สวัสดีอย่างอื่นเลยขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านข้อความนี่ ,
ผมหวังว่าข้อความนี้อาจจะเป็นประโยชน์ให้ใครหลายๆคนหรือผู้ชายหลายๆท่านไม่มากก็น้อยน้ะครับ
ทุกเรื่องและทุกคำพูดที่ผมพิมพ์เป็นความจริงทั้งหมดแต่ขอไม่เอ่ยชื่อของเขาละะกันครับเพราะอาจจะเป็นกระทบต่อชีวิตเขาได้
เข้าเรื่องเลยนะครับ ผมมีแฟนอยู่คนนึงซึ่งเขาเป็นคนหน้าตาดีมากจัดได้ว่าน่ารักสุดๆเป็นที่หมายปองของใครหลายๆคนในวิทยาลัยเลยก็ว่าได้ บังเอิญว่าเราได้ไปเข้าค่ายละลายพฤติกรรมของทางวิทยลัยด้วยกัน ซึ่งผมนั้นได้อยู่กลุ่มเดียวกับเธอมันเลยทำให้เวลาที่อยู่ด้วยกันบ่อย ช่วงเวลาเข้าค่ายนั้น ทำให้ผมได้ชอบเธอในตัวเธอขึ้นมาแต่ก็บอกไม่ได้เพราะเธอเป็นรุ่นพี่ผม (ลืมบอกไปว่าผมเป็นเด็กปีหนึ่งครับ) หลังจากเข้าค่ายกลับมา ผมได้เจอเธออีกครั้งเพราะผมจอดรถด้านล่างอาคารเรียน ซึ่งวันนั้นเธอเดินมาที่ตึกของผม เลยทำให้มีโอกาสเจอเธออีกครั้ง ไอผมก็ไม่กล้าที่จะขอเบอร์เธอหรอกครับกลัวจะหน้าแหก แต่เกมส์มันพลิกล็อคครับ เธอแซวผมและขออีเมลเฟชบุ๊กผมเฉย (5555+ เข้าทางหล่ะทีนี้) แต่หลังจากวันนั้นผมก็เช็คตลอดเวลาว่าเธอจะขอเพื่อนมาไหม แต่ก็ไม่ครับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งผมไปเจอเฟสของเธอกำลังสนทนากับเพื่อนร่วมของผม ผมเลยเข้าไปแซว (ตั้งใจว่าจะเผยตัวตน ฮ่า ๆ) เธอก็คงงหน่ะครับว่าไอนี่มันใครมาแซวเราทำไม ผมก็ไม่ได้รอช้าน้ะครับ ขอเพิ่มเพื่อนเธอให้ไวเลยตอนนั้น ไหนๆก็เจอแล้วก็เพิ่มเองเลยละกัน 5555 ปรากฏว่าเธอรับครับ ไอผมนี่แทบจะกระโดดรอบบ้านเลยหล่ะ หลังจากนั้นผมก็คุยกับเธอมาเรื่อยและเปลี่ยนมาคุย MsN กัน ประมาณ2-3เดือนกว่า ผมก็เลยขอเธอเป็นแฟนครับ แล้วเธอก็ตอบตกลงด้วย ฮ่า ๆ พอเวลาผ่านไปๆ ทำให้ผมอยากจะเจอเธออีกครั้ง ( ตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอมครับ ) ผมก็เลยขอเจอเธอแบบดื้อๆ เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรแต่กรากฏว่าเธอไม่มาครับ 555555 พอตกกลางคืนผมเลยทักMsNไปว่า " ทำไมวันนี้ไม่มาหว่า " เขาตอบว่าไม่สบายหรืออะไรซักอย่างเนี่ยแหละครับทำให้ผมขอนัดอีกครั้ง คราวนี้เธอมาครับ ช่วงนั้นเป็นช่วงน้ำท่วมครับ และเป็นช่วงที่แม่ของผมเข้าโรงพยาบาลพอดี ผมเลยได้อยู่กับเธอแค่สองคนเพราะพ่อของผมต้องไปเฝ้าแม่ที่รพ. ทำให้เราอยู่ด้วยกันทั้งวัน