคุมได้มากที่สุด หลังจากที่ได้เรียนเกี่ยวกับ aperture, shutter speed และ ISO ฉันลืมโหมดอื่นไปเลย ใช้แต่ manual
แต่เมื่อคุณต้องแนว กีฬา, สัตว์ป่า, สารคดี มันต้องการการจับภาพที่รวดเร็ว มันจะดีกว่าถ้าใช้โหมด aperture priority หรือ shutter priority ปัจจุบัน ฉันชอบใช้ aperture priority เพราะมันยอมให้ฉันควบคุมระยะชัด ได้ มันเร็วกว่า โหมด manual มาก
12) ถ่ายหลาย shot เกินไป
คุณคงได้ยินคำที่คุ้นหูมาก นั่นคือ ทุกวันนี้เขาใช้ กล้องดิจิตอลแล้วไม่ใช่กล้องฟิลม์ กดๆ ไปเถอะ แต่ผ่านมาระยะนึง ฉันก็สงสัยว่าความรู้สึกดีๆในการกดรูปสวยๆ ของฉันอยู่ไหน ในเมื่อฉันถ่ายมา 250 รูปในมุมที่ต่างกัน แล้วสุดท้ายก็เลือกมาแค่รูปเดียว
มันทำให้ฉันเรียนรู้ที่จะ “มอง” การมองและรับรู้ความสวยงามในที่นั้นๆ ก่อนที่จะถ่ายมันออกมา มันเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราพัฒนาขึ้นไปได้มาก
การถ่ายหลายๆช๊อต โดยไม่ได้คิด และ มอง ซะก่อนนั้น นั้นยังมีข้อเสียอีกมาก เช่น แบต หมดเร็ว หน่วยความจำเต็มเร็ว ต้องมานั่งเลือกภาพในการแต่งภาพทีหลังอีกจำนวนมากเกินไปด้วย
13) ถ่ายสิ่งที่ไม่ได้น่าสนใจเลย แต่คิดว่ามันดูดี ข้อนี้ผมเคยบ่อยนะ ถ่ายเพราะมันดูดี ทั้งๆที่ไม่มีอะไรเลย
การถ่ายรูปมันไม่เหมือนกับการวาดรูป คุณอาจมองเห็นสิ่งต่างๆ แล้วมโนขึ้นมาว่ามันสวยจังเลย
คุณมีสิทธิ์ที่จะจินตนาการเหล่านั้น แต่ความจริงก็คือความจริง คุณไม่สามารถเปลี่ยนน้ำเปล่าให้เป็นไวน์ได้หรอก
ฉันเคยคิดกับตัวเองว่าฉันรู้การควบคุมกล้องอย่างดี ฉันต้องได้รูปสวยแน่ๆ แต่ฉันก็ยังคงถ่ายรูปขยะๆ รูปน่าเบื่อ ก่อนที่จะเข้าใจว่าการหา subject ที่จะถ่ายนั้นสำคัญอย่างไร
14) ไม่เคยวางแผนก่อนกดชัตเตอร์เลย
ฉันไม่ได้พูดถึงว่าต้องวางแผนให้รอบคอบทุกกระเบียดนิ้ว วางแผนทุกขั้นตอนให้เป๊ะๆ วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ คงไม่มีใครใช้เวลาขนาดนั้น
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวอย่างน้อยควร เช็คสภาพอากาศ เช็คแบตเตอรรี่ พก memory card อย่างน้อย สองตัว เช็คอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ND Filter , Remote เสื้อผ้าสำรอง เช่น ไปถ่ายชายหาด อาจต้องพกถุงเท้าสำรอง อย่างน้อยพวกนี้ก็เป็นการเตรียมตัวที่ดี หลังจากนั้นคุณก็คิดแผนว่าจะถ่าย อะไรยังไงต่อไป
15) ถ่ายเพื่อนและครอบครัวน้อยเกินไป
คุณคงได้ยินบ่อยๆว่า ให้ถ่ายสิ่งที่น่าสนใจจริงๆ ซึ่งหลายคนอาจละเลยที่จะถ่ายเพื่อนหรือครอบครัว
รีบถ่ายซะ ขณะที่คุณยังมีโอกาส เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะได้ไม่ต้องมาเสียดายทีหลัง
นี่แหละครับ ลองถามตัวเองนะ ว่าคุณมีกี่ข้อ ผมก็เป็นมือใหม่เช่นกันครับ อ่านบางข้อ ผมเองก็งง
แต่หลายๆข้อ ก็ชัดเจนสำหรับผมเลย
คิดว่าบทความนี้ยังไม่มีคนเคยนำมาเล่าบอกต่อกันเนอะ
และ "อย่าคิดว่าตนเองเก่งแล้ว เพราะคุณอาจจะไม่พัฒนาขึ้นอีกเลย"
by Fotofaka
by photography-art-cafe