ทดลองขับ Ford Focus 5 ประตู 2.0L Ti-VCT GDi Sport+ AT (ตัวTOP)
จริงๆ Ford Focus โฉมนี้ออกมานานพอควรแล้ว แต่ผมบังเอิญได้มีโอกาสได้ทดลองขับออกทริป กรุงเทพ-เขาใหญ่ ระยะทางทั้งทริป 403 กิโลเมตร และเห็นรีวิวยังไม่เยอะ เลยมารีวิวให้ดูกันครับ
เริ่มจากไปเอารถที่โกดังเก็บรถของ Ford เลย โดยรถที่เราเอาไปขับออกทริปมีทั้งหมด 7 คัน เป็น Ford Focus ทั้งหมด โดยเป็นตัว 5 ประตูตัวท็อป 3 คัน ตัว 4 ประตูตัวท็อป 2 คัน ตัว 4 ประตูรองท็อป 1 คัน และตัว 5 ประตูเครือง 1.6 อีก 1 คัน (จริงๆมี Ford Ranger ด้วย 1 คัน แต่ไม่มีคนขับเลยไม่ได้เอาไป)
แต่ในรีวิวนี้ผมขอรีวิวแค่ตัว 5 ประตูตัว TOP เท่านั้น เพราะขับแต่ตัวนี้ครับ
เริ่มรีวิวจากในรถกันก่อนเลย
สิ่งที่ผมชอบ
1.เบาะหนังให้สัมผัสที่ดีมาก และที่นั่งตอนหน้าเบาะกระชับมากๆ ตอนขับเข้าโค้งด้วยความเร็ว 140 กม/ชม. เบาะกระชับตัวคนขับดีมากๆ ไม่เอียงหลุดไหลเลย
2.พวงมาลัยหุ้มหนังให้สัมผัสที่ดีมาก แต่ดูวงใหญ่ไปนิด (อาจจะเป็นเพราะผมชินกับพวงมาลัยเล็กของฮอนด้ารถผมเองมากกว่า)
3.เครื่องเสียง Sony เสียงดีใช้ได้เลย ลำโพงเยอะมากตั้ง 9 ตัว ไม่ว่าจะนั่งตำแหน่งไหนในรถก็ฟังเพลงได้เพลิดเพลิน
4.แอร์ Auto แยกฝั่งซ้ายขวา เย็นไวดี รถที่ได้มาลองขับไม่มีฟิล์มเลย อาศัยเปิดแอร์แรงๆสู้ (ผมเปิด 22 องศา พัดลมไม่ตำกว่าเบอร์ 3 ตลอดทริป)
5.ไฟห้องโดนสารเยอะมากๆ มีทั่วทั้งคัน ถ้าทำของหล่นในรถตอนกลางคืนนี้ไม่เป็นปัญหาเลย เปิดไฟหาได้สบายๆ
สิ่งที่ผมไม่ชอบ
1.ปุ่ม ปุ่ม ปุ่ม ปุ่ม ปุ่ม ปุ่มเยอะไปไหน ครั้งแรกที่ไปนั่งรถ กดผิดๆถูกๆ จะจูนคลื่นวิทยุที่ชอบ ใช้เวลาอยู่เกือบ 5 นาที มึนมากๆ
2.หน้าปัดดูลำบากมาก เพราะมันยาวจนขอบพวงมาลัยหนาๆนี้บัง เวลาขับถ้าอยากมองเข็มรอบ ต้องเอียงตัวไปขวานิดๆ ถึงเห็น ถ้าอยากมองเข็มความเร็ว ต้องเอียงไปซ้ายนิดๆ ถึงเห็น
3.ห้องโดยสารดูแคบๆ เวลามองจากด้านนอกเหมือนห้องโดยสารใหญ่ แต่พอเข้าไปนั่งจริงๆกับรู้สึกอึดอัดและแคบมากๆ รู้สึกแคบกว่า All New City ของผมเสียอีก
4.ที่นั่งผู้โดยสารตอนหลัง เบาะชันไปนิด และพนักพิงรูปตัว L คว่ำที่ต้องเอาขึ้นตลอดถึงนั่งได้สบาย และพนักพิงหัวค่อนข้างแข็งและดันหัวไปนิด กลายเป็นว่า All New City ของผมนั่งสบายกว่าตามความรู้สึกผม
มาพูดถึงตัวรถภายนอกกันบ้าง
สิ่งที่ผมชอบ