พอหัวค่ำพ่อก็กลับมา มันเป็นจังหว่ะเดียวกับที่ผมกำลังจะไปส่งเธอกลับบ้านพอดี ในใจผมคิดว่างานงอกแล้วจ้ะเอ๋กับพ่อเฉย แต่เปล่าครับพ่อผมกลับยิ้มแล้วถามว่า อ่าว ! กินข้าวรึยังลูก ทำให้ผมนี่ยิ้มแบบว่าหุบไม่ได้เลยทีเดียว (ปกติพ่อผมเป็นคนที่โคตรของโคตรจะดุเลย) หลังจากสนทนากันซักพักผมก็ไปส่งเธอ แล้วเราก็กลับมาคุยใน MsN กันต่อ ก็คุยเรื่องต่างๆเหมือนเช่นเคย เวลาก็ล่วงเลยไปประมาณ 8เดือนกว่า ตอนนั้น ผมยอมรับเลยครับ ผมคงหมดโปรจริงๆ ทำให้ทุกๆวันเราก็ทะเลาะกัน จนถึงขั้นบอกเลิกกันเลยทีเดียวแต่ผมก็ง้อครับเพราะว่าผมก็รักเธอจริงๆ ความรักของเราก็ผ่านไปเรื่อยๆ ทุกเทศกาลหรือไม่ว่าจะมีอะไร ผมจะมีเธออยู่ข้างๆตลอดเลย แต่ พอผ่านไปปีกว่าของรักเรามันก็เริ่มจะเปลี่ยนไป อาจเป็นเพราะว่าคิดกันคนละแบบ ทำให้ทะเลาะกันจนมีปากเสียง *(ผมลืมบอกไป เราคบกันได้สักพัก ก็ได้มาอยู่ด้วยกัน) ถึงขั้นรุนแรงมากเลยทีเดียว ทำให้เธอเก็บข้าวของกลับไปอยู่แต่ผมก็ไม่ได้ห้ามเธอเลยนะครับ "เพราะผมเคารพการตัดสินใจของเธอ" เลยทำให้คิดว่าสิ่งที่เธอคิดมันคงดีสำหรับเธอแล้ว จากวันนั้นเราก็ห่างกัน เธองานแถวบ้าน ได้เจอเพื่อนใหม่ เจอแฟนใหม่ เราก็เลยเลิกกัน ผมก็มานั่งคิดทบทวนว่าเวลาที่ผ่านมา ผมทำอะไรไม่ดีลงไปบ้างมันพอจะแก้ไขได้ไหม แต่มันก็ไม่ทันแล้วครับ ผมเลยต้องใช้ชีวิตของผมต่อไป ผมได้เจอผญ.คนนึงซึ่งเธอดีกับผมมาก เราไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยมาก จนกระทั่งความรักครั้งใหม่ของผม ผ่านไป 5 เดือนกว่า *เธอก็กลับมา* ในใจตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูก วันเวลาเก่าๆสิ่งที่ผมหยุดคิดถึงมันก็กลับเข้ามาในหัวผม ผมก็คุยกับเธอเรื่อยๆ จนวันนึงผมตัดสินใจ ทำร้ายผู้หญิงคนนึงที่เข้าไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วยการกลับไปหาเธอคนนั้น พอกลับมาคบกัน สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือ มันไม่เหมือนเดิมครับ ความคิดของผมมันเปลี่ยนไป ผมกลัวว่าจะเป็นแบบเดิมอีก แต่ผมก็คิดไว้ว่า เอาหน่ะ อย่างน้อยเราก็ยังรักเขาอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะรักเราเหมือนกับที่เรารักไหม หลังจากที่เรากลับมาคบกันได้สักพัก สิ่งต่างๆเกิดขึ้นหลายๆอย่าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ จะว่าดีหรือร้าย อันนี้ผมก็ตบไม่ได้เหมือนกันครับ เพราะว่าเธอกำลังจะมีน้อง ซึ่งนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ควรครับ แต่ในเมื่อมันกำลังจะมีอีกชีวิตนึงลืมตาขึ้นมา จะให้ไปทำร้ายเขาอันนี้ผมรับไม่ได้ครับ ผมเลยขอไว้ว่า อย่าเอาออกน้ะ เราเลี้ยงได้ เขาไม่รู้เรื่องอะไรอย่าไปทำร้ายเขาเลย เขาก็ยอมครับ จนถึงวันที่ลูกลืมตาขึ้นมาดูโลกมันเป็นวันที่ผมน้ำตาไหลและกีใจมากที่สุด เพราะ วันเกิดของเราเรียงกันทั้งสามคน....หลังจากที่อีกชีวิตนึงลืมตาขึ้นมา อะไรหลายๆอย่างมันก็เข้ามาพร้อมกันทีเดียวหมดทุกอย่าง ผมยอมรับเลยครับ ผมปรับไม่ทันจริงๆ มันทำให้อะไรหลายๆอย่างที่คิดว่ากำลังจะดีขึ้น กลับแย่ลงไปหมด ผมท้อครับพูดตรงๆเลย ผมเสียศูนย์ไปเลยเพราะผมรู้อะไรมาบางอย่าง หลังจากนั้น เธอก็ทำงานครับ ผมก็ไปรับไปส่ง ซึ่งตอนนั้นลูกไม่ได้อยู่กลับเรา เพราะเราต้องทำงานหาเงินเพื่อจะได้มีอะไรๆให้กับเขา ผมไปรับ ไปส่งเขาทำงาน ทุกวัน ซึ่งนั่นมันเป็นสิ่งที่ต้องทำครับ มาวันนึงเธอบอกว่าเธอเหนื่อย เธออยากกลับไปทำแถวบ้านเธอ (ขอโทษลืมบอกไปว่า บ้านเราอยู่ไกลกันมาก ราวกับคนละขั้วโลกเลยแหล่ะครับ) เพื่อจะได้ดูแลแม่เธอ ผมก็อยากตอบตกลงน้ะครับ เพราะว่ามันเป็นความคิดที่ดีและอีกอย่างเธอคงเดินทางไม่เหนื่อยเหมือนค่ผ่านมาด้วยเพราะแถวบ้านเธอที่ทำงานเยอะมาก แต่อีกใจผมก็กลัวว่ามันจะเป็นเหมือนคราวที่แล้ว ที่เธอกลับไปอยู่บ้านของเธอแล้วเราก็เลิกกัน ผมเลยตัดสินใจไม่ให้เธอกลับไป มันฟังอาจจะดูเลวๆน้ะครับ แต่ความคิดของคนเราไม่เหมือนกันหนิครับ หลังจากผ่านวันนั้นมาผมก็ยังไปส่งเธอเหมือนทุกครั้ง แต่แล้วเราก็ทะเลากันรุนแรงมากเลยทีเดียว เธอเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเก็บข้าวเก็บของเตรียมตัวจะกลับบ้าน คราวนี้ผมยอมปล่อยเธอไปครับ เพราะว่าผมคงรั้งเธอไม่ได้แล้ว ความรู้สึกผมมันบอกว่าตั้งแต่กลับมาคบกันเธอไม่ได้รักผมเลยซักนิดหรือว่าเธอต้องการเอาคืนผมกับสิ่งที่ผมเคยได้ทำร้ายเธอลงไปผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน จากวันนั้นเธอที่เดินออกจากบ้านไปผมก็ไม่ได้ติดต่อเธออีกเลย มารู้ข่าวคราวอีกที เธอก็มีคนใหม่ไปแล้ว ผมก็เลยเอาลูกกลับมาเลี้ยงที่บ้านของผม และคิดว่าผมกับเธอคงไม่มีวันที่จะกลับมาเป็นครอบครัวกันได้อีก....
