คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
ขอเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง เผื่อจะตัดสินใจได้ เทอมแรกเราเข้าไปก็เป็นแบบจขกท. ได้ 2.30 วิชาเขียนแบบได้D+ Design Studioตัวแรกก็ได้C เน่าที่สุดในชีวิต 555
แต่พอปี2+ที่เริ่มเป็นสถาปัตยกรรมจริงๆแล้ว คะแนนเราก็ดีขึ้น(หลายเทอม 3.50+ รวมถึงหลายๆคน) และมีบางส่วนที่ยิ่งเรียนคะแนนยิ่งหด คือ บางคนที่ถนัดออกแบบงานศิลปะ คะแนนปีแรกมักจะดี เพราะมันไม่เกี่บวกับโครงสร้าง ความเป็นจริง พอมาเจอวิชาปีโต อาคารมันจะซับซ้อนขึ้น โรงแรม โรงพยาบาล ห้าง ฯลฯ แต่ในทางกลับกัน คนที่เรียนออกแบบได้งั้นๆ ก็อาจจะได้คะแนนวิชาArch Studioดีก็ได้ ไม่เกี่ยวกันค่ะ สถาปัตย์ไม่ใช่แค่ตัด พับ กระดาษอ่ะ อย่าเพิ่งถอดใจ
อ.คอมเม้นท์เราแรงๆ อันนี้มีส่วนจริงๆ เราอยู่ในคณะ5ปีนี่กลัวคำพูดอ.ยิ่งกว่าสิ่งใด อ.พูดไปแล้วเราเก็บไปเจ็บอยู่เป็นอาทิตย์ค่ะ 555 ขอให้คิดว่า 1.งานเรามันไม่สวยจริงๆ แต่อ.ก็มีหลายแบบ คนที่ถ่ายทอดออกมาได้ว่าสวย-ไม่สวยยังไง ต้องแก้ยังไง นั้นคืออ.ที่เก่ง และอ.ธรรมดาย่อมเยอะกว่าอ.ที่เก่งถูกไหม ดังนั้นเป็นหน้าที่เราเองที่ต้องไปดูงานตัวอย่างเอามาแก้แบบอ่ะ ถ้ารอให้อ.บอก ก็โน่น ส่งแบบครั้งสุดท้าย ไม่ก็ C ไปเลย 2. เดี๋ยวก็ชิน ไม่ใช่แค่อ.คณะสถาปัตย์ที่ปากจัดนะเออ 3. ตอนเจอลูกค้าจริงโหดกว่าอ.เยอะมาก
คือถ้าเราคิดว่าเราเข้ามาเพราะชอบออกแบบอาคารจริงๆ ขอให้อดทน ปีสูงขึ้นแล้วมันจะดีขึ้นเอง เรากล้าพูดเพราะเราเคยผ่านจุดนี้มาก่อนนะ
ในเรื่องการทำงาน สถาปนิกไม่ได้มีแต่ออกแบบเก๋ๆ แรงๆนา ยังมีอีกหลายส่วน น้องอาจจะไปทำงานวิเคราะห์โครงการ เคลียร์แบบ บางบ.ก็เน้นออกแบบโรงพยาบาลอย่างเดียว(ซึ่งแทบไม่มีความงามให้เล่นเลยเหอะ แค่จัดfunctionก็หมดเวลาแล้ว) เป็นอาจารย์ นักกฎหมายฯลฯ ถึงเราจะออกแบบไม่ได้ดีเท่าคนอื่น แต่สุดท้ายน้องจะมีที่ยืนของตัวเองเองแหละค่ะ
หลังไมค์ได้นะ
แต่พอปี2+ที่เริ่มเป็นสถาปัตยกรรมจริงๆแล้ว คะแนนเราก็ดีขึ้น(หลายเทอม 3.50+ รวมถึงหลายๆคน) และมีบางส่วนที่ยิ่งเรียนคะแนนยิ่งหด คือ บางคนที่ถนัดออกแบบงานศิลปะ คะแนนปีแรกมักจะดี เพราะมันไม่เกี่บวกับโครงสร้าง ความเป็นจริง พอมาเจอวิชาปีโต อาคารมันจะซับซ้อนขึ้น โรงแรม โรงพยาบาล ห้าง ฯลฯ แต่ในทางกลับกัน คนที่เรียนออกแบบได้งั้นๆ ก็อาจจะได้คะแนนวิชาArch Studioดีก็ได้ ไม่เกี่ยวกันค่ะ สถาปัตย์ไม่ใช่แค่ตัด พับ กระดาษอ่ะ อย่าเพิ่งถอดใจ