1.ไฟหน้าแบบ Bi-Xenon HID แบบปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติพร้อมที่ฉีดทำความสะอาด / ไฟช่วยส่องสว่างขณะเลี้ยว / ไฟหรี่แบบ LED (ก๊อปจากเว็บ Ford มาเลย) ชอบไฟหน้ามากๆ สว่างดีมาก เวลาเลี้ยวก็หันตามรัศมีที่เลี้ยวด้วย เดินทางกลางคืนถนนไม่มีไฟส่องสว่างเลยก็ยังขับสบายๆ ส่วนเดย์ไลท์ก็สบายชัดเจนดี ตอนกลางวันชัดมากๆ ขับออกทริปเป็นขบวนเห็นรถในขบวนชัดเจนไม่ว่าจะขับห่างกันแค่ไหน
2.ล้ออัลลอย 17นิ้ว รัดด้วยยาง Michelin Primacy LC อายุ 1 ปีนิดๆ ขนาด 215/50/17 ล้อดูใหญ่และสวยดี เกาะถนนดีเยี่ยม(ไว้เล่าให้ฟังในหัวข้อสมรรถณะของรถนะครับ)
สิ่งที่ผมไม่ชอบ
1.ประตูท้ายหนักมากๆ ต้องใช้แรงยกช่วงแรกพอควร สงสารผู้หญิงตัวเล็กๆถ้าต้องเปิดประตูท้ายรถเพื่อเก็บของหรือเอาของจริงๆ มันหนักเกินไป
มาถึงเรื่องสมรรถณะของเครื่องยนต์และเกียร์กันบ้าง
1.การขับขี่ด้วยเกียร์ D
-ช่วงความเร็ว 0-40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเกียร์ D เป็นช่วงนี้สร้างรำคาญใจให้ผมมาที่สุด เพราะมันมาช้า คันเร่งดีเลย์นานเกินไป และเกียร์ค่อนข้างไม่ฉลาดเอาซะเลย จังหวะที่ออกตัวจากซอยหรือยูเทิร์นไปถนนใหญ่นี้หวาดเสียวเลย เพราะผมเหยียบคันเร่งไปแล้วราว30% คันเร่งก็ดีเลย์กว่าจะออกรถ และไต่ความเร็วช้ามากๆ แถมมีอาการกระตุกของเกียร์ให้น่ารำคาญอีกต่างหาก จนผมต้องเหยียบคันเร่งให้มิดไปเลย เพื่อจะได้ออกถนนใหญ่อย่างปลอดภัย (All New City ผมยังออกตัวได้ดีกว่า)
-ช่วงความเร็วตั้งแต่ 40-180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเกียร์ D ทำได้ค่อนข้างดี เปลี่ยนเกียร์ไหลลื่นดี ใช้เวลาไต่ความเร็วไม่นาน จังหวะเร่งแซงกดคันเร่งเพิ่มไปหน่อย สมองกลก็ลดเกียร์ให้ลากรอบแซงได้อย่างง่ายดาย (สรุปสั้นๆ เลย 40 ขึ้นไปแล้ว เกียร์ D ใช้งานได้ดีมาก)
2.การขับขี่ด้วยเกียร์ S
-เนื่องจากผมมีปัญหากับการออกด้วยเกียร์ D มากๆ เลยหันมาใช้เกียร์ S แทน ผลคือ ออกตัวดีขึ้นเยอะ แต่คันเร่งก็ยังดีเลย์ให้เห็นอยู่บ้าง แต่ก็หน่อยกว่าเกียร์ D อันนั้นดีเลย์นานเกิน การออกตัวด้วยเกียร์ S นี้ทำให้ผมสบายใจขึ้นมากๆ ไม่สร้างจังหวะหวาดเสียวให้ผมเลย เหยียบปุ๊บรอบพุ่งทะยานไปอย่างง่ายดาย