สุดท้ายครับ ผมแค่อยากจะบอกว่า ไม่ว่าเรื่องเล็กๆน้อยอะไรก็ตามที่ผิดใจกัน ยอมได้ก็ยอม เคลียร์ได้ก็เคลียร์ครับ อย่าปล่อยให้มันผ่านไป เพราะเราไม่รู้ว่าอีกคนจะลืมมันเหมือนเราหรือเปล่า ทุกวันเวลาที่เราอยู่ด้วยกันเราไม่รู้ว่าวันไหนมันจะเป็นวันสุดท้ายของเราฉะนั้นทำให้มันมีค่าที่สุดเลยครับ
ผมอยากจะขอคำแนะนำว่าผมควรจะทำยังไงต่อไปดี เพราะตอนนี้ผมหมดแรงที่จะก้าวไปต่อแล้วครับ บอกตรงๆเลยครับ ผมไม่ได้หลับได้นอนเต็มที่ มา 2 อาทิตย์แล้ว รบกวนแนะนำผมทีครับ , ผมอยากจะขอโทษเธอกับสิ่งที่ไม่ดีและร้ายที่ผมได้ทำลงไปตลอดเวลาที่ผ่าน ขอโทษจริงๆ
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านข้อความนี้จากใจจริงๆครับ -/\- ผมอยากให้เขาได้รับรู้ว่าทุกๆเรื่องราวที่ผ่านมาผมยังจำมันได้
ฝากทุกๆท่านแชร์ด้วยน้ะครับ เพื่อว่ามันจะทำให้เขาได้รับรู้ว่าผมยังคิดถึงเขาเหมือนวันแรกๆตลอดมา
อุทาหรณ์ ของคำว่า " ละเลย "
ผมหวังว่าข้อความนี้อาจจะเป็นประโยชน์ให้ใครหลายๆคนหรือผู้ชายหลายๆท่านไม่มากก็น้อยน้ะครับ
ทุกเรื่องและทุกคำพูดที่ผมพิมพ์เป็นความจริงทั้งหมดแต่ขอไม่เอ่ยชื่อของเขาละะกันครับเพราะอาจจะเป็นกระทบต่อชีวิตเขาได้
เข้าเรื่องเลยนะครับ ผมมีแฟนอยู่คนนึงซึ่งเขาเป็นคนหน้าตาดีมากจัดได้ว่าน่ารักสุดๆเป็นที่หมายปองของใครหลายๆคนในวิทยาลัยเลยก็ว่าได้ บังเอิญว่าเราได้ไปเข้าค่ายละลายพฤติกรรมของทางวิทยลัยด้วยกัน ซึ่งผมนั้นได้อยู่กลุ่มเดียวกับเธอมันเลยทำให้เวลาที่อยู่ด้วยกันบ่อย ช่วงเวลาเข้าค่ายนั้น ทำให้ผมได้ชอบเธอในตัวเธอขึ้นมาแต่ก็บอกไม่ได้เพราะเธอเป็นรุ่นพี่ผม (ลืมบอกไปว่าผมเป็นเด็กปีหนึ่งครับ) หลังจากเข้าค่ายกลับมา ผมได้เจอเธออีกครั้งเพราะผมจอดรถด้านล่างอาคารเรียน ซึ่งวันนั้นเธอเดินมาที่ตึกของผม เลยทำให้มีโอกาสเจอเธออีกครั้ง ไอผมก็ไม่กล้าที่จะขอเบอร์เธอหรอกครับกลัวจะหน้าแหก แต่เกมส์มันพลิกล็อคครับ เธอแซวผมและขออีเมลเฟชบุ๊กผมเฉย (5555+ เข้าทางหล่ะทีนี้) แต่หลังจากวันนั้นผมก็เช็คตลอดเวลาว่าเธอจะขอเพื่อนมาไหม แต่ก็ไม่ครับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งผมไปเจอเฟสของเธอกำลังสนทนากับเพื่อนร่วมของผม ผมเลยเข้าไปแซว (ตั้งใจว่าจะเผยตัวตน ฮ่า ๆ) เธอก็คงงหน่ะครับว่าไอนี่มันใครมาแซวเราทำไม ผมก็ไม่ได้รอช้าน้ะครับ ขอเพิ่มเพื่อนเธอให้ไวเลยตอนนั้น ไหนๆก็เจอแล้วก็เพิ่มเองเลยละกัน 5555 ปรากฏว่าเธอรับครับ ไอผมนี่แทบจะกระโดดรอบบ้านเลยหล่ะ หลังจากนั้นผมก็คุยกับเธอมาเรื่อยและเปลี่ยนมาคุย MsN กัน ประมาณ2-3เดือนกว่า ผมก็เลยขอเธอเป็นแฟนครับ แล้วเธอก็ตอบตกลงด้วย ฮ่า ๆ พอเวลาผ่านไปๆ ทำให้ผมอยากจะเจอเธออีกครั้ง ( ตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอมครับ ) ผมก็เลยขอเจอเธอแบบดื้อๆ เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรแต่กรากฏว่าเธอไม่มาครับ 555555 พอตกกลางคืนผมเลยทักMsNไปว่า " ทำไมวันนี้ไม่มาหว่า " เขาตอบว่าไม่สบายหรืออะไรซักอย่างเนี่ยแหละครับทำให้ผมขอนัดอีกครั้ง คราวนี้เธอมาครับ ช่วงนั้นเป็นช่วงน้ำท่วมครับ และเป็นช่วงที่แม่ของผมเข้าโรงพยาบาลพอดี ผมเลยได้อยู่กับเธอแค่สองคนเพราะพ่อของผมต้องไปเฝ้าแม่ที่รพ. ทำให้เราอยู่ด้วยกันทั้งวัน พอหัวค่ำพ่อก็กลับมา มันเป็นจังหว่ะเดียวกับที่ผมกำลังจะไปส่งเธอกลับบ้านพอดี ในใจผมคิดว่างานงอกแล้วจ้ะเอ๋กับพ่อเฉย แต่เปล่าครับพ่อผมกลับยิ้มแล้วถามว่า อ่าว ! กินข้าวรึยังลูก ทำให้ผมนี่ยิ้มแบบว่าหุบไม่ได้เลยทีเดียว (ปกติพ่อผมเป็นคนที่โคตรของโคตรจะดุเลย) หลังจากสนทนากันซักพักผมก็ไปส่งเธอ แล้วเราก็กลับมาคุยใน MsN กันต่อ ก็คุยเรื่องต่างๆเหมือนเช่นเคย เวลาก็ล่วงเลยไปประมาณ 8เดือนกว่า ตอนนั้น ผมยอมรับเลยครับ ผมคงหมดโปรจริงๆ ทำให้ทุกๆวันเราก็ทะเลาะกัน จนถึงขั้นบอกเลิกกันเลยทีเดียวแต่ผมก็ง้อครับเพราะว่าผมก็รักเธอจริงๆ ความรักของเราก็ผ่านไปเรื่อยๆ ทุกเทศกาลหรือไม่ว่าจะมีอะไร ผมจะมีเธออยู่ข้างๆตลอดเลย แต่ พอผ่านไปปีกว่าของรักเรามันก็เริ่มจะเปลี่ยนไป อาจเป็นเพราะว่าคิดกันคนละแบบ ทำให้ทะเลาะกันจนมีปากเสียง *(ผมลืมบอกไป เราคบกันได้สักพัก ก็ได้มาอยู่ด้วยกัน) ถึงขั้นรุนแรงมากเลยทีเดียว ทำให้เธอเก็บข้าวของกลับไปอยู่แต่ผมก็ไม่ได้ห้ามเธอเลยนะครับ "เพราะผมเคารพการตัดสินใจของเธอ" เลยทำให้คิดว่าสิ่งที่เธอคิดมันคงดีสำหรับเธอแล้ว จากวันนั้นเราก็ห่างกัน เธองานแถวบ้าน ได้เจอเพื่อนใหม่ เจอแฟนใหม่ เราก็เลยเลิกกัน ผมก็มานั่งคิดทบทวนว่าเวลาที่ผ่านมา ผมทำอะไรไม่ดีลงไปบ้างมันพอจะแก้ไขได้ไหม แต่มันก็ไม่ทันแล้วครับ ผมเลยต้องใช้ชีวิตของผมต่อไป ผมได้เจอผญ.คนนึงซึ่งเธอดีกับผมมาก เราไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยมาก จนกระทั่งความรักครั้งใหม่ของผม ผ่านไป 5 เดือนกว่า *เธอก็กลับมา* ในใจตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูก วันเวลาเก่าๆสิ่งที่ผมหยุดคิดถึงมันก็กลับเข้ามาในหัวผม ผมก็คุยกับเธอเรื่อยๆ จนวันนึงผมตัดสินใจ ทำร้ายผู้หญิงคนนึงที่เข้าไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วยการกลับไปหาเธอคนนั้น พอกลับมาคบกัน สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือ มันไม่เหมือนเดิมครับ ความคิดของผมมันเปลี่ยนไป ผมกลัวว่าจะเป็นแบบเดิมอีก แต่ผมก็คิดไว้ว่า เอาหน่ะ อย่างน้อยเราก็ยังรักเขาอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะรักเราเหมือนกับที่เรารักไหม หลังจากที่เรากลับมาคบกันได้สักพัก สิ่งต่างๆเกิดขึ้นหลายๆอย่าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ จะว่าดีหรือร้าย อันนี้ผมก็ตบไม่ได้เหมือนกันครับ เพราะว่าเธอกำลังจะมีน้อง ซึ่งนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ควรครับ แต่ในเมื่อมันกำลังจะมีอีกชีวิตนึงลืมตาขึ้นมา จะให้ไปทำร้ายเขาอันนี้ผมรับไม่ได้ครับ ผมเลยขอไว้ว่า อย่าเอาออกน้ะ เราเลี้ยงได้ เขาไม่รู้เรื่องอะไรอย่าไปทำร้ายเขาเลย เขาก็ยอมครับ จนถึงวันที่ลูกลืมตาขึ้นมาดูโลกมันเป็นวันที่ผมน้ำตาไหลและกีใจมากที่สุด เพราะ วันเกิดของเราเรียงกันทั้งสามคน....หลังจากที่อีกชีวิตนึงลืมตาขึ้นมา อะไรหลายๆอย่างมันก็เข้ามาพร้อมกันทีเดียวหมดทุกอย่าง ผมยอมรับเลยครับ ผมปรับไม่ทันจริงๆ มันทำให้อะไรหลายๆอย่างที่คิดว่ากำลังจะดีขึ้น กลับแย่ลงไปหมด ผมท้อครับพูดตรงๆเลย ผมเสียศูนย์ไปเลยเพราะผมรู้อะไรมาบางอย่าง หลังจากนั้น เธอก็ทำงานครับ ผมก็ไปรับไปส่ง ซึ่งตอนนั้นลูกไม่ได้อยู่กลับเรา เพราะเราต้องทำงานหาเงินเพื่อจะได้มีอะไรๆให้กับเขา ผมไปรับ ไปส่งเขาทำงาน ทุกวัน ซึ่งนั่นมันเป็นสิ่งที่ต้องทำครับ มาวันนึงเธอบอกว่าเธอเหนื่อย เธออยากกลับไปทำแถวบ้านเธอ (ขอโทษลืมบอกไปว่า บ้านเราอยู่ไกลกันมาก ราวกับคนละขั้วโลกเลยแหล่ะครับ) เพื่อจะได้ดูแลแม่เธอ ผมก็อยากตอบตกลงน้ะครับ เพราะว่ามันเป็นความคิดที่ดีและอีกอย่างเธอคงเดินทางไม่เหนื่อยเหมือนค่ผ่านมาด้วยเพราะแถวบ้านเธอที่ทำงานเยอะมาก แต่อีกใจผมก็กลัวว่ามันจะเป็นเหมือนคราวที่แล้ว ที่เธอกลับไปอยู่บ้านของเธอแล้วเราก็เลิกกัน ผมเลยตัดสินใจไม่ให้เธอกลับไป มันฟังอาจจะดูเลวๆน้ะครับ แต่ความคิดของคนเราไม่เหมือนกันหนิครับ หลังจากผ่านวันนั้นมาผมก็ยังไปส่งเธอเหมือนทุกครั้ง แต่แล้วเราก็ทะเลากันรุนแรงมากเลยทีเดียว เธอเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเก็บข้าวเก็บของเตรียมตัวจะกลับบ้าน คราวนี้ผมยอมปล่อยเธอไปครับ เพราะว่าผมคงรั้งเธอไม่ได้แล้ว ความรู้สึกผมมันบอกว่าตั้งแต่กลับมาคบกันเธอไม่ได้รักผมเลยซักนิดหรือว่าเธอต้องการเอาคืนผมกับสิ่งที่ผมเคยได้ทำร้ายเธอลงไปผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน จากวันนั้นเธอที่เดินออกจากบ้านไปผมก็ไม่ได้ติดต่อเธออีกเลย มารู้ข่าวคราวอีกที เธอก็มีคนใหม่ไปแล้ว ผมก็เลยเอาลูกกลับมาเลี้ยงที่บ้านของผม และคิดว่าผมกับเธอคงไม่มีวันที่จะกลับมาเป็นครอบครัวกันได้อีก....
สุดท้ายครับ ผมแค่อยากจะบอกว่า ไม่ว่าเรื่องเล็กๆน้อยอะไรก็ตามที่ผิดใจกัน ยอมได้ก็ยอม เคลียร์ได้ก็เคลียร์ครับ อย่าปล่อยให้มันผ่านไป เพราะเราไม่รู้ว่าอีกคนจะลืมมันเหมือนเราหรือเปล่า ทุกวันเวลาที่เราอยู่ด้วยกันเราไม่รู้ว่าวันไหนมันจะเป็นวันสุดท้ายของเราฉะนั้นทำให้มันมีค่าที่สุดเลยครับ
ผมอยากจะขอคำแนะนำว่าผมควรจะทำยังไงต่อไปดี เพราะตอนนี้ผมหมดแรงที่จะก้าวไปต่อแล้วครับ บอกตรงๆเลยครับ ผมไม่ได้หลับได้นอนเต็มที่ มา 2 อาทิตย์แล้ว รบกวนแนะนำผมทีครับ , ผมอยากจะขอโทษเธอกับสิ่งที่ไม่ดีและร้ายที่ผมได้ทำลงไปตลอดเวลาที่ผ่าน ขอโทษจริงๆ
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านข้อความนี้จากใจจริงๆครับ -/\- ผมอยากให้เขาได้รับรู้ว่าทุกๆเรื่องราวที่ผ่านมาผมยังจำมันได้
ฝากทุกๆท่านแชร์ด้วยน้ะครับ เพื่อว่ามันจะทำให้เขาได้รับรู้ว่าผมยังคิดถึงเขาเหมือนวันแรกๆตลอดมา