Interstellar กับความหมายของโปรเจ็ค Lazarus และแง่มุมอื่นๆในเชิงศาสนา (Spoil)

ขอบอกความรู้สึกส่วนตัวก่อนการไปดูหนังเรื่อง Interstellar : ในใจก็คิดว่า มันคงเป็นหนัง Pure Science (วิทยาศาสตร์เน้นๆ)
แต่พอขณะกำลังดูไปถึงฉาก : ที่รู้ว่าชั้นหนังสือมันหล่นเป็นรหัสมอสเพราะอะไร กับเข็มนาฬิกากระดิกเพราะอะไร ถึงกับฮาแตก
จริงๆมันก็เป็นวิทยาศาสตร์ที่โม้ตามทฤษฎีมาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Plan A-B , เตียงนอนหลับยาว , หุ่นยนต์สารพัดประโยชน์ ฯลฯ
จะให้มันโม้ไปมิติกาลเวลาก็คงไม่แปลกอะไร ผมเลยให้คำจำกัดความว่า "เป็นหนังไซไฟ-แฟนตาซี"
ประมาณว่าเรื่องแบบนี้มันคงไม่แปลกอะไรถ้าไปอยู่ในหนังแบบ Star Wars / Star Trek แต่นี่มันมาอยู่ในหนังแบบดราม่าโลกแตก

เข้าเรื่องของ Lazarus (ลาซารัส)
นี่เป็นบุคคลหนึ่งที่ถูกบันทึกในพระคัมภีร์ Bible พระธรรมยอห์น บทที่ 11 เรื่องราวคร่าวๆ ดังนี้

ลาซารัสกำลังป่วย พี่สาว2คน จึงให้คนไปบอกพระเยซูให้ทรงช่วยเหลือ เมื่อพระเยซูได้ยินก็ตอบว่า
" โรคนั้นจะไม่ถึงตาย แต่เกิดขึ้นเพื่อเชิดชูพระเกียรติของพระเจ้า เพื่อพระบุตรของพระเจ้าจะได้รับเกียรติเพราะโรคนั้น "
แต่พอผ่านไปอีก 2 วัน พระเยซูก็บอกกับสาวกว่า
"ลาซารัสตายแล้ว เพื่อเห็นแก่ท่านทั้งหลายเราจึงยินดีที่เรามิได้อยู่ที่นั่น เพื่อท่านจะได้เชื่อ แต่ให้เราไปหาเขากันเถิด"
เมื่อพระเยซูไปถึงหมู่บ้านที่ลาซารัสอยู่ คนอื่นก็บอกว่าเขาเอาลาซารัสไปไว้ในอุโมงค์ฝังศพ 4 วันแล้ว
พอพระเยซูได้เจอกับพี่สาวคนแรกของลาซารัส พระเยซูบอกกับเธอว่า "น้องชายของเจ้าจะฟื้นขึ้นมาอีก"
" เราเป็นเหตุให้คนทั้งปวงเป็นขึ้นและมีชีวิต ผู้ที่เชื่อในเรานั้น ถึงแม้ว่าเขาตายแล้วก็ยังจะมีชีวิตอีก
และผู้ใดที่มีชีวิตและเชื่อในเราจะไม่ตายเลย เจ้าเชื่ออย่างนี้ไหม "

พี่สาวคนแรกทูลพระองค์ว่า "เชื่อ พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์เชื่อว่า พระองค์ทรงเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้า ที่จะเสด็จมาในโลก"
ส่วนพี่สาวคนที่สองทูลว่า "พระองค์เจ้าข้า ถ้าพระองค์ประทับอยู่ที่นี่ น้องชายของข้าพระองค์คงไม่ตาย"

พระเยซูจึงไปที่หน้าหลุมศพลาซารัสที่มีหินปิดอยู่ จึงให้คนมาดันหินออก แล้วพระเยซูทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นตรัสว่า
“ข้าแต่พระบิดา ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ทรงโปรดฟังข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทราบว่า พระองค์ทรงฟังข้าพระองค์อยู่เสมอ แต่ที่ข้าพระองค์กล่าวอย่างนี้ก็เพราะเห็นแก่ประชาชนที่ยืนอยู่ที่นี่ เพื่อเขาจะได้เชื่อว่าพระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มา”
เมื่อพระองค์ตรัสดังนั้นแล้ว จึงเปล่งพระสุรเสียงตรัสว่า “ลาซารัสเอ๋ย จงออกมาเถิด”
ผู้ตายนั้นก็ออกมา มีผ้าพันศพพันมือและเท้า และที่หน้าก็มีผ้าพันอยู่ด้วย



เมื่อเปรียบเทียบว่าโปรเจ็ค Lazarus ในภาพยนต์ Interstellar คือการออกเดินทางไปหาโลกใหม่
ความสำคัญที่จะทำให้มนุษยชาตินั้นกลับมาฟิ้นคืนชีพได้อีกครั้งอย่างลาซารัส มี 2 องค์ประกอบด้วยกัน
1. ต้องมีความเชื่อ/ความศรัทธา ว่าสิ่งที่เรากระทำนั้นจะเป็นไปได้
2. ต้องมีผู้ที่ช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังความสำเร็จ (มิได้สำเร็จโดยความสามารถของเราเอง)



การที่ลูกสาวสามารถถอดรหัสจากพ่อเพื่อแก้ไขสมการได้
ก็เพราะความเชื่อว่าพ่อเขายังอยู่ และกำลังสื่อการกับเรา ทั้งๆที่รู้ว่าพ่อออกไปนอกกาแลคซี่
และพ่อเองก็กำลังสื่อสารเพื่อช่วยลูกเขาอยู่จริงๆ ทั้งๆที่คนอื่นไม่มีใครเชื่อว่า พ่อเขากำลังช่วยอยู่

การที่พระเอกสามารถออกจากมิติแห่งกาลเวลาและสามารถกลับมาเจอลูกสาวได้
ก็เพราะความเชื่อ และการช่วยเหลือจาก "เขา" (ที่ไม่รู้ว่าคือใคร)

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องเดียวกันกับที่ลาซารัสสามารถฟื้นคืนชีพ ได้ด้วยความเชื่อของพี่สาว
และเป็นการช่วยเหลือในสิทธิอำนาจของพระเยซู ที่เป็นบุตรของพระเจ้า

ในชีวิตของเราเองก็เช่นกัน แม้ว่าบางอย่างคุณอาจจะมองว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เพียงแค่คุณมี 2 องค์ประกอบ
คือ 1.มีความเชื่อว่าสิ่งนั้นจะเป็นไปได้ 2.โดยได้รับการช่วยเหลือจากพระเจ้า ผ่านทางพระเยซูคริสต์

อย่างในหนังที่ขอให้พ่อจะกลับมา (แต่ผ่านไปตามที่สัญญา ก็ยังไม่กลับมา)
เราก็ต้องมีความเชื่อ และความศรัทธาไปทั้งชีวิต จนพ่อก็ได้กลับมาจริงๆ
ถ้าถามว่าทำไมไม่กลับมาให้เร็วกว่านี้? คือถ้ากลับมาเร็วกว่านี้ ลูกสาวก็คงไขสมการและช่วยเหลือมนุษยชาติไม่ได้
ดังนั้นสิทธิอำนาจของแผนการในชีวิตเรา ถ้าเราฝากไว้กับพระเจ้า พระองค์จะทำได้สำเร็จได้ทุกประการเช่นกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่