-แต่สิ่งขัดใจผมในเกียร์ S คือการทำงานของปุ่ม+/-บนหัวเกียร์ ทำงานค่อนข้างช้า และเวลาผมลากรอบสูงๆ ผมรอเปลี่ยนเกียร์ที่ 6000รอบ พอจังหวะที่ผมกดปุ่ม + ไปแล้วแต่เกียร์ดีเลย์ไม่เปลี่ยนให้ทันที ทำให้รอบเข้าใกล้ 7000รอบ เกียร์ก็จัดการเปลี่ยนเกียร์ให้ผมเอง พร้อมรับคำสั่งเปลี่ยนเกียร์จากที่ผมกดไปด้วย ผลคือ จากเกียร์ S2 มันเปลี่ยนไปให้2เกียร์ เป็น S4 ทันที ทำให้ผมเสียจังหวะและเป็นแบบนี้หลายรอบมากๆ
3.การผสมผสานการขับขี่ด้วยเกียร์ D และ S
-จากที่ผมกล่าวข้างต้นว่า ผมเลยปรับวิธีการขับให้เข้ากับที่ผมชอบและรู้สึกดีมากที่สุด ผมเลยออกตัวด้วยเกียร์ S และขับต่อไปด้วยเกียร์ D จากการขับแบบนี้สร้างความ Happy ให้ผมมากๆ
4.เครื่องยนต์ 2000cc ให้กำลังได้เหลือๆ ทำความเร็วไปถึง 180 โดยที่ไม่ต้องเค้นอะไรมากมาย พลังกำลัง 170 แรงม้านี้เหลือๆจริงๆ แต่สิ่งที่ไม่ชอบคือเสียงเครื่องยนต์ เวลาผมลากรอบโหดๆ มันจะเสียงหอน"วีววววววว...." ฟังแล้วมันดูแปลกๆ แค่นั้นครับ
มาถึงจุดที่ผมชอบมากที่สุดคือ เรื่องสมรรถณะของช่วงล่าง
เป็นอะไรที่ผมคาดหวังไว้มาก เพราะได้ยินมานานแล้วเกี่ยวกับความเทพของช่วงล่างฟอร์ดโฟกัส และสิ่งผมบอกต่อไปนี้ อาจจะดูเว่อร์ไป แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
-มันนิ่ง ใช่ครับมันนิ่งมาก นิ่งชนิดที่ว่าผมเผลอเหยียบไป 140 แบบไม่ได้ตั้งใจบ่อยๆ เพราะมันนิ่งจนผมไม่รู้สึกเลยว่าผมขับเร็ว แถมพวงมาลัยน้ำหนักดีมากๆ มั่นใจมากๆเวลาขับเร็ว และต่อให้ขับยัน 180 ผมว่ามันก็ยังนิ่ง นิ่งชนิดที่ว่าขับแช่ด้วยความเร็วเท่านี้ได้สบายๆ แต่สภาพการจราจรไม่อำนวยให้แช่เท่าไหร่ ตลอดทริปผมเลยขับช่วงความเร็ว 120-160 ยืนพื้นยาวๆแบบสบายๆ (เขาใหญ่ มา กรุงเทพ ระยะทาง 160 กิโล ใช้เวลาแค่ 1ชั่วโมง 15นาที)
-มันนุ่ม ช่วงความเร็วเดินทาง ช่วงล่างซับแรงสะเทือนดีมากๆ หลุมบ่อเล็กๆ รอยต่อถนน เก็บได้เนียนๆ และมีอยู่จังหวะหนึ่ง ผมเผลอขับที่ความเร็ว 120 ขึ้นสะพานข้ามคลอง ตอนที่จะลงสะพาน ผมทำใจแล้วกระแทกสั่นไปทั้งรถแน่ๆ แต่ปรากฏว่า มันลงได้อย่างนิ่มนวล และรีบาวด์ขึ้นมาเบาๆเล็กน้อยทีเดียว ผ่านไปแบบสบายๆจนผมรู้สึกทึ่ง (ถ้าเป็น All New City ผมเจอแบบนี้ คนในรถกระเด็นเด้งไปมากันหมดแล้ว)
-มันหนึบ ไม่ว่าสาดโค้งแรงๆแค่ไหนก็เอาอยู่สบายๆ เกาะนิ่งมั่นใจมากๆ โค้งยาวๆแถมเขาใหญ่นี้ซัด 140 ไม่ต้องเบรคได้เลย
มาถึงเรื่องพวงมาลัย
พวงมาลัยดีมากๆ ความเร็วต่ำเบามุดซ้ายขวาสบายๆพอกับพวงมาลัยฮอนด้า แต่พวงมาลัยในย่านความเร็วสูงหนักแน่นมั่นใจมากๆ ให้ความั่นใจในการขับขี่สุดๆ (ทำไมฮอนด้าไม่ทำแบบนี้บ้าง T^T)
มาถึงเรื่องเบรค
เบรคทำงานพอใช้ได้ แต่ผมยังไม่ชินและจับจุดมันไม่ได้เท่าไหร่ในช่วงแรงๆ เพราะความเร็วต่ำมันจะตื้นๆ แต่ความรับเร็วๆมันดันลึก เลยงงๆเล็กน้อย แต่พอจับจุดได้ก็สบายๆ เป็นเบรคที่ไว้ใจได้ครับ
สุดท้ายผมสรุปให้สั้นๆนะครับ Ford Focus เป็นรถที่ดีมากๆ โดยเฉพาะช่วงล่างนี้เทพสมคำร่ำลือจริงๆ ชวนให้ขับเร็วได้ตลอดเวลา เป็นรถที่ถ้าใช้เดินทางไกลๆนี้ดีมากๆ ให้ความแรง ความปลอดภัยและความสบายสุดๆ แต่จุดที่ต้องปรับปรุงคือเรื่องเกียร์ D ช่วงออกตัว คันเร่งทีดีเลย์จะเยอะไปไหน และดีไซน์ภายในที่ผมว่ามันดูไม่ลงตัวเอาซะเลย น่าจะปรับให้เป็นมิตรกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากกว่านี้ รวมถึงเบาะหลังปรับให้นั่งสบายกว่านี้จะดีมากครับ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านรีวิว ขาดตกผิดพลาดตรงไหน บอกผมได้เลย และขออภัยล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้
[SR] ทดลองขับ Ford Focus 5 ประตู 2.0L Ti-VCT GDi Sport+ AT (ตัวTOP)
จริงๆ Ford Focus โฉมนี้ออกมานานพอควรแล้ว แต่ผมบังเอิญได้มีโอกาสได้ทดลองขับออกทริป กรุงเทพ-เขาใหญ่ ระยะทางทั้งทริป 403 กิโลเมตร และเห็นรีวิวยังไม่เยอะ เลยมารีวิวให้ดูกันครับ
เริ่มจากไปเอารถที่โกดังเก็บรถของ Ford เลย โดยรถที่เราเอาไปขับออกทริปมีทั้งหมด 7 คัน เป็น Ford Focus ทั้งหมด โดยเป็นตัว 5 ประตูตัวท็อป 3 คัน ตัว 4 ประตูตัวท็อป 2 คัน ตัว 4 ประตูรองท็อป 1 คัน และตัว 5 ประตูเครือง 1.6 อีก 1 คัน (จริงๆมี Ford Ranger ด้วย 1 คัน แต่ไม่มีคนขับเลยไม่ได้เอาไป)
แต่ในรีวิวนี้ผมขอรีวิวแค่ตัว 5 ประตูตัว TOP เท่านั้น เพราะขับแต่ตัวนี้ครับ
เริ่มรีวิวจากในรถกันก่อนเลย
สิ่งที่ผมชอบ
1.เบาะหนังให้สัมผัสที่ดีมาก และที่นั่งตอนหน้าเบาะกระชับมากๆ ตอนขับเข้าโค้งด้วยความเร็ว 140 กม/ชม. เบาะกระชับตัวคนขับดีมากๆ ไม่เอียงหลุดไหลเลย
2.พวงมาลัยหุ้มหนังให้สัมผัสที่ดีมาก แต่ดูวงใหญ่ไปนิด (อาจจะเป็นเพราะผมชินกับพวงมาลัยเล็กของฮอนด้ารถผมเองมากกว่า)
3.เครื่องเสียง Sony เสียงดีใช้ได้เลย ลำโพงเยอะมากตั้ง 9 ตัว ไม่ว่าจะนั่งตำแหน่งไหนในรถก็ฟังเพลงได้เพลิดเพลิน
