แฟนเป็นลูกครึ่งค่ะ วัฒนธรรมต่างกัน(พวกจูบ หอมแก้ม โอบเอว ในที่สาธารณะ)แก้ปัญหายังไงดีคะ

คือแฟนเป็นลูกครึ่ง ไทย-อเมริกาค่ะ เค้าจะถูกสอนมาแบบฝรั่ง พวกโอบเอว จูบ หอมแก้ม ในที่สาธารณะ มองเป็นเรื่องปกติ

"เค้าก็เข้าใจในวัฒนธรรมบ้านเรานะคะ แต่บางทีเค้าก็เผลอตัวอ่ะค่ะ"

เค้าไม่ถือค่ะ.............แต่ว่าเราถือ............
แบบ มีปัญหากันหลายรอบมาก แบบอยู่ๆก็หอมแก้ม บางทีก็แบบโอบเอว จะจูบนี่เคยทีนึง อะไรแบบนี้ในที่สาธารณะ พอเราโกรธ ทำหน้ามุ่ย หงุดหงิด บางทีเราก็ผลักเค้าออกไรงี้อ่ะค่ะ (ผลักออกแบบประมาณว่าอย่าทำ)

ครั้งแรกที่เค้าทำ เค้าเข้ามาหอมแก้มเราในที่สาธารณะ  (หอมแก้มเราก็ถือค่ะ) เราผลักเค้าออกเลยค่ะ เราโกรธเค้าค่ะ สีหน้าออกชัดเลย เเต่เค้า...................... "ทำหน้างงค่ะ" (แบบประมาณว่า หะ?? ทำอะไรผิด)

คือเค้าเข้าใจวัฒนธรรมบ้านเราค่ะ แต่เค้าชอบเผลอตัวอ่ะค่ะ เลยทำให้เราหงุดหงิดอยู่บ่อยๆ แบบบางทีคนอื่นเค้าก็มองด้วยสายตาแปลกๆ เราเข้าใจค่ะ เราก็ไม่ได้อยากให้เค้าทำ เราก็ไม่ชอบสายตาของคนอื่นที่มองแบบนั้น แต่เค้าชอบเผลอทำอ่ะค่ะ เค้าไม่ได้ตั้งใจนะคะ แต่ประมาณว่า มันติดอ่ะค่ะ

มีปัญหากันบ่อยมาก บางทีแบบเที่ยวด้วยกันอยู่ดีๆกำลังอารมณ์ดีๆก็ต้องมาทะเลาะกัน อารมณ์เสียกันเรื่องนี้ แรกๆเค้าก็เข้าใจนะคะ ว่าแบบ ทำงี้ทำงั้นไม่ได้นะ  แต่พอหลังๆมา เค้าไม่คุยกับเราค่ะ พอเราผลักเค้าออก เค้าก็ชักสีหน้าบ้าง เค้าเริ่มรำคาญ ทำอะไรก็ต้องมาคอยระวังว่าตัวเองจะทำผิดวัฒนธรรม บางทีเค้าก็มาบ่นนะคะ ว่าแบบ แค่นี้มันจะเกิดความเสียหายยังไง มันผิดตรงไหน (ในความคิดเค้ามันก็คงเป็นเรื่องเล็กน้อยแหละค่ะ)

1. จะแก้ปัญหาตรงจุดนี้ยังไงคะ เราก็อยากให้เค้าไม่อยากเกร็งเวลาอยู่กับเรา เราก็ไม่อยากหงุดหงิด และเราก็ไม่อยากให้คนอื่นมองไม่ดีด้วย อย่าคิดเรื่องที่
"เดี๋ยวก็ชินไปเอง" ค่ะ เพราะเป็นมานานแล้ว และไม่ชิน มี ปัญหากันบ่อย


2.ลองนึกภาพตามนะคะ ว่าถ้าคุณเห็นผู้หญิงไทยตัวเล็กๆเดินคู่กับฝรั่งตัวสูงๆขาวๆ(เค้าเป็นลูกครึ่งแต่หน้าฝรั่งจ๋าเลยค่ะ ไม่บอกไม่มีใครรู้ว่ามีเชื้อไทย)
แล้วแบบ อยู่ข้างถนน อยู่ๆฝ่ายชายก็โอบเอวแล้วก้มลงมาหอมแก้ม ถ้าหากว่าคุณยืนอยู่ตรงนั้นคุณจะคิดยังไงคะ




