ความเดิมตอนที่แล้ว
บทนำ :
http://ppantip.com/topic/32826705
วันที่ 1 BKK to NRT :
http://ppantip.com/topic/32826954
วันที่ 2 Tokyo [Meiji Jingu - Sensoji - Ameyoko Street - Ikebukuro] :
http://ppantip.com/topic/32827023
วันนี้เราออกจากบ้านเช้าหน่อยเพื่อไปตลาดปลาซึกิจิ โดยปกติตามสูตรถ้าจะมาที่นี่ต้องมาถึงตั้งแต่เช้ามืด แต่ยู้ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาดูการประมูลปลาอยู่แล้ว(ถ้าอยากมาจริงคงต้องคิดหนัก เพราะเช้ามืดยังไม่มีรถเมล์ ไม่รู้จะออกจากบ้านบลูซังมาสถานียังไง) ยู้แค่กะว่าจะมาเดินเล่น และกินปลาดิบเป็นอาหารเช้ากันค่ะ พอมาถึงก็งงๆเล็กน้อย ตรงไหนมันคือร้านซูชิที่เขาว่ากันนะ ยู้ไม่ได้ตั้งใจมากินร้านดังเพราะไม่อยากต่อแถว ก็เลยไม่ได้หาข้อมูลมาแบบละเอียดว่าร้านอาหารมันอยู่ตรงไหนบ้าง เห็นเขาบอกว่ามีร้านอาหารด้านในกับด้านนอก คิดว่าไปเดินๆหาคงเห็นแถวยาวๆ เอง แต่ดันไม่เจอซะนี่ ประกอบกับกลัวว่าจะไม่มีเวลาเดินเล่น ก็เลยคิดว่ากินข้าวหน้าปลาดิบร้านไหนก็ได้สักร้าน หันไปถามน้องสาวว่าเอาร้านไหน น้องสาวก็บอกว่าเธอเลือกเลย เธอมีเซนส์ด้านร้านอาหาร ยู้ก็เลยสุ่มเข้าไปร้านข้าวหน้าปลาดิบร้านหนึ่งแถวๆนั้น
ตลาดปลา Tsukiji วิธีเดินทาง : Tokyo Subway ลงสถานี Tsukiji (สถานี H10) ทางออก 1 หรือ ลงสถานี Tsukijishijo (สถานี 18) ทางออก A1
edit : ใครจะไป Tsukiji market อย่าลืมตรวจสอบวันหยุดของตลาดจาก http://www.tsukiji-market.or.jp/tukiji_e.htm นะคะ โดยปกติจะหยุดวันอาทิตย์ แต่วันอื่นก็มีหยุดเหมือนกัน จะได้ไม่เสียเที่ยว
ร้านผู้โชคดีที่เข้าไปกินแบบสุ่มๆ ค่ะ
พอเราเดินเข้าไปพนักงานก็รีบออกมาต้อนรับ พอเขารู้ว่าเราเป็นชาวต่างชาติก็เปลี่ยนให้คุณลุงคนที่พอจะพูดภาษาอังกฤษได้มาคุยกับเราแทน พอเราบอกว่าเป็นคนไทย เขาก็บอกว่า “สวัสดีครับ” เป็นภาษาไทยด้วย เป็นกลยุทธ์ที่ได้ความประทับใจไปเต็มๆ ยู้กินข้าวหน้าปลาดิบรวม ส่วนน้องสาวก็กินข้าวหน้ามากุโระ พร้อมกับซุปอีกคนละถ้วย น้ำชาตั้งอยู่บนเคาท์เตอร์กดเองได้ตามสบายเลย (คุณลุงบอกมาด้วยภาษาอังกฤษปนภาษาใบ้) ปลาดิบวันนี้สดอร่อยแต่ยังไม่เทพมาก หลังจากซัดทั้งข้าว ปลา ซุป หมดไปแล้ว ก็จ่ายเงิน อร่อยจนตอนเดินออกมาลืมกระเป๋าสะพายไว้ที่โต๊ะ(เกี่ยวกันเหรอ?) ต้องให้คุณป้าออกมาตะโกนเรียกไว้
ของยู้เป็นข้าวหน้าปลาดิบรวมหลายอย่าง จิ้มๆ จากเมนูเอาค่ะ
ของน้องสาวเป็นข้าวหน้ามากุโระ
สั่งซุปมากินด้วย รวมข้าว 2 ชาม ซุป 2 ถ้วย 2,200 Yen