อ.คอมเม้นท์เราแรงๆ อันนี้มีส่วนจริงๆ เราอยู่ในคณะ5ปีนี่กลัวคำพูดอ.ยิ่งกว่าสิ่งใด อ.พูดไปแล้วเราเก็บไปเจ็บอยู่เป็นอาทิตย์ค่ะ 555 ขอให้คิดว่า 1.งานเรามันไม่สวยจริงๆ แต่อ.ก็มีหลายแบบ คนที่ถ่ายทอดออกมาได้ว่าสวย-ไม่สวยยังไง ต้องแก้ยังไง นั้นคืออ.ที่เก่ง และอ.ธรรมดาย่อมเยอะกว่าอ.ที่เก่งถูกไหม ดังนั้นเป็นหน้าที่เราเองที่ต้องไปดูงานตัวอย่างเอามาแก้แบบอ่ะ ถ้ารอให้อ.บอก ก็โน่น ส่งแบบครั้งสุดท้าย ไม่ก็ C ไปเลย 2. เดี๋ยวก็ชิน ไม่ใช่แค่อ.คณะสถาปัตย์ที่ปากจัดนะเออ 3. ตอนเจอลูกค้าจริงโหดกว่าอ.เยอะมาก
คือถ้าเราคิดว่าเราเข้ามาเพราะชอบออกแบบอาคารจริงๆ ขอให้อดทน ปีสูงขึ้นแล้วมันจะดีขึ้นเอง เรากล้าพูดเพราะเราเคยผ่านจุดนี้มาก่อนนะ
ในเรื่องการทำงาน สถาปนิกไม่ได้มีแต่ออกแบบเก๋ๆ แรงๆนา ยังมีอีกหลายส่วน น้องอาจจะไปทำงานวิเคราะห์โครงการ เคลียร์แบบ บางบ.ก็เน้นออกแบบโรงพยาบาลอย่างเดียว(ซึ่งแทบไม่มีความงามให้เล่นเลยเหอะ แค่จัดfunctionก็หมดเวลาแล้ว) เป็นอาจารย์ นักกฎหมายฯลฯ ถึงเราจะออกแบบไม่ได้ดีเท่าคนอื่น แต่สุดท้ายน้องจะมีที่ยืนของตัวเองเองแหละค่ะ
หลังไมค์ได้นะ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมเรียน สถาปัตย์ แล้วท้อแท้ คุณไม่เป็นอย่างเรา คุณไม่รู้หรอก
วิชาที่มีเรียนหรอค่ะ ก็จะมี ออกแบบเบื้องต้น ออกแบบสถาปัตย์ เขียนแบบเบื้องต้น วาดเส้น
รู้สึกหนักใจทุกครั้งเลย ที่เราตั้งใจทำงานส่งแทบตาย ผลที่ออกมาC C+
อยากจะร้องไห้ ยิ่งวิชาออกแบบสถาปัตย์ ให้ทำโมเดลต่างๆ อยากบอกว่า ทำอะไรไปส่งก็ไม่ถูก บอกว่าน้อยไป เยอะไป ไม่สวย เอ๊ะ ยังไงยังไง
มันส่งผลให้หนูนะรู้เริ่มไม่ชอบอะไรที่มันเกี่ยวกับศิลปะอีกแล้ว มันดูเหมือนนามธรรมเวลาประเมินงาน ไม่เหมือนสอบข้อสอบวัดความรู้
หนูรู้สึกว่าตัวเองมองงานศิลปะไม่ออก ว่ามันสวยยังไง มีมิติยังไง สิ่งที่หนูไม่มีคือสิ่งที่ไม่สามารถสอนกันได้ นั้นก็คือ พรสวรรค์
ยิ่งเรียนยิ่งรู้ตัว ยิ่งเรียนยิ่งเหนื่อย
มีความฝันที่อยากจะออกแบบตึกใหญ่ๆสวยๆ แต่ตอนนี้กลับไม่อยากแล้วตั้งแต่ได้เริ่มมาเรียน
บอกตรงเพื่อนๆหนูที่เรียนด้วยกันเขาก็ท้อแท้ ถึงกับขั้นไม่ส่งงานกันเลยทีเดียว
หลายครั้งที่นั่งร้องไห้คนเดียว ร้องเพราะเสียใจที่เลือกมาเรียนสถาปัตย์
ความรู้สึก ตอนแรกกับตอนนีมันต่างกันจริงๆค่ะ
ใครพอมีแนวทาง คำแนะนำดีๆมั้ยค่ะ บอกเลย ณ จุดๆนี้อยากได้กำลังใจ T v T