*******ขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้าค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณมีดีพอสำหรับเขาและเขามีดีพอสำหรับคุณ เช่นถ้ามี 10 เรื่อง คุณก็ไปกันได้ 8 เรื่อง แบบนี้ก็คงไม่แปลกถ้ายังคิดจะคบต่อ

เวลาผมอ่านกระทู้ ผมจะอ่านอย่างค่อนข้างละเอียด และพออ่านจบทำให้พบว่าปัญหาจุกจิกอันนี้เป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับคู่ของคุณและก็เป็นปัญหาเรื้อรังมานานตามที่คุณเขียนออกมา จนถึงกับพูดว่าจขกทไม่มีทางชินได้ มันก็แปลกๆอยู่นะถ้าคุณจะคบกันต่อไป

คู่รักที่คบกันจนแก่เฒ่า ก็ยังไม่เคยเห็นคู่ไหนที่ไปกันได้ทุกเรื่องหรอกนะครับแต่ที่แน่นอนคือในเรื่องที่เขาไปกันไม่ได้ เขาต่างยอมรับในความแตกต่างของกันและกันได้ครับ ซึ่งจากที่อ่านมาผมว่าคู่ของคุณไม่มีตรงนี้อะ ถึงไปกันได้ 9 เรื่องแต่อีก 1 เรื่องที่เหลือ คุณยอมรับมันไม่ได้ มันก็กินแหนงแคลงใจแบบนี้ไปตลอด ปัญหาแบบนี้มันไม่ควรจะเกิดครับ ถ้ายังคิดจะคบกันต่อไป ไม่คุณก็เขาต้อง "ยอมรับ" ให้ได้อะ แล้วจขกทว่าเปลี่ยนตัวเองหรือเปลี่ยนคนอื่นง่ายกว่ากัน และถ้าจะพูดแบบตรงสุดๆก็คือ จริงๆแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องยอมรับหรือเปลี่ยนแปลงด้วย เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรผิด คุณก็ไม่ได้ทำอะไรผิด

คือถ้าจะให้ยอมรับแบบกล้ำกลืนก็ยอมหักไปเลยดีกว่า 555 ยังไงก็ลองดูแระกันครับ เพราะถ้ายอมรับไม่ได้ก็จะมีปัญหาแบบนี้ไปเรื่อยๆแล้วคือมันไม่ใช่เรื่องดีอะ มันสะสมด้วย เรื่องไม่เป็นเรื่องมากๆ

การแก้ปัญหามันก็มีอยู่อย่างเดียวนั่นแหละ คือไม่คุณก็เขาต้องยอมรับเรื่องนี้ให้ได้ แต่ถามว่าจำเป็นต้องยอมรับหรือเปล่า ทำไมจะต้องบังคับคนอื่นหรือตัวเองด้วยล่ะ แต่ถ้าจขกทจะยอมรับได้ด้วยตัวเองก็คงเป็นอะไรที่ง่ายที่สุด แต่ถ้ายอมรับไม่ได้แล้วจะดึงดันคบกันต่อเพราะคิดว่าเข้ากันได้ถึง 9 เรื่อง พอมองจากมุมคนนอกแล้วมันแปลกๆนะ เพราะการเป็นแฟนกันนอกจากจะต้องไปกันได้ในหลายๆเรื่องแล้ว ยังต้องยอมรับกันให้ได้ในทุกเรื่องด้วยครับ การยอมรับไม่ได้หมายถึงเห็นด้วยแต่หมายถึงรับได้ว่ามันต้องเป็นแบบนี้ ไม่ถือสา ถ้ามีเรื่องไหนที่ยอมรับกันไม่ได้ มันจะทะเลาะกันแบบเรื้อรังอะ แล้ววันหนึ่งมันจะกลายเป็นอะไรที่แบบไม่ดีอะ มันไม่ใช่การทะเลาะกันแบบหวานแหววพ่อแง่แม่/งอนที่มาๆแล้วก็จบๆไปนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่