4.แอร์ Auto แยกฝั่งซ้ายขวา เย็นไวดี รถที่ได้มาลองขับไม่มีฟิล์มเลย อาศัยเปิดแอร์แรงๆสู้ (ผมเปิด 22 องศา พัดลมไม่ตำกว่าเบอร์ 3 ตลอดทริป)
5.ไฟห้องโดนสารเยอะมากๆ มีทั่วทั้งคัน ถ้าทำของหล่นในรถตอนกลางคืนนี้ไม่เป็นปัญหาเลย เปิดไฟหาได้สบายๆ
สิ่งที่ผมไม่ชอบ
1.ปุ่ม ปุ่ม ปุ่ม ปุ่ม ปุ่ม ปุ่มเยอะไปไหน ครั้งแรกที่ไปนั่งรถ กดผิดๆถูกๆ จะจูนคลื่นวิทยุที่ชอบ ใช้เวลาอยู่เกือบ 5 นาที มึนมากๆ
2.หน้าปัดดูลำบากมาก เพราะมันยาวจนขอบพวงมาลัยหนาๆนี้บัง เวลาขับถ้าอยากมองเข็มรอบ ต้องเอียงตัวไปขวานิดๆ ถึงเห็น ถ้าอยากมองเข็มความเร็ว ต้องเอียงไปซ้ายนิดๆ ถึงเห็น
3.ห้องโดยสารดูแคบๆ เวลามองจากด้านนอกเหมือนห้องโดยสารใหญ่ แต่พอเข้าไปนั่งจริงๆกับรู้สึกอึดอัดและแคบมากๆ รู้สึกแคบกว่า All New City ของผมเสียอีก
4.ที่นั่งผู้โดยสารตอนหลัง เบาะชันไปนิด และพนักพิงรูปตัว L คว่ำที่ต้องเอาขึ้นตลอดถึงนั่งได้สบาย และพนักพิงหัวค่อนข้างแข็งและดันหัวไปนิด กลายเป็นว่า All New City ของผมนั่งสบายกว่าตามความรู้สึกผม
มาพูดถึงตัวรถภายนอกกันบ้าง
สิ่งที่ผมชอบ
1.ไฟหน้าแบบ Bi-Xenon HID แบบปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติพร้อมที่ฉีดทำความสะอาด / ไฟช่วยส่องสว่างขณะเลี้ยว / ไฟหรี่แบบ LED (ก๊อปจากเว็บ Ford มาเลย) ชอบไฟหน้ามากๆ สว่างดีมาก เวลาเลี้ยวก็หันตามรัศมีที่เลี้ยวด้วย เดินทางกลางคืนถนนไม่มีไฟส่องสว่างเลยก็ยังขับสบายๆ ส่วนเดย์ไลท์ก็สบายชัดเจนดี ตอนกลางวันชัดมากๆ ขับออกทริปเป็นขบวนเห็นรถในขบวนชัดเจนไม่ว่าจะขับห่างกันแค่ไหน
2.ล้ออัลลอย 17นิ้ว รัดด้วยยาง Michelin Primacy LC อายุ 1 ปีนิดๆ ขนาด 215/50/17 ล้อดูใหญ่และสวยดี เกาะถนนดีเยี่ยม(ไว้เล่าให้ฟังในหัวข้อสมรรถณะของรถนะครับ)
สิ่งที่ผมไม่ชอบ
1.ประตูท้ายหนักมากๆ ต้องใช้แรงยกช่วงแรกพอควร สงสารผู้หญิงตัวเล็กๆถ้าต้องเปิดประตูท้ายรถเพื่อเก็บของหรือเอาของจริงๆ มันหนักเกินไป
มาถึงเรื่องสมรรถณะของเครื่องยนต์และเกียร์กันบ้าง
1.การขับขี่ด้วยเกียร์ D
-ช่วงความเร็ว 0-40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเกียร์ D เป็นช่วงนี้สร้างรำคาญใจให้ผมมาที่สุด เพราะมันมาช้า คันเร่งดีเลย์นานเกินไป และเกียร์ค่อนข้างไม่ฉลาดเอาซะเลย จังหวะที่ออกตัวจากซอยหรือยูเทิร์นไปถนนใหญ่นี้หวาดเสียวเลย เพราะผมเหยียบคันเร่งไปแล้วราว30% คันเร่งก็ดีเลย์กว่าจะออกรถ และไต่ความเร็วช้ามากๆ แถมมีอาการกระตุกของเกียร์ให้น่ารำคาญอีกต่างหาก จนผมต้องเหยียบคันเร่งให้มิดไปเลย เพื่อจะได้ออกถนนใหญ่อย่างปลอดภัย (All New City ผมยังออกตัวได้ดีกว่า)
-ช่วงความเร็วตั้งแต่ 40-180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเกียร์ D ทำได้ค่อนข้างดี เปลี่ยนเกียร์ไหลลื่นดี ใช้เวลาไต่ความเร็วไม่นาน จังหวะเร่งแซงกดคันเร่งเพิ่มไปหน่อย สมองกลก็ลดเกียร์ให้ลากรอบแซงได้อย่างง่ายดาย (สรุปสั้นๆ เลย 40 ขึ้นไปแล้ว เกียร์ D ใช้งานได้ดีมาก)
2.การขับขี่ด้วยเกียร์ S
-เนื่องจากผมมีปัญหากับการออกด้วยเกียร์ D มากๆ เลยหันมาใช้เกียร์ S แทน ผลคือ ออกตัวดีขึ้นเยอะ แต่คันเร่งก็ยังดีเลย์ให้เห็นอยู่บ้าง แต่ก็หน่อยกว่าเกียร์ D อันนั้นดีเลย์นานเกิน การออกตัวด้วยเกียร์ S นี้ทำให้ผมสบายใจขึ้นมากๆ ไม่สร้างจังหวะหวาดเสียวให้ผมเลย เหยียบปุ๊บรอบพุ่งทะยานไปอย่างง่ายดาย
-แต่สิ่งขัดใจผมในเกียร์ S คือการทำงานของปุ่ม+/-บนหัวเกียร์ ทำงานค่อนข้างช้า และเวลาผมลากรอบสูงๆ ผมรอเปลี่ยนเกียร์ที่ 6000รอบ พอจังหวะที่ผมกดปุ่ม + ไปแล้วแต่เกียร์ดีเลย์ไม่เปลี่ยนให้ทันที ทำให้รอบเข้าใกล้ 7000รอบ เกียร์ก็จัดการเปลี่ยนเกียร์ให้ผมเอง พร้อมรับคำสั่งเปลี่ยนเกียร์จากที่ผมกดไปด้วย ผลคือ จากเกียร์ S2 มันเปลี่ยนไปให้2เกียร์ เป็น S4 ทันที ทำให้ผมเสียจังหวะและเป็นแบบนี้หลายรอบมากๆ
3.การผสมผสานการขับขี่ด้วยเกียร์ D และ S
-จากที่ผมกล่าวข้างต้นว่า ผมเลยปรับวิธีการขับให้เข้ากับที่ผมชอบและรู้สึกดีมากที่สุด ผมเลยออกตัวด้วยเกียร์ S และขับต่อไปด้วยเกียร์ D จากการขับแบบนี้สร้างความ Happy ให้ผมมากๆ
4.เครื่องยนต์ 2000cc ให้กำลังได้เหลือๆ ทำความเร็วไปถึง 180 โดยที่ไม่ต้องเค้นอะไรมากมาย พลังกำลัง 170 แรงม้านี้เหลือๆจริงๆ แต่สิ่งที่ไม่ชอบคือเสียงเครื่องยนต์ เวลาผมลากรอบโหดๆ มันจะเสียงหอน"วีววววววว...." ฟังแล้วมันดูแปลกๆ แค่นั้นครับ
มาถึงจุดที่ผมชอบมากที่สุดคือ เรื่องสมรรถณะของช่วงล่าง
เป็นอะไรที่ผมคาดหวังไว้มาก เพราะได้ยินมานานแล้วเกี่ยวกับความเทพของช่วงล่างฟอร์ดโฟกัส และสิ่งผมบอกต่อไปนี้ อาจจะดูเว่อร์ไป แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
-มันนิ่ง ใช่ครับมันนิ่งมาก นิ่งชนิดที่ว่าผมเผลอเหยียบไป 140 แบบไม่ได้ตั้งใจบ่อยๆ เพราะมันนิ่งจนผมไม่รู้สึกเลยว่าผมขับเร็ว แถมพวงมาลัยน้ำหนักดีมากๆ มั่นใจมากๆเวลาขับเร็ว และต่อให้ขับยัน 180 ผมว่ามันก็ยังนิ่ง นิ่งชนิดที่ว่าขับแช่ด้วยความเร็วเท่านี้ได้สบายๆ แต่สภาพการจราจรไม่อำนวยให้แช่เท่าไหร่ ตลอดทริปผมเลยขับช่วงความเร็ว 120-160 ยืนพื้นยาวๆแบบสบายๆ (เขาใหญ่ มา กรุงเทพ ระยะทาง 160 กิโล ใช้เวลาแค่ 1ชั่วโมง 15นาที)
-มันนุ่ม ช่วงความเร็วเดินทาง ช่วงล่างซับแรงสะเทือนดีมากๆ หลุมบ่อเล็กๆ รอยต่อถนน เก็บได้เนียนๆ และมีอยู่จังหวะหนึ่ง ผมเผลอขับที่ความเร็ว 120 ขึ้นสะพานข้ามคลอง ตอนที่จะลงสะพาน ผมทำใจแล้วกระแทกสั่นไปทั้งรถแน่ๆ แต่ปรากฏว่า มันลงได้อย่างนิ่มนวล และรีบาวด์ขึ้นมาเบาๆเล็กน้อยทีเดียว ผ่านไปแบบสบายๆจนผมรู้สึกทึ่ง (ถ้าเป็น All New City ผมเจอแบบนี้ คนในรถกระเด็นเด้งไปมากันหมดแล้ว)
-มันหนึบ ไม่ว่าสาดโค้งแรงๆแค่ไหนก็เอาอยู่สบายๆ เกาะนิ่งมั่นใจมากๆ โค้งยาวๆแถมเขาใหญ่นี้ซัด 140 ไม่ต้องเบรคได้เลย
มาถึงเรื่องพวงมาลัย
พวงมาลัยดีมากๆ ความเร็วต่ำเบามุดซ้ายขวาสบายๆพอกับพวงมาลัยฮอนด้า แต่พวงมาลัยในย่านความเร็วสูงหนักแน่นมั่นใจมากๆ ให้ความั่นใจในการขับขี่สุดๆ (ทำไมฮอนด้าไม่ทำแบบนี้บ้าง T^T)
มาถึงเรื่องเบรค
เบรคทำงานพอใช้ได้ แต่ผมยังไม่ชินและจับจุดมันไม่ได้เท่าไหร่ในช่วงแรงๆ เพราะความเร็วต่ำมันจะตื้นๆ แต่ความรับเร็วๆมันดันลึก เลยงงๆเล็กน้อย แต่พอจับจุดได้ก็สบายๆ เป็นเบรคที่ไว้ใจได้ครับ
สุดท้ายผมสรุปให้สั้นๆนะครับ Ford Focus เป็นรถที่ดีมากๆ โดยเฉพาะช่วงล่างนี้เทพสมคำร่ำลือจริงๆ ชวนให้ขับเร็วได้ตลอดเวลา เป็นรถที่ถ้าใช้เดินทางไกลๆนี้ดีมากๆ ให้ความแรง ความปลอดภัยและความสบายสุดๆ แต่จุดที่ต้องปรับปรุงคือเรื่องเกียร์ D ช่วงออกตัว คันเร่งทีดีเลย์จะเยอะไปไหน และดีไซน์ภายในที่ผมว่ามันดูไม่ลงตัวเอาซะเลย น่าจะปรับให้เป็นมิตรกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากกว่านี้ รวมถึงเบาะหลังปรับให้นั่งสบายกว่านี้จะดีมากครับ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านรีวิว ขาดตกผิดพลาดตรงไหน บอกผมได้เลย และขออภัยล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้