[CR] ญี่ปุ่น…สองสามวัน… : วันที่ 3 : Tokyo [Tsukiji market - Imperial palace - Sweet paradise - Tokyo tower] : Mon 29/10/2012
บทนำ : http://ppantip.com/topic/32826705
วันที่ 1 BKK to NRT : http://ppantip.com/topic/32826954
วันที่ 2 Tokyo [Meiji Jingu - Sensoji - Ameyoko Street - Ikebukuro] : http://ppantip.com/topic/32827023
วันนี้เราออกจากบ้านเช้าหน่อยเพื่อไปตลาดปลาซึกิจิ โดยปกติตามสูตรถ้าจะมาที่นี่ต้องมาถึงตั้งแต่เช้ามืด แต่ยู้ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาดูการประมูลปลาอยู่แล้ว(ถ้าอยากมาจริงคงต้องคิดหนัก เพราะเช้ามืดยังไม่มีรถเมล์ ไม่รู้จะออกจากบ้านบลูซังมาสถานียังไง) ยู้แค่กะว่าจะมาเดินเล่น และกินปลาดิบเป็นอาหารเช้ากันค่ะ พอมาถึงก็งงๆเล็กน้อย ตรงไหนมันคือร้านซูชิที่เขาว่ากันนะ ยู้ไม่ได้ตั้งใจมากินร้านดังเพราะไม่อยากต่อแถว ก็เลยไม่ได้หาข้อมูลมาแบบละเอียดว่าร้านอาหารมันอยู่ตรงไหนบ้าง เห็นเขาบอกว่ามีร้านอาหารด้านในกับด้านนอก คิดว่าไปเดินๆหาคงเห็นแถวยาวๆ เอง แต่ดันไม่เจอซะนี่ ประกอบกับกลัวว่าจะไม่มีเวลาเดินเล่น ก็เลยคิดว่ากินข้าวหน้าปลาดิบร้านไหนก็ได้สักร้าน หันไปถามน้องสาวว่าเอาร้านไหน น้องสาวก็บอกว่าเธอเลือกเลย เธอมีเซนส์ด้านร้านอาหาร ยู้ก็เลยสุ่มเข้าไปร้านข้าวหน้าปลาดิบร้านหนึ่งแถวๆนั้น
ตลาดปลา Tsukiji วิธีเดินทาง : Tokyo Subway ลงสถานี Tsukiji (สถานี H10) ทางออก 1 หรือ ลงสถานี Tsukijishijo (สถานี 18) ทางออก A1
edit : ใครจะไป Tsukiji market อย่าลืมตรวจสอบวันหยุดของตลาดจาก http://www.tsukiji-market.or.jp/tukiji_e.htm นะคะ โดยปกติจะหยุดวันอาทิตย์ แต่วันอื่นก็มีหยุดเหมือนกัน จะได้ไม่เสียเที่ยว
พอเราเดินเข้าไปพนักงานก็รีบออกมาต้อนรับ พอเขารู้ว่าเราเป็นชาวต่างชาติก็เปลี่ยนให้คุณลุงคนที่พอจะพูดภาษาอังกฤษได้มาคุยกับเราแทน พอเราบอกว่าเป็นคนไทย เขาก็บอกว่า “สวัสดีครับ” เป็นภาษาไทยด้วย เป็นกลยุทธ์ที่ได้ความประทับใจไปเต็มๆ ยู้กินข้าวหน้าปลาดิบรวม ส่วนน้องสาวก็กินข้าวหน้ามากุโระ พร้อมกับซุปอีกคนละถ้วย น้ำชาตั้งอยู่บนเคาท์เตอร์กดเองได้ตามสบายเลย (คุณลุงบอกมาด้วยภาษาอังกฤษปนภาษาใบ้) ปลาดิบวันนี้สดอร่อยแต่ยังไม่เทพมาก หลังจากซัดทั้งข้าว ปลา ซุป หมดไปแล้ว ก็จ่ายเงิน อร่อยจนตอนเดินออกมาลืมกระเป๋าสะพายไว้ที่โต๊ะ(เกี่ยวกันเหรอ?) ต้องให้คุณป้าออกมาตะโกนเรียกไว้
ของน้องสาวเป็นข้าวหน้ามากุโระ
สั่งซุปมากินด้วย รวมข้าว 2 ชาม ซุป 2 ถ้วย 2,200